เงินเฟ้อ: เรื่องควรรู้เคียงคู่อสังหาฯ (ตอนที่ 1)

ถ้าหากจะกล่าวกันถึงความสัมพันธ์ระหว่างแวดวงอสังหาริมทรัพย์ และแวดวง ‘การเงิน’ แล้วนั้น เราคงไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่า ทั้งสองสิ่งต่างพึ่งพิง และเป็นกลไกขับเคลื่อนซึ่งกันและกัน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในฟากหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อทิศทางของอีกฟากหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงสภาวะ ‘เงินเฟ้อ (Inflation)’ ที่ดูจะเป็นคำที่ผู้วนเวียนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ต่างต้องเคยได้ยินผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แน่นอนว่าการคงอยู่ของสภาวะเงินเฟ้อนั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรถูกนำมารวมในการคิดพิจารณาการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ใดๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

//ความหมายของ ‘สภาวะเงินเฟ้อ’

สำหรับเงินเฟ้อหรือ Inflation นั้น หมายถึงการที่ระดับสินค้าหรือบริการในระยะเวลาหนึ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดสภาวะที่เงินตราในจำนวนหนึ่ง สามารถซื้อหาสินค้าและบริการได้น้อยลง เป็นการสะท้อนถึงอำนาจการซื้อที่ลดลง โดยภาพรวม ซึ่งสาเหตุของการเกิดเงินเฟ้ออาจจะมาได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเทียบค่าเงินกับหน่วยมาตรฐานสากล สภาวะอัดฉีดเงินเข้าระบบธนาคารกลางเพื่อลดอัตราการฝืดที่เกินพอดีอย่างควบคุมไม่อยู่ ก่อให้เกิดปริมาณเงินในตลาดสูงกว่าปกติ จนถึงสภาวะร้ายแรงอย่างเช่นโรคระบาด และภาวะสงคราม

Credits: telegraph.co.uk

ทั้งนี้ สภาวะเงินเฟ้อ ถ้ามองในด้านการเงินและเศรษฐกิจโดยภาพรวมแล้ว ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน อาทิ สภาวะเงินเฟ้อสามารถกระตุ้นการจับจ่าย (เพราะการเก็บเงินเอาไว้เฉยๆ ก็มีแต่จะเสียมูลค่าตามระยะเวลา), การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น (มูลค่าเงินเท่าเดิม แต่สามารถจ้างแรงงานเพิ่มเติมได้มากขึ้น) แต่ในทางกลับกัน การจับจ่ายใช้สอยเงินในระบบ ก็อาจจะส่งผลต่อแนวทางการใช้ทรัพยากรและตลาดซื้อขายที่อาจจะไม่ได้คิดคำนวณให้เหมาะสม และก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว

//เงินเฟ้อกับผลทางบวกในแวดวงอสังหาฯ

แน่นอนว่า ถ้าสภาวะเงินเฟ้อ เป็นปัจจัยที่ทำให้มูลค่าเงินต่ำกว่าที่เป็นจริงแล้ว ในภาคอสังหาริมทรัพย์ทางปฏิบัติก็ควรจะดำเนินมาในครรลองเดียวกัน (มูลค่าเงินที่ลดลง การซื้อขายก็น่าจะทำได้ยาก) แต่ในความเป็นจริงแล้ว สภาวะเงินเฟ้อกลับก่อให้เกิดคุณสำหรับผู้ที่สนใจและมีความพร้อมสำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายประการ คือ…

Credits: themantriblog.wordpress.com

-อสังหาริมทรัพย์คือสินทรัพย์คงค่า และจะมีมูลค่าสูงขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป เรียกได้ว่า ยากที่สภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจจะมากระทบได้ง่ายนัก

-ในสภาวะเงินเฟ้อ ธนาคารกลางสามารถลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้สามารถออกสินเชื่อได้ง่ายขึ้น (ยิ่งดอกเบี้ยคงที่ตามระยะเวลาด้วยยิ่งง่าย ช่วยให้เกิดความคล่องสบายทางการลงทุน)

-สภาวะเงินเฟ้อ ที่ผู้ประกอบการสามารถจ้างคนเข้าสู่ตลาดแรงงาน จะเป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

-และเหนือสิ่งอื่นใด มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์แบบซื้อขาด จะมีอัตราที่สูงขึ้น จากค่าแรงและค่าวัสดุที่เพิ่มมากขึ้น อย่างก้าวกระโดด

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงไม่น่าแปลกใจนัก ที่เราจะเห็นความคึกคักของแวดวงอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เศรษฐกิจและค่าเงินดูจะสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง (โดยเฉพาะโครงการอสังหาฯ ทำเลทองกลางเมือง และเขตเศรษฐกิจ CBD) เพราะเราต้องไม่ลืมว่า อสังหาฯ คือการลงทุนที่มีความคุ้มค่า เมื่อวัดมูลค่าทางด้านเงินในระยะยาว และมันย่อมดีกว่าการนำเงินไปนอนกองไว้เฉยๆ ในธนาคาร ปล่อยให้ค่าเงินลดลงไปอยู่หลายช่วงตัว

Credits: somerset.com

แต่กระนั้น ด้วยสภาวะเงินเฟ้อเดียวกันนี้เอง ที่อาจจะกลายเป็นดาบสองคม ขึ้นกับว่าอสังหาฯ ที่คนคนหนึ่งถือครองอยู่นั้น เป็นประเภทใด… และเราจะมาขยายประเด็นดังกล่าวในบทตอนถัดไป