DotProperty.co.th

แชร์ประสบการณ์ โดนหลอกให้ ซื้อคอนโด ที 5 ห้อง นำเงินไปลงทุน OD Capital สุดท้ายไม่เหลืออะไร

สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ควรอ่าน แชร์ประสบการณ์ตรงจากคุณ  สมาชิกหมายเลข 4841554 ที่เจ้าของเรื่องโดนหลอกซ้ำซ้อน ให้ ซื้อคอนโด ที 5 ห้อง เงินเหลือแล้วให้นำเงินส่วนต่างไปลงทุนกับเขาใน OD Capitalสุดท้ายไม่เหลืออะไร เอาละเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลย

 

โดนหลอกซ้ำซ้อน ให้ซื้อคอนโดที 5 ห้อง แล้วให้ เอาเงินไปลงทุน OD Capital แล้วหายเข้ากลีบเมฆ BY สมาชิกหมายเลข 4841554

ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องราวก่อน หนูอยากให้อ่าน เพราะหนูไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆหนู อายุ 24 ปี เมื่อ2ปีก่อน (อายุ22) เพิ่งเรียนจบมีงานทำ ก็มีคนที่รู้จักกันที่ทำงานมาชวนซื้อคอนโดเงินเหลือ 300,000-500,000/ห้อง

แล้วให้นำเงินส่วนต่างไปลงทุนกับเขาใน OD Capital (คนที่ชวยเค้าบอกลงทุนหุ้นตปท.)ดิฉันก็รอดูเค้าอยู่เป็นปีก็เห็นว่าเค้าได้เงินมาตลอดและผล ตอบแทนสูง จึงเริ่มสนใจและด้วยความที่หนู ก็ต้องการช่วยเหลือทางบ้านอยากมีเงิน (ในความคิดของเด็ก) คิดง่ายเลยตัดสินใจยื่นกู้ไป

บอกก่อนว่าตอนนั้นหนูเงินเดือน 17,000 บาทไม่มีค่าอะไรเพิ่มเติม ก็ลองยื่นไป เค้าให้ยื่นทีเดียว 5 ห้องตอนแรกเค้าบอกไม่ผ่านเพราะหนูมีหนี้บัตร เครดิตอยู่ด้วย3 ใบ เค้าเลยแนะนำวิธีต่างๆ ให้หาคนกู้ร่วมหนูก็เลยไปขอให้แฟนมากู้ร่วมให้โดยเค้าให้หนูแจ้งกับธนาคารว่า เป็นสามีภรรยา

ไม่จดทำเบียน (แฟนหนูเงินเดือน 19,000 บาท) สุดท้ายรอบนี้ผ่านมา 5 ห้อง มีที่ชลบุรี 2ห้อง แหลมฉบัง 2ห้อง (คอนโด NO NAMEแบบเก่าๆ)ด้วย  และที่กรุงเทพ 1ห้อง (ทั้งหมดนี้ผ่านในเวลาเดียวกัน) ขอชี้แจงรายละเอียดหน่อย

***คอนโดหนูซื้อมาด้วยความโง่ของตัวเอง  ทั้งที่ไม่เคนเห็นคอนโดเลย แต่ยอมส่งเอกสารให้เขาเอาไปดำเนินการกู้ให้  *** โดยประมาณ

หนูเอาเงินส่วนต่าง จากทั้งหมดประมาณ 1,000,000 บาท แบ่งไปประมาณ 500,000  ไปลงทุนใน OD Capital  4 เดือน แรกที่ลงทุนไป ได้เงินคืนมาจริงๆ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก แต่พอเดือนที่ 5 คนที่เค้าพาเราไปเล่น (เค้าเรียกกันแม่ทีม) ก็มาบอกว่าเค้าจะเปลี่ยนวิธีการถอนเงินละนะ (ก่อนหน้านี้ถอนโดยแม่ทีมจะโอนเงินจากบัญชีส่วนตัวเค้ามาให้เราเอง)แต่ตอนนี้เค้าบอกจะต้องถอนโดยตรงจากบริษัท โดนให้ทำตามขั้นตอนเค้า มาจนถึงตอนนี้เค้าก็เปลี่ยนวิธีไปเรื่อยเหมือนซื้อเวลาไปอ่า หนูก็ตัดใจละว่ายังไงก็โดนหลอกชัวร์คนโดนแก้งแชร์ลูกโซ่แหงๆ แต่เล่นก*แรงมากเลย เอาเป็นคอนโดเลยอ่ะ ตอนนั้น เครียดมาก เงินเดือนปกติก็ไม่พอใช้อยู่แล้ว

 

ยังต้องมามีภาระคอนโดอีก 5 ห้อง

 

และภาระก่อนหน้านี้มี

ต้องผ่อนประมาณตามนี้  ทั้งหมด 69,200 บาท และ ในปีนี้ก็ต้อง ส่งกยศ.แล้วด้วย หนูตั้งใจว่ายังไงหนูก็จะส่ง กยศ. ให้ได้เพราะเป็นหนี้ที่ทำให้หนูได้เรียน แต่ค่าอื่นหนูส่งไม่ไหวจริงๆ  รายได้ทั้งหมด แค่ 34,500 บาท ติดลบ (34,700) บาท อยู่ไม่ได้

 

เรื่องคอนโด

ก่อนหน้านี้ปล่อยเช่าได้แค่ 2 ห้อง ที่ชลบุรี  คอนโดที่ได้ไม่ได้อยู่ติดทะเลสวยหรู ปล่อยได้สูงสุดแค่เดือนละ 5,000 บาท ได้มาอีกเดือนละ10,000 ก็ยังไม่พอผ่อน พอเราตัดสินใจไม่ผ่อนเลยสักที่เราก็เลยบอกคนที่มาเช่าห้องเราว่าเราส่งห้องไม่ไหวขอให้เค้าย้ายออก

เพราะเราไม่อยากให้เค้ามาดำเนินคดีกับเราว่าเราหลอกลวงให้เค้าเช่าคอนโดแล้วลูกค้าเราเค้าก็กลัวว่าอยู่ๆจะเข้าห้องไม่ได้ข้าวของเขาก็มี จากนั้นมาห้องเราก็ไม่มีคนเช่าและปล่อยไม่ได้ผ่อนเลย  ตั้งแต่ตอนที่หนูรู้ว่าเค้าจะไม่จ่ายเงิน ที่ลงทุนใน OD Capital แล้ว

หนูก็ไล่โทรไปหาทุกธนาคารเลยว่าหนูส่งไม่ไหวขอคำปรึกษาเค้าทุกอย่างบางธนาคารก็พูดดีมาก แต่สุดท้ายก็จบตรงที่ยังไงหนูก็ต้องหาเงินมาจ่ายเค้าอยู่ดี หนูพยายามติดต่อธนาคารตลอดเพราะหนูไม่มีเจตนาหนีหนี้แต่หนูผ่อนเค้าไม่ไหวจริงๆ หนูเลยปล่อยไม่ได้ส่งเลย และเริ่มมีหมายศาลมาบ้างแล้วด้วย

 

เรื่อง OD Capital

มีคนที่โดนแบบเหลายคนเยอะมาก เค้าจะมีกรุ๊ปไลน์เลยสายใครก็มารวมๆกัน กรุ๊ปเรามี 390 คนเราเคยแอดส่วนตัวคนที่โดนแบบเราไปเค้า กลับบอกเราว่า “… นี่ก็เดือดร้อนเหมือนกันใครเป็นแม่ทีมก็ไปถามคนนั้นสิ…” งงมากคืออะไร เราเลยไม่รู้จะปรึกษาใครต่อเลยมืดแปดด้าน แล้วคือแม่ทีมเราก็ได้แต่บอกรอคะ รอ ถามกี่ทีก็รอ

คือไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยรึไงว่ะ บางคนในกลุ่มก็บอกว่าเค้าจะปล่อยเหมือนกันผ่อนไม่ได้แล้ว เครียดถึงขั้นจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียวหนูอยากให้คนโกงถูกกวาดล้างให้หมดจริงๆหนูคิดว่าตอนนี้เค้าอาจจะไปหลอกคนอื่นต่อไปอีกแน่ๆไม่จบง่ายๆหลอก

 

ส่วนคนที่ชวนเราไปเล่น

ก็เปลี่ยนไปเล่น Forex (ซึ่งก็คิดว่าไม่ต่างไปจากเดิมอะไรที่ได้เงินง่ายๆโดยไม่ต้องทำอะไร ไม่เอาแล้วจ้า) แล้วมันยังมีหน้ากลับมาชวนเราไปเล่นอีกอ่ะ คือหลอกคนอื่นเป็นเรื่องง่ายๆชิลๆเลย หรอ ตอนนี้เราไม่กล้าลงทุนอะไรทั้งนั้นแล้วแหละ กลัวไปหมดทุกอย่างเลย สงสัยตรงไหนถามได้เพราะเล่าเรื่องไม่เก่งบางทีอาจจะอธิบายไม่ถูกต้องเท่าไหร่*** ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วย กระทู้แรกเลย นึกอะไรได้จะมาเล่าเพิ่ม ไว้เตือนใจตัวเองและเตือนคนที่กำลังคิดจะลองทำอะไรแบบนี้ด้วยเอาเคสเราเป็นตัวอย่างก็ได้ จะได้ไม่ต้องเจ็บแบบเรา

 

ขอชีแจ้งเพิ่มเติม

เรื่องราคาคอนโดที่แจงรายละเอียดไปทีแรกจะบอกว่าเพิ่ง มา รู้ทีหลังว่าที่เรายื่นกูไปสูงกว่าราคาประเมิน เพราะตอนเค้าแจ้งเรา เอาเอกสารมาให้เราดูราคาที่เรากู้ได้(ราคาที่สูงกว่า)เค้าบอกว่าเป็นราคาที่แบ้งประเมิณให้ เราก็เพิ่งมารู้ทีหลังตอนเกิดเรื่องแล้วคือตอนที่จะขายห้องออก มีที่นึงเจ้าหน้าที่นิติของที่นั่นเขาทราบเรื่องเขาเลยมาติดต่อเราว่าอยากขายห้องมั้ยมีคนพร้อมซื้อเลย แต่ราคา990,000 เค้าบอกที่นี่เค้าขายกันเท่านี้แหละ แต่เราก็มาได้ 1,200,000 บาท ซึ่งมองว่าราคามันแปลกๆ เพราะ ตอนแรกเข้าใจมาตลอดว่าเค้าขายคอนโดให้เราในราคาที่ตำกว่าตลาด (ที่คิดแบบนี้เพราะเค้ามีตารางราคาคอนโดมาให้ดู แล้วเขียนว่าราคานักลงทุน ลด 20-30% แต่พอเอาเอกสารธนาคาร กับเอกสารที่ทางคอนโดให้มาเทียบกัน ชัดเขนเลย …..เจ็บใจหลายต่อมากตอนนั้น ด้วยความที่เราไว้ใจคนง่ายเกินไป เค้าพูดดีมากคุยดีมาก ให้คำแนะนำนู้นนี้นั่น *จำได้เลย เค้าจะชอบพูดว่า น้องไม่อยากรวยหรอ ไม่อยากมีเงินให้พ่อแม่แล้วหรอ เค้าจะชอบเรียกสิ่งที่พวกเค้าทำกันว่า “เสือนอนกิน” (กินบนความทุกข์เราไง)

สุดท้ายพอรู้เรื่องที่โดน กู้คอนโดเกินราคาจริงไป ก็มืดแปดด้านอีกรอบจากทีแรกที่หวังว่าจะได้ตัดไปสักห้องนึง เพราะโทรไปปรึกษากับธนาคารนั้นเค้าจะต้องให้นำเงินก้อนไปจ่ายส่วนต่างที่เหลือให้เค้าทั้งหมด ประมาณ 210,000 ซึ่งไม่มี เพราะพอหนูได้ปันผลจาก OD Capital ปุ๊บ พอจะขอถอนเงินคนที่ชวนหนูเค้าก็จะมาอีกละ น้องถอนทุกเดือนน้องไม่อยากมีรายได้เดือนละแสนหรือ ทำไมไม่ top up ล่ะ

นู้นี่นั่น พูดทุกครั้งที่เราจะถอน จนหนูเริ่มต้องมีเงินมากขึ้น เพราะคอนโดจะมาคชจ.ค่าส่วนกลาง รายปีมาบ้างละ (คิดไปล่วงหน้า) เลยเอาเงินที่ได้ปันผลมาหลังๆไป top up กับเค้าอยู่ประมาณ 1,500 USD แล้วตอนถอนช้ามากบอกต้องรอแม่ทีมโอนเงินมาให้ แรกๆก็ไวไม่ถึงครึ่งชม.โอนมาละ งวดสุดท้ายที่ได้รับ หายไปประมาณ3วันกว่าจะได้เงินที่ถอนไป ถ้าถามว่าตอนนี้เอะใจอะไรมั้ย “เอะใจทุกอย่าง แต่เค้าจะค่อยๆเปิดเผยความจริงของเาให้เราเห็นทีละอย่าง” แต่ตอนนั้นหนูกู้เงินมาแล้ว เป็นหนี้มาแล้ว แล้วก็ลงทุนกันเค้าไปหมดแล้ว หนูไม่มีทางเลือกนอกจากจะดันทุลังไปต่อ เพราะเงินที่หนูมีผ่อนคอนโดในตอนแรกคือเงินที่เค้าปันผลออกมา

จะบอกว่าทุกอย่างที่เค้าพูดกับทุกคนที่ลงทุนเหมือนเค้ารู้(จุดอ่อนของคนที่มาลงทุนตรงนีทั้งนั้นคือความโลภ ตอนนั้นหนูโลภมากจริง) เพราะด้วยชีวิตหนูเคยค่อยข้างมีมาก่อน อยากได้อะไรก็บอกแม่ บอกพ่อ(แต่ก็ต้องใช้เหตุผล แต่ไม่เรียกว่าลำบาก) แต่พอวันนึงที่เราจะเข้าเรียนมหาลัย พ่อกับแม่ เรื่องการเงินแย่มากถึงขั้นติดลบเลยก็ว่าได้ หนูเกือบจะไม่ได้เรียนมหาลัยแล้วเพราะไม่มีเงินส่ง  แต่โชคดีที่ตอนนั้นได้ทุนเรียนฟรีมหาลัยแห่งหนึ่งและเงินที่กู้ กยศ.ก็กู้มาเพื่อใช้จ่าย เพราะค่าเทอมไม่ได้เสีย จะขอพ่อแม่ได้บ้างนิดหน่อยเดือนละไม่ถึง6,000 พอเรียนจบมาเจอสิ่งนี้ที่คิดว่าถ้าเราทำได้ก็ดีนะ ได้ช่วยปลดหนี้ที่บ้านด้วย ได้กลับมามีความสุขกันสักที สุดท้ายมันกลับทับถมให้หนูจมดินไปมากกว่าเดิมอีก

ถ้าหนูไม่โลภตอนนั้น อดทนทำงานไปเรื่องๆชีวิตหนูคงไม่พังขนาดนี้แน่ๆ

ทุกวันนี้คิดมาตลอดว่าเป็นความผิดตัวเองทั้งนั้น เพราะหนูโง่เองหนูเชื่อค้าทุกอย่างเลย

และแย่ที่สุดคือตั้งแต่หนูเรียนจบทำงานมาหนูยังไม่สามารถให้เงินพ่อแม่ใช้ได้เลย ทุกวันนี้เค้าแก่แล้วเค้ายังต้องลำบากทำงานใช้หนี้อยู่เลย

 

มีคำถามอยากถามด้วย

  1. หนูจะโดนฟ้องร้องล้มละลายไหมคะ?
  2. ถ้าล้มละลายหนูทำงานอะไรได้บ้างคะ?
  3. ระยะเวลาฟ้องร้องจนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุดกี่ปีคะ

 

ทำตอบโดยคุณ  สมาชิกหมายเลข 3604165

สวัสดีครับคุณน้อง ก่อนอื่นเลยต้องขอเเนะนำว่าทุกปัญหามีทางเเก้ไขเสมอ การลงทุนที่คุณน้องลงทุนไป ถือว่าเป็นการลงทุนที่ถือว่าเเย่เเล้ว เเละอาจส่งผลกระทบเเบบร้ายเเรงในอนาคตเเน่ๆ การเเก้ไขปัญหานี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม หากดีไม่ดี ผู้ที่มีความรู้ ชี้เเจงได้

Step1 ขายคอนโด ที่มีอยู่ทั่งหมดหรือเหลือคอนโดที่สามารถปล่อยให้เช่าได้อาจ เหลือ 1 ห้อง เเต่ดูจากที่กล่าวมาเหมือนคุณน้อง เข้าเนื้อ คอนโดล่ะ 5000 ในความคิดเห็นของผมถ้ารายได้เท่านี้ บวกเเฟน ผมคิดว่าควรขายให้หมด

Step2 เมื่อขายหมดเเล้ว หากดูจากทำเลผมคิดว่าอาจ ขาดทุนคอนโดละ 200,000-500,000 หรือมากน้อยกว่านี้ เเต่ต้องรีบขายไปก่อน

เมื่อคุณน้องขายหมดเเล้ว คุณน้องจะมีหนี้ที่เกิดจากการขายขาดทุนโดยประมาณ 1.8-2.5 M (เลขโดยประมาณ น้อยกว่านี้ก็โชคดีมากๆมากกว่านี้ก็ต้องรับให้ได้)

Step3 ขอเจรจาการร่วมหนี้กับสถาบันการเงิน หรือ อื่นๆว่ามีหนี้เท่านี้ (หนี้ส่วนที่เกิดจากการขายขาดทุน) ว่าจะชำระ กี่ปี ดอกเบี้ย รายได้ที่มีเท่านี้ เเนะนำให้ขยายให้เยอะที่สุด เเละเเน่นอนต้องมีดอกเบี้ยที่ต้องชำระ เเต่ดูจากรายได้ บวก เเฟน หนี้ที่เหลือนี้คุณน้องจ่ายไหวเเน่นอนครับ ปล.ข้อนี้ต้องเตรียมเอกสาร ทุกอย่างให้เยอะที่สุด เพราะเป็นขั้นตอนที่ ถ้าผ่านจะหลุดจากวงจร อุบาทว์ไปชั่วขณะเเบบสามาถหายใจได้ไปอีกหลายปี

Step4 เก็บเงิน ส่วนหนึ่งจากรายได้ มองหาช่องทางธุรกิจ อาจเริ่มจากการซื้อแฟรนไชส์หลักหมื่น เพื่อให้มีรายได้เสริม เเนะนำอย่าเพิ่งลง หุ้นเเละ Forex หุ้นเเละ Forex ดี เเต่ถ้าคุณยังไม่เก่งเทคนิคคอลก็จบเช่นกัน (เทคนิคคอลอาจใช้เวลามากกว่า 3 – 5 ปี)

Step5 เมื่อได้รายได้เยอะๆ ก็อย่าลืมเก็บเงินๆๆ เเละรีบโปะๆๆๆหนี้ เเละหาธุรกิจเพิ่มที่ได้รายได้เเบบจับต้องได้ อย่ากลับไปโลภเเบบเดิม

เงินทองเลือกอยู่กับคนเสมอ คิดว่าเป็นวิธีที่เรียบง่าย เเต่ขอให้สู้ๆ

ปล.Step 1-5 คือเรื่องเร่งด่วน คิด วิเคราะห์ ว่างเเผน เเละทำเลย เพราะอายุยังน้อย ไม่อยากให้เครียดเพราะอยากให้ไปนอนเล่นๆที่มัลดีฟ หัวเราะฮาๆกับการลงทุนๆเเปลกๆที่คิดว่า กูทำไปได้ไงวะ 555

 

ขั้นตอนทั่งหมดเป็นเพียงคำเเนะนำส่วนบุคคลหากมีวิธีอื่นที่ดีกว่า ก็ลองทำตามดู

โชคดีครับ attitude is everything

ทำตอบโดยคุณ สมาชิกหมายเลข 703771

เล่นอสังหาตั้งแต่เด็กเชียว

ความฝันผมเลย แต่ผมไม่กล้า

ตอนผม 22-23 ก็อยากจะยื่นกู้คอนโดหลายคอนโดพร้อมกัน

ซึ่งมันสามารถทำได้ถ้ายื่นกู้พร้อมกัน ในระยะเวลา 1-2 เดือน  เช่น เรายื่นธนาคาร A,B,C,D,E 5 ธนาคาร ภายใน 1-2 เดือน ธนาคารก็เช็คบูโรแล้วปกติไม่มียอดหนี้กู้อะไร แล้วก็อนุมัติพร้อมกัน เลยเป็นที่มาของกู้ได้เกินเงินเดือนไม่ใช่เรื่องแปลก

เรื่อง OD Capital ผมขอไม่กล่าวถึงเพราะโดนหลอกอยู่แล้ว เป็นบทเรียน

แต่เรื่องคอนโด ผมคิดว่าไม่ได้โดนหลอกเกินไปนัก

1.เพราะการที่เราจะกู้ธนาคารเกินวงเงิน  เราต้องได้ค่าประเมินเกินด้วย  ธนาคารไม่ใช่บริษัทประเมิน ธนาคารจะจ้างบริษัทให้ไปประเมินอีกทีนึง ซึ่งเป็นบริษัทกลางนะที่ธนาคารใช้บริการนะ เผื่อเข้าใจผิด

เช่น ซื้อบ้าน 2 ล้าน เราจะกู้ 5 ล้านจากบ้านหลังนั้น ย่อมไม่ได้ เพราะค่าประเมินไม่ถึง 5 ล้าน

กรณีนี้จขกท. กู้เงินได้ คอนโดก็คงราคาราวๆนั้นหรือ “ราคาขาย” ราวๆนั้นอยู่แล้ว แต่จะขายออกไม่ออกก็อีกเรื่องนะ

ต้องดูว่าตอนยื่นซื้อคอนโดมีเอกสารแบบเดียวคือยื่นเพื่อซื้ออย่างเดียวไหม หรือมียื่นเพื่อตกแต่งด้วย

2.******* ผมขอให้ตรวจเช็ค ราคาดอกเบี้ยของคอนโด , ระยะเวลาการกู้คอนโด   และเจรจากับธนาคารเพื่อตรวจสอบค่างวด

ถ้าตามที่ จขพ. ระบุมา ผมว่าค่างวดแพงเกินไปครับ

ผมซื้อบ้านเมื่อปีที่แล้ว ดอกเบี้ย 2.9% ยอดกู้ 3.3 ล้าน   ค่างวดแค่ 13,600 บาทเท่านั้น  (ดอก8000 เงินต้น5000) ผ่อน 40 ปี

3.******* ต่อจากข้อข้างบน เมื่อเราทราบดอกเบี้ยแล้ว ถ้าเราปล่อยเช่าได้ ขออย่างน้อยพอใช้จ่ายดอกไปก่อน แล้วผ่อนผันกับธนาคารเอา

แม่ผมไม่มีเงินจ่ายต้น ทำเรื่องขอประณอมนี้ ยังผ่อนดอกไปเรื่อยๆได้อีกหลายปี ธนาคารบางธนาคารพอยอมรับได้ เขาไม่เสียหายอะไรครับ

4.****** ต่อจากข้อข้างบน ซึ่งนั่นหมายความว่าผมยังไม่แนะนำให้เตรียมการล้มละลาย   แนะนำให้หาผู้เช่าไปก่อน ซึ่งการหาผู้เช่าเราก็แจ้งล่วงหน้าก่อนว่าเราอาจจะต้องขาย มันตกลงกันได้ครับเรื่องสัญญาการเช่า ให้เขาเช่า ถ้าเขาสนใจจะซื้อก็ถือว่าที่เขาจ่ายค่าเช่านั้นเป็นการผ่อนดาวน์ไปก็ได้ สัญญาก็ทำระยะเวลาน้อยๆไป ผู้เช่าบางคนที่เขาไม่ต้องการเช่าหรือทำสัญญาระยะยาวมันก็มีครับ

ให้เขาช่วยเราจ่ายดอกไปก่อน กว่าจะฟ้องทำเรื่องยึดทรัพย์อะไรเอย เราผ่อนผัน ยื้อเวลาไปได้อีกครับ ****เรื่องเวลา และการสู้คดีความขอผ่อนผันไปเรื่อยๆ ระยะเวลาก่อนที่เราจะโดนฟ้องยึดทรัพย์ แนะนำให้ปรึกษาและขอคำแนะนำทนายครับ**** ผมเชื่อว่าธนาคารคงไม่ฟ้องล้มละลายง่ายๆ เรายังมีเวลาครับ

5. ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ขาย หรือเราจะโพสขายไปเลยก็ได้ตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งหมด 5 ที ที่ไหนขายออกก็ขายไป ราคาเราตั้งเองได้ ถ้าที่ไหนมีคนเช่าอยู่ก็ตั้งราคาทุนที่เราซื้อมา (ไม่ใช่ที่ยื่นกู้นะ) ถ้าไม่มีคนเช่าก็ตั้งขาดทุนหน่อย ราคาอันนี้กำหนดยากสักหน่อย

แต่ถ้าเจ็บ 1-2 แสน ผมถือว่ารับได้

คนเล่นอสังหารู้ดี  ถึงไม่โดนหลอกการขาดทุนหลังจากซื้ออสังหา 1-2 ปี ก็เป็นเรื่องปกติ

บางคนพลาดอย่างช่วงตอนนี้ตลาดคอนโดเพียบเลย ซื้อมา 3.5 ล้าน ต้องยอมขาย 3.1 ล้านก็มีเยอะแยะครับ  ไอที่ซื้อ 1.2 ขายได้ 1 ล้าน ผมว่ามันปกตินะ  ผมเห็นคนในหมู่บ้าน/คอนโดโครงการใหม่ ซื้อบ้านมา 1.2 ล้าน อยากจะขาย แต่โครงการยังขายไม่หมดเลย  ถ้าตั้ง1.2 ล้านใครเขาจะซื้อ เขาก็ไปซื้อกับโครงการดีกว่า ได้ชื่อเป็นเจ้าของบ้านมือ1 ดอกเบี้ยต่ำกว่า ยื่นกู้ง่ายกว่า วงเงินสูงกว่า ประกันเต็มต่างๆก็ได้เต็มๆ  หลายๆคนก็ยอมขาดทุนกันไป ในกระทู้ pantip ก็มีไม่น้อย ลองหาอ่านดู

มันก็เหมือนหุ้น บางทีก็ได้กำไร บางทีก็ขาดทุน บางคนวิเคราะห์การเติบโตอย่างดี พลาดมาขาดทุนก็มี ถ้าขายได้ก็ขาย อยากได้ก็ถือไว้

บางทีอาจจะได้กำไรก็ได้ คอนโดไหนที่มีคนเช่าตลอด หรือผู้ติดต่อขอเช่าเยอะ ก็อย่าไปขายขาดทุน แนวโน้มโอกาสขึ้นสูง

เรารู้อยู่แล้วนะ ที่ไหนดอกเบี้ยเท่าไหร่ ค่าเช่าเท่าไหร่ สรุปไว้ให้ดี

ผมว่ายังมีทางนะ ไหนๆก็เดินทางสายนี้แล้ว ซื้อไป5คอนโดแล้ว ก็ถือโอกาสนี้ลองศึกษาการเล่นอสังหาไปในตัวเลย เผื่อจะช่วยเราในการเพิ่มเงินหรือลดจำนวนเงินที่เราขาดทุนได้

ถ้าจะขาดทุนก็ถือว่าซื้อประสบการณ์การเล่นอสังหา ขาดทุนไม่กี่แสนตั้งตัวใหม่ได้แน่นอนครับ

เราขายเท่าไหร่ ตอนยื่นกู้ เราเคยยื่นได้เท่าไหร่บอกเขาไปด้วยครับ เพิ่มโอกาสขาย

บางคนเขาอยากได้เงินไปหมุนเวียนธุรกิจ กู้สินเชื่อ ก็ดอกแพง  ก็มาเน้นซื้อคอนโด แล้วกู้เกินเอา ดอก 3%กว่า ลดต้นลดดอก ถูกกว่าสินเชื่อ SME เยอะแยะ ก็เหมือนที่เรากู้เกินนั่นแหละ ได้สินทรัพย์ไปปล่อยเช่าต่อ ไอคอนโด0บาท คนที่ไม่โดนหลอกแล้วเล่นจริงๆมันก็มี

6. ผมแนะนำให้ดู ดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารดีๆ ดอกเบี้ยไหนแพง ถ้ามีเงินพยายามไปจ่าย/โปะอันนั้นก่อน(แต่ไม่น่าจะมี) ดอกเบี้ยมันเริ่มตั้งแต่ 3-7% และเงื่อนไขแต่ละธนาคารเป็นยังไง ปิดยอดก่อน 3 ปีได้ไหม หรือจะโดนปรับอีกเท่าไหร่ ละเว้นได้ไหม เพราะต่อจากข้อ5 ถ้าเราขายคอนโดได้ เงินก็คงไม่พอปิดยอดอยู่ดี(ขาดทุนจากคอนโดด้วย กู้เกินไปด้วย) และถ้าเราไม่มีเงินสดไปพร้อมปิด เราก็จะขายไม่ได้ เพราะโฉนดยังติดอยู่ที่ธนาคารอยู่ ถ้าเราไม่สามารถยืมใคร หรือกู้สินเชื่อมาเพื่อปิดได้ คงต้องเจรจาอย่างเดียวครับ

ปรึกษาธนาคารเลยครับอยากปิดยอดต้องจ่ายเท่าไหร่พอลดให้ได้ไหม เราขายคอนโดได้แค่นี้ พอลดยอดปิดให้เราได้ไหม เราก็ผ่อนดอกเบี้ยมาเยอะแล้ว บางธนาคารเขาก็ยอม ของแม่ผมเป็นธนาคารต่างชาติ ขอปิดยอดตัวเลขห่างจากทุน 1-2 แสน  เขายอมขาดทุนปิดให้ แต่แม่ผมเล่นแรงหน่อย แม่ผมเป็นมะเร็งด้วย เป็นหนี้ธนาคารอื่นด้วย มีข้อน่าสงสารอะไร มีข้อมูลแนวโน้มว่าหนี้จะสูญมากน้อยอย่างไร ส่งไปให้ธนาคารพิจารณาครับ ตอนแม่บอกผม ผมยังงงเลย ว่าธนาคารยอมได้ไง ปิดยอดหนี้ห่างจากยอดกู้ 1-2 แสน แต่คิดว่าคงเป็นเพราะธนาคารเป็นธนาคารต่างชาติด้วย เขาคงขี้เกียจตาม หรือไม่ก็คิดว่าคงได้ดอกเบี้ยไปทดแทนแล้ว แล้วแต่ธนาคารพิจารณา

7. ผมคิดว่ามีเวลา 3 ปี พยายามทยอยขายให้หมดหรือให้จนกว่าเราจะผ่อนไหวแล้วก็เก็บไว้ได้ครับ คือตอนนี้ถือไว้เยอะเกินไป เราจะเสียเปรียบธนาคาร เวลาเรา รีไฟแน้น 3 ปี ไม่งั้นพ้น 3 ปีไป แล้วเรารีไฟแน้นธนาคารเดิมไม่ได้ โดนดอกสูง เราจะเสียค่าต่อรองและเสียเปรียบมาก เราจะรีไฟแน้นไปธนาคารอื่นก็ลำบากอีก เพราะเครดิตเราไม่ดีแล้ว

สำหรับผมไม่ได้มองว่าชีวิตจบ ยังมีหนทางไปต่อ อย่างน้อยเราก็ซื้อทรัพย์สินมา ไม่ได้เอาไปเล่นพนันจนหมด

มีแฟนช่วยอยู่ด้วยน่าจะผ่านไปได้

 

เพิ่มเติม

พ่อผมเคยโดนฟ้องล้มละลาย โดยการโยกทรัพย์สินก่อนเรียบร้อย ทำงานจนปัจจุบันยกเลิกสถานะดังกล่าว

แม่ผมก็โยกทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว เตรียมรอโดนฟ้องล้มละลาย รอมาหลายปีแต่ธนาคารไม่ยอมฟ้อง

ของเคสแม่ เพราะธนาคารพิจารณาว่าฟ้องล้มละลายไปอาจไม่คุ้ม แล้วเขาไม่ฟ้อง ซึ่งจขกท. อายุยังน้อย จะต้องทนอยู่กับชีวิตแบบนี้ไปอีกประมาณไหน ธนาคารจะฟ้องเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หรือไม่ฟ้องขึ้น ฟ้องแค่ยึดทรัพย์ หักสินทรัพย์กับหนี้ไปหักมาสุดท้ายเอาหนี้มารวมกันไม่ถึง1ล้าน แบบนี้ต้องมานั่งจ่ายดอกไปทั้งชีวิต ไหวหรอ.. ไม่แน่นอน

แล้วจะโยกทรัพย์สินออกก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะจขกท.ยังเด็ก เชื่อว่าไม่มีทรัพย์สินเป็นชื่อตัวเอง

ไอที่ชื่อตัวเองก็คือคอนโด 5 ที่เนี่ย จะโยกออกไป ไม่ได้ เพราะโฉนดอยู่ที่ธนาคาร ติดธนาคารอยู่ ถ้าจะโยกต้องหาคนอื่นมาโปะให้ ก็เหมือนกับการขายคอนโดดีๆนี่เอง…

ถ้าโดนล้มแบบนี้เลย… หนี้สินที่มีหมดไป คอนโดทั้ง 5 ที่หมดไปจะคุ้มไหม ผมคิดว่าไม่คุ้มนะ

ชีวิตโดนล้มละลายเงินเดือน มีได้แค่พออยู่พอกิน  จะลงทุนจะทำอะไรก็ไม่ได้

ยิ่งพนักงานบริษัทด้วยแล้วบัญชีรายรับธนาคารก็รู้เต็มๆ หลบเลี่ยงไม่ได้ ไม่เหมือนแบบหลายๆท่านที่เป็นคนล้มละลาย แต่ยังทำธุรกิจในชื่อของคนอื่นครับ  หรือล้มแล้วไปทำธุรกิจอื่นเลย เช่นขายของออนไลน์ ใช้ชื่อบัญชีพ่อแม่ก็ยังทำได้อยู่ พิจารณาเอา

สุดท้ายขอชื่นชม จขกท. ที่มีจิตสำนึกใช้หนี้กยศ.เป็นอันดับแรก

ผมชอบคนดีๆครับ ขอให้เจริญๆ

ป.ล.สุดท้ายอย่าลืมคิดถึงคนกู้ร่วม จะทำอะไรลองปรึกษากันดู

ป.ล.2 เหตุการณ์ผ่านมาสองปีแล้ว ผมมาโพสตอบด้วยวิธีแบบนี้อาจจะดูช้าไปสักหน่อย ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ฝากไว้พิจารณาดูครับ

หากข้อมูลหรือคำแนะนำข้อใดของผมผิดพลาด ท่านอื่นสามารถแย้งได้ และผมต้องขออภัยล่วงหน้าด้วย  บางทีคิดว่าครอบคลุมแล้วมาอ่านใหม่ก็ยังมองบางจุดข้ามไป ต้องกลับมาแก้ไขอีกรอบ

สำหรับท่านไหนที่ต้องการอ่านเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้ โดนหลอกซ้ำซ้อน ให้ซื้อคอนโดที 5 ห้อง  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกหมายเลข 4841554

 

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก