ตัวกรอง
2,742 ผลลัพธ์

ประกาศขายอสังหาริมทรัพย์ 2 ห้องนอน ในภูเก็ต

Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
Slider image 22
Slider image 23
Slider image 24
Slider image 25
1 / 25
฿5,000,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ114 ตรม.คอนโด
ปาล์ม บรีซ รีสอร์ท — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ปาล์ม บรีซ รีสอร์ท
ปาล์มบรีซรีสอร์ท (Palm Breeze Resort) ที่พักใจกลางเกาะภูเก็ตเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ที่รวบรวมสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจไว้อย่างครบครัน ซึ่งคุณจะได้พบกับชายห...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
1 / 21
฿15,000,000
New Listing
2 ห้องนอน3 ห้องน้ำ290 ตรม.บ้านเดี่ยว
กะทู้, กะทู้, ภูเก็ต
ขายบ้านเดี่ยว 2 ห้องนอน ใน กะทู้, ภูเก็ต
ขายบ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปใจกลางภูเก็ต บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับอยู่อาศัยครอบครัวใหญ่  พร้อมสวนขนาดใหญ่ให้บรรยากาศสงบเป็นส่ว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
1 / 17
฿16,500,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ186 ตรม.ทาวน์เฮ้าส์
เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีทรีท — เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายทาวน์เฮ้าส์ 2 ห้องนอน ในโครงการ เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีทรีท
สัมผัสประสบการณ์ใหม่ กับการพักผ่อนในวันหยุดสุดโรแมนติกที่ The Residence Resort & Spa Retreat วิลล่าส่วนตัวสุดหรู กับการตกแต่งที่เน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
Slider image 22
Slider image 23
Slider image 24
Slider image 25
Slider image 26
Slider image 27
Slider image 28
Slider image 29
Slider image 30
Slider image 31
Slider image 32
Slider image 33
Slider image 34
Slider image 35
Slider image 36
Slider image 37
Slider image 38
Slider image 39
Slider image 40
Slider image 41
Slider image 42
Slider image 43
Slider image 44
1 / 44
฿19,900,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ249 ตรม.วิลล่า
เทพกระษัตรี, ถลาง, ภูเก็ต
ขายวิลล่า 2 ห้องนอน ใน เทพกระษัตรี, ภูเก็ต
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น วิลล่า สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 249 ตรม. อยู่ในทำเล เทพกระษัตรี, ภูเก็ต ซึ่งคุณสามารถซื้อ วิลล่า นี้ไ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
1 / 10
฿11,600,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ75 ตรม.อพาร์ทเม้นท์
เบลล์วิว ลากูน ภูเก็ต — เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายอพาร์ทเม้นท์ 2 ห้องนอน ในโครงการ เบลล์วิว ลากูน ภูเก็ต
เบลล์วิว ลากูน เชิงทะเล คอนโดมิเนียม เป็นโครงการใหม่ ตั้งอยู่ติดกับคอมเพล็กซ์ลากูน่าภูเก็ต ถือว่าเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่มองหาบ้านพักตากอากาศในทำเลทอง ห...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
1 / 5
฿5,300,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ50 ตรม.คอนโด
แฟนตาซี คอนโด กมลา — กมลา, กะทู้, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ แฟนตาซี คอนโด กมลา
แฟนตาซี คอนโด กมลา สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดของกมลาด้วยทำเลที่ดีเยี่ยมของเรา เพียงไม่กี่ก้าวจากภูเก็ตแฟนตาซีและชายหาด ดื่มด่ำไปกับความหรูหราด้วยสิ่ง...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
1 / 10
฿9,900,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ66 ตรม.คอนโด
กะตะ วิว — กะรน, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ กะตะ วิว
กะตะ วิว : ที่พักตัวอย่างใจกลางเมืองภูเก็ต กะตะ วิว คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนเกาะภูเก็ตอันสวยงามในทะเลอันดามัน มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ไม่มีใครเทียบไ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
1 / 20
฿8,700,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ115 ตรม.คอนโด
ในหาน บีช คอนโดมิเนียม — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ในหาน บีช คอนโดมิเนียม
ในหาน บีช คอนโด (Nai Harn Beach Condo) คอนโดมิเนียม Low Rise โครงการใหม่ โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย และการตกแต่งที่พิถีพิถันจากชุดเฟอร์นิเ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
1 / 4
฿7,000,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ400 ตรม.พื้นที่ค้าปลีก
ป่าตอง, กะทู้, ภูเก็ต
ขายพื้นที่ค้าปลีก 2 ห้องนอน ใน ป่าตอง, ภูเก็ต
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น พื้นที่ค้าปลีก สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 400 ตรม. อยู่ในทำเล ป่าตอง, ภูเก็ต และสร้างเสร็จแล้วเมื่อ ม.ค...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
1 / 20
฿8,800,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ115 ตรม.คอนโด
ในหาน บีช คอนโดมิเนียม — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ในหาน บีช คอนโดมิเนียม
ในหาน บีช คอนโด (Nai Harn Beach Condo) คอนโดมิเนียม Low Rise โครงการใหม่ โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย และการตกแต่งที่พิถีพิถันจากชุดเฟอร์นิเ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
1 / 18
฿5,900,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ117 ตรม.อพาร์ทเม้นท์
ยะนุ้ย รีสอร์ต — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายอพาร์ทเม้นท์ 2 ห้องนอน ในโครงการ ยะนุ้ย รีสอร์ต
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น อพาร์ทเม้นท์ สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 117 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ ยะนุ้ย รีสอร์ต บนทำเลของ ราไวย์,...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
1 / 17
฿13,900,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ250 ตรม.วิลล่า
อนันดา เลค วิว — เทพกระษัตรี, ถลาง, ภูเก็ต
ขายวิลล่า 2 ห้องนอน ในโครงการ อนันดา เลค วิว
Ananda Lake View อนัญดา เลค วิว โครงการบ้านจัดสรรอันเงียบสงบ บ้านที่เน้นความเป็นส่วนตัว สไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลที่หลอมรวมทั้งความงดงามของธรรมชาติอันแสนอ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
1 / 15
฿9,800,000
New Listing
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ120 ตรม.บ้านเดี่ยว
ออนนิกซ์ สไตล์ วิลล่า — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายบ้านเดี่ยว 2 ห้องนอน ในโครงการ ออนนิกซ์ สไตล์ วิลล่า
Saiyuan Estate (ไสยวน เอสเตท) โครงการพูลวิลล่าสุดทันสมัยในสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล ที่ตั้งอยู่ในทำเลอันเงียบสงบ ใช้เวลาขับรถเพียงแค่ไม่กี่นาทีถึงหาดราไว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
1 / 21
฿12,000,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ85 ตรม.คอนโด
ดิ เอ็กเซ็นตา — กะรน, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ดิ เอ็กเซ็นตา
ดิ เอ็กเซ็นตา (The Accenta) อพาร์ทเม้นท์สุดหรูวิวทะเล ที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการชื่นชมภูมิทัศน์ทะเลอันดามันที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ บนทำเลท...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
1 / 16
฿18,000,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ117.80 ตรม.อพาร์ทเม้นท์
คิว คอนเซปต์ คอนโดมิเนียม — กะรน, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
คอนโด Q-Conzept กะตะ ภูเก็ต | ห้องใหญ่ 2 ห้องนอน วิวทะเล | เฟอร์ครบ | 117.8 ตร.ม.
สัมผัสการอยู่อาศัยสไตล์รีสอร์ตใจกลางกะตะกับคอนโด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมพื้นที่กว้างถึง 117.8 ตร.ม. ที่โครงการ Q-Conzept Condominiumตั้งอยู่บนชั้น 2...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
1 / 17
฿4,800,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ72.92 ตรม.คอนโด
พลัส คอนโด ภูเก็ต โครงการ 2 — กะทู้, กะทู้, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ พลัส คอนโด ภูเก็ต โครงการ 2
ตอบโจทย์นิยามของความคุ้มค่า ที่มากกว่าเรื่องของราคาไปกับ Plus Condo 2 (พลัส คอนโด 2) โครงการคอนโดมิเนียมราคารสุดคุ้มสไตล์โมเดิร์น ที่โดดเด่นด้วยการออ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
1 / 15
฿9,850,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ121.40 ตรม.คอนโด
เดอะควอร์เตอร์ ภูเก็ต — เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ เดอะควอร์เตอร์ ภูเก็ต
มอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดผ่อนคลายไปกับ "The Quarter (เดอะควอเตอร์)" คอนโดมิเนียมสุดหรู บนเนินเขาอันเขียวชอุ่ม เพื่อให้คุณได้สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามขอ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
1 / 16
฿3,890,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ70.93 ตรม.คอนโด
ตลาดใหญ่, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ใน ตลาดใหญ่, ภูเก็ต
WR-04051 คอนโด ศุภาลัยปาร์คภูเก็ตซิตี้ หลัง ร.ร. ภูเก็ตวิทฯ ราคาเพียง 3,890,000 บาท 2 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
1 / 14
฿11,000,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ220 ตรม.วิลล่า
วิลล่า สุขสันต์ ซอย กิ่งสุขสันต์ 4 — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
บ้านพักสไตล์รีสอร์ทใจกลางราไวย์ | วิวสวน–วิวสระ | พร้อมเฟอร์ครบ
สัมผัสการอยู่อาศัยสไตล์ทรอปิคอลที่เงียบสงบกับวิลล่า 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในโครงการ Villa Suksan ทำเลยอดนิยมในย่านราไวย์วิลล่าหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยภายใ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
1 / 12
฿3,890,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ64 ตรม.คอนโด
กะทู้, กะทู้, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ใน กะทู้, ภูเก็ต
WR-04046 ขายด่วนคอนโด D condo Creek ราคาเพียง 3,890,000 บาท 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง & ยิม ประเภทห้อง : 2 B...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
1 / 11
฿6,800,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ43 ตรม.คอนโด
สกาย ปาร์ค — เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ สกาย ปาร์ค
Sky Park (สกาย ปาร์ค)คอนโดมิเนียมริมชายหาดแห่งใหม่ล่าสุดจากเครือลากูน่า ภูเก็ต ตั้งอยู่ในบรรยากาศที่มีทัศนียภาพของธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม ที่คุณสามารถเพ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
1 / 12
฿2,750,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ78 ตรม.ทาวน์เฮ้าส์
ป่าตอง, กะทู้, ภูเก็ต
ขายทาวน์เฮ้าส์ 2 ห้องนอน ใน ป่าตอง, ภูเก็ต
WR-04052 บ้านทาวน์เฮาส์ ชั้นเดียว หมู่บ้านสินเทา กะทู้ ราคา 2.75 ลบ. 2 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ พื้นที่ขนาด 19.5 ตรว. พร้อมซิงค์ล้างจาน สอบถามข้อมูลเพิ่ม...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
1 / 7
฿2,690,000
2 ห้องนอน1 ห้องน้ำ85.60 ตรม.ทาวน์เฮ้าส์
ศรีสุนทร, ถลาง, ภูเก็ต
ขายทาวน์เฮ้าส์ 2 ห้องนอน ใน ศรีสุนทร, ภูเก็ต
WR-04048 หมู่บ้านสุชารีวิลเลจ ป่าคลอก ราคาเพียง 2.69 ล้านบาท เนื้อที่ 21.4 ตร.วา 2 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ ค่าใช้จ่าย - ค่าธรรมเนียมคนละ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
Slider image 22
Slider image 23
Slider image 24
Slider image 25
Slider image 26
Slider image 27
Slider image 28
Slider image 29
Slider image 30
Slider image 31
Slider image 32
Slider image 33
Slider image 34
Slider image 35
Slider image 36
Slider image 37
Slider image 38
Slider image 39
Slider image 40
1 / 40
฿7,999,999
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ120 ตรม.คอนโด
ในหาน บีช คอนโดมิเนียม — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ในหาน บีช คอนโดมิเนียม
ในหาน บีช คอนโด (Nai Harn Beach Condo) คอนโดมิเนียม Low Rise โครงการใหม่ โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย และการตกแต่งที่พิถีพิถันจากชุดเฟอร์นิเ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
1 / 18
฿4,390,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ158.44 ตรม.บ้านเดี่ยว
ฉลอง, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายบ้านเดี่ยว 2 ห้องนอน ใน ฉลอง, ภูเก็ต
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น บ้านเดี่ยว สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 158.44 ตรม. อยู่ในทำเล ฉลอง, ภูเก็ต ซึ่งคุณสามารถซื้อ บ้านเดี่ยว...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
Slider image 22
Slider image 23
Slider image 24
Slider image 25
Slider image 26
Slider image 27
Slider image 28
Slider image 29
Slider image 30
Slider image 31
Slider image 32
Slider image 33
Slider image 34
Slider image 35
Slider image 36
1 / 36
฿8,999,999
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ120 ตรม.คอนโด
ในหาน บีช คอนโดมิเนียม — ราไวย์, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ในหาน บีช คอนโดมิเนียม
ในหาน บีช คอนโด (Nai Harn Beach Condo) คอนโดมิเนียม Low Rise โครงการใหม่ โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย และการตกแต่งที่พิถีพิถันจากชุดเฟอร์นิเ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
Slider image 22
Slider image 23
Slider image 24
Slider image 25
Slider image 26
Slider image 27
Slider image 28
Slider image 29
Slider image 30
Slider image 31
Slider image 32
Slider image 33
Slider image 34
Slider image 35
Slider image 36
Slider image 37
Slider image 38
Slider image 39
Slider image 40
Slider image 41
Slider image 42
Slider image 43
1 / 43
฿19,950,000
2 ห้องนอน2 ห้องน้ำ91.90 ตรม.คอนโด
ลายัน กรีน พาร์ค เฟส 1 — เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายคอนโด 2 ห้องนอน ในโครงการ ลายัน กรีน พาร์ค เฟส 1
Layan Green Park (ลายัน กรีน พาร์ค) คอนโดมิเนียมหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางความสะดวกสบาย และรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่รอบด้าน เพียง 700 เมตร ถึงหาดบ...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
1 / 12
฿4,590,000
2 ห้องนอน3 ห้องน้ำ94.40 ตรม.ทาวน์เฮ้าส์
ฉลอง, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายทาวน์เฮ้าส์ 2 ห้องนอน ใน ฉลอง, ภูเก็ต
WR-04045 ทาวน์เฮ้าส์ ทำเลเจ้าฟ้า-ฉลอง ราคา 4,590,000 บาท 2 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ เนื้อที่ 23.6 ตร.ว. ตกแต่งครบ พร้อมอยู่ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศตลอด...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
Slider image 21
1 / 21
฿10,000,000
2 ห้องนอน3 ห้องน้ำ120 ตรม.วิลล่า
วิลล่า เชโลนี่ — กมลา, กะทู้, ภูเก็ต
ขายวิลล่า 2 ห้องนอน ในโครงการ วิลล่า เชโลนี่
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น วิลล่า สำหรับขาย ขนาด 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 120 ตรม. ซึ่งยูนิตนี้อยู่ในโครงการ วิลล่า เชโลนี่ บนทำเลของ กมลา, ภูเก็ต&n...
แสดงผลลัพธ์ 1 - 30, หน้า 1 จากทั้งหมด 92 หน้า

ขายอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต - แนวโน้มตลาดและกลยุทธ์ลงทุน (2567-2568)

จังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงที่สุดของไทยในช่วงปี 2567-2568 สวนกระแสเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างเห็นได้ชัด ตลาดขายอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตต่อเนื่องจากอานิสงส์การท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่หลังโควิด-19 ส่งผลให้อุปสงค์ที่อยู่อาศัยทั้งจากผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน บทความเชิงวิเคราะห์นี้จะนำเสนอภาพรวมและข้อมูลเชิงลึกของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ครอบคลุมตั้งแต่แนวโน้มราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลสำคัญ ประเภทอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยม พฤติกรรมผู้ซื้อ กลยุทธ์การซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการประเมินความเสี่ยงกับโอกาสในตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต

เนื้อหานี้จัดทำขึ้นในลักษณะรายงานวิเคราะห์เชิงลึก ใช้ภาษาทางการ เน้นให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักลงทุนและผู้สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต โดยอ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากปี 2567-2568 เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและรอบด้านที่สุด

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตปี 2567-2568

การฟื้นตัวหลังโควิด-19: ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตกลับมาคึกคักอย่างรวดเร็วหลังการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2566-2567 ปี 2566 ที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 8.3 ล้านคน (เพิ่มขึ้นกว่า 150% จากปีก่อนหน้า) ซึ่งสูงกว่าจุดหมายท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น บาหลีหรือมัลดีฟส์ การหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและเพิ่มความต้องการที่อยู่อาศัย ทั้งในรูปแบบบ้านพักตากอากาศและที่อยู่อาศัยระยะยาว ส่งผลโดยตรงให้ตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และอสังหาฯ ในภูเก็ตเติบโตสวนทางกับภาวะชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในหลายพื้นที่ของประเทศ

มูลค่าตลาดและการโอนกรรมสิทธิ์: ข้อมูลปี 2567 ชี้ให้เห็นว่าการซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีมูลค่ารวมกว่า 55,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ โครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เปิดตัวอย่างคึกคัก ในช่วงปี 2566-2567 มีหน่วยขายใหม่เข้าสู่ตลาดมากกว่า 20,000 หน่วย (บ้านและคอนโดมิเนียมรวมกัน) ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า อุปทานใหม่ส่วนใหญ่มาจากผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ทั้งจากกรุงเทพฯ และบริษัทท้องถิ่นในภูเก็ตที่เล็งเห็นโอกาสทองในการพัฒนาโครงการรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

ดีมานด์จากผู้ซื้อไทยและต่างชาติ: แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตในระยะนี้มาจาก ผู้ซื้อกลุ่มไฮเอนด์ ทั้งคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงและชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านพักตากอากาศระดับลักชัวรี ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มนี้ส่งผลให้โครงการบ้านหรูและคอนโดมิเนียมหรูในภูเก็ตมียอดขายเติบโตมาก โดยเฉพาะบ้านวิลล่าราคา สิบล้านบาทขึ้นไป ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรปตะวันออก มีบทบาทโดดเด่นในตลาด พวกเขามองหาที่อยู่อาศัยระดับหรูใกล้ชายหาดและธรรมชาติ ทำให้ยอดขายวิลล่าหรูและคอนโดติดชายทะเลเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา

การเติบโตในทุกเซ็กเมนต์: แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีจะร้อนแรงที่สุด แต่กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงล่างในภูเก็ตก็ได้รับแรงหนุนเช่นกัน หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัว ภูเก็ตดึงดูดแรงงานและผู้ประกอบการรายย่อยจากทั่วประเทศมาทำงานและลงทุน ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับคนทำงาน (เช่น บ้านระดับราคาไม่เกิน 3-5 ล้านบาท หรือคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงได้) เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในปี 2566 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยรวมกว่า 8,000 ยูนิต และคาดว่าปี 2567 ยอดโอนจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่ที่น่าสังเกตคือมูลค่ารวมของการโอนเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 10,000 ล้านบาท สะท้อนว่าผู้ซื้อหันไปซื้ออสังหาฯ ราคาแพงขึ้น และระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ของตลาดภูเก็ต

บทบาทของการเช่าและการลงทุนระยะยาว: นอกจากการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองแล้ว ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยระยะยาวในภูเก็ตก็เติบโตควบคู่กัน ตามเทรนด์การทำงานทางไกลและการใช้ชีวิตแบบ “workation” (ทำงานควบคู่ท่องเที่ยว) ชาวต่างชาติจำนวนมากเลือกเช่าบ้านหรือคอนโดอยู่เป็นเดือนหรือเป็นปีในภูเก็ตเพราะความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตสูง คาดว่ามูลค่าตลาดการเช่าที่อยู่อาศัยในปี 2567 จะสูงถึงประมาณ 15,000 ล้านบาท การเติบโตของตลาดเช่านี้ทำให้นักลงทุนสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเพื่อปล่อยเช่ามากขึ้น เพราะมองว่าเป็นการสร้างรายได้ระยะยาวจากกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตระยะยาวในเมืองท่องเที่ยว

ข้อสังเกต: โดยภาพรวม ภูเก็ตก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยวระดับโลก กำลังซื้อจากทั้งไทยและเทศที่หลั่งไหลเข้ามา และที่ดินบนเกาะซึ่งมีจำกัดตามลักษณะภูมิศาสตร์ ส่งผลให้เกิดภาวะ “ที่ดินทอง” (Golden Location) ที่ราคาทรัพย์สินและค่าเช่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ก็ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องความยั่งยืน ซึ่งเราจะพิจารณาในส่วนท้ายเมื่อพูดถึงความเสี่ยงของตลาด

แนวโน้มราคาและทำเลสำคัญในภูเก็ต

ราคาที่ดินและแนวโน้มระยะยาว: ราคาที่ดินในภูเก็ตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้อมูลระยะยาวตั้งแต่ปี 2547 ถึง 2567 ระบุว่าราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 7.5 เท่า (หรือเฉลี่ยปีละกว่า 10% ตลอดช่วง 20 ปี) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของที่ดินในจังหวัดอื่นๆ ของไทย สาเหตุหลักมาจากการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ทำให้ที่ดินในทำเลสำคัญมีมูลค่าพุ่งสูงเมื่อเทียบกับอดีต

  • ทำเลที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้แก่ บริเวณหาดราไวย์ ทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งราคาที่ดินเพิ่มขึ้นถึง ประมาณ 14 เท่า จากจุดเริ่มต้นเมื่อสองทศวรรษก่อน สะท้อนความนิยมของพื้นที่นี้ในฐานะแหล่งพักอาศัยยอดนิยมของชาวต่างชาติและคนไทยที่ต้องการบรรยากาศสงบใกล้ทะเล
  • รองลงมาคือ ย่านหาดบางเทา-ลายัน บริเวณเชิงทะเลฝั่งตะวันตก ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน ตามมาด้วยพื้นที่ใกล้สนามบินอย่าง ไม้ขาว ที่เพิ่มขึ้นราว 9 เท่า
  • ในทางกลับกัน บางพื้นที่ที่อยู่นอกเส้นทางหลักการท่องเที่ยว เช่น อ่าวสปำ (บริเวณป่าคลอก), หาดกะรน (ตอนใต้ฝั่งตะวันตก) และ เกาะสิเหร่ (ใกล้ตัวเมือง) ราคาที่ดินปรับขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าจุดอื่น

ราคาที่ดินปัจจุบันในทำเลฮอต: หากพิจารณาราคาตลาดที่ดินล่าสุด (ราคาซื้อขายจริงในตลาด ไม่ใช่ราคาประเมินทางราชการ) จะเห็นความแตกต่างชัดเจนตามความเป็นเมืองและความนิยมของพื้นที่

  • สูงสุด: ย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในภูเก็ตขณะนี้คือ บริเวณหาดป่าตอง ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและบันเทิงชื่อดัง โดยราคาตลาดที่ดินอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาทต่อไร่ (เทียบเท่า ~875,000 บาทต่อตารางวา) ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินทางราชการหลายเท่าตัว
  • กลุ่มรองลงมา: พื้นที่หาดท่องเที่ยวระดับพรีเมียมอื่นๆ เช่น หาดบางเทา, หาดสุรินทร์ และหาดกะรน มีราคาตลาดที่ดินอยู่ราว 80 ล้านบาทต่อไร่ (ประมาณ 200,000 บาท/ตร.วา) ซึ่งแม้จะต่ำกว่าป่าตองมาก แต่ก็ยังถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
  • ทำเลใกล้ชายหาด vs ห่างชายหาด: ในย่านบางเทา-เชิงทะเล ซึ่งเป็นที่นิยมของนักลงทุน ราคาที่ดินมีความแตกต่างตามระยะห่างจากทะเล ที่ดินซึ่งไม่ได้ติดชายหาดโดยตรง (อยู่ลึกเข้ามาในแผ่นดิน) ปัจจุบันมีราคาประมาณ 25-40 ล้านบาทต่อไร่ แต่หากเป็นที่ดินติดทะเลหรืออยู่ในระยะใกล้ชายหาดยอดนิยม ราคาสามารถทะยานเกิน 100 ล้านบาทต่อไร่ ได้เลยทีเดียว

แนวโน้มเหล่านี้ทำให้ผู้พัฒนารายเล็กในท้องที่หาที่ดินทำโครงการใหม่ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่สามารถสู้ราคากับรายใหญ่ที่มีทุนหนาได้ ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรใหม่ๆ บนเกาะเริ่มกระจุกตัวอยู่ในมือผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นส่วนมาก

ทำเลที่นิยมและศูนย์กลางการพัฒนา: ด้วยความที่ภูเก็ตเป็นเกาะไม่ใหญ่มาก แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และระดับราคาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สามารถแบ่งกลุ่มทำเลหลักที่น่าสนใจดังนี้:

  • โซนชายฝั่งตะวันตก (West Coast - บางเทา, สุรินทร์, ลายัน, กมลา, ป่าตอง): พื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูเก็ตติดทะเลอันดามัน เป็นทำเลทองของบ้านพักตากอากาศและอสังหาฯ หรู ด้วยหาดทรายสวยและพระอาทิตย์ตกดินที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ต้องการบ้านตากอากาศ บริเวณนี้มีโครงการวิลล่าหรูระดับราคาสูงหนาแน่น โดยเฉพาะย่าน บางเทา-เชิงทะเล ที่อยู่ใกล้แหล่งรีสอร์ต “ลากูน่า” อันมีชื่อเสียง พบว่าโครงการพูลวิลล่าและคอนโดหรูเปิดตัวจำนวนมากในช่วงปีหลัง และได้รับการตอบรับดีเยี่ยมจากทั้งคนไทยและต่างชาติ (กลุ่มลูกค้ารัสเซียชื่นชอบโซนนี้เป็นพิเศษ) ราคาขายอสังหาริมทรัพย์พักตากอากาศในฝั่งตะวันตกมักอยู่ในช่วง 20-40 ล้านบาท สำหรับวิลล่าระดับไฮเอนด์ ไปจนถึง 100 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรีบางแห่ง การแข่งขันของผู้พัฒนาในย่านนี้ค่อนข้างสูง ทำให้เริ่มเห็นเทรนด์การพัฒนาโครงการที่ไม่ได้ติดชายหาดโดยตรงแต่ขยับออกมาห่างจากทะเลเล็กน้อย เพื่อให้ได้ที่ดินราคาต้นทุนต่ำลง พร้อมนำเสนอความสงบและความเป็นส่วนตัวเป็นจุดขายเพิ่มเติม นอกเหนือจากวิวทะเลที่ยังสามารถเข้าถึงได้ในระยะขับรถไม่ไกล
  • โซนตอนใต้ของเกาะ (ราไวย์, ในหาน, ฉลอง): พื้นที่ตอนใต้มีบรรยากาศเงียบสงบกว่าแถบหาดป่าตองหรือบางเทา แต่มีกลิ่นอายความเป็นชุมชนท้องถิ่นผสมกับสังคมชาวต่างชาติที่ปักหลักระยะยาว หาดราไวย์ และพื้นที่รอบๆ เช่น อ่าวฉลอง ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติที่มองหาสถานที่พักอาศัยยามเกษียณหรือบ้านพักตากอากาศสำหรับใช้ชีวิตนานหลายเดือน เนื่องจากค่าครองชีพไม่สูงเกินไป มีร้านค้าและบริการพร้อม และยังสามารถเดินทางไปยังหาดสวยๆ หรือเกาะใกล้เคียงได้สะดวก ราคาที่ดินและบ้านในโซนนี้ปรับตัวสูงขึ้นมากดังที่กล่าวไป (ราไวย์เพิ่มขึ้น 14 เท่าในรอบ 20 ปี) แต่ยังถูกกว่าโซนฝั่งตะวันตกตอนเหนือ โดยวิลล่าหรูใกล้ทะเลในย่านราไวย์อาจมีราคาในช่วง 15-30 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน่าสนใจเมื่อเทียบกับบางเทาหรือสุรินทร์ที่ราคาอาจสูงกว่านั้นหลายเท่า
  • โซนใจกลางเกาะและตัวเมือง (อำเภอเมืองภูเก็ต): พื้นที่ตัวเมืองภูเก็ต (เทศบาลภูเก็ตและใกล้เคียง) เป็นศูนย์กลางธุรกิจ การค้า และวัฒนธรรมของจังหวัด เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และย่านเมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์ ที่อยู่อาศัยในโซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวในชุมชนเมือง มีโครงการแนวราบสำหรับคนท้องถิ่นและคนทำงานจำนวนมาก ราคาจะปรับตามกลไกตลาดท้องถิ่นมากกว่าตลาดต่างชาติ กล่าวคือบ้านหรือคอนโดในเมืองภูเก็ตจะมีราคาย่อมเยากว่าแถบชายหาด ยกตัวอย่างคอนโดมิเนียมสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมือง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งขายดีมากจนเกือบหมดสต็อก (ในปี 2567 พบว่าคอนโดที่พัฒนาเพื่อคนทำงานในเมืองขายไปแล้วกว่า 95% ของหน่วยทั้งหมด) ส่วนบ้านจัดสรรในย่านชานเมืองหรือใกล้ตัวเมือง (ราคา 3-7 ล้านบาท) ก็ได้รับความสนใจจากครอบครัวชาวภูเก็ตและคนไทยจากจังหวัดอื่นที่ย้ายมาทำงาน
  • โซนตอนเหนือและเขตใกล้สนามบิน (อำเภอถลาง): อำเภอถลางกินพื้นที่ตอนเหนือของเกาะ ซึ่งรวมถึงทำเลรอบสนามบินนานาชาติภูเก็ตและฝั่งตะวันตกตอนบน (เช่น ลายัน, ในทอน, ไม้ขาว) พื้นที่นี้ครอบคลุมตั้งแต่โซนรีสอร์ตหรู (ลากูน่าภูเก็ตอยู่ในเขตเชิงทะเลของถลาง) ไปจนถึงชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ข้อมูลในช่วงต้นปี 2567 ระบุว่ากว่า 50% ของโครงการอสังหาฯ ทั้งหมดในภูเก็ตอยู่ในเขตอำเภอถลาง และส่วนใหญ่ (คิดเป็นสัดส่วนมูลค่าราว 86%) เป็นโครงการประเภทเพื่อการพักผ่อน เช่น คอนโดมิเนียมตากอากาศและบ้านวิลล่าหรู ซึ่งขายดีมากโดยมียอดดูดซับ (absorption rate) เฉลี่ยถึง ~8% ต่อเดือน (คาดว่าจะขายหมดในเวลาไม่เกิน 1 ปีหากยังมียอดขายระดับนี้) ทำเลยอดนิยมในถลางหนีไม่พ้นแนวชายฝั่งฝั่งตะวันตกที่กล่าวไป (บางเทา, ลายัน, เชิงทะเล) แต่อีกพื้นที่ที่กำลังได้รับความสนใจคือบริเวณ ในทอน ซึ่งเป็นชายหาดที่สวยงามและยังพัฒนาน้อยเมื่อเทียบกับบางเทา ปัจจุบันในทอนมีคอนโดมิเนียมระหว่างขายเพียง 2 โครงการรวม ~820 ยูนิตเท่านั้น (อ้างอิงข้อมูลกลางปี 2568) จึงถูกจับตามองว่าเป็น “เพชรเม็ดงาม” ที่มีโอกาสเติบโตสูงหากได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น

แนวโน้มราคาในอนาคต: จากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา แนวโน้มราคาอสังหาริมทรัพย์และที่ดินในภูเก็ตยังคงมีทิศทางขาขึ้นในภาพรวม แต่ควรพิจารณาเป็นรายทำเล เนื่องจากบางพื้นที่เริ่มมีราคาสูงมากจนผู้ซื้อบางกลุ่มเข้าถึงได้ยาก (เช่น วิลล่าติดทะเลระดับ 50-100 ล้านบาท) ในขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงหรือห่างออกไปเล็กน้อยอาจยังพอมีช่องว่างให้ราคาขยับขึ้นได้อีก นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของราคาช่วงปี 2565-2567 ที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงกว่าปกติ (บางปีราคาอสังหาฯ ในภูเก็ตโดยรวมขึ้น 15-20% ต่อปี และคาดการณ์ว่าปี 2568 ยังอาจเพิ่มขึ้นได้อีก 10-15% ในบางเซ็กเมนต์) ซึ่งถือว่าเร็วกว่าการเติบโตเศรษฐกิจพื้นฐานมาก แนวโน้มนี้ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนเริ่มกังวลเรื่อง “ฟองสบู่” ที่อาจเกิดขึ้นหากราคาเพิ่มสูงจนเกินกำลังซื้อจริงของตลาด อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังมีปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกหลายด้านช่วยพยุงดีมานด์อยู่ เช่น การท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว แหล่งเงินสดจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุน และโครงการลงทุนพัฒนาขนาดใหญ่จากทั้งภาครัฐและเอกชน (เช่น แผนระบบขนส่งมวลชนใหม่ในภูเก็ต การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ฯลฯ) ซึ่งอาจช่วยรองรับราคาในระยะกลางได้

ประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในภูเก็ต

ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์) และโครงการแนวดิ่ง (คอนโดมิเนียม) รวมถึงอสังหาฯ ประเภทเพื่อการพาณิชย์ (เช่น อาคารพาณิชย์หรือช้อปเฮาส์) และที่ดินจัดสรร อย่างไรก็ตาม เมื่อโฟกัสที่ “บ้าน” ในความหมายของที่อยู่อาศัยแนวราบ จะพบว่ามีหมวดหมู่หลักๆ ที่ได้รับความนิยมแตกต่างกันไปตามกลุ่มผู้ซื้อและทำเลดังนี้:

  • บ้านเดี่ยว (Detached Houses): บ้านเดี่ยวเป็นสินค้าอสังหาฯ ที่มีอยู่จำนวนไม่น้อยในภูเก็ต โดยเฉพาะในโครงการจัดสรรสำหรับผู้อยู่อาศัยท้องถิ่นและผู้ที่ย้ายมาทำงาน ครอบครัวคนไทยมักนิยมบ้านเดี่ยวเพราะมีพื้นที่ใช้สอยมากและมีความเป็นส่วนตัวสูง ในภูเก็ตโครงการบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่กระจายอยู่รอบๆ เขตเมืองและชานเมือง ซึ่งที่ดินยังพอหาได้และราคาต่อตารางวามีความสมเหตุสมผล ข้อมูลปี 2567 พบว่ามีบ้านเดี่ยวในโครงการจัดสรรที่อยู่ระหว่างขายประมาณ 6,700 หน่วย โดยราคาขายเฉลี่ยของบ้านเดี่ยวในภูเก็ตอยู่ที่ราว 5-7 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งช่วงราคานี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ขายได้ดี สำหรับบ้านเดี่ยวระดับที่สูงกว่านั้นก็มีเช่นกัน (เช่นกลุ่มราคา 7-10 ล้านบาท) แต่จะเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากขึ้น ปัจจัยที่ทำให้บ้านเดี่ยวในภูเก็ตขายช้ากว่าบ้านประเภทอื่นเล็กน้อย คือที่ดินที่ต้องใช้มากและราคาที่สูง ทำให้โครงการบ้านเดี่ยวมีความเสี่ยงด้านเวลาขาย (หลายโครงการต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะปิดการขายหมด) อย่างไรก็ดี ความต้องการบ้านเดี่ยวเพื่ออยู่อาศัยเองยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากคนไทยที่ต้องการปักหลักระยะยาวในภูเก็ต
  • บ้านแฝด (Semi-Detached Houses): บ้านแฝดเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะผสมข้อดีระหว่างบ้านเดี่ยวกับทาวน์เฮาส์ กล่าวคือมีพื้นที่ตัวบ้านและที่ดินใกล้เคียงบ้านเดี่ยว แต่ราคาจับต้องได้กว่าเนื่องจากใช้ที่ดินน้อยลง บ้านแฝดในภูเก็ตมักอยู่ในโครงการจัดสรรระดับกลาง เจาะกลุ่มครอบครัวคนทำงานหรือผู้ซื้อบ้านหลังแรก ข้อมูลปี 2567 ระบุว่ามีบ้านแฝดอยู่ในตลาดจำนวนพอๆ กับบ้านเดี่ยว (ราว 80+ โครงการ ใกล้เคียงกัน) แต่เพราะบ้านแฝดแต่ละหลังใช้ที่ดินน้อยกว่า (ขั้นต่ำตามกฎหมายที่ดินสำหรับบ้านแฝดอยู่ที่ ~35 ตารางวา ในขณะที่บ้านเดี่ยวขั้นต่ำ ~50 ตารางวา) ทำให้ราคาขายอสังหาริมทรัพย์แฝดถูกกว่าบ้านเดี่ยวในขนาดพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน ราคาบ้านแฝดในภูเก็ตส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2-5 ล้านบาทต่อหลัง โดยช่วงราคาที่มีจำนวนหน่วยขายมากที่สุดคือ ประมาณ 3-5 ล้านบาท ความนิยมของบ้านแฝดสะท้อนจากสต็อกที่เหลือขายค่อนข้างน้อย (ในปี 2567 เหลือขายเพียง ~500 หน่วยทั่วจังหวัด) และคาดว่าจะขายหมดเร็วภายในไม่กี่ปี เพราะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าทาวน์เฮาส์ แต่ราคาเอื้อมถึงง่ายกว่าบ้านเดี่ยว
  • ทาวน์เฮาส์ (Townhouses): ทาวน์เฮาส์หรือบ้านแถวเป็นที่อยู่อาศัยยอดนิยมสำหรับตลาดระดับกลาง-ล่างและกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนทำงานรุ่นใหม่ในภูเก็ต ด้วยราคาที่ไม่สูงและดูแลง่าย ปัจจุบันมีโครงการทาวน์เฮาส์ในภูเก็ตจำนวนมากกว่า 100 โครงการ รวมหน่วยขายราว 10,000 หน่วย โดยมีราคาเฉลี่ยประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อหลัง (ช่วงราคาหลักที่พบมากที่สุดคือ 2-3 ล้านบาท รองลงมาคือกลุ่ม 3-5 ล้านบาท) ทาวน์เฮาส์จำนวนมากกระจุกตัวในเขตชานเมืองและใกล้ย่านนิคมอุตสาหกรรมหรือสถานที่ทำงานหลัก เช่น รอบเขตตัวเมืองภูเก็ต สนามบิน และย่านการค้า ทาวน์เฮาส์ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนบางรายที่ซื้อไว้ปล่อยเช่าระยะยาวให้พนักงานบริษัทหรือครอบครัวคนไทยที่ย้ายมาทำงาน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนค่าเช่าอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมเมื่อเทียบกับราคาซื้อ (ค่าเช่าทาวน์เฮาส์ทั้งหลังในภูเก็ตอาจอยู่ราว 10,000-15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นกับทำเลและสภาพบ้าน) โดยรวมแล้ว สินค้าทาวน์เฮาส์ในตลาดภูเก็ตมีการดูดซับตัวที่ดี เหลือขายไม่มากนักและคาดว่าจะระบายหมดภายในเวลา ~2-3 ปี หากไม่มีอุปทานใหม่เพิ่มเข้ามามากเกินไป
  • วิลล่าและบ้านพักตากอากาศ (Pool Villas / Vacation Homes): เซ็กเมนต์นี้ถือเป็นจุดเด่นของตลาดภูเก็ตและสร้างความแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ วิลล่า หรือบ้านพักตากอากาศในที่นี้หมายถึงบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ มักมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ดีไซน์หรูหรา ตั้งอยู่ในทำเลสวย (เช่น เนินเขามองเห็นวิวทะเล หรือใกล้ชายหาด) เน้นขายให้กับนักลงทุนต่างชาติและผู้มีกำลังซื้อสูง วิลล่าเหล่านี้มักอยู่ในโครงการขนาดเล็ก (จำนวนหลังไม่มากเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว) จากข้อมูลล่าสุด ณ ไตรมาส 1/2568 มีโครงการวิลล่าในภูเก็ตที่อยู่ระหว่างขายประมาณ 149 โครงการ รวมจำนวนบ้านพักราว 3,300 หลัง (ในแต่ละโครงการมีเฉลี่ย ~22 หลังเท่านั้น) สะท้อนว่าวิลล่าแต่ละโครงการมีความเอ็กซ์คลูซีฟมาก ราคาขายเฉลี่ยของวิลล่าอยู่ที่ราว 35-40 ล้านบาทต่อหลัง โดยกลุ่มราคาที่มีจำนวนขายมากที่สุดในตลาดปัจจุบันคือ ช่วงราคา 20-40 ล้านบาท (เป็นช่วงราคาที่มีดีมานด์สูงและมีการซื้อขายสัดส่วนมากที่สุด) รองลงมาคือกลุ่ม 40-60 ล้านบาท สำหรับวิลล่าระดับไฮเอนด์ใกล้ทะเล และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มวิลล่าซูเปอร์ลักชัวรีที่ราคาสูงกว่า 100 ล้านบาท ขึ้นไป ซึ่งกลุ่มหลังนี้แม้จะมีจำนวนน้อยแต่ก็เป็นที่จับตามองในตลาดโลก (โครงการที่แพงที่สุดในภูเก็ตขณะนี้ เช่น The Estates at Mont Azure ในย่านกมลา มีราคาขายสูงถึง ~262 ล้านบาทต่อหลัง) วิลล่าและบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตขายดีมากในช่วงปี 2566-2567 เห็นได้จากอัตราการขายต่อเดือนที่สูง ~7-8% ซึ่งถือว่ารวดเร็ว ทำให้คาดการณ์กันว่าหากความต้องการยังอยู่ในระดับปัจจุบัน สต็อกวิลล่าที่มีเหลือขายอยู่ (ราว 1,200 หลัง ณ กลางปี 2567) จะถูกขายหมดภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีครึ่ง ผู้ซื้อวิลล่าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ (เช่น รัสเซีย จีน ยุโรป) และคนไทยฐานะดีที่ซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สองหรือบ้านตากอากาศสำหรับครอบครัว สินค้ากลุ่มนี้จึงผูกพันอย่างมากกับภาคการท่องเที่ยวและสภาพเศรษฐกิจต่างประเทศ
  • คอนโดมิเนียมตากอากาศ (Resort Condos): แม้ไม่ใช่ “บ้าน” ในแง่นิยาม แต่คอนโดมิเนียมเป็นส่วนสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยภูเก็ต โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่พัฒนาเพื่อการพักผ่อนตากอากาศ (ขายให้ทั้งคนไทยและต่างชาติเพื่อใช้พักผ่อนหรือปล่อยเช่านักท่องเที่ยว) ในช่วงปี 2566-2567 เซ็กเมนต์นี้มีความเคลื่อนไหวสูงมาก มีโครงการคอนโดใหม่เปิดขายหลายโครงการในทำเลใกล้ชายหาด และได้รับการตอบรับดีเยี่ยม ข้อมูลระบุว่า ณ ต้นปี 2567 มีคอนโดมิเนียมตากอากาศอยู่ระหว่างขายประมาณ 130 โครงการ รวม ~27,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตอยู่ที่ประมาณ 7.7 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าเฉลี่ยคอนโดในเมืองหลวงเสียอีก กลุ่มราคาหลักที่พบมากสำหรับคอนโดตากอากาศในภูเก็ตคือ 5-7 ล้านบาท รองลงมาคือ 3-5 ล้านบาท และกลุ่มหนึ่งในช่วง 7-10 ล้านบาท ความร้อนแรงของตลาดนี้ยืนยันได้จากการที่หลายโครงการขายได้ไวมาก บางโครงการซึ่งเป็นที่สนใจของลูกค้าต่างชาติสามารถขายโควตาต่างชาติ (49% ของยูนิตทั้งหมด) หมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงของวันเปิดขายแรก เรียกได้ว่าเปิดปุ๊บปิดปั๊บ นักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่ม รัสเซีย ที่ต้องการสินทรัพย์ถือครองระยะยาวนอกประเทศเป็นกำลังซื้อสำคัญของคอนโดภูเก็ต เนื่องจากกฎหมายไทยอนุญาตให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดได้ (ตามโควตาที่กำหนด) ทำให้คอนโดเป็นตัวเลือกที่ง่ายกว่าวิลล่าสำหรับชาวต่างชาติ ปัจจุบันซัพพลายคอนโดตากอากาศในภูเก็ตก็ยังมีเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ แต่แนวโน้มปี 2568 คาดว่าอาจชะลอลงบ้าง เหลือเปิดใหม่ปีละประมาณ 8,000-10,000 ยูนิต (ลดลงจากช่วงพีค 2 ปีก่อนที่เปิดใหม่รวมกันกว่า 20,000 ยูนิต) เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มระมัดระวังภาวะอุปทานล้นตลาด

สรุปประเภทอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยม: หากจัดอันดับความนิยมตามกลุ่มเป้าหมาย จะได้ภาพรวมว่า บ้านจัดสรรระดับราคา 3-7 ล้านบาท (เช่น ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวขนาดกลาง) เป็นที่ต้องการของชาวไทยในพื้นที่และคนไทยที่มาทำงาน ส่วนในฝั่งตลาดต่างชาติและนักลงทุนบ้านพักตากอากาศ พูลวิลล่าและคอนโดมิเนียมหรูใกล้ทะเล คือดาวเด่นที่ขายดี โดยมีระดับราคาหลักตั้งแต่หลักสิบล้านจนถึงร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตลาดทั้งสองฝั่งมีความเชื่อมโยงกันอยู่บ้าง เช่น คนไทยบางส่วนก็ซื้อคอนโดตากอากาศเพื่อปล่อยเช่า หรือชาวต่างชาติบางกลุ่มก็สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับกลางในทำเลสงบๆ เพื่ออยู่อาศัยจริง ดังนั้น ผู้พัฒนาและนักลงทุนจึงควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าทุกประเภทในตลาดภูเก็ต เพื่อมองหาโอกาสที่เหมาะกับกลยุทธ์ของตน

กลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์และพฤติกรรมการซื้อ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีความหลากหลายในแง่กลุ่มผู้ซื้อ ผสมผสานระหว่างคนท้องถิ่น คนไทยจากภูมิภาคอื่น และชาวต่างชาติหลากหลายสัญชาติ ความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกัน ดังนี้:

  1. ผู้ซื้อชาวไทย (กลุ่มท้องถิ่นและจากจังหวัดอื่น):
  • คนท้องถิ่นภูเก็ต: สำหรับชาวภูเก็ตเอง ความต้องการที่อยู่อาศัยมักจะเน้นไปที่อสังหาริมทรัพย์ระดับราคาเข้าถึงได้ ซึ่งสะท้อนรายได้เฉลี่ยของคนในพื้นที่ กลุ่มนี้นิยม ทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด รวมถึง คอนโดมิเนียมขนาดกลาง ในเมือง ราคาประมาณ 1-3 ล้านบาท เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งด้านราคาและความสะดวกสบายใกล้แหล่งงาน พฤติกรรมการซื้อของคนท้องถิ่นมักพึ่งพาสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารเป็นหลัก ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยและนโยบายสินเชื่อ (เช่น มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย) จะส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการซื้อของกลุ่มนี้
  • คนไทยจากกรุงเทพฯ/จังหวัดอื่น: ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตที่เป็นคนไทยจากนอกพื้นที่สามารถแยกย่อยออกได้เป็นสองกลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่ย้ายมาทำงานหรือทำธุรกิจในภูเก็ต และกลุ่มนักลงทุน/ผู้ซื้อบ้านตากอากาศ
    • สำหรับคนที่ย้ายมาทำงาน (เช่น พนักงานระดับบริหาร, ผู้ประกอบการ SMEs ที่มาตั้งกิจการในภูเก็ต, บุคลากรภาคบริการและโรงแรมระดับกลางขึ้นไป) พวกเขามักมองหาที่พักอาศัยเพื่ออยู่จริงระยะยาว จึงให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน (สำหรับผู้ที่มีครอบครัว) และสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน โครงการบ้านเดี่ยวในชานเมืองหรือทาวน์โฮมคุณภาพดีจึงได้รับความสนใจ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่มองหาบ้านราคา 3-8 ล้านบาท และมีแนวโน้มใช้เวลาตัดสินใจพอสมควร (เปรียบเทียบหลายโครงการ) เนื่องจากถือเป็นการตั้งรกรากใหม่
    • สำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่ซื้อบ้านตากอากาศ คนไทยกลุ่มนี้มักเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินและรายได้สูง มีบ้านหลักอยู่แล้วในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ และซื้อบ้านที่ภูเก็ตเป็นบ้านหลังที่สอง จุดประสงค์อาจเพื่อพักผ่อนในวันหยุดของครอบครัว หรือเพื่อปล่อยเช่าสร้างรายได้ยามไม่ได้ใช้งานเอง พฤติกรรมการซื้อจะคล้ายกับผู้ซื้อชาวต่างชาติคือต้องการทำเลสวย คุณภาพโครงการสูง บริการครบครัน และคำนึงถึงมูลค่าการลงทุนระยะยาว คนไทยกลุ่มนี้นิยมซื้อ พูลวิลล่า หรือ คอนโดมิเนียมหรูติดทะเล ราคาตั้งแต่หลักสิบล้านบาทขึ้นไป สิ่งที่น่าสนใจคือในช่วงหลัง นักลงทุนนไทยเริ่มให้ความสนใจภูเก็ตมากขึ้นเพราะมองว่าอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าและโอกาสการเติบโตของราคาทรัพย์สินสูงกว่าอสังหาฯ ในหลายทำเลอื่น ตัวอย่างเช่น มีรายงานว่าคอนโดบางโครงการในเขตลากูน่า สามารถปล่อยเช่าระยะสั้นคิดเป็นค่าเช่า 1,000-1,200 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน ซึ่งเกือบเทียบเท่าการลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯ ชั้นใน แต่ได้ทรัพย์เป็นรีสอร์ตใกล้ทะเลที่มีโอกาสปรับมูลค่าขึ้นได้อีก ทำให้นักลงทุนไทยจำนวนหนึ่งตัดสินใจ “ย้ายสนาม” มาลงทุนที่ภูเก็ตแทนที่จะลงทุนในกรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียว
  1. ผู้ซื้อชาวต่างชาติ:
  • นักลงทุนและผู้ซื้อเพื่อพักผ่อน: ชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ ในภูเก็ตส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนและการพักผ่อนควบคู่กัน กล่าวคือ ซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัว และอาจปล่อยเช่าช่วงที่ตนเองไม่ได้พักอาศัย กลุ่มนี้ประกอบด้วยหลายสัญชาติ โดยในช่วงปี 2566-2568 กลุ่มที่โดดเด่นคือชาวรัสเซียและยุโรปตะวันออก ซึ่งเข้ามาซื้อวิลล่าหรูและคอนโดริมทะเลเป็นจำนวนมาก ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ (เช่น ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออก) ที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้มองหาที่พักพิงและลงทุนในต่างประเทศ ประกอบกับความนิยมในไลฟ์สไตล์เมืองร้อนของชาวรัสเซียอยู่แล้ว ภูเก็ตจึงกลายเป็นจุดหมายหลักในการย้ายถิ่นฐานการลงทุนของพวกเขา นอกจากนี้ ยังมีผู้ซื้อจากยุโรปตะวันตก เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ที่มองหาบ้านพักตากอากาศหนีหนาวในประเทศไทย รวมถึง ผู้ซื้อจากเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งเห็นโอกาสการลงทุนในภูเก็ต (กลุ่มจีนในปี 2566 เริ่มกลับมาให้ความสนใจตลาดไทยหลังจากประเทศจีนเปิดเมือง โดยแม้ส่วนใหญ่จะนิยมลงทุนในกรุงเทพฯ และพัทยา แต่ภูเก็ตก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งสำหรับกลุ่มที่ต้องการสินทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวระดับโลก)
  • กลุ่ม Expat และผู้พำนักระยะยาว: นอกเหนือจากนักลงทุนแล้ว ยังมีชาวต่างชาติอีกกลุ่มที่อาจไม่ได้เข้ามาซื้อทันที แต่อยู่เบื้องหลังความต้องการเช่าและซื้อบ้านในภูเก็ตอย่างมีนัยสำคัญ คือกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักและทำงานในไทย (Expats) หรือผู้เกษียณอายุที่เลือกใช้ชีวิตบั้นปลายในภูเก็ต กลุ่มนี้มักมองหาที่อยู่อาศัยระยะยาวที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน บางส่วนเลือกเช่าบ้านหรือคอนโด อยู่ก่อนเพื่อศึกษาพื้นที่ เมื่อปรับตัวได้จึงตัดสินใจซื้อทรัพย์สินเป็นของตนเอง พฤติกรรมการเลือกที่อยู่อาศัยของ Expat จะค่อนข้างเน้นความสะดวกและคุณภาพชีวิต เช่น ใกล้โรงเรียนนานาชาติ (สำหรับผู้ที่มีครอบครัว), ไม่ไกลจากแหล่งจับจ่ายที่มีสินค้านานาชาติ, มีชุมชนชาวต่างชาติอาศัยอยู่พอสมควรเพื่อความอุ่นใจ เป็นต้น ทำเลที่กลุ่มนี้นิยม ได้แก่ ย่าน เชิงทะเล-บางเทา (ใกล้ลากูน่าและโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง), ย่านราไวย์-ฉลอง (ที่มีสังคม expat กระจายตัวอยู่มากและร้านอาหารต่างชาติ), รวมถึงบริเวณ ป่าตองกมลา สำหรับผู้ที่ชอบความคึกคัก กลุ่ม expat ที่พำนักยาวนานมักจะซื้อบ้านผ่านการตั้งบริษัทหรือจดทะเบียนสมรสกับคนไทย (เนื่องจากกฎหมายไทยจำกัดการถือครองที่ดินของต่างชาติ) และมีแนวโน้มซื้อบ้านในระดับราคาปานกลางขึ้นไป (เช่น วิลล่าหลังเล็ก 8-15 ล้านบาท หรือคอนโดใกล้ทะเล 5-10 ล้านบาท) ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้รายได้หรือเงินเก็บจากต่างประเทศมาซื้อแบบไม่มีภาระเงินกู้
  1. พฤติกรรมการซื้อและช่องทาง:
  • กระบวนการตัดสินใจ: ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตทั้งคนไทยและต่างชาติส่วนใหญ่จะทำการบ้านพอสมควรก่อนตัดสินใจ ปัจจุบันมีการใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบโครงการอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ประกาศขายอสังหาฯ (property portals), กลุ่มโซเชียลมีเดีย, หรือเว็บไซต์ทางการของโครงการ ผู้ซื้อจำนวนมากมักเดินทางมาดูสถานที่จริงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง (สำหรับคนต่างชาติ อาจบินมาพักผ่อนและนัดดูอสังหาริมทรัพย์ตัวอย่างในทริปเดียวกัน)
  • บทบาทของเอเจนต์: ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Agents) มีบทบาทสำคัญในตลาดภูเก็ต โดยเฉพาะสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติที่พึ่งพาเอเจนต์ในการหาอสังหาฯ ที่ตรงใจ รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านภาษาและกฎหมาย เอเจนต์ในภูเก็ตหลายรายมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น เจาะกลุ่มลูกค้ารัสเซีย จีน หรือยุโรป อย่างละกลุ่ม และใช้เครือข่ายการตลาดระหว่างประเทศในการดึงลูกค้าเข้ามาซื้อในภูเก็ต สำหรับผู้ซื้อชาวไทย เอเจนต์ก็มีบทบาทเช่นกันในการแนะนำทรัพย์มือสองหรือโครงการที่น่าสนใจ แต่โดยมากผู้ซื้อไทยอาจเข้าหาโครงการโดยตรงหรือผ่านธนาคารในกรณียื่นกู้
  • การต่อรองราคาและโปรโมชั่น: เนื่องจากการแข่งขันของผู้พัฒนาในภูเก็ตเริ่มสูงขึ้น ผู้ซื้อจึงมักได้รับข้อเสนอส่งเสริมการขายที่จูงใจ เช่น การแถมเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจ, การการันตีค่าเช่า (สำหรับโครงการคอนโดตากอากาศหลายแห่งมีโปรโมชั่นรับประกันผลตอบแทน 5-7% ต่อปีในช่วง 2-5 ปีแรก), ส่วนลดค่าโอนกรรมสิทธิ์หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นมาตรฐานหนึ่งที่ผู้ซื้อคาดหวังเมื่อพิจารณาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต โดยเฉพาะในเซ็กเมนต์คอนโดและวิลล่าหรูที่การแข่งขันสูง
  1. ปัจจัยที่ผู้ซื้อให้ความสำคัญ:
  • ทำเล: เป็นปัจจัยอันดับหนึ่งเสมอ ผู้ซื้อจะเลือกว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน - ชายหาดและความเป็นรีสอร์ต หรือความสะดวกสบายแบบในเมือง หรือความสงบชนบท ทำเลยังสัมพันธ์กับเรื่องทัศนียภาพ (วิวทะเลย่อมเป็นที่ต้องการแต่ก็มีราคาแพง) และความใกล้ไกลแหล่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้าง ตลาด ร้านอาหารนานาชาติ โรงพยาบาล เป็นต้น
  • ราคาและความคุ้มค่า: แม้ผู้ซื้อบางส่วนโดยเฉพาะต่างชาติจะมีกำลังซื้อสูง แต่ทุกคนย่อมมองหา “ความคุ้มค่า” ในมุมของตน คนไทยระดับกลางจะเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรหรือราคาต่อขนาดที่ดิน ขณะที่นักลงทุนจะคำนึงถึงอัตราผลตอบแทน (เช่น ผลตอบแทนค่าเช่าหรือโอกาสการปรับขึ้นของราคาในอนาคต) ดังนั้น โครงการที่ตั้งราคาสูงเกินกว่ามูลค่าตลาดมากๆ มักขายได้ช้าเว้นแต่มีจุดขายพิเศษจริงๆ
  • ชื่อเสียงของโครงการและคุณภาพการก่อสร้าง: ผู้ซื้อยุคใหม่ให้ความสนใจว่าโครงการพัฒนาโดยใคร มีประสบการณ์และชื่อเสียงอย่างไร รวมถึงวัสดุและคุณภาพงานก่อสร้าง เพราะที่ผ่านมา ภูเก็ตมีบางกรณีที่โครงการไม่มีคุณภาพหรือสร้างไม่เสร็จตามแผน การเลือกโครงการจากผู้พัฒนาที่เชื่อถือได้จึงลดความเสี่ยง ปัจจุบันเราจะเห็น “แบรนด์ใหญ่” จากส่วนกลาง เช่น แสนสิริ, ออริจิ้น, เอสซีแอสเสท ฯลฯ เข้ามาลงทุนในภูเก็ตมากขึ้น ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อได้ระดับหนึ่ง
  • ข้อจำกัดด้านกฎหมาย: สำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติ ปัจจัยนี้สำคัญมาก พวกเขาต้องเข้าใจว่าหากต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดิน (เช่น วิลล่า) จะไม่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้โดยตรง ต้องใช้วิธีเช่าระยะยาวหรือถือผ่านบริษัท สิ่งนี้ทำให้บางคนตัดสินใจซื้อคอนโดแทน นอกจากนี้ ข่าวสารเรื่องกฎหมายที่เปลี่ยนไป (เช่น คำพิพากษาศาลไทยเกี่ยวกับการต่อสัญญาเช่าเกิน 30 ปีที่ส่งผลกระทบต่อต่างชาติ) ก็ส่งผลให้ผู้ซื้อระมัดระวังและปรับพฤติกรรม เช่น อาจนิยมซื้อคอนโดหรือวิลล่าที่ขายแบบเป็นกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ในกรณีวิลล่าบางโครงการใช้ช่องโหว่กฎหมายแบ่งแปลงเป็นอาคารชุดเพื่อขายต่างชาติได้)

โดยสรุป ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีลูกค้าที่หลากหลาย การเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มช่วยให้นักลงทุนและผู้ประกอบการสามารถวางกลยุทธ์ได้ถูกต้อง ในขณะเดียวกัน ผู้ซื้อเองก็ควรตระหนักถึงลักษณะตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ เพื่อจะได้วางแผนการซื้อของตนอย่างรอบคอบ ได้ผลประโยชน์คุ้มค่าที่สุด

กลยุทธ์การซื้ออสังหาริมทรัพย์: เพื่ออยู่อาศัย vs เพื่อการลงทุน

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตสามารถมีวัตถุประสงค์หลักอยู่สองแบบคือ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และ ซื้อเพื่อการลงทุน (เช่น ปล่อยเช่าหรือเก็งกำไรขายต่อ) ซึ่งแต่ละแบบมีปัจจัยที่ผู้ซื้อต้องพิจารณาต่างกัน รวมถึงกลยุทธ์ในการเลือกทรัพย์สินก็ต่างไปด้วย ดังนี้:

ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเอง (Property for Own Residence)

การเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยจริงในภูเก็ต หมายความว่าผู้ซื้อต้องการใช้ชีวิตประจำวันหรือย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่ กลยุทธ์และปัจจัยที่ควรคำนึงถึง ได้แก่:

  • เลือกทำเลที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความสะดวก: หากผู้ซื้อมาทำงานที่ภูเก็ต ทำเลของอสังหาริมทรัพย์ควรอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก เพราะแม้ว่าภูเก็ตจะไม่ใช่เมืองใหญ่เท่ากรุงเทพฯ แต่การจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนและถนนที่คดเคี้ยวอาจทำให้การเดินทางใช้เวลานานเกินคาด เช่น ถ้าทำงานในตัวเมืองภูเก็ต การเลือกอสังหาริมทรัพย์ในเขตเมืองหรือชานเมืองฝั่งตะวันออกอาจสะดวกกว่าไปอยู่ไกลถึงฝั่งหาดป่าตอง นอกจากนี้ ควรพิจารณาความใกล้เคียงกับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ตลาดสดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร โรงพยาบาล และโรงเรียน (สำหรับผู้มีบุตรหลาน) ยกตัวอย่าง คนที่มีครอบครัวและบุตรเรียนโรงเรียนนานาชาติบริเวณเชิงทะเล ก็อาจเลือกตั้งถิ่นฐานในละแวกบางเทา-ลากูน่า เพื่อความสะดวก ขณะที่ผู้เกษียณที่อยากได้ความสงบอาจเลือกลงใต้ไปแถวราไวย์ ในหาน ซึ่งไม่พลุกพล่านและมีชุมชนชาวต่างชาติคอยเป็นเพื่อนบ้าน
  • ขนาดและรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์: การอยู่อาศัยเองต้องคำนึงถึงความสบายและการใช้สอยระยะยาว บ้านเดี่ยวหรือวิลล่าที่มีพื้นที่เพียงพอกับสมาชิกครอบครัว ย่อมเหมาะกว่าทาวน์เฮาส์หากงบประมาณถึง บางครอบครัวอาจให้ความสำคัญกับพื้นที่สวน หรือห้องนอนที่เพียงพอรองรับสมาชิก เช่น ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยด้วยอาจมองหาบ้านชั้นเดียวหรือมีห้องนอนชั้นล่าง ส่วนคนโสดหรือคู่ไม่มีบุตรอาจพิจารณาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่ดูแลง่ายและเดินทางสะดวก
  • สภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้าน: การใช้ชีวิตประจำวันย่อมต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและน่าอยู่ ผู้ซื้อควรสำรวจบรรยากาศของโครงการหรือย่านที่สนใจก่อนตัดสินใจ เช่น ในละแวกมีเสียงรบกวนมากหรือไม่ ความหนาแน่นของชุมชนเป็นอย่างไร มีการจัดการความปลอดภัย (รปภ., CCTV) ดีหรือไม่ ถ้าชอบความเป็นส่วนตัวก็อาจเลือกโครงการที่มีบ้านไม่หนาแน่น เป็นต้น
  • ค่าใช้จ่ายระยะยาว: นอกจากราคาแรกซื้อแล้ว การอยู่อาศัยเองต้องคิดถึงค่าบำรุงรักษาในระยะยาวด้วย ภูเก็ตเป็นเมืองอากาศชื้นและมีไอทะเล สิ่งปลูกสร้างอาจเสื่อมโทรมเร็วหากดูแลไม่ดี ค่าใช้จ่ายในการดูแลอสังหาริมทรัพย์ เช่น ทาสี ปรับปรุงหลังคา ดูแลสระว่ายน้ำ (ถ้ามี) หรือค่าทำความสะอาดปรับปรุงสวน ควรถูกนำมาคิดรวมในแผนการเงินด้วย สำหรับคอนโดมิเนียม ผู้ซื้อควรทราบอัตราค่าส่วนกลางรายปีและพิจารณาว่าสอดคล้องกับบริการที่ได้รับหรือไม่
  • ลองอยู่อาศัยชั่วคราวก่อนซื้อ: หากเป็นไปได้ ผู้ที่ย้ายมาจากต่างถิ่นอาจเช่าบ้านหรือคอนโดในย่านที่เล็งไว้สักระยะหนึ่ง (เช่น 3-6 เดือน) เพื่อสัมผัสการใช้ชีวิตจริงก่อนตัดสินใจซื้อ วิธีนี้จะช่วยให้เข้าใจข้อดีข้อเสียของทำเลและอสังหาริมทรัพย์แบบนั้นๆ ได้ดีกว่าการเยี่ยมชมสั้นๆ เช่น พบว่าบางย่านอาจน้ำท่วมขังเวลาฝนตก หรือมีเสียงดังช่วงกลางคืน การรู้ล่วงหน้าช่วยป้องกันการตัดสินใจพลาด
  • การปรับตัวเข้ากับชุมชน: การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเพื่ออยู่อาศัย หมายถึงการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ผู้ซื้อต้องเปิดใจเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น (ภูเก็ตมีวัฒนธรรมจีน-มาเลที่เป็นเอกลักษณ์ และวิถีชีวิตแบบเกาะที่ต่างจากเมืองหลวง) การมีปฏิสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านและชุมชนจะทำให้การอยู่อาศัยมีความสุขยิ่งขึ้น

ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property)

การซื้อเพื่อการลงทุน เน้นไปที่ผลตอบแทนทางการเงินเป็นหลัก ไม่ว่าจะในรูปของค่าเช่าหรือกำไรจากส่วนต่างราคาขาย (capital gain) กลยุทธ์สำหรับการลงทุนในบ้านหรืออสังหาฯ ภูเก็ตมีจุดที่ต้องพิจารณาแตกต่างจากการอยู่อาศัยเอง ดังนี้:

  • วิเคราะห์ประเภทการลงทุนที่ต้องการ: นักลงทุนควรถามตนเองก่อนว่าต้องการรูปแบบการลงทุนแบบใด
    • ลงทุนเพื่อปล่อยเช่าระยะสั้น (ค่าเช่านักท่องเที่ยว): ถ้าโฟกัสที่การปล่อยเช่ารายวัน/สัปดาห์กับนักท่องเที่ยว (คล้ายธุรกิจ Airbnb) ทำเลที่เลือกควรเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ใกล้ชายหาด ร้านอาหาร แหล่งบันเทิง เช่น ป่าตอง กะตะ กะรน บางเทา เพราะจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ต่อเนื่อง ค่าเช่าในทำเลเหล่านี้ช่วงไฮซีซั่นจะสูงมาก อย่างไรก็ตามต้องยอมรับความเสี่ยงช่วงโลว์ซีซั่นที่อัตราการเข้าพักอาจลดลง ในกรณีบ้านพักส่วนตัว (เช่น วิลล่า) ที่ปล่อยเช่า มีประเด็นข้อกฎหมายที่ควรทราบคือ การปล่อยเช่าระยะสั้นบ่อยๆ อาจถูกตีความว่าเป็นการประกอบธุรกิจโรงแรม หากไม่มีใบอนุญาต ดังนั้น นักลงทุนบางคนเลือกทำสัญญาเช่ารายเดือน (30 วันขึ้นไป) เพื่อลดความเสี่ยงด้านกฎหมาย และจูงใจนักท่องเที่ยวกลุ่ม remote work ให้มาเช่าระยะยาวแทน
    • ลงทุนเพื่อปล่อยเช่าระยะยาว: หากต้องการผู้เช่าเป็นรายปี เช่น เจาะกลุ่ม Expat หรือคู่เกษียณต่างชาติที่อยู่ยาวๆ ทำเลอาจต่างออกไป เช่น บ้านเดี่ยวหรือวิลล่าในย่านที่สงบและมีชุมชนต่างชาติ (ราไวย์, เชิงทะเล) หรือคอนโดมิเนียมในเมืองสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานบริษัทในภูเก็ต กลุ่มนี้แม้ค่าเช่าต่อเดือนจะไม่สูงเท่ากับการปล่อยรายวัน แต่มีความเสถียรและลดภาระการหาผู้เช่าบ่อยๆ
    • ลงทุนเก็งกำไรขายต่อ (Flipping): สำหรับกลยุทธ์ซื้อมา-ขายไป กำไรจะเกิดเมื่อราคาทรัพย์สินปรับขึ้น นักลงทุนสายนี้จะมองหาโครงการที่เปิดตัวใหม่ในราคาน่าสนใจ หรือทรัพย์มือสองที่ราคาต่ำกว่าตลาด จากนั้นถือครองไว้ช่วงหนึ่งให้มูลค่าเพิ่มแล้วปล่อยขาย โครงการคอนโดและบ้านจัดสรรใหม่ในภูเก็ตช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีหลายเคสที่ราคาปรับขึ้นเร็ว (บางโครงการคอนโดขายหมดในวันเปิดตัวและมีคนปล่อยเปลี่ยนมือทันทีในตลาดรีเซลด้วยราคาสูงขึ้น 10-20%) อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงในภาวะอุปทานล้นหรือฟองสบู่ นักลงทุนต้องประเมินว่าราคาที่ซื้อมามีส่วนลดหรือโอกาสโตแค่ไหน ไม่เช่นนั้นอาจติดดอยขายต่อไม่ได้ตามที่หวัง
  • การเลือกอสังหาฯ ที่ให้ผลตอบแทนดี: ไม่ใช่ว่าบ้านทุกหลังหรือคอนโดทุกห้องจะลงทุนแล้วให้ผลตอบแทนดี สิ่งที่ควรพิจารณา ได้แก่
    • ผลตอบแทนค่าเช่า (Rental Yield): คำนวณค่าเช่ารายปีเทียบกับราคาซื้อ เช่น ถ้าซื้อคอนโด 5 ล้านบาท ปล่อยเช่าเดือนละ 30,000 บาท ปีหนึ่งได้ 360,000 บาท คิดเป็น yield ~7.2% (โดยยังไม่หักค่าส่วนกลางและค่าใช้จ่ายอื่น) ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ดังนั้น ก่อนซื้อควรสำรวจตลาดเช่าว่าอสังหาฯ แบบที่กำลังสนใจปล่อยเช่าได้ประมาณเท่าไร อย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายเช่น ค่าส่วนกลาง ค่าดูแลรักษา ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ฯลฯ เข้าไปด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ลดทอนผลตอบแทนสุทธิ
    • ศักยภาพการปรับขึ้นของราคา (Capital Appreciation): ดูแนวโน้มในทำเลนั้นๆ ว่าอนาคตยังมีโอกาสที่ราคาจะสูงขึ้นอีกไหม ปัจจัยเช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ (ถ้ามีโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในภูเก็ตหรือทางด่วนในอนาคต ทำเลใดจะได้ประโยชน์), การขยายตัวของชุมชน (ตัวอย่างเช่น ย่านในทอนที่เริ่มบูม เพราะหาดอื่นเริ่มล้น) และความขาดแคลนของที่ดิน (บริเวณไหนที่ดินแทบไม่มีเหลือ นั่นแปลว่าของที่มีอยู่จะยิ่งมีค่า)
    • สภาพคล่อง (Liquidity): ลงทุนอสังหาฯ ต้องคิดถึงวันที่จะขายออกด้วย ทรัพย์บางประเภทอาจขายต่อได้ยาก ตัวอย่างเช่น วิลล่าหรูราคามากกว่า 100 ล้านบาท กลุ่มผู้ซื้อจำกัดมาก ถ้าจะขายต่ออาจใช้เวลานาน ในขณะที่คอนโดราคาปานกลางหรือบ้านวิลล่าช่วง 10-20 ล้านบาทอาจมีตลาดรีเซลที่กว้างกว่า เพราะทั้งคนไทยและต่างชาติสามารถซื้อได้ (คอนโดต่างชาติซื้อได้, วิลล่ากลุ่มนี้คนไทยที่อยากได้บ้านหรูก็ซื้อไหว ต่างชาติก็สนใจ) ดังนั้น หากต้องการสภาพคล่อง ก็ควรลงทุนในสินค้าที่ไม่เฉพาะกลุ่มจนเกินไป
    • การบริหารจัดการ: ถ้าจะปล่อยเช่า นักลงทุนต้องเตรียมตัวบริหารทรัพย์หรือหาผู้ช่วย เช่น จ้างบริษัทดูแลทรัพย์สิน (Property Management) ให้คอยจัดหาผู้เช่า เก็บค่าเช่า ดูแลซ่อมแซม ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าเช่า (ทั่วไปประมาณ 10-20%) หรือบางคนอาจเข้าโครงการเช่าของโรงแรม (ในกรณีคอนโดหรือวิลล่าที่ทำสัญญากับเชนโรงแรมมาบริหารปล่อยเช่าแบบพูลวิลล่ารีสอร์ต) ซึ่งวิธีนี้สะดวกแต่ผลตอบแทนอาจถูกแบ่งไปมาก หากนักลงทุนสามารถดูแลจัดการเองได้ก็จะประหยัด แต่ก็ต้องลงทุนเวลาด้วย โดยเฉพาะถ้าไม่ได้อยู่ภูเก็ตถาวร
  • กระจายความเสี่ยง: หากมีงบประมาณมาก การลงทุนในภูเก็ตไม่จำเป็นต้องทุ่มทั้งหมดกับทรัพย์ชิ้นเดียว อาจแบ่งการลงทุนออกเป็นหลายรูปแบบ เช่น ซื้อคอนโด 2 ห้องในทำเลต่างกัน หรือแบ่งเป็นคอนโดหนึ่งหลัง บ้านหนึ่งหลัง เพื่อกระจายความเสี่ยง (เช่น ถ้าตลาดคอนโดมีปัญหา ยังมีบ้านซึ่งอาจไม่ได้รับผลกระทบเท่ากัน) การกระจายทำให้พอร์ตการลงทุนยืดหยุ่นและปรับตัวง่ายขึ้น
  • เข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับนักลงทุนต่างชาติ: กรณีนักลงทุนต่างชาติ ต้องเข้าใจข้อจำกัด เช่น หากหวังถือวิลล่าเพื่อเก็งกำไร ในอนาคตการจะขายต่อให้ต่างชาติด้วยกันเองทำได้ยาก (เพราะต่างชาติซื้อวิลล่าตรงๆ ไม่ได้) อาจต้องขายให้คนไทยหรือลดราคาขายสิทธิ์เช่า วิธีที่บางคนใช้คือซื้อในนามบริษัทไทย แล้วเวลาขายก็ขายหุ้นบริษัทซึ่งถือทรัพย์สินนั้นอยู่ แต่อย่างไรก็ดี นี่เป็นเรื่องซับซ้อนที่ต้องได้รับคำปรึกษาจากกฎหมาย ในฐานะนักลงทุน จึงควรวางแผน “ทางออก” ไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าลงทุน

โดยสรุป การซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเน้นที่ความพึงพอใจและความสุขระยะยาวของผู้อยู่อาศัย ขณะที่การซื้อเพื่อลงทุนมองที่ตัวเลขผลตอบแทนและความคุ้มค่าทางการเงิน ผู้ซื้อบางรายพยายามผสมผสานทั้งสองอย่าง เช่น ซื้อวิลล่าที่ตนเองก็ใช้พักผ่อนด้วยและปล่อยเช่าด้วย ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับการประนีประนอมในบางเรื่อง (เช่น อาจมีช่วงที่อสังหาริมทรัพย์ถูกเช่าจนเจ้าของไม่สามารถเข้าใช้ได้ตามใจ) ดังนั้น การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่แรกจะช่วยให้วางกลยุทธ์และตัดสินใจซื้อได้อย่างเหมาะสมที่สุด

ทำเลเด่นในภูเก็ตสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ (พร้อมข้อเปรียบเทียบ)

การเลือกทำเลเป็นหัวใจสำคัญของทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนในภูเก็ต ดังที่กล่าวในส่วนก่อนหน้าว่าภูเก็ตแบ่งออกเป็นหลายโซน แต่ในที่นี้เราจะเจาะจงทำเลหลักๆ ที่ถือว่า “เด่น” และน่าสนใจ พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดีข้อควรพิจารณาของแต่ละแห่ง เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนและสามารถเลือกทำเลที่ตรงกับความต้องการของตนเอง

  • หาดบางเทา - เชิงทะเล (โซนลากูน่า):
    ลักษณะทั่วไป: ย่านบางเทาตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีหาดบางเทาที่ยาวและเงียบสงบ พร้อมชุมชนรีสอร์ตหรู “ลากูน่า ภูเก็ต” ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ มีทั้งวิลล่าหรูในบริเวณใกล้ทะเลและคอนโดมิเนียมหรูหลายโครงการ
    จุดเด่น: เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและคนไทยฐานะดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม เช่น สนามกอล์ฟ ร้านอาหารนานาชาติ โรงเรียนนานาชาติ (โรงเรียนบริติชภูเก็ต) ใกล้เคียง ทำให้เหมาะกับครอบครัวต่างชาติ มีความปลอดภัยสูง ภูมิทัศน์สวยงาม วิลล่าและบ้านพักในโซนนี้สามารถปล่อยเช่าในอัตราสูง ผลตอบแทนดี อีกทั้งราคาที่ดินมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง (เพิ่มขึ้น ~30-40% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา) ซึ่งสะท้อนศักยภาพที่ยังเหลือ
    ข้อควรพิจารณา: ราคาทรัพย์สินค่อนข้างแพงมากเมื่อเทียบกับโซนอื่น ผู้ซื้อที่งบประมาณจำกัดอาจไม่สามารถเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ได้ นอกจากนี้ ความที่เป็นย่านยอดนิยม ทำให้การแข่งขันสูง เวลาโครงการใหม่เปิดตัว ผู้ซื้ออาจต้องตัดสินใจเร็ว (มีกรณีโครงการขายหมดเร็วอย่างน่าใจหายในเวลาไม่กี่วัน) อีกด้านหนึ่ง ช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยว บางเทาจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้พักผ่อน ซึ่งแม้ไม่พลุกพล่านเท่าป่าตอง แต่ความเป็นส่วนตัวอาจลดลงบ้าง
  • ป่าตอง (Patong):
    ลักษณะทั่วไป: ศูนย์กลางการท่องเที่ยวยามราตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูเก็ต อยู่บนชายฝั่งตะวันตกตอนกลาง หาดป่าตองมีความยาวประมาณ 3 กม. รอบด้านเต็มไปด้วยโรงแรม ร้านค้า ผับ บาร์ และห้างสรรพสินค้า เป็น “เมืองที่ไม่เคยหลับ” ของภูเก็ต
    จุดเด่น: หากมองในมุมการลงทุน ป่าตองคือแหล่งทองคำของการปล่อยเช่าระยะสั้น นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติหลั่งไหลมาตลอดปี โดยเฉพาะฤดูท่องเที่ยว ชื่อเสียงของป่าตองดึงดูดให้อัตราการเข้าพักสูงตลอด หากมีคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ในป่าตอง สามารถทำรายได้จากการปล่อยเช่าได้ดีมาก (และมีผู้จัดการทรัพย์สินหลายเจ้าที่เชี่ยวชาญด้านนี้) ด้านราคาที่ดินและอสังหาฯ ในป่าตองก็ขยับขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่ถือครองอสังหาฯ ในป่าตองมีโอกาสได้กำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
    ข้อควรพิจารณา: สำหรับการอยู่อาศัย ป่าตองอาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะสภาพแวดล้อมคึกคัก พลุกพล่าน และเสียงดังยามค่ำคืน ความเป็นส่วนตัวและความสงบจะน้อยกว่าทำเลอื่น นอกจากนี้ ป่าตองเคยประสบภัยพิบัติสึนามิเมื่อปี 2547 เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ระดับน้ำทะเล ผู้ที่กังวลเรื่องภัยธรรมชาติอาจต้องพิจารณาจุดนี้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีระบบเตือนภัยและมาตรการรับมือที่ดีขึ้นมากแล้วในภูเก็ต
  • กมลา (Kamala):
    ลักษณะทั่วไป: ตั้งอยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของป่าตอง กมลาเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบและยังคงมีบรรยากาศผ่อนคลายกว่าป่าตองมาก แม้จะได้รับการพัฒนาสำหรับการท่องเที่ยวบ้าง (มีร้านอาหาร คาเฟ่ และโชว์ชื่อดังอย่าง Phuket FantaSea) แต่กมลายังถูกมองว่าเป็นย่านที่พักอาศัยและบ้านตากอากาศสุดหรู (มีโครงการวิลล่าและคอนโดระดับลักชัวรีบนเชิงเขามองเห็นวิวทะเลหลายแห่ง)
    จุดเด่น: กมลาขึ้นชื่อเรื่องวิวทะเลที่สวยงาม มีโครงการ luxury อย่าง Mont Azure ที่ดึงความสนใจจากเศรษฐีทั่วโลก เป็นทำเลที่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้วิวทะเลและความหรูหราแบบเป็นส่วนตัว ห่างจากความพลุกพล่านแต่ก็ขับรถไปป่าตองเพียง ~15 นาที เหมาะทั้งอยู่อาศัยและลงทุนในตลาดไฮเอนด์
    ข้อควรพิจารณา: ด้วยความที่โครงการในกมลาส่วนใหญ่จับตลาดบน ราคาจึงสูงมาก การหาทรัพย์ราคาปานกลางค่อนข้างยาก หากงบไม่ถึงอาจมองข้ามทำเลนี้ นอกจากนี้เนื่องจากเป็นเชิงเขา การเดินทางขึ้นลงบางจุดถนนค่อนข้างชัน ผู้สูงอายุหรือผู้มีปัญหาการเดินอาจไม่สะดวกนัก
  • ราไวย์ - ในหาน - ฉลอง (South Coast):
    ลักษณะทั่วไป: โซนใต้ของภูเก็ต ครอบคลุมพื้นที่ตำบลราไวย์ ในหาน และบางส่วนของฉลอง บรรยากาศเงียบสงบ ชายหาดราไวย์เป็นที่จอดเรือหางยาวและเรือประมง มีร้านอาหารซีฟู้ดและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (แหลมพรหมเทพที่ชมพระอาทิตย์ตก) ในหานเป็นหาดเล็กๆ แต่น้ำใส และฉลองมีท่าเรือใหญ่สำหรับเรือยอร์ช
    จุดเด่น: โซนนี้เป็นที่ชื่นชอบของชุมชน expat ที่อาศัยระยะยาว เนื่องจากค่าครองชีพถูกกว่า มีตลาดและร้านค้าท้องถิ่นพร้อม ครบครันไปด้วยบริการสำหรับชีวิตประจำวันแต่ไม่วุ่นวายเกินไป วิลล่าและบ้านเช่าในราไวย์ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้เกษียณต่างชาติ มีศูนย์สุขภาพ ร้านโยคะ โรงเรียนสอนดำน้ำ ฯลฯ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ อีกทั้งราคาอสังหาฯ ในโซนนี้แม้จะขึ้นมาก แต่ยังคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับบางเทาหรือป่าตอง (คุณอาจได้วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำในราไวย์ในราคาเพียง 15-20 ล้านบาท ในขณะที่ราคานี้อาจได้แค่คอนโดสองห้องนอนติดหาดในบางเทา)
    ข้อควรพิจารณา: ราไวย์เป็นชายหาดที่ลงเล่นน้ำทะเลไม่ค่อยได้ (น้ำตื้นและมีเรือจอดเยอะ) อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการบ้านติดทะเลเพื่อเล่นน้ำทุกวัน แต่หาดใกล้เคียงอย่างในหานหรือยะนุ้ยพอเล่นได้ นอกจากนี้ โซนนี้อยู่ไกลสนามบินที่สุด (ขับรถ ~1 ชั่วโมง) หากเดินทางบ่อยอาจไม่สะดวกเท่าโซนเหนือ
  • ตัวเมืองภูเก็ต - เกาะแก้ว:
    ลักษณะทั่วไป: บริเวณในเมืองและรอบๆ เช่น เกาะแก้ว สามกอง เป็นเขตที่อยู่อาศัยหลักของชาวภูเก็ตเดิมและคนทำงาน บริษัทห้างร้านต่างๆ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยบางส่วน
    จุดเด่น: ทำเลนี้เด่นเรื่องความสะดวก อยู่ใจกลางเกาะ เดินทางไปฝั่งตะวันตกก็พอๆ กับไปฝั่งตะวันออก บ้านและคอนโดราคาจับต้องได้มากกว่าในโซนท่องเที่ยว คนที่ตั้งใจอยู่ระยะยาว เช่น ข้าราชการหรือพนักงานบริษัท มักเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ในแถบนี้เพราะได้พื้นที่เยอะในงบประมาณที่น้อยกว่า ตัวอย่างเช่น ด้วยงบ ~5 ล้านบาท คุณอาจซื้อบ้านเดี่ยวมือสองขนาด 50 ตร.วาในเมืองได้ แต่เงินเท่ากันแทบจะซื้อได้แค่ทาวน์เฮาส์เล็กๆ ในบางเทาเท่านั้น นอกจากนี้ ชุมชนในเมืองยังได้เปรียบเรื่องโรงเรียนดีๆ (ทั้งโรงเรียนไทยและโรงเรียนนานาชาติบางแห่ง) ห้างสรรพสินค้าใหญ่ (Central Festival, Central Floresta) และโรงพยาบาลระดับภูมิภาค (โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, กรุงเทพภูเก็ต)
    ข้อควรพิจารณา: การใช้ชีวิตในเมืองภูเก็ตอาจไม่ได้ให้บรรยากาศ “เกาะสวรรค์” แบบที่หลายคนจินตนาการ เพราะจะคล้ายเมืองจังหวัดทั่วไป (มีความวุ่นวาย รถติดบางเวลา) ไม่ได้ใกล้ทะเลมากนัก (แม้ขับรถไปหาดไม่ไกลแต่ไม่ใช่ริมทะเล) สำหรับนักลงทุน บ้านหรือคอนโดในเมืองอาจไม่ได้ค่าเช่าสูงเท่าโซนหาด เนื่องจากกลุ่มผู้เช่าส่วนมากเป็นคนทำงานชาวไทยหรือชาวต่างชาติเงินเดือนประจำที่อาจมีงบจำกัด yield จากการปล่อยเช่าจึงไม่สูงมาก อย่างไรก็ดี หากมองว่ามีความปลอดภัยในระยะยาว (กลุ่มคนทำงานมีต่อเนื่อง) ก็เป็นตลาดที่เสถียร
  • พื้นที่อื่นๆ ที่น่าสนใจ:
    • ในทอน - ไม้ขาว: ชายหาดในทอน (อ.ถลาง) ได้รับการพูดถึงมากขึ้นในฐานะ “เมืองขยาย” ของบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากชายหาดอื่นๆ ที่นิยมเริ่มที่ดินหายาก โซนนี้อยู่ไม่ไกลสนามบินและมีธรรมชาติที่สวยงามแต่นักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่าน ปัจจุบันมีคอนโดไม่กี่โครงการ การเข้าลงทุนช่วงแรกๆ ในทำเลนี้อาจได้เปรียบเมื่อความนิยมเพิ่มขึ้น ส่วนหาดไม้ขาวอยู่ติดสนามบิน อาจมีเสียงเครื่องบินรบกวนบ้าง แต่เป็นหาดสงบยาวหลายกิโลเมตร ที่นี่เริ่มมีรีสอร์ต 5 ดาวและวิลล่าเกิดขึ้นบ้างแล้ว นักพัฒนามองว่าไม้ขาวจะบูมตามเมื่อพื้นที่อื่นเต็ม
    • พันวา - เกาะสิเหร่: ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้แถวแหลมพันวา มีจุดเด่นคือวิวเกาะน้อยใหญ่และความเงียบสงบ เหมาะกับวิลล่าหรูที่เน้นความเป็นส่วนตัว ปัจจุบันมีโครงการระดับไฮเอนด์บางแห่ง (เช่น ศรีพันวา) ช่วยยกระดับทำเล ภาพรวมยังนิ่งๆ แต่มีศักยภาพระยะยาวหากการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันตอนล่างเติบโต
    • พังงาและพื้นที่เชื่อมต่อ: คำกล่าวที่ว่าศักยภาพของภูเก็ตเริ่มขยายไปยังจังหวัดข้างเคียงหมายถึง จ.พังงา (แผ่นดินใหญ่ตรงข้ามภูเก็ต) ซึ่งมีธรรมชาติคล้ายคลึงและที่ดินราคาถูกกว่า เกิดโครงการบ้านตากอากาศและโรงแรมใหม่ๆ ในเขตเขาหลักหรืออ่าวพังงามากขึ้น การลงทุนในภูเก็ตควรมองบริบทนี้ด้วย หากภูเก็ตราคาสูงเกินไป ผู้ซื้อบางส่วนอาจเบนเข็มไปหาพื้นที่เหล่านี้ กลายเป็นคู่แข่งทางอ้อมในอนาคต

โดยสรุป ไม่มีทำเลใดที่ดีที่สุดแบบครอบจักรวาล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ หากเน้นลงทุนปล่อยเช่าระยะสั้น ทำเลท่องเที่ยวแนวหน้าคือคำตอบ หากต้องการอยู่สงบๆ ก็อาจเลือกโซนใต้หรือในเมือง ทั้งนี้ ควรติดตามข่าวสารการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแผนผังเมืองของภูเก็ตอย่างใกล้ชิด เพราะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อความน่าสนใจของทำเล (เช่น หากมีการอนุมัติสร้างรถไฟฟ้ารางเบาจากสนามบินเข้าตัวเมือง บริเวณตามเส้นทางรถไฟฟ้าย่อมมีค่ามากขึ้นในสายตาผู้ลงทุน)

กฎหมายและข้อควรรู้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต

การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจำเป็นต้องเข้าใจกรอบกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับการซื้อในพื้นที่อื่นของไทย แต่ภูเก็ตซึ่งมีผู้ซื้อต่างชาติและการพัฒนาเชิงพาณิชย์สูง อาจมีประเด็นเฉพาะที่ควรทราบเพิ่มเติม ดังนี้:

  1. การถือครองที่ดินและทรัพย์สินโดยชาวต่างชาติ:
  • ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์แนวราบ: กฎหมายไทย (ประมวลกฎหมายที่ดิน) ห้ามชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน ในชื่อของตนเองโดยตรง ดังนั้น ชาวต่างชาติไม่สามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แนวราบ (บ้านเดี่ยว วิลล่า ฯลฯ) ในแบบเดียวกับคนไทยได้ วิธีที่ชาวต่างชาตินิยมใช้มี 2 ทางคือ (1) การเช่าที่ดินระยะยาว - โดยเช่าที่ดิน 30 ปีและจดทะเบียนสัญญาเช่าที่กรมที่ดิน เมื่อเช่าแล้วสามารถปลูกสร้างอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินเช่านั้น และถือครองอสังหาริมทรัพย์ (สิ่งปลูกสร้าง) ได้ แต่ดินยังเป็นของผู้ให้เช่า; หรือ (2) จัดตั้งบริษัทจำกัดคนไทย - โดยให้ตนเองถือหุ้นไม่เกิน 49% และหาหุ้นส่วนคนไทยถือหุ้นส่วนใหญ่เพื่อให้บริษัทมีสถานะเป็น “นิติบุคคลคนไทย” แล้วบริษัทจึงซื้อที่ดินและบ้าน แนวทางนี้มีความซับซ้อนและต้องปฏิบัติตามกฎหมายบริษัทอย่างเคร่งครัด (มีข้อห้ามเรื่อง “นอมินี” ที่หากต่างชาติแค่ใช้ชื่อคนไทยบังหน้าแต่ควบคุมจริงจะผิดกฎหมาย)
  • คอนโดมิเนียม: ต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้โดยตรง ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายรวมทั้งโครงการ ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด ซึ่งหมายความว่าในคอนโดหนึ่งอาคาร หากมี 100 ห้อง ต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ได้ 49 ห้อง ส่วนอีก 51 ห้องต้องเป็นของคนไทยหรือไทยนิติบุคคล เงื่อนไขคือ ชาวต่างชาติต้องนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาซื้อ (หรือใช้เงินรายได้สกุลบาทที่มีหลักฐานการโอนจากต่างประเทศ) และทำหลักฐาน “ใบรับรองการนำเงินตรา” เพื่อยื่นตอนโอนกรรมสิทธิ์ หากซื้อขายต่อควรจัดการเอกสารนี้ให้เรียบร้อย
  • อาคารชุดแบบวิลล่า: ในภูเก็ตมีบางโครงการสร้างบ้านวิลล่าเป็นหลังๆ แต่จดทะเบียนเป็นอาคารชุด แบ่งโฉนดเป็นห้องชุด (แม้แต่ละหลังแยกกัน) เพื่อให้ต่างชาติซื้อได้ วิธีนี้เป็นการพลิกแพลงในกรอบกฎหมายและปัจจุบันก็ยังดำเนินการได้ แต่ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่าโครงการมีการจัดการนิติบุคคลอาคารชุดอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะการอยู่อาศัยในบ้านแต่ต้องอยู่ใต้กฎอาคารชุด (เช่น การลงมติในที่ประชุมเจ้าของร่วม ฯลฯ) อาจแตกต่างจากบ้านจัดสรรทั่วไป
  1. สัญญาเช่า 30 ปีและประเด็นการต่ออายุ:
    สำหรับต่างชาติที่เลือกวิธีเช่าที่ดิน 30 ปี สิ่งที่ควรรู้คือ แม้ว่าทางโครงการหรือผู้ขายมักโฆษณาว่า “30+30+30 ปี” (รวม 90 ปี) แต่ตามกฎหมายไทย การให้สัญญาเช่าอสังหาฯ เกิน 30 ปีในคราวเดียวไม่สามารถทำได้ และการระบุในสัญญาว่าจะต่อสัญญาให้อีก 30 ปีเมื่อครบกำหนดก็ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายโดยอัตโนมัติ ต้องไปทำสัญญาเช่าฉบับใหม่เมื่อครบ 30 ปี และขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าของที่ดินในขณะนั้นว่าจะต่อให้หรือไม่ อีกทั้งคำพิพากษาศาลฎีกาในปี 2566 ล่าสุดยังกำหนดว่าข้อตกลงล่วงหน้าเรื่องการต่อสัญญาที่เกินกรอบกฎหมายถือเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มต้นด้วย ซึงชี้ให้เห็นว่าการรับประกัน “90 ปี” นั้นไม่น่าเชื่อถือเต็มที่ ผู้ซื้อชาวต่างชาติจึงควรตระหนักว่าหากเช่าที่ 30 ปี ก็เท่ากับถือสินทรัพย์ที่มีอายุจำกัด มูลค่าจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อเหลืออายุเช่าน้อยกว่า 15-10 ปี จะขายต่อยากมากและราคาอาจตกฮวบ เพราะผู้ซื้อรายใหม่ไม่อยากเสี่ยงกับสัญญาที่ใกล้หมด
  2. ภาษีและค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย:
  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์: ปัจจุบันอยู่ที่ 2% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย (อย่างใดอย่างหนึ่งที่สูงกว่า) โดยจ่าย ณ สำนักงานที่ดินตอนโอน ซึ่งโดยปกติผู้ซื้อและผู้ขายมักตกลงแบ่งคนละครึ่ง (คนละ 1%) เว้นแต่จะเจรจาเป็นอย่างอื่น
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ: หากผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือครองทรัพย์สินมาไม่ถึง 5 ปี และไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี จะต้องชำระภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขาย (กรณีนี้มักผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ก็อาจบวกไปในราคาขาย) แต่หากถือครองเกิน 5 ปีหรือเข้าเกณฑ์อยู่อาศัยเอง จะยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ และเสียเป็นอากรแสตมป์แทน (0.5% ของราคาขาย)
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย: ผู้ขายต้องเสียภาษีเงินได้จากการขายอสังหาฯ โดยกรมที่ดินจะหักไว้ ณ ที่โอน คำนวณแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (มีวิธีการคิดลดหลั่นตามจำนวนปีที่ถือครอง) ส่วนผู้ซื้อไม่มีภาษีส่วนนี้
  • ค่าจดจำนอง: ถ้าผู้ซื้อขอสินเชื่อและจำนองบ้านกับธนาคาร จะมีค่าธรรมเนียมจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ซึ่งผู้ซื้อเป็นผู้จ่าย
  1. กฎหมายและข้อบังคับผังเมือง - สิ่งที่สร้างได้หรือไม่ได้:
    ภูเก็ตมีกฎผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาคารที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ มีหลักเกณฑ์บางประการที่ผู้ซื้อควรรู้:
  • ความสูงอาคาร: ในพื้นที่ภูเก็ต มีกฎจำกัดความสูงอาคารในหลายโซน (เช่น ไม่ให้อาคารสูงเกิน 80 เมตรจากระดับน้ำทะเลในเขตเชิงเขา เพื่ออนุรักษ์ทัศนียภาพ และเพื่อความปลอดภัยจากดินถล่ม) ดังนั้นคอนโดมิเนียมจำนวนมากในภูเก็ตมักสูงไม่เกิน 7-8 ชั้น น้อยมากที่จะเห็นตึกสูงแบบกรุงเทพฯ
  • ระยะร่นจากชายฝั่ง: มีกฎหมายกำหนดว่าไม่สามารถก่อสร้างอาคารถาวรภายในระยะ 10-20 เมตรจากแนวชายฝั่ง (ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นที่และกฎหมายเฉพาะของท้องถิ่น) บ้านหรือรีสอร์ตที่จะติดหาดจริงๆ จึงต้องเว้นระยะพอสมควร ทำให้หลายโครงการเลือกสร้างถนนขั้นกลางระหว่างหาดกับตัวบ้าน
  • พื้นที่ป่าและอุทยาน: ภูเก็ตยังมีเขตป่าสงวนและอุทยานบางส่วนที่ห้ามการบุกรุกหรือพัฒนาโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น บางส่วนของเขาเมือง ภูเก็ต ดังนั้น หากพบที่ดินราคาถูกผิดปกติบนเนินเขาพร้อมวิวทะเล ผู้ซื้อควรตรวจสอบสถานะที่ดินอย่างละเอียด (ดูเอกสารสิทธิ์ว่าเป็นโฉนดจริงหรือแค่ น.ส.3 หรือ ภบท. ที่ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์) เพราะอาจเป็นที่ดินต้องห้ามพัฒนา การสร้างอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ชัดเจนหรือผิดผังเมืองนอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังเสี่ยงถูกสั่งรื้อถอนในภายหลัง
  1. การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์และโครงสร้างทางกฎหมายก่อนซื้อ:
  • โฉนดที่ดิน: แนะนำให้ซื้ออสังหาฯ ที่มีโฉนด น.ส.4 จ. (โฉนดที่ดิน) ซึ่งมีความชัดเจนเรื่องแนวเขตและกรรมสิทธิ์ หากเป็นโครงการบ้านจัดสรร ตรวจสอบว่าโครงการแบ่งแยกโฉนดถูกต้องหรือยัง (บางกรณีโครงการขายอสังหาริมทรัพย์โดยสัญญาจะซื้อจะขาย แล้วค่อยโอนที่ดินเมื่อพัฒนาสาธารณูปโภคเสร็จ)
  • ใบอนุญาตก่อสร้าง: บ้านหรือคอนโดทุกแห่งต้องมีใบอนุญาตก่อสร้าง (ขอจากเทศบาลหรือ อบต. พื้นที่นั้น) และผ่านการตรวจสอบ EIA (สำหรับโครงการขนาดใหญ่) ผู้ซื้อสามารถขอดูสำเนาเหล่านี้เพื่อยืนยันว่าโครงการทำถูกต้อง
  • นิติบุคคลหมู่บ้าน/อาคารชุด: เมื่อซื้อบ้านในโครงการจัดสรร ผู้ซื้อจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของนิติบุคคลหมู่บ้าน มีการเก็บค่าส่วนกลางดูแลถนน สวน และความปลอดภัย ควรสอบถามอัตราค่าส่วนกลาง กฎระเบียบหมู่บ้าน (เช่น เรื่องการเลี้ยงสัตว์, ต่อเติมบ้าน) ล่วงหน้า ส่วนคอนโดก็คล้ายกัน มีนิติบุคคลอาคารชุดและข้อบังคับที่เจ้าของร่วมต้องปฏิบัติตาม ผู้ลงทุนบางรายที่คิดจะปล่อยเช่ารายวันควรดูด้วยว่าคอนโดอนุญาตหรือไม่ (หลายแห่งไม่ให้ทำ Airbnb)
  • การโอนเงินและอัตราแลกเปลี่ยน: ผู้ซื้อชาวต่างชาติควรทราบว่าต้องโอนเงินจากต่างประเทศเป็นสกุลเงินต่างประเทศเข้ามา แลกเป็นบาทในไทย และขอ “ใบ ธปท. (Foreign Exchange Transaction Form)” จากธนาคาร เพื่อใช้เป็นหลักฐานการซื้อคอนโด หากซื้อบ้านผ่านบริษัทไทย ก็ต้องจัดการเรื่องนำเงินเข้าบริษัทอย่างถูกต้อง
  1. ข้อควรรู้เพิ่มเติมสำหรับการซื้อขายในภูเก็ต:
  • ใช้บริการทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย: การซื้ออสังหาฯ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติ ควรมีที่ปรึกษากฎหมายมืออาชีพช่วยตรวจสอบสัญญาและเอกสาร การลงทุนไม่กี่หมื่นบาทจ้างทนาย สามารถช่วยป้องกันปัญหาหลายล้านในอนาคตได้ เช่น ตรวจสอบสัญญาจะซื้อขายให้รัดกุม, ดูข้อกำหนดการรับประกันโครงการ, ตรวจสอบภาระผูกพันเช่น การจำนองหรือคดีความที่ดิน
  • ประกันภัยสำหรับอสังหาริมทรัพย์: ด้วยภูเก็ตเคยมีประสบการณ์ภัยธรรมชาติ (สึนามิ) และเป็นเกาะที่มีฝนตกชุก มีโอกาสน้ำท่วมขังบางพื้นที่ การทำประกันภัยที่อยู่อาศัยจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ราคาแพง การประกันครอบคลุมไฟไหม้ น้ำท่วม ลมพายุ จะช่วยคุ้มครองความเสี่ยงได้
  • ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: ปัจจุบันประเทศไทยมีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จัดเก็บรายปี (แทนภาษีโรงเรือนเดิม) ซึ่งแบ่งตามประเภทการใช้ประโยชน์ ถ้าซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วปล่อยว่างไว้หรือนำไปเพื่อการพาณิชย์ อัตราภาษีจะสูงกว่าอยู่อาศัยเอง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีการปรับลดหรือยกเว้นบางปีเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจ ผู้ซื้อควรติดตามข่าวและเตรียมงบประมาณจ่ายภาษีประจำปีด้วย
  • กฎหมายว่าด้วยการเช่า (กรณีปล่อยเช่า): หากผู้ซื้อมีแผนปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินควรทราบสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายแพ่งเกี่ยวกับสัญญาเช่า เช่น การเรียกเก็บเงินประกัน ความรับผิดชอบในการซ่อมแซมเมื่อสิ่งของชำรุด การบอกเลิกสัญญาเช่าเป็นต้น และหากเป็นการปล่อยเช่าระยะสั้นให้กับนักท่องเที่ยว ก็ควรปฏิบัติตามระเบียบท้องถิ่น เช่น การแจ้งที่พักคนต่างด้าว (แบบ ตม.30) ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเจ้าบ้านหรือผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องแจ้งทุกครั้งที่มีผู้พักอาศัยเป็นคนต่างชาติ

โดยภาพรวม การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีกรอบกฎหมายเช่นเดียวกับพื้นที่อื่น แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องการถือครองโดยต่างชาติ และการปฏิบัติตามกฎผังเมืองที่เคร่งครัดขึ้นเล็กน้อย การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้การซื้อขายราบรื่น แต่ยังป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้การครอบครองทรัพย์สินเป็นไปอย่างมั่นคงและอุ่นใจ

ความเสี่ยงและโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต

แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตจะมีแนวโน้มสดใสและเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา แต่นักลงทุนและผู้ซื้อที่ชาญฉลาดจะต้องพิจารณาทั้งโอกาสและความเสี่ยงอย่างรอบด้าน เพื่อตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ในส่วนนี้เราจะวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและโอกาสหลักๆ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ณ ปัจจุบันและอนาคตอันใกล้

ความเสี่ยง (Risks)

  • ความเสี่ยงจากอุปทานล้นตลาด (Oversupply): การพัฒนาที่บูมมากในช่วงปี 2566-2567 ส่งผลให้มีอสังหาฯ ใหม่จำนวนมากเข้าสู่ตลาด ข้อมูลต้นปี 2568 ชี้ว่ามียูนิตที่สร้างเสร็จแล้วแต่ยังขายไม่ออกในภูเก็ตกว่า 10,000 ยูนิต (รวมบ้านและคอนโด) คิดเป็นมูลค่ารวมราว 77,000 ล้านบาท นี่เป็นสัญญาณว่าอุปทานเริ่มแซงหน้าอุปสงค์ หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไปโดยไม่มีการจัดสมดุล อาจเกิดภาวะ oversupply ที่กดดันราคาให้หยุดนิ่งหรือปรับลดลง ผู้พัฒนาบางรายอาจจำเป็นต้องชะลอหรือยุติโครงการใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ซื้อที่หวังเก็งกำไรระยะสั้น
    สัญญาณเตือน: ในบางทำเลยอดนิยม อย่าง บางเทา-สุรินทร์ มีการขายออก ~3,400 ยูนิต แต่ยังเหลือขายอีก ~4,400 ยูนิต (มากกว่าจำนวนที่ขายได้เสียอีก) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าความเชื่อที่ว่า “ขายไปแล้ว 70%” ที่มักได้ยินในโฆษณา อาจไม่ตรงกับความจริงนัก (เป็นกลยุทธ์การตลาดสร้างความเชื่อมั่น) ผู้ซื้อควรพิจารณาตัวเลขอุปทานคงเหลือควบคู่ด้วย
  • ความเสี่ยงด้านฟองสบู่และการปรับฐานราคา: ราคาที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องปีละกว่า 10-15% ในตลาดบ้านและคอนโดภูเก็ต หากมองในบริบทเศรษฐกิจมหภาค ย่อมสูงเกินอัตราการเติบโตของรายได้ประชากรในประเทศ การที่ราคาขึ้นได้มากเพราะมีเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาหนุน (cash inflow) แต่หากปัจจัยนั้นหายไปหรือกลับทิศ ราคาที่ไม่สอดคล้องปัจจัยพื้นฐานก็อาจปรับตัวลงได้ ตัวอย่างกรณีคล้ายกันคือวิกฤตฟองสบู่อสังหาฯ ในหลายประเทศที่พึ่งพาต่างชาติ เช่น ดูไบเคยประสบช่วงปี 2552 ฉะนั้นแม้ตอนนี้จะยังไม่มีสัญญาณชัดว่าฟองสบู่จะแตกในภูเก็ต แต่ผู้ซื้อลงทุนควรมีแผนรองรับหากราคาเกิดซบเซาหรือถดถอยสักระยะ
  • ความเสี่ยงด้านความต้องการจากต่างชาติที่ไม่แน่นอน: ภูเก็ตพึ่งพิงผู้ซื้อและนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงมาก ซึ่งปัจจัยภายนอกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น
    • เศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์: หากเกิดเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในประเทศหลักของผู้ซื้อ (เช่น จีน รัสเซีย ยุโรป) กำลังซื้อก็จะลดลง กรณีสงครามหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศก็อาจกระทบการเดินทางท่องเที่ยว (เช่น ช่วงสงครามยูเครน-รัสเซีย มีชาวรัสเซียจำนวนมากย้ายถิ่นมาไทย แต่หากสถานการณ์ผ่อนคลาย พวกเขาอาจกลับประเทศหรือลดการลงทุนในต่างแดน)
    • นโยบายภาครัฐ: ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น หากไทยเปลี่ยนนโยบายไม่ต้อนรับการถือครองอสังหาฯ โดยชาวต่างชาติ (มีเสียงเรียกร้องบางส่วนเรื่องจำกัดการซื้อของต่างชาติในตลาดบ้านหรูเพราะดันราคาเกินเอื้อมคนไทย) หรือทางจีนยกเลิกมาตรการควบคุมเงินไหลออกทำให้ชาวจีนมาลงทุนง่ายขึ้น (ซึ่งอาจเป็นโอกาสเพิ่มขึ้น แต่ก็เสี่ยงหากเกิดตรงข้าม)
    • กฎเกณฑ์การเดินทางและวีซ่า: แม้ปัจจุบันไทยมีโครงการวีซ่าพำนักระยะยาว (LTR Visa) จูงใจนักลงทุนต่างชาติ แต่รายละเอียดและการอนุมัติก็ซับซ้อน หากรัฐบาลไทยหรือประเทศต้นทางปรับเปลี่ยนนโยบาย (เช่น เพิ่มเงื่อนไข ยกเลิกสิทธิประโยชน์บางอย่าง) ความสนใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยก็อาจลดลง
  • ความเสี่ยงด้านกฎหมายและความมั่นคงในการถือครอง: ดังกล่าวในส่วนกฎหมาย กรณีชาวต่างชาติที่ถือครองอสังหาฯ ผ่านสัญญาเช่า 30 ปี เมื่อมีคำตัดสินศาลสูงสุดให้การต่อสัญญาเช่าอัตโนมัติเป็นโมฆะ อาจทำให้ผู้ถือครองเหล่านี้เกิดความไม่มั่นใจและเทขายทรัพย์สินก่อนที่มูลค่าจะลดลง (เพราะถือไปนานๆ จะเหลืออายุเช่าน้อยลง) หากเกิด “panic selling” ในตลาดวิลล่าเช่าระยะยาว อาจกดดันราคาโดยรวม และความเชื่อมั่นของนักลงทุนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาก็จะลดลงด้วย
  • ความเสี่ยงด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: ภูเก็ตในปีที่ผ่านๆ มาได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติบ้าง เช่น น้ำท่วมในบางพื้นที่เวลาเกิดฝนตกหนัก เนื่องจากการพัฒนาเมืองที่รวดเร็วระบบระบายน้ำอาจไม่ทัน หรือปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมถ้าพัฒนามากเกินไป ปัจจัยเหล่านี้หากไม่ได้รับการแก้ไข อาจกระทบภาพลักษณ์ในฐานะแหล่งท่องเที่ยว และทำให้ผู้ซื้ออสังหาฯ ลังเล (เพราะไม่มีใครอยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ในย่านที่น้ำท่วมบ่อยหรือชายหาดสกปรก)
  • ความเสี่ยงด้านต้นทุนและดอกเบี้ย: สำหรับผู้ประกอบการและผู้ซื้อที่กู้เงิน ปัจจัยดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วงปี 2566-2567 ทำให้การกู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์มีต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้บางดีมานด์หายไป (เช่น กลุ่มคนไทยที่กู้ไม่ผ่านตามเกณฑ์) ด้านผู้พัฒนาก็เจอต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่งที่สูงขึ้น ซึ่งอาจผลักภาระมายังราคาขายหรือทำให้บางรายชะลอโครงการ ความไม่แน่นอนในด้านเศรษฐกิจและต้นทุนนี้เป็นความเสี่ยงเชิงระบบที่ต้องติดตาม

โอกาส (Opportunities)

  • โอกาสจากการเป็นจุดหมายท่องเที่ยวระดับโลก: ภูเก็ตยังคงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่มีชื่อเสียง แนวโน้มการท่องเที่ยวระหว่างประเทศหลังโควิดมีแต่จะขยายตัวต่อเนื่อง (คนอยากเดินทางทดแทนช่วงที่อั้นไว้) แผนการของภาครัฐไทยเองก็มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ดึงนักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายสูง การที่ภูเก็ตเป็น “สินค้า” ที่ติดตลาดโลกแล้ว ทำให้ไม่ต้องสร้างใหม่ เพียงรักษาคุณภาพและเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ก็จะดึงดูดคนมาเรื่อยๆ ซึ่งหมายถึงดีมานด์ด้านอสังหาฯ ก็จะยังมีในระยะยาว โอกาสในที่นี้คือ การลงทุนระยะยาว ในนิคมการท่องเที่ยวนี้ น่าจะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าเมื่อมอง 5-10 ปีข้างหน้า ตราบใดที่มนุษย์ยังอยากมาเที่ยวทะเล หาแสงแดด ภูเก็ตก็ยังอยู่ในแผนที่ของพวกเขา
  • โอกาสจากโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนารัฐ: ภาครัฐและเอกชนมีโครงการพัฒนาหลายอย่างที่เสนอมาสำหรับภูเก็ต เช่น โครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail/Tram) เชื่อมสนามบิน-ตัวเมือง, การขยายท่าอากาศยานภูเก็ต (ปัจจุบันสนามบินรองรับผู้โดยสารได้ ~12.5 ล้านคนต่อปี และมีแผนขยายเพื่อรองรับ 18 ล้านคนในอนาคต), การพัฒนา “ภูเก็ตสมาร์ทซิตี้” ที่จะนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในระบบบริการและสาธารณูปโภค, รวมถึงการผลักดันพื้นที่ใกล้เคียงเช่น พังงา กระบี่ ให้เป็นเขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์กัน การลงทุนด้านคมนาคมและสาธารณูปโภคเหล่านี้จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสะดวก ซึ่งตามหลักแล้วจะหนุนราคาที่ดินและอสังหาฯ ให้เพิ่มขึ้นไปอีก (เพราะต้นทุนเดินทางลด ความน่าอยู่เพิ่ม) นักลงทุนที่จับจังหวะเข้าลงทุนก่อนโครงการพัฒนาเสร็จย่อมจะได้ประโยชน์จาก Capital Gain ในอนาคต
  • โอกาสจากกลุ่มผู้ซื้อใหม่ๆ: แม้ปัจจุบันลูกค้าหลักจะมาจากรัสเซีย จีน ยุโรป แต่ยังมีกลุ่มอื่นที่เป็น potential เช่น นักลงทุนจากตะวันออกกลาง (บางส่วนเริ่มสนใจภูเก็ตมากขึ้น เห็นได้จากสายการบินตรงจากตะวันออกกลางที่เพิ่มเที่ยว), กลุ่ม Digital Nomads และผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ที่สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ - คนกลุ่มนี้ทั่วโลกมีแนวโน้มเลือกภูเก็ตเป็นบ้านมากขึ้น เพราะมีทั้งคุณภาพชีวิตและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับนานาชาติ และไทยก็มีวีซ่าประเภทพิเศษรองรับ (เช่น Smart Visa) หากภูเก็ตสามารถทำตลาดสู่กลุ่มเหล่านี้ โอกาสในการเพิ่มดีมานด์ซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยก็ยิ่งมากขึ้น
  • โอกาสในสินทรัพย์เฉพาะทาง: เมื่อภาพใหญ่เติบโต สิ่งที่จะตามมาคือโอกาสลงทุนในสินทรัพย์เฉพาะทาง เช่น
    • บ้านผู้สูงอายุ - ศูนย์สุขภาพ: เทรนด์ Medical Tourism ผนวกกับสังคมผู้สูงวัย ทำให้มีนักลงทุนพัฒนาโครงการบ้านพักผู้สูงอายุระดับหรูในภูเก็ต เพื่อรองรับทั้งชาวต่างชาติและคนไทยฐานะดีที่ต้องการใช้ชีวิตวัยเกษียณในที่ที่มีบริการดูแลสุขภาพดี ซึ่งอสังหาฯ ลักษณะนี้อาจเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่กำลังมา
    • Branded Residences: การจับมือกับแบรนด์โรงแรมหรือแบรนด์ลักชัวรีเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยติดแบรนด์ (เช่น มีบริการและมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว) กำลังเป็นที่นิยมในตลาดไฮเอนด์ ภูเก็ตมีศักยภาพสูงในด้านนี้เพราะชาวต่างชาติคุ้นเคยกับแบรนด์เหล่านี้และเชื่อถือมาตรฐาน ทำให้ยอมจ่ายแพง โครงการ branded residence มักขายห้องหรือวิลล่าได้ราคาและขายง่าย
    • ทรัพย์มือสองและการปรับปรุง: ในอีกด้านหนึ่ง ภูเก็ตมีอสังหาฯ ที่สร้างมานานแล้ว (10-20 ปี) ซึ่งบางแห่งอาจเริ่มทรุดโทรมหรือไม่ทันสมัย นักลงทุนสามารถเข้าไปซื้อทรัพย์มือสองเหล่านี้ในราคาต่ำกว่าตลาด ปรับปรุงใหม่ แล้วขายต่อหรือปล่อยเช่าในอัตราที่สูงขึ้น นี่เป็นโอกาสในเชิง active investment ที่ใช้ทักษะสร้างมูลค่าเพิ่ม
  • โอกาสจากภาวะปรับฐาน (สำหรับผู้ซื้อ): หากตลาดเกิดปรับฐานหรือชะลอ (จากความเสี่ยง oversupply ที่กล่าวไว้) นั่นก็ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ซื้อที่จะได้ต่อรองหรือซื้อทรัพย์สินในราคาที่สมเหตุสมผลขึ้น ในช่วงสองสามปีข้างหน้า หากพบว่าผู้พัฒนาบางรายชะลอเปิดตัวใหม่และเร่งระบายสต็อก ผู้ซื้อที่มีความพร้อมด้านการเงินอาจได้รับส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งจะเพิ่ม margin of safety ให้กับการลงทุนของตนเอง

บทสรุปด้านความเสี่ยง/โอกาส: ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ณ วันนี้เป็นภาพสะท้อนของเหรียญสองด้าน - ด้านหนึ่งมีความคึกคักดึงดูดใจ อีกด้านก็มีความร้อนแรงที่ต้องจับตามอง ผู้ซื้อและนักลงทุนควรติดตามข้อมูลตลาดอย่างใกล้ชิด อย่าให้ความมั่นใจเกินไปจนมองไม่เห็นสัญญาณเตือน ควรวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ (เช่น ไม่ก่อหนี้เกินตัว เผื่อสภาพคล่องไว้บ้างหากต้องชะลอการขายออก) และมีกลยุทธ์รับมือสถานการณ์ต่างๆ เช่น ถ้าขายต่อไม่ได้จะปล่อยเช่าทดแทนอย่างไร หรือถ้าต่างชาติหายไปกลุ่มหนึ่งจะยังมีแผน B กับกลุ่มอื่นๆ ไหม ในขณะเดียวกัน ก็ควรเตรียมพร้อมใช้ประโยชน์จากโอกาสเมื่อมันมาถึง เช่น คว้าอสังหาฯ ทำเลดีราคาพิเศษในช่วงตลาดชะลอ เป็นต้น

บทสรุป: แนวโน้มอนาคตและข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต

แนวโน้มอนาคต: จากการวิเคราะห์ข้างต้นจะเห็นได้ว่า ตลาดขายอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่น่าสนใจ ภาพรวมยังคงสดใสจากแรงขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวและความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะเซ็กเมนต์บ้านพักตากอากาศระดับบนที่ยังมีโมเมนตัมดีอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2568 ขณะเดียวกันก็เริ่มมีเสียงเตือนเรื่องอุปทานล้นและการเติบโตที่อาจเกินระดับปกติ ทำให้ทุกฝ่ายในตลาดควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้น

อนาคตระยะกลาง (3-5 ปีจากนี้) ภูเก็ตยังมีปัจจัยบวกหลายประการ ทั้งแผนพัฒนารัฐที่เอื้อต่อภาคอสังหา ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามา รวมถึงแนวโน้มวิถีชีวิตยุคใหม่ที่คนหันมาทำงานทางไกลจากสถานที่สวยงามมากขึ้น (Work from Paradise) ซึ่งภูเก็ตตอบโจทย์อย่างดี หากสามารถบริหารจัดการการเติบโตให้ยั่งยืน (เช่น ควบคุมผังเมือง ไม่ให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม, รักษาความปลอดภัยและคุณภาพชีวิต, สร้างสมดุลระหว่างนักท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่น) ก็เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจะยังเติบโตต่อไปอย่างแข็งแรง และเป็นหนึ่งในทำเลทองของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต:

  • ศึกษาตลาดและวางแผนอย่างรอบคอบ: เนื่องจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนก้อนใหญ่ อย่าตัดสินใจเพียงเพราะกระแสหรือความรีบเร่ง ควรใช้เวลาในการทำความเข้าใจตลาด ศึกษาราคาเปรียบเทียบในทำเลต่างๆ และประเมินกำลังทรัพย์ของตน
  • กำหนดเป้าหมายให้ชัด: ซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อลงทุน? หากชัดเจนแล้วจะช่วยกรองตัวเลือก เช่น ถ้าเพื่ออยู่เอง ความชอบส่วนตัวและความสะดวกคือสิ่งสำคัญสุด แต่ถ้าเพื่อการลงทุน ตัวเลขผลตอบแทนและแนวโน้มราคาต้องมาก่อน
  • เลือกทำเลและประเภทอสังหาริมทรัพย์ให้ตรงกับเป้าหมาย: ใช้ข้อมูลในบทความนี้เป็นไกด์ไลน์เบื้องต้น เช่น อยากได้ค่าเช่าสูงลองมองหาดฝั่งตะวันตก อยากอยู่สงบมองโซนใต้ อยากของถูกลงก็ในเมืองหรือพังงา เป็นต้น
  • ตรวจสอบเอกสารและกฎหมาย: เน้นย้ำอีกครั้งว่าอย่ามองข้ามขั้นตอนทางกฎหมาย จ้างผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบจะปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโฉนด สัญญา หรือโครงสร้างการถือครองแบบบริษัท/การเช่า
  • บริหารความเสี่ยงทางการเงิน: เผื่อกรณีฉุกเฉินไว้เสมอ เช่น มีเงินสำรองสำหรับผ่อน 6-12 เดือนหากเกิดปล่อยเช่าไม่ได้ชั่วคราว หรือเลือกดอกเบี้ยแบบคงที่หากกลัวแนวโน้มขาขึ้นของดอกเบี้ย ลดหนี้สินอื่นๆ ให้ความสามารถในการผ่อนอสังหาริมทรัพย์มีมากขึ้น
  • ติดตามข่าวสาร: ตลาดภูเก็ตมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ข่าวเปิดเส้นทางการบินใหม่ นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ หรือมาตรการรัฐ (เช่น ลดค่าธรรมเนียมโอน กระตุ้นอสังหา) ล้วนมีผลทั้งสิ้น การอัปเดตข้อมูลสม่ำเสมอจะทำให้คุณไม่พลาดโอกาสดีๆ และหลีกเลี่ยงการเจอปัญหาไม่ทันตั้งตัว

ท้ายที่สุด การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตก็เปรียบเสมือนการลงทุนในความฝันของหลายๆ คน ที่อยากมีอสังหาริมทรัพย์ใกล้ทะเล น้ำใส หาดทรายสวย และบรรยากาศเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ความฝันนั้นสามารถเป็นจริงได้ด้วยการวางแผนที่ดีและการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน หวังว่ารายงานวิเคราะห์ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านในการเดินหน้าสู่การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตอย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนก็ตาม

Loading...
สมัครรับอีเมลอัพเดทข่าว