ให้เช่าวิลล่า ภูเก็ต ประกาศให้เช่าวิลล่า 2 ห้องนอน ในภูเก็ต
715 ยูนิตคู่มือเช่าวิลล่าในภูเก็ต ปี 2568
สำหรับนักลงทุนและผู้เช่าชาวไทยที่กำลังมองหา วิลล่าให้เช่าในภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นพูลวิลล่าหรูหรือบ้านวิลล่าขนาดกลางสำหรับการอยู่อาศัยแบบรายเดือนหรือระยะยาว บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเช่าพูลวิลล่าในจังหวัดภูเก็ตในปี 2568 (2025) โดยจัดทำขึ้นในโทนภาษาแบบทางการ ครอบคลุมตั้งแต่ภาพรวมตลาดล่าสุด ประเภทของวิลล่า ทำเลที่น่าสนใจ ปัจจัยในการเลือกเช่า ตลอดจนข้อควรรู้ด้านกฎหมายและคำแนะนำการอยู่อาศัยระยะยาว รวมถึงตอบคำถามที่พบบ่อย เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจอย่างรอบด้านและมั่นใจในการเช่าวิลล่าในภูเก็ตอย่างมืออาชีพ
ภาพรวมตลาดวิลล่าให้เช่าในภูเก็ต ปี 2568
ตลาดเช่าวิลล่าภูเก็ตฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 ความต้องการเช่าวิลล่าในภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มชาวต่างชาติที่มองหาที่พักระยะยาวในบรรยากาศรีสอร์ต ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ตลาดวิลล่าในภูเก็ตมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ เห็นได้จากโครงการวิลล่าใหม่ ๆ ที่เปิดตัวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และจำนวนวิลล่าที่ปล่อยเช่าซึ่งอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมาอย่างล้นหลาม (เช่น กลุ่มยุโรป รัสเซีย จีน และตะวันออกกลาง) มีส่วนสำคัญที่ทำให้การเช่าพูลวิลล่าระยะยาวได้รับความนิยม เนื่องจากวิลล่าให้ความเป็นส่วนตัว พื้นที่กว้างขวาง และตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครอบครัวมากกว่าคอนโดมิเนียม ส่งผลให้อัตราการเข้าพักและอัตราผลตอบแทนการเช่าวิลล่าในภูเก็ตปรับตัวสูงขึ้น
ปัจจุบัน (กลางปี 2568) มีวิลล่าปล่อยเช่าในตลาดภูเก็ตหลายร้อยรายการ ครอบคลุมทุกระดับราคา ตั้งแต่วิลล่าราคาเช่า ประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน สำหรับบ้านขนาดเล็กหรือวิลล่าแบบสองห้องนอน ไปจนถึงวิลล่าหรูระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีที่มีค่าเช่า หลายแสนบาทต่อเดือน (บางแห่งอาจสูงถึงหลักล้านบาทต่อเดือนสำหรับคฤหาสน์ติดชายหาดระดับไฮเอนด์) จากข้อมูลของตลาดอสังหาฯ ล่าสุด ค่าเช่าถัวเฉลี่ยของวิลล่าในภูเก็ตอยู่ราว 2-3 แสนบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ถูกถ่วงโดยวิลล่าระดับไฮเอนด์จำนวนหนึ่ง ในทางปฏิบัติผู้เช่าสามารถพบวิลล่าคุณภาพดีในทำเลยอดนิยมได้ในช่วง ประมาณ 50,000-150,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาด ทำเล และความหรูหรา
ฝั่งผู้ประกอบการและนักลงทุนอสังหาฯ เองยังคงให้ความสนใจตลาดวิลล่าภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าระยะยาวอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ เฉลี่ยประมาณ 6-8% ต่อปี และบางช่วงที่ตลาดคึกคักเจ้าของทรัพย์สินสามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึงสองหลักต่อปี นอกจากนี้การที่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาลงทุนโครงการในภูเก็ตมากขึ้น (โดยเฉพาะโครงการพูลวิลล่าระดับลักซ์ชัวรี) ส่งผลให้มีซัพพลายวิลล่าใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงปี 2566-2568 ทำให้ผู้เช่ามีทางเลือกหลากหลายและมีอำนาจต่อรองมากขึ้นในบางทำเล
แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของอุปทานวิลล่าให้เช่า (Oversupply) ในบางพื้นที่ยอดนิยม เช่น โซนเชิงทะเล-บางเทา และราไวย์-ในหาน ที่มีโครงการวิลล่าจำนวนมากออกสู่ตลาด แต่ความต้องการเช่าก็ยังคงแข็งแกร่ง สังเกตได้จากอัตราการครอบครอง (occupancy rate) ของวิลล่าหลายแห่งที่อยู่ในระดับสูงตลอดทั้งปี ผู้พัฒนาโครงการบางรายเริ่มปรับกลยุทธ์ด้วยการนำเสนอส่วนนลดพิเศษสำหรับการเช่าระยะยาวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) เพื่อดึงดูดผู้เช่าและรักษาระดับรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี
กล่าวโดยสรุป ภาพรวมตลาดวิลล่าเช่าระยะยาวในภูเก็ต ณ กลางปี 2568 มีแนวโน้มที่สดใส ทั้งในแง่ของ จำนวนซัพพลาย ที่เพิ่มขึ้นและความหลากหลายของทางเลือกที่พักสำหรับผู้เช่า และในแง่ของ ดีมานด์ ที่ยังคงเติบโตจากทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักระยะยาวและชาวไทยที่มองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดส่งผลดีต่อผู้เช่า เนื่องจากมีโอกาสได้รับเงื่อนไขเช่าที่คุ้มค่าและบริการที่ดีขึ้น ทั้งนี้ผู้ที่สนใจเช่าวิลล่าในภูเก็ตควรทำความเข้าใจประเภทของวิลล่าและลักษณะทำเลต่าง ๆ เพื่อเลือกที่พักที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
ประเภทของวิลล่าให้เช่า
วิลล่าที่ปล่อยเช่าในภูเก็ตสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามลักษณะและระดับความหรูหรา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เช่าที่หลากหลาย ดังนี้:
- พูลวิลล่า (Pool Villa): วิลล่าที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวในบริเวณบ้าน ถือเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภูเก็ต เนื่องจากผู้เช่าสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำและทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างเป็นส่วนตัว พูลวิลล่ามักเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 2-5 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือกลุ่มผู้เช่าที่ต้องการพักผ่อนร่วมกัน บางหลังอาจตั้งอยู่ในโครงการวิลล่าที่มีการบริหารจัดการแบบรีสอร์ต มีบริการดูแลสระว่ายน้ำ สวน และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เช่าระยะยาวเสมือนได้อยู่รีสอร์ตส่วนตัว
- วิลล่าระดับหรู (Luxury Villa): วิลล่าประเภทนี้เน้นความโอ่อ่าและความหรูหราเป็นพิเศษ ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งและการออกแบบตกแต่ง มักตั้งอยู่บนทำเลไพร์มของภูเก็ต เช่น ริมชายหาดที่มีวิวทะเลแบบพาโนรามา หรือบนเนินเขาที่มองเห็นทิวทัศน์ทะเล วิลล่าหรูมักมีขนาดใหญ่ (4-8 ห้องนอนหรือมากกว่า) มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ ห้องออกกำลังกายส่วนตัว ห้องโฮมเธียเตอร์ และพื้นที่สวนขนาดใหญ่ บางแห่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่มีชื่อเสียงหรือบริหารโดยแบรนด์โรงแรมระดับห้าดาว ทำให้ผู้เช่าได้รับบริการมาตรฐานโรงแรม (แม่บ้านทำความสะอาด บริการเจ้าหน้าที่ดูแลแขก ฯลฯ) ค่าเช่าของวิลล่าระดับลักซ์ชัวรีมักอยู่ในระดับสูง (หลักหลายแสนบาทต่อเดือนขึ้นไป) กลุ่มผู้เช่ามักเป็นผู้บริหารระดับสูง นักลงทุนต่างชาติ หรือครอบครัวที่มีกำลังทรัพย์ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความเป็นส่วนตัวสูงสุด
- วิลล่าขนาดกลาง/มาตรฐาน: เป็นวิลล่าที่อยู่ในระดับราคาและความหรูหราปานกลาง เหมาะสำหรับผู้เช่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ต้องการบ้านพักคุณภาพดีในงบประมาณที่จับต้องได้ วิลล่าประเภทนี้มักมีขนาด 2-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือคู่สามีภรรยา บางหลังอาจมีสระว่ายน้ำเล็กๆ เป็นของตัวเอง หรือมีพื้นที่สวนหย่อมสำหรับการพักผ่อน วิลล่าขนาดกลางจำนวนมากตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรหรือโครงการที่อยู่อาศัยที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลางอาจมีสระว่ายน้ำหรือฟิตเนสให้ใช้ร่วมกัน ข้อดีคือผู้เช่าจะได้บรรยากาศความเป็นชุมชนและความปลอดภัย ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวของบ้านเดี่ยว ค่าเช่าของวิลล่ากลุ่มนี้จะอยู่ในช่วงหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทต้นๆ ต่อเดือน (โดยทั่วไปประมาณ 50,000-100,000 บาท) ซึ่งถือว่าให้ความคุ้มค่ากับพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบายที่ได้รับเมื่อเทียบกับการเช่าคอนโดขนาดใหญ่ในทำเลเดียวกัน
วิเคราะห์ทำเลวิลล่าให้เช่าในภูเก็ต
จังหวัดภูเก็ตมีทำเลที่หลากหลาย แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านบรรยากาศ ความสะดวก และระดับค่าเช่า การเลือกทำเลที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการอยู่อาศัยอย่างมีความสุข ส่วนนี้จะวิเคราะห์ทำเลหลักๆ ทั่วภูเก็ต โดยสรุปข้อมูล ค่าเช่าเฉลี่ย, ลักษณะพื้นที่, และความเหมาะสมในการอยู่อาศัย ของแต่ละโซน ดังนี้:
โซนบางเทา – เชิงทะเล (Laguna และบริเวณใกล้เคียง)
พื้นที่บางเทาและเชิงทะเลทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของภูเก็ต เป็น ศูนย์กลางวิลล่าหรู ของเกาะ มีโครงการพูลวิลล่าและบ้านพักระดับลักซ์ชัวรีจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณ ลากูน่า (Laguna Phuket) ที่เป็นชุมชนรีสอร์ตครบวงจร มีสนามกอล์ฟ ร้านอาหาร และชายหาดบางเทาที่สวยงาม วิลล่าในโซนนี้ส่วนใหญ่เป็นระดับไฮเอนด์ ค่าเช่าเฉลี่ยค่อนข้างสูง (มักจะ 100,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน) เนื่องจากทำเลใกล้ทะเลและสิ่งแวดล้อมคุณภาพสูง ผู้เช่าจะได้ทั้งความเงียบสงบและความสะดวกสบาย มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่หนาแน่น เช่น นักธุรกิจและครอบครัวชาวยุโรปหรือเอเชียที่มาพำนักระยะยาว หากมองหาวิถีชีวิตหรูหราใกล้ชายหาด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน (เช่น บีชคลับ ร้านอาหารนานาชาติ ซูเปอร์มาร์เก็ตนำเข้า) บางเทา-เชิงทะเลเป็นทำเลที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง ทั้งนี้ ด้วยซัพพลายวิลล่าจำนวนมากในพื้นที่นี้ ผู้เช่าอาจมีโอกาสต่อรองราคาได้บ้างโดยเฉพาะในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
โซนสุรินทร์ – กมลา (หาดสุรินทร์และหาดกมลา)
ถัดลงมาทางใต้ของบางเทาคือพื้นที่ หาดสุรินทร์ และ หาดกมลา ซึ่งเป็นชุมชนริมทะเลที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามของชายหาดและบรรยากาศที่สงบเงียบกว่าใจกลางเมือง วิลล่าให้เช่าในย่านสุรินทร์มักเป็น วิลล่าบนเนินเขาที่เห็นวิวทะเล (เช่น วิลล่าบริเวณเชิงเขาหาดสุรินทร์และแหลมสิงห์) มีระดับความหรูหราสูงและค่าเช่าค่อนข้างแพงใกล้เคียงกับบางเทา ในขณะที่ กมลา มีทั้งวิลล่าหรูบนเนินเขาที่เรียงรายตามแนว “Millionaire’s Mile” (ถนนเลียบหน้าผาชายทะเลกมลา) และวิลล่าขนาดกลางในพื้นที่ราบใกล้ชุมชน โดยรวมแล้วค่าเช่าในโซนกมลา-สุรินทร์มี ช่วงราคาตั้งแต่ประมาณ 80,000 บาท ไปจนถึงหลายแสนบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทำเลและทัศนียภาพ จุดเด่นของพื้นที่นี้คือความสงบและความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับผู้เช่าที่ต้องการหลีกหนีความพลุกพล่าน ตัวหาดสุรินทร์และหาดกมลาเองมีร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดีหลายแห่ง แต่ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ผู้พักอาศัยมักเดินทางไปใช้บริการในพื้นที่บางเทาหรือป่าตองเป็นครั้งคราว
โซนป่าตอง – กะหลิม – กะทู้ (ศูนย์กลางท่องเที่ยวฝั่งตะวันตก)
ป่าตอง เป็นย่านท่องเที่ยวหลักที่คึกคักที่สุดของภูเก็ต อยู่บนชายฝั่งตะวันตกตอนกลาง มีชื่อเสียงด้านสถานบันเทิงและชีวิตกลางคืน สำหรับการอยู่อาศัยระยะยาว ป่าตองอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกของหลายครอบครัวเนื่องจากความพลุกพล่านและเสียงดัง แต่ก็มีวิลล่าบางส่วนปล่อยเช่า โดยมากจะอยู่บนเนินเขารอบๆ ป่าตอง เช่น โซนกะหลิม (ทางเหนือของหาดป่าตอง) หรือด้านหลังตัวเมืองป่าตอง ซึ่งให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น วิลล่าในทำเลนี้ที่มีวิวทะเลป่าตองสามารถมีค่าเช่าสูง (อาจถึง 150,000-300,000 บาท/เดือน สำหรับบ้านหรูขนาดใหญ่) เนื่องจากความต้องการจากนักลงทุนหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการอยู่ใกล้แหล่งบันเทิง อย่างไรก็ตามก็มีบ้านเช่าขนาดย่อมและทาวน์เฮ้าส์ในย่านกะทู้ (ตัวอำเภอกะทู้ซึ่งอยู่หลังป่าตอง) ที่ค่าเช้าย่อมเยากว่า (หลักหลายหมื่นบาทต่อเดือน) เหมาะกับผู้ที่ทำงานในตัวเมืองป่าตองหรือย่านกะทู้เอง
กะทู้ ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนในระหว่างป่าตองกับตัวเมืองภูเก็ต ถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่ทำงานในภูเก็ต มีสนามกอล์ฟและโรงเรียนนานาชาติบางแห่ง วิลล่าและบ้านเดี่ยวในโซนกะทู้ (เช่น รอบๆ สนามกอล์ฟ Loch Palm หรือใกล้สถาบันการศึกษา) มีค่าเช่าปานกลาง (ประมาณ 30,000-80,000 บาท/เดือน ตามขนาดและความใหม่ของบ้าน) ข้อดีคืออยู่ไม่ไกลจากทั้งป่าตองและตัวเมือง การจราจรไม่หนาแน่นเท่าฝั่งท่องเที่ยว ทำเลนี้จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างการเข้าถึงเมืองและความสงบของชานเมือง
โซนกะตะ – กะรน (ชายฝั่งตะวันตกตอนล่าง)
ชายฝั่งตะวันตกด้านใต้ประกอบด้วยพื้นที่ หาดกะตะ และ หาดกะรน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยมอีกแห่งแต่มีบรรยากาศผ่อนคลายกว่า ป่าตอง โซนกะตะมีขนาดเล็กและเงียบสงบ โดยเฉพาะบริเวณ กะตะน้อย มีวิลล่าหรูตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวทะเล เช่นเดียวกับโซน กะรน ที่แม้จะมีโรงแรมและร้านค้าในย่านชุมชน แต่พื้นที่เนินเขาด้านหลังหาดกะรนก็มีบ้านพักขนาดใหญ่จำนวนหนึ่ง ค่าเช่าในโซนนี้อยู่ในระดับ ปานกลางถึงค่อนข้างสูง – วิลล่าขนาด 3-4 ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำอาจมีค่าเช่าประมาณ 70,000-150,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้เนื่องจากซัพพลายวิลล่าในย่านนี้มีไม่มากนักเมื่อเทียบกับบางเทาหรือราไวย์ ผู้เช่าที่ต้องการอยู่โซนนี้ควรเตรียมงบประมาณไว้พอสมควรและหาข้อมูลล่วงหน้า พื้นที่กะตะ-กะรนเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบชายหาดที่สวยงาม (หาดกะตะและกะรนขึ้นชื่อเรื่องน้ำใสทรายขาว) และบรรยากาศชุมชนชาวต่างชาติที่ไม่พลุกพล่านมากนัก ร้านอาหารและบาร์ในย่านนี้มีทั้งสไตล์ท้องถิ่นและนานาชาติ แต่การเดินทางไปยังห้างใหญ่หรือสนามบินจะใช้เวลานานกว่าพักอาศัยในโซนเหนือ
โซนราไวย์ – ในหาน (ชายฝั่งใต้สุด)
ราไวย์ และ ในหาน ตั้งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวต่างชาติที่มาพำนักระยะยาวและกลุ่มผู้เกษียณ เนื่องจากบรรยากาศเงียบสงบ มีชายหาดสวย (หาดในหาน) และชุมชนคนไทย-ต่างชาติผสมผสานที่เป็นมิตร วิลล่าให้เช่าในโซนราไวย์มีจำนวนมากและหลากหลายตั้งแต่บ้านเดี่ยวชั้นเดียวขนาดเล็กไปจนถึงพูลวิลล่าหรูบนเนินเขาที่มองเห็นวิวทะเล เช่น บริเวณใกล้แหลมพรหมเทพ ค่าเช่าเฉลี่ยในย่านนี้อยู่ในช่วง ประมาณ 40,000-120,000 บาทต่อเดือน สำหรับบ้านมาตรฐาน 2-3 ห้องนอน (ทั้งนี้มีวิลล่าระดับไฮเอนด์บางหลังที่อาจสูงถึง 200,000 บาทขึ้นไปหากอยู่ติดทะเลหรือวิวสวยมาก) จุดเด่นของราไวย์-ในหานคือค่าครองชีพที่ไม่สูงเกินไป ร้านอาหารและบริการต่างๆ ราคาเป็นมิตร มีตลาดอาหารทะเลสด ร้านสะดวกซื้อ และคอมมูนิตี้มอลล์รองรับความต้องการชีวิตประจำวัน ผู้เช่าที่พักในบริเวณนี้นิยมขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซค์ เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะค่อนข้างจำกัด
โซนฉลอง – วิชิต (รวมแหลมพันวา ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้)
พื้นที่ ฉลอง และ วิชิต อยู่ทางฝั่งตะวันออกและตอนใต้ของเกาะ ใกล้กับตัวเมืองภูเก็ต โซนฉลองเป็นที่ตั้งของท่าเรือฉลอง (Chalong Pier) ซึ่งเป็นจุดออกเรือไปเกาะต่างๆ และมีชุมชนคนไทย-ต่างชาติอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตนานาชาติ ร้านอาหาร โรงเรียนนานาชาติขนาดกลาง (เช่น โรงเรียน BCIS ใกล้กับวัดฉลอง) วิลล่าและบ้านเช่าในย่านฉลองมีให้เลือกมากมาย ทั้งในซอยใกล้วัด ใกล้ทะเลสาบ และบนเนินเขาทางไปถนนใหญ่ ค่าเช่าในฉลองอยู่ในเกณฑ์ ค่อนข้างย่อมเยากว่า ฝั่งตะวันตก โดยวิลล่า 2-3 ห้องนอนมาตรฐานอาจเริ่มต้นราว 30,000-60,000 บาท/เดือน เท่านั้น ทำให้เป็นที่สนใจของครอบครัวชาวไทยและ expat ที่ต้องการบ้านกว้างในงบจำกัด
วิชิต เป็นพื้นที่ที่ครอบคลุมบริเวณแหลมพันวา (Cape Panwa) ด้วย บริเวณแหลมพันวาเองขึ้นชื่อว่าเงียบสงบและเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูหลายแห่ง รวมถึง โครงการศรีพันวา ซึ่งเป็นวิลล่า-รีสอร์ตระดับไฮเอนด์ (มีทั้งส่วนที่ขายขาดและปล่อยเช่าในรูปแบบวิลล่าโรงแรม) การเช่าวิลล่าในย่านพันวามีตัวเลือกไม่มากนักและมักมีค่าเช่าสูง เนื่องจากที่ตั้งอยู่ปลายแหลมมีวิวทะเลสวยงามและเป็นทำเลที่ค่อนข้างไพรเวท สำหรับบริเวณวิชิตใกล้ตัวเมือง (เช่น ย่านถนนเจ้าฟ้าตะวันออก) มีบ้านเดี่ยวและวิลล่าสำหรับอยู่อาศัยแบบคนท้องถิ่นหรือข้าราชการอยู่พอสมควร ค่าเช่าไม่สูง (หลัก 20,000-50,000 บาท) แต่บ้านอาจไม่ได้ใหม่หรือหรูมากนัก ความได้เปรียบคืออยู่ใกล้ตัวเมืองภูเก็ต เดินทางเข้าเมืองหรือไปห้างใหญ่สะดวก
โซนป่าคลอก – แหลมยามู – อ่าวปอ (ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ)
บริเวณตำบล ป่าคลอก และแหลมยามู ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของภูเก็ต เป็นทำเลที่ เงียบสงบและเป็นชนบท มากกว่าย่านอื่น ๆ ไม่มีชายหาดลงเล่นน้ำเหมือนฝั่งตะวันตก แต่มีท่าเรือยอร์ชและวิวอ่าวที่สวยงาม เช่น อ่าวปอ และเกาะเล็กๆ รอบข้าง พื้นที่นี้มีโครงการวิลล่าระดับไฮเอนด์บางแห่งที่เน้นความเป็นส่วนตัวสุดๆ เช่น วิลล่าหรูที่แหลมยามู ซึ่งแต่ละหลังมีที่ดินขนาดใหญ่และการออกแบบที่หรูหรา (ค่าเช่าในโครงการดังกล่าวอาจสูงหลายแสนบาทต่อเดือน) นอกจากนี้ยังมีบ้านพักและวิลล่าขนาดกลางกระจายอยู่ตามชุมชนท้องถิ่น ในราคาที่เอื้อมถึงมากกว่า (ประมาณ 30,000-70,000 บาทต่อเดือน) ผู้ที่เลือกพักอาศัยในย่านป่าคลอก/อ่าวปอมักเป็นกลุ่มที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายอย่างแท้จริง และยอมรับการเดินทางที่ไกลจากตัวเมือง (ขับรถประมาณ 30-40 นาทีถึงตัวเมืองภูเก็ต) ข้อดีคือได้พื้นที่ใช้สอยและธรรมชาติที่สมบูรณ์ บางโครงการมีสนามกอล์ฟหรือมารีน่าบริการ เหมาะสำหรับผู้รักการเล่นเรือใบหรือกีฬาทางน้ำ
โซนไม้ขาว – ในยาง – ในทอน (พื้นที่ใกล้สนามบิน)
ไม้ขาว และ ในยาง ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของภูเก็ต ใกล้กับท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่มีชายหาดยาวและเงียบสงบ โดยไม้ขาวมีรีสอร์ตระดับ 5 ดาวหลายแห่งและเริ่มมีการพัฒนาโครงการวิลล่าหรูใหม่ๆ ในช่วงปีหลัง เช่น โครงการวิลล่าระดับไฮเอนด์ที่เน้นขายให้กับนักลงทุนต่างชาติ แล้วนำมาปล่อยเช่าระยะยาวหรือทำพูลวิลล่ารีสอร์ตให้เช่ารายเดือน ในขณะที่ หาดในยาง และ หาดในทอน เป็นชุมชนเล็กๆ ที่ยังคงความสงบและธรรมชาติ วิลล่าให้เช่าในโซนนี้มีจำนวนจำกัด ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักตากอากาศของเอกชนหรือวิลล่าในบริเวณรีสอร์ต (เช่น วิลล่าในบริเวณโรงแรมติดหาด) ค่าเช่าแตกต่างกันไปตามระดับของที่พัก: บ้านเดี่ยวธรรมดาใกล้ชุมชนอาจเช่าได้ในราคา ประมาณ 40,000-60,000 บาท/เดือน ส่วนพูลวิลล่าหรูติดชายหาดหรืออยู่ในโครงการระดับหรูก็อาจมีค่าเช่า แตะหลักหลายแสนบาทต่อเดือน เช่นเดียวกับโซนบางเทา เนื่องจากความพิเศษของทำเล ผู้เช่าที่สนใจย่านนี้มักเป็นกลุ่มที่ต้องการความสงบเป็นหลัก ชอบชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ และอาจเป็นกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสนามบินหรือเดินทางบ่อยเพราะทำเลที่อยู่ใกล้สนามบินที่สุด
โซนเมืองภูเก็ต – เกาะแก้ว – สะปำ (เขตชุมชนเมืองและปริมณฑล)
สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ใกล้สถานที่ทำงาน โรงเรียน และห้างสรรพสินค้า เขตตัวเมืองภูเก็ต และพื้นที่รอบนอกเช่น เกาะแก้ว, สะปำ และบริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 (บายพาส) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้จะไม่ได้ติดทะเลแต่ค่าครองชีพต่ำกว่าและเดินทางสะดวก วิลล่าในย่านเมืองและชานเมืองเหล่านี้มักเป็นบ้านเดี่ยวในโครงการจัดสรรสำหรับคนท้องถิ่นหรือวิลล่าสำหรับชาวต่างชาติที่มาทำงาน เช่น โครงการบ้านในพื้นที่เกาะแก้วใกล้กับ โรงเรียนนานาชาติบริติชภูเก็ต (BIS) ซึ่งได้รับความนิยมจากครอบครัวชาวต่างชาติที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ที่นี่ บ้านเดี่ยว 3-4 ห้องนอนในโครงการดังกล่าวอาจมีค่าเช่าอยู่ประมาณ 40,000-80,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับความใหม่และขนาดของบ้าน บางโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำหรือสนามเด็กเล่น
ย่านใจกลางเมืองภูเก็ต (เช่น ถนนเยาวราช, ถนนเทพกระษัตรีช่วงตัวเมือง) ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์หรือบ้านเรือนดั้งเดิม วิลล่าหรือบ้านเดี่ยวให้เช่าอาจมีไม่มากนัก ยกเว้นบ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่บางหลังนำมาปรับปรุงเป็นที่พักอาศัยหรือสำนักงานให้เช่า หากต้องการเช่าบ้านในเขตเมือง ผู้เช่าควรมองหาตามชานเมืองดังที่กล่าวข้างต้น จะมีตัวเลือกที่ทันสมัยและที่จอดรถสะดวกมากกว่า โดยสรุป โซนเมืองภูเก็ตและปริมณฑลเหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงาน-ไปเรียน และการเข้าถึงบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ค่าเช่าบ้านก็จะ ย่อมเยากว่าพื้นที่ติดทะเล ทำให้ผู้เช่าได้บ้านขนาดใหญ่ขึ้นในงบประมาณที่จำกัด แต่ต้องแลกกับการขับรถประมาณ 20-30 นาทีหากต้องการไปพักผ่อนที่ชายหาดฝั่งตะวันตก
ปัจจัยในการเลือกเช่าวิลล่า
เมื่อตัดสินใจเช่าวิลล่าในภูเก็ต ผู้เช่าควรพิจารณาปัจจัยหลายด้านเพื่อให้ได้ที่พักที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณของตน ปัจจัยสำคัญที่ควรนำมาประเมิน มีดังนี้:
- งบประมาณ: กำหนดช่วงงบประมาณค่าเช่าที่คุณสามารถจ่ายได้อย่างสบายใจ เนื่องจากวิลล่าในภูเก็ตราคาแตกต่างกันมาก การมีงบประมาณที่ชัดเจนจะช่วยคัดกรองตัวเลือก (เช่น วิลล่าขนาดกลางราคา 50,000-80,000 บาท/เดือน vs. วิลล่าหรู 200,000 บาทขึ้นไป/เดือน) นอกจากนี้ควรสอบถามว่าอัตราค่าเช่าที่ตกลงกันนั้นรวมค่าบริการส่วนกลาง การดูแลสระว่ายน้ำ/สวน หรืองบประมาณค่าสาธารณูปโภคหรือไม่ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ถูกต้อง
- ระยะเวลาเช่าและเงื่อนไขสัญญา: พิจารณาว่าต้องการเช่าในระยะสั้น (เช่น รายเดือน 1-3 เดือน) หรือระยะยาว (6 เดือน, 1 ปีขึ้นไป) โดยทั่วไปแล้วการเช่าระยะยาว (12 เดือน) มักได้รับอัตราค่าเช่ารายเดือนที่ถูกกว่าการเช่าไม่กี่เดือนมาก ในสัญญาเช่าควรตรวจสอบเงื่อนไขสำคัญ เช่น เงินมัดจำประกันความเสียหาย (ปกติมักวางมัดจำ 2 เดือน + ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน แต่ตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสำหรับผู้ให้เช่าที่เป็นธุรกิจอาจจำกัดให้เก็บมัดจำไม่เกิน 1 เดือน) เงื่อนไขการต่ออายุ/ยกเลิกสัญญา (เช่น ต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วันก่อนย้ายออก สามารถต่อสัญญาปีต่อปีได้หรือไม่ และมีการปรับค่าเช่าปีละกี่เปอร์เซ็นต์) และความรับผิดชอบในการบำรุงรักษา (เช่น หากเครื่องปรับอากาศเสียหรือหลังคารั่ว ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย) การทำความเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยป้องกันปัญหาขัดแย้งในภายหลัง
- ทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อม: เลือกทำเลที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณ หากคุณต้องทำงานหรือส่งบุตรหลานไปโรงเรียนทุกวัน การอยู่ใกล้ตัวเมืองหรือย่านที่มีโรงเรียนนานาชาติอาจสะดวกกว่า แต่หากคุณให้ความสำคัญกับวิวทะเลและความสงบ การเลือกวิลล่าบนชายฝั่งหรือบนเขาอาจคุ้มค่ากว่า ทั้งนี้ควรสำรวจสภาพแวดล้อมรอบวิลล่า เช่น ความหนาแน่นของชุมชน เสียงรบกวนจากร้านอาหารหรือสถานบันเทิง (หากอยู่ใกล้โซนท่องเที่ยว) รวมถึงดูทิศทางแดดและลม (บ้านที่หันหน้าทิศตะวันตกอาจร้อนบ่าย เป็นต้น) เพื่อให้แน่ใจว่าบรรยากาศการอยู่อาศัยจะถูกใจคุณ
- สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ใช้สอย: เปรียบเทียบสิ่งอำนวยความสะดวกภายในตัววิลล่าและภายในโครงการ เช่น จำนวนห้องนอน/ห้องน้ำ เพียงพอกับสมาชิกในครอบครัวหรือไม่, มีห้องแม่บ้านหรือห้องเก็บของหรือไม่, ครัวเป็นแบบครัวไทยแยกต่างหากหรือครัวยุโรป, มีที่จอดรถกี่คัน ภายในโครงการมีฟิตเนส สระว่ายน้ำส่วนกลาง สนามเด็กเล่น หรือร้านสะดวกซื้อหรือไม่ รายละเอียดเหล่านี้จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวของคุณ หากคุณต้องทำงานจากบ้าน (work from home) อาจต้องเลือกบ้านที่มีห้องทำงานหรือมุมสงบสำหรับตั้งโต๊ะทำงาน รวมถึงตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตที่รองรับในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย
- ความปลอดภัย: พิจารณาระดับความปลอดภัยของตัวบ้านและชุมชนโดยรอบ วิลล่าหลายแห่งอยู่ในโครงการที่มี ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มียามหรือประตูเข้าออกโครงการ (gated community) ซึ่งเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้พักอาศัย ในกรณีที่เป็นวิลล่าส่วนตัวนอกโครงการ ให้ตรวจสอบว่ามีรั้วรอบขอบชิด แข็งแรง มีระบบสัญญาณกันขโมยหรือกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้หรือไม่ รวมถึงดูสภาพชุมชนรอบข้างว่าปลอดภัยดี (เช่น ไม่มีประวัติอาชญากรรมหรือเหตุโจรกรรมบ่อย) การเยี่ยมชมสถานที่จริงในช่วงกลางคืนสักครั้งก่อนตัดสินใจเช่าก็จะช่วยประเมินบรรยากาศความปลอดภัยได้ดีขึ้น
- เฟอร์นิเจอร์และสภาพตัวบ้าน: วิลล่าบางแห่งให้เช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด (Fully Furnished) ขณะที่บางแห่งอาจให้เช่าแบบไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือมีให้บางส่วน ผู้เช่าควรตรวจสอบรายการเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รวมมากับบ้าน (เช่น มีเครื่องปรับอากาศครบทุกห้องหรือไม่, มีเครื่องซักผ้า/เครื่องล้างจานหรือไม่) เพื่อประเมินว่าต้องเตรียมซื้อหาเพิ่มเติมอะไรบ้าง นอกจากนี้ ควรตรวจดู สภาพของตัวบ้าน ว่าได้รับการดูแลรักษาดีเพียงใด สีผนัง พื้น บ้าน อายุของเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้หรือไม่ หากพบจุดชำรุดเล็กน้อย ควรแจ้งให้ผู้ให้เช้าทราบก่อนเข้าอยู่เพื่อให้แก้ไข หรืออย่างน้อยบันทึกเป็นหลักฐานแนบท้ายสัญญาเพื่อป้องกันการถูกหักเงินประกันในภายหลัง
- ชื่อเสียงของผู้ให้เช่าหรือผู้ดูแลทรัพย์สิน: หากเป็นไปได้ ควรศึกษาประวัติหรือชื่อเสียงของผู้ให้เช่า (Landlord) หรือบริษัทบริหารจัดการที่ดูแลวิลล่านั้นๆ เช่น อ่านรีวิวหรือสอบถามผู้เช่ารายก่อนๆ ว่าเจ้าของบ้านให้ความร่วมมือดีไหมเมื่อเกิดปัญหา การตอบสนองต่อการซ่อมแซมรวดเร็วหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าเจ้าของเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้องและสามารถทำสัญญาเช่าได้ถูกต้องตามกฎหมาย กรณีเช่าผ่านเอเจนต์ นายหน้ามืออาชีพจะช่วยจัดการเอกสารและเจรจาเงื่อนไขให้ซึ่งเป็นประโยชน์ แต่ก็ควรเลือกเอเจนต์ที่น่าเชื่อถือและมีใบอนุญาต
- ข้อจำกัดหรือนโยบายเฉพาะอื่นๆ: ตรวจสอบนโยบายเฉพาะของวิลล่าที่จะเช่า เช่น การอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าอยู่ (บางโครงการไม่อนุญาตสัตว์เลี้ยงหรืออาจมีการเรียกเก็บค่าประกันเพิ่มเติมกรณีมีสัตว์เลี้ยง) การสูบบุหรี่ภายในบ้าน (โดยมากจะห้ามสูบบุหรี่ในตัวบ้าน) จำนวนผู้พักอาศัยสูงสุด หรือ การใช้พื้นที่จัดงานสังสรรค์ เป็นต้น การทราบกฎระเบียบเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้านหรือนิติบุคคลภายหลัง
ข้อควรรู้ด้านกฎหมายและภาษีสำหรับผู้เช่าชาวไทย
การเช่าวิลล่าในฐานะผู้เช่า (โดยเฉพาะผู้เช่าชาวไทย) มีแง่มุมด้านกฎหมายและภาษีที่ควรทราบไว้เพื่อป้องกันปัญหาภายหลังและทำให้การเช่าเป็นไปอย่างถูกต้องยุติธรรม ดังนี้:
- สัญญาเช่าและความมีผลผูกพัน: สัญญาเช่าที่อยู่อาศัยถือเป็นสัญญาทางแพ่งที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ผู้เช่าควรทำสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ โดยในสัญญาควรระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น ข้อมูลผู้ให้เช่า/ผู้เช่า รายละเอียดทรัพย์สินที่เช่า ค่าเช่า ระยะเวลาเช่า เงื่อนไขการต่อสัญญา เงินมัดจำ ฯลฯ สำหรับ ภาษาที่ใช้ในสัญญา กฎหมายไทยกำหนดว่าสัญญาที่ทำกับผู้บริโภคคนไทยควรเป็นภาษาไทยหรือมีภาษาไทยกำกับ (ตัวอักษรไม่เล็กเกินกำหนด) เพื่อป้องกันการเสียเปรียบ ดังนั้นหากสัญญาเช่าเป็นภาษาอังกฤษ ควรขอฉบับภาษาไทยควบคู่
- ระยะเวลาสัญญาและการจดทะเบียน: สัญญาเช่าที่อยู่อาศัยทั่วไปมักมีระยะเวลา 1 ปีหรือน้อยกว่า ซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนต่อหน่วยงานรัฐก็มีผลบังคับได้ตามปกติ (ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537-571) อย่างไรก็ดี ตามกฎหมายไทย หากทำสัญญาเช่าที่มีระยะเวลาเกิน 3 ปี จะต้องนำไปจดทะเบียนต่อสำนักงานที่ดินจึงจะมีผลบังคับตามกฎหมาย ดังนั้นผู้เช่าโดยทั่วไปจึงนิยมทำสัญญา 1 ปี ต่ออายุไปทีละปี หากต้องการความมั่นคงระยะยาวอาจเจรจากับผู้ให้เช่าถึงแผนการต่อสัญญาในอนาคตหรือทำสัญญาระยะ 2-3 ปี (ซึ่งยังอยู่ใต้เกณฑ์ไม่ต้องจดทะเบียน)
- พระราชบัญญัติ (พรบ.) คุ้มครองผู้บริโภคเรื่องการเช่าอาคาร: ในปี 2561 เป็นต้นมา มีประกาศ คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาให้ธุรกิจเช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นสัญญาควบคุม ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรมหลายประการ เช่น ผู้ให้เช่าที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ (มีห้อง/บ้านให้เช่า 5 หน่วยขึ้นไป) ห้ามเรียกเก็บเงินประกันเกิน 1 เดือน และค่าเช่าล่วงหน้าเกิน 1 เดือน, ต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วันหลังหมดสัญญา, ต้องไม่กำหนดเงื่อนไขเอาเปรียบ เช่น ปรับค่าปรับล่วงหน้าเกินจริง, ห้ามผู้ให้เช่ายกเลิกสัญญาก่อนกำหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น ผู้เช่าควรทราบสิทธิเหล่านี้เพื่อปกป้องตนเอง อย่างไรก็ดี หากผู้ให้เช่าเป็นบุคคลธรรมดาที่ปล่อยเช่าบ้านเพียง 1-2 หลัง (ไม่เข้าเกณฑ์ผู้ประกอบธุรกิจ) อาจไม่ได้อยู่ใต้ข้อบังคับนี้ ผู้เช้าจึงควรต่อรองเงื่อนไขตามสมควรตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญา
- ภาษีและอากรแสตมป์: โดยทั่วไป ภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของบ้านเช่าจะเป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่า (เจ้าของทรัพย์สิน) ผู้เช่าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เว้นแต่จะมีการระบุไว้เป็นพิเศษในสัญญา ส่วนการชำระอากรแสตมป์สำหรับสัญญาเช่า (ในอัตรา 0.1% ของค่าเช่าตลอดอายุสัญญา) ตามกฎหมายถือเป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่า/ผู้เช่าที่จะต้องชำระเพื่อให้สัญญามีผลสมบูรณ์ หากไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ สัญญายังคงใช้ได้แต่จะมีปัญหาเรื่องการนำไปใช้เป็นหลักฐานในศาล (ต้องชำระอากรย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับ) ดังนั้นเพื่อความเรียบร้อย แนะนำให้จัดการปิดอากรแสตมป์บนสัญญาทันทีเมื่อเซ็นสัญญา โดยค่าอากรส่วนนี้มักเป็นจำนวนไม่มากและคู่สัญญาอาจตกลงแบ่งกันชำระ
- สิทธิตามกฎหมายของผู้เช่า: ผู้เช่ามีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญาอย่างสงบ หากผู้ให้เช่าผิดสัญญา เช่น ไม่ซ่อมแซมบ้านในส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของตนจนทำให้ผู้เช่าเดือดร้อนมาก หรือเข้ารบกวนการอยู่อาศัยโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผู้เช่าสามารถอ้างสิทธิตามสัญญาหรือกฎหมายเพื่อให้ผู้ให้เช่าปฏิบัติตามข้อตกลงได้ ในทางกลับกัน ผู้เช่าก็มีหน้าที่รักษาทรัพย์สินให้ใช้งานได้ตามปกติ หากผู้เช่าทำความเสียหาย จะต้องรับผิดชดใช้หรือยอมให้หักจากเงินมัดจำ นอกจากนี้ ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิปิดกั้นไม่ให้ผู้เช่าเข้าบ้านหรือตัดน้ำตัดไฟโดยพลการ แม้ผู้เช่าจะค้างค่าเช่า (ต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายเท่านั้น) ดังนั้นหากพบการกระทำดังกล่าว ผู้เช่าสามารถแจ้งความหรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือได้
- ข้อควรทราบเกี่ยวกับการเช่าสำหรับชาวไทย: แตกต่างจากชาวต่างชาติที่เช่าที่พักอาศัย ผู้เช่าชาวไทยไม่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายคนเข้าเมือง (เช่น ไม่ต้องรายงานที่พักอาศัยต่อตำรวจในแบบ ตม.30 เหมือนกรณีเจ้าของบ้านแจ้งพักคนต่างชาติ) อย่างไรก็ดี หากผู้เช่าเป็นนิติบุคคลไทย (เช่น บริษัทเช่าบ้านให้พนักงาน) อาจต้องดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% จากค่าเช่าและออกหนังสือรับรองการหักภาษีให้ผู้ให้เช่า ในกรณีทั่วไปที่เป็นการเช่าระหว่างบุคคลธรรมดา การชำระค่าเช่าเป็นเรื่องภายในที่คู่สัญญาจัดการกันเอง ผู้เช่าควรชำระค่าเช่าตรงเวลาและเก็บหลักฐานการชำระ (ใบเสร็จหรือหลักฐานโอนเงิน) ทุกครั้ง เพื่อป้องกันข้อโต้แย้งทางกฎหมายในอนาคต
คำแนะนำสำหรับการอยู่อาศัยระยะยาวในวิลล่า
เมื่อย้ายเข้าอยู่วิลล่าในภูเก็ตแบบระยะยาว การดูแลรักษาที่พักและการจัดการชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสมจะช่วยให้การอยู่อาศัยราบรื่นและมีความสุข คำแนะนำต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เช่าที่พักอาศัยในวิลล่าเป็นเวลานาน:
- ดูแลรักษาบ้านและทรัพย์สินอย่างสม่ำเสมอ: แม้ว่าวิลล่าส่วนใหญ่จะสร้างด้วยวัสดุคุณภาพ แต่การอยู่ในภูมิอากาศร้อนชื้นของภูเก็ตอาจทำให้เกิดปัญหาได้หากขาดการดูแล เช่น เชื้อราจากความชื้น, ปลวกหรือแมลงต่างๆ ดังนั้นผู้เช่าควรหมั่นทำความสะอาดบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศเป็นประจำ เพื่อลดความอับชื้น รวมถึงอาจพิจารณาจ้างบริการกำจัดแมลงแบบรายปีเพื่อป้องกันปลวกและสัตว์ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ควรดูแลสวนและบริเวณภายนอก เช่น ตัดหญ้า ตัดแต่งต้นไม้ ไม่ให้รกรุงรัง (ในกรณีที่สัญญาเช่าระบุว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้เช่า) หากวิลล่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัว ควรตกลงกับเจ้าของตั้งแต่แรกว่าใครจะเป็นผู้ดูแลเรื่องทำความสะอาดและปรับสภาพน้ำ บ่อยครั้งผู้ให้เช่าจะจัดหาบริการสระว่ายน้ำรายสัปดาห์มาให้ แต่หากไม่รวม ผู้เช่าอาจต้องว่าจ้างช่างสระว่ายน้ำเองและควบคุมคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานเพื่อสุขอนามัย
- บริหารจัดการค่าสาธารณูปโภค: การอยู่วิลล่าหมายถึงผู้เช่ามีภาระรับผิดชอบในการชำระค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยตรง (เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่นในสัญญา) ผู้เช่าควรสอบถามเจ้าของบ้านถึงขั้นตอนการชำระบิลต่างๆ เช่น ค่าไฟฟ้าออกใบแจ้งหนี้ในชื่อใคร และสามารถชำระผ่านช่องทางใดได้บ้าง (ธนาคาร, แอปพลิเคชัน, ที่ทำการไปรษณีย์ เป็นต้น) รวมทั้งควรจดจำวันที่ครบกำหนดชำระเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดน้ำหรือไฟ กรณีที่พักอาศัยหลายคน ควรจัดสรรความรับผิดชอบว่าใครดูแลเรื่องการจ่ายบิลใดเพื่อไม่ให้เกิดการตกหล่น
- รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านและชุมชน: การอยู่อาศัยระยะยาวหมายถึงการกลมกลืนเข้ากับชุมชนท้องถิ่น ผู้เช่าควรเคารพกฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติของหมู่บ้านหรือชุมชน เช่น งดส่งเสียงดังหลังเวลาที่กำหนด, จอดรถในบริเวณที่ไม่กีดขวาง, ทิ้งขยะลงถังและแยกขยะตามที่ชุมชนกำหนด การเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน (ถ้ามี) หรือการทักทายเพื่อนบ้านอย่างสุภาพจะสร้างมิตรภาพและเครือข่ายความช่วยเหลือที่ดี เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อนบ้านที่ดีอาจช่วยดูแลบ้านให้หรือแจ้งเตือนหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
- การต่อสัญญาและการปรับตัวระยะยาว: หากผู้เช่าตั้งใจจะพักอาศัยในวิลล่าหลังเดิมเกินกว่าอายุสัญญาแรกเริ่ม ควรติดต่อผู้ให้เช่าล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือนก่อนสัญญาหมดอายุ เพื่อหารือเรื่องการต่อสัญญา เงื่อนไขค่าเช่าใหม่ (หากมีการปรับขึ้นหรือลง) และรายละเอียดอื่นๆ การสื่อสารแต่เนิ่นๆ จะแสดงถึงความรับผิดชอบและความจริงใจ ทำให้เจ้าของยินดีต่อสัญญาให้ นอกจากนี้ ผู้เช่าควรเตรียมตัวรับมือกับการปรับตัวในระยะยาว เช่น ช่วง Low Season ที่ภูเก็ตมีฝนตกชุกและนักท่องเที่ยวบางตา บรรยากาศอาจเงียบกว่าปกติ ผู้เช่าอาจวางแผนทำกิจกรรมอื่นๆ หรือเดินทางกลับภูมิลำเนาชั่วคราวได้ตามสะดวก ในขณะที่ช่วง High Season การจราจรบนถนนและตามสถานที่ท่องเที่ยวอาจหนาแน่น ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อเลี่ยงรถติด
- การดูแลบ้านเมื่อไม่ได้อยู่อาศัยชั่วคราว: ในกรณีที่ผู้เช่าต้องเดินทางออกจากภูเก็ตเป็นเวลานาน (เช่น กลับบ้านช่วงเทศกาลหรือเดินทางต่างประเทศหลายสัปดาห์) ควรเตรียมบ้านให้ปลอดภัยและพร้อมใช้งานเมื่อกลับมา เช่น ตรวจสอบการล็อกประตูหน้าต่างทุกจุด ปิดแก๊สและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ฝากเพื่อนบ้านหรือนิติบุคคลช่วยสอดส่องเป็นครั้งคราว หากเป็นการไม่อยู่หลายเดือน อาจจ้างแม่บ้านให้มาทำความสะอาดและระบายอากาศเดือนละครั้งเพื่อป้องกันกลิ่นอับหรือปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อย่างเชื้อราและฝุ่นสะสม การเตรียมการล่วงหน้าเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของทรัพย์สินและลดงานหนักในการซ่อมแซมเมื่อคุณกลับมา
- ติดต่อสื่อสารกับผู้ให้เช่า/ผู้ดูแลตลอดการพักอาศัย: สร้างช่องทางการสื่อสารที่ดีกับเจ้าของบ้านหรือตัวแทนผู้ดูแล (เช่น ผ่านโทรศัพท์ อีเมล หรือแอปแชท) เพื่อแจ้งปัญหาหรือข้อซักถามต่างๆ ระหว่างการเช่า หากพบปัญหาในบ้าน เช่น ท่อประปารั่ว หลังคารั่ว เครื่องใช้ไฟฟ้ามีปัญหา ควรแจ้งผู้ให้เช่าทันทีเพื่อร่วมกันหาวิธีแก้ไข อย่าปล่อยทิ้งไว้จนปัญหาลุกลามรุนแรง การสื่อสารอย่างสุภาพและตรงไปตรงมาจะช่วยสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกัน และทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ผู้เช่ายังสามารถขอคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากผู้ให้เช่าซึ่งมักมีประสบการณ์เกี่ยวกับบ้าน เช่น แนะนำช่างซ่อมที่ไว้ใจได้ ร้านค้าอุปกรณ์ในพื้นที่ เป็นต้น ความร่วมมือที่ดีจะทำให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจและจบการเช่าอย่างราบรื่น (เช่น ได้รับเงินมัดจำคืนครบถ้วน และเจ้าของบ้านได้รับบ้านคืนในสภาพดี)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเช่าวิลล่าในภูเก็ต
- Q: ค่าเช่าวิลล่าในภูเก็ตเฉลี่ยประมาณเท่าไร?
A: ค่าเช่าวิลล่าในภูเก็ตมีความหลากหลายมากขึ้นอยู่กับทำเล ขนาด และความหรูหรา โดยทั่วไปวิลล่าขนาดกลาง 2-3 ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำเล็กน้อยในทำเลมาตรฐานอาจมีค่าเช่าประมาณ 50,000-100,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่วิลล่าหรูริมทะเลหรือบนเขาวิวทะเลสวยอาจมีค่าเช่า หลักหลายแสนบาทต่อเดือน ทั้งนี้ช่วงราคาเริ่มต้นของวิลล่าให้เช่าในตลาดจะอยู่ราว 40,000 บาท/เดือน สำหรับบ้านหลังเล็กหรือวิลล่าในตัวเมือง และอาจสูงถึงหลักล้านบาทต่อเดือนสำหรับคฤหาสน์หรูพิเศษไม่กี่แห่ง ค่าเช่าเฉลี่ยกลางๆ เมื่อรวมทุกประเภทจะอยู่ประมาณสองถึงสามแสนบาทต่อเดือน - Q: ระยะเวลาสัญญาเช่าปกติของวิลล่าในภูเก็ตเป็นเท่าไร?
A: ปกติแล้วผู้ให้เช่ามักต้องการทำสัญญาเช่า อย่างน้อย 1 ปี สำหรับการเช่าระยะยาว เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่คุ้มค่ากับการปล่อยเช่าและการจัดการต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจมีการพิจารณาสัญญาระยะสั้นกว่า เช่น 6 เดือน โดยเฉพาะหากเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือผู้ให้เช่าต้องการเติมอัตราการเข้าพักในช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งนี้การเช่ารายเดือนแบบไม่ทำสัญญาระยะยาว (month-to-month) ในวิลล่าอาจหาได้ยากและมักมีอัตราค่าเช่าที่สูงกว่าปกติมาก ผู้เช่าควรพร้อมเซ็นสัญญา 1 ปีเพื่อให้ได้ราคาที่ประหยัดและมีความมั่นคงในการอยู่อาศัยมากกว่า - Q: การวางเงินมัดจำและค่าใช้จ่ายแรกเข้าทำอย่างไร?
A: โดยทั่วไป เงินมัดจำประกันความเสียหาย ที่ผู้เช่าต้องวางให้ผู้ให้เช่าจะอยู่ที่ 2 เดือนค่าเช่า และจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าอีก 1 เดือน ณ วันทำสัญญาเข้าอยู่ (รวมเป็นชำระ 3 เดือน ณ วันเริ่มสัญญา) เช่น หากค่าเช่า 50,000 บาท/เดือน ผู้เช่าจะจ่ายมัดจำ 100,000 + ค่าเช่าล่วงหน้า 50,000 รวม 150,000 บาท ทั้งนี้เงินมัดจำจะได้รับคืนเมื่อสิ้นสุดสัญญาหากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน กรณีผู้ให้เช่าเป็นบริษัทหรือปล่อยเช่าเชิงธุรกิจ ข้อกฎหมายปัจจุบันกำหนดให้เก็บมัดจำได้ไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งผู้เช่าสามารถต่อรองตามหลักการนี้ได้ นอกจากนี้ผู้เช่าอาจต้องชำระค่าบริการส่วนกลางรายเดือน (ถ้ามี) หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ (เช่น ค่าสมาชิกรายปีของหมู่บ้าน หากระบุในสัญญา) โดยควรสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนเซ็นสัญญา - Q: วิลล่าให้เช่าส่วนมากมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบหรือไม่?
A: วิลล่าส่วนใหญ่ที่ปล่อยเช่าระยะยาวในภูเก็ตมักจะมี เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมอยู่ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะวิลล่าที่เจ้าของตั้งใจปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติหรือใช้เป็นบ้านพักตากอากาศมาก่อน (เช่น จะมีแอร์ครบทุกห้อง ครัวบิวท์อินพร้อมอุปกรณ์พื้นฐาน โซฟา โต๊ะอาหาร เตียงที่นอน ตู้เสื้อผ้า เป็นต้น) อย่างไรก็ตาม ความครบครันของเฟอร์นิเจอร์จะแตกต่างกันไป บางแห่งตกแต่งครบพร้อมอยู่ (Fully Furnished) บางแห่งอาจมีให้บางส่วน ผู้เช่าควรตรวจสอบ รายการทรัพย์สิน (Inventory List) ที่แนบท้ายสัญญาให้ละเอียดว่าอะไรบ้างที่รวมอยู่ และตกลงกับผู้ให้เช่าหากต้องการขอเพิ่มหรือเอาเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดออก นอกจากนี้ตรวจสอบสภาพของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญ (เช่น ฟูกที่นอน โซฟา เครื่องใช้ไฟฟ้า) ว่าอยู่ในสภาพดี หากมีความเสียหายเล็กน้อยควรถ่ายรูปและบันทึกไว้ในวันรับมอบบ้านเพื่อป้องกันปัญหาในวันคืนบ้าน - Q: สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยง (สุนัข/แมว) ในบ้านเช่าได้หรือไม่?
A: ขึ้นอยู่กับ นโยบายของผู้ให้เช่าและกฎของโครงการ นั้นๆ เป็นสำคัญ วิลล่าหลายแห่งโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวมีรั้วรอบมักจะอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้หากผู้เช้าดูแลความสะอาดและความเรียบร้อย และบางแห่งอาจขอเพิ่มเงินประกันความเสียหายเล็กน้อยกรณีนำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก อย่างไรก็ดี วิลล่าในโครงการจัดสรรบางแห่งหรือวิลล่าที่อยู่ในบริเวณรีสอร์ตอาจมีข้อจำกัดไม่ให้เลี้ยงสัตว์ (เนื่องจากเหตุผลด้านสุขอนามัยหรือรบกวนเพื่อนบ้าน) ดังนั้นผู้เช่าที่มีสัตว์เลี้ยงควรแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบตั้งแต่ต้นและระบุในสัญญาให้ชัดเจน นอกจากนี้ควรพิจารณาความเหมาะสมของตัวบ้าน เช่น มีพื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง มีรั้วมิดชิดปลอดภัย และจัดการเรื่องเก็บของเสียสัตว์เลี้ยงไม่ให้เกิดปัญหากับชุมชนโดยรอบ - Q: ค่าสาธารณูปโภค (น้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ต) รวมอยู่ในค่าเช่าหรือไม่?
A: โดยทั่วไปในการเช่าระยะยาว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และบริการทำความสะอาด จะไม่รวมอยู่ในค่าเช่ารายเดือน ผู้เช่าต้องรับผิดชอบชำระเองตามการใช้งานจริง ค่าไฟฟ้าในภูเก็ตคิดตามอัตราของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ประมาณหน่วยละ 5 บาท มีการปรับตามค่า FT ในแต่ละช่วง) ส่วนน้ำประปาคิดตามการประปาภูมิภาคซึ่งอัตราไม่สูงมาก (มักไม่เกินหลักไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือนสำหรับการใช้ทั่วไป) ผู้เช่าสามารถขอติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านในชื่อของตนเองกับผู้ให้บริการ (TRUE, 3BB, AIS Fiber ฯลฯ) ได้ตามพื้นที่ที่ให้บริการ ในบางกรณีที่วิลล่าตั้งอยู่ในรีสอร์ตหรือโครงการคอนโดที่มีการปล่อยเช่าระยะสั้นด้วย ผู้ให้เช่าอาจเสนอรวมบิลต่างๆ เป็นราคาเหมารวม แต่สำหรับการเช่าระยะยาวข้ามเดือนข้ามปี แนะนำให้แยกจ่ายตามจริงจะคุ้มค่ากว่า ผู้เช่าควรถามผู้ให้เช่าถึงวิธีการชำระบิล ค่าขยะหรือค่าดูแลสวน (ถ้ามีการเรียกเก็บ) เพื่อบริหารงบประมาณได้ถูกต้อง - Q: หากเกิดปัญหาภายในวิลล่า เช่น ไฟดับ น้ำไม่ไหล หรือของใช้ชำรุด ควรทำอย่างไร?
A: ในกรณีเกิดปัญหาฉุกเฉินพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้าขัดข้องหรือน้ำประปาไม่ไหล ผู้เช่าควรตรวจสอบเบื้องต้นก่อนว่าเป็นปัญหาเฉพาะในบ้านหรือทั้งบริเวณ (เช่น ดูเบรกเกอร์ไฟในบ้านหรือสอบถามเพื่อนบ้าน) หากเป็นปัญหาเฉพาะบ้าน เช่น ไฟดับเพราะเบรกเกอร์ตัด สามารถลองแก้ไขเบื้องต้นโดยเปิดเบรกเกอร์ใหม่ แต่ถ้าไฟยังดับหรือเป็นปัญหาทางเทคนิค ควรรีบแจ้งผู้ให้เช่าหรือตัวแทนดูแลทรัพย์สินทันที เพื่อให้เขาประสานงานช่างมืออาชีพเข้ามาซ่อมแซม สำหรับของใช้ภายในบ้านที่ชำรุด (เช่น เครื่องปรับอากาศน้ำหยด, เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย) การแจ้งผู้ให้เช่าทันทีจะทำให้ได้รับการแก้ไขเร็วและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม โดยทั่วไปผู้ให้เช่ามักยินดีซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหายจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานอยู่แล้ว ผู้เช่าไม่ควรซ่อมเองหากไม่ชำนาญเพราะอาจทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ควรเก็บเบอร์ติดต่อฉุกเฉินต่างๆ ไว้ เช่น เบอร์ช่างไฟ/ประปาที่ผู้ให้เช่าแนะนำ, เบอร์นิติบุคคลโครงการ (ถ้ามี), รวมถึงสายด่วนเหตุฉุกเฉินในพื้นที่ เผื่อใช้เมื่อจำเป็น - Q: จะค้นหาวิลล่าให้เช่าในภูเก็ตได้จากแหล่งข้อมูลใดบ้าง?
A: ปัจจุบันมีช่องทางหลายอย่างในการค้นหาวิลล่าเช่าในภูเก็ต ช่องทางออนไลน์ที่นิยม ได้แก่ เว็บไซต์ประกาศอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เช่น Dot Property, DDproperty, FazWaz, Kaidee Property ซึ่งมีรายการวิลล่าปล่อยเช่าพร้อมรูปถ่ายและข้อมูลรายละเอียด ผู้สนใจสามารถใช้ฟิลเตอร์ค้นหาตามงบประมาณ ทำเล จำนวนห้องนอนที่ต้องการได้สะดวก นอกจากนี้ยังมี กลุ่มบนสื่อสังคมออนไลน์ (เช่น กลุ่ม Facebook ของ expat ในภูเก็ต หรือกลุ่มซื้อ-ขาย-เช่าบ้านภูเก็ต) ที่มีการลงประกาศโดยเจ้าของบ้านหรือเอเจนต์อยู่เป็นประจำ อีกช่องทางคือการใช้ บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น ที่เชี่ยวชาญตลาดภูเก็ต นายหน้ามืออาชีพจะช่วยคัดสรรวิลล่าที่ตรงความต้องการ จัดนัดชมบ้าน และช่วยเจรจาเงื่อนไขสัญญาโดยผู้เช่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย (ตามธรรมเนียม ค่านายหน้าจะเรียกเก็บจากผู้ให้เช่า) การผสมผสานใช้หลายช่องทางจะช่วยให้ผู้เช่าเห็นตัวเลือกที่หลากหลายและได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
คอนโดยอดนิยมใน Phuket

ลุมพินี เซ็นเตอร์ แฮปปี้แลนด์

ดีลักซ์ คอนโดมิเนียม

ป่าตอง ทาวเวอร์ ซีวิว คอนโด







































































































































































































































































































































