ทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในเกาะสมุย: คู่มือเช่าและลงทุนสำหรับผู้เช่าและนักลงทุนไทย
เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะท่องเที่ยวระดับโลกที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาพำนักพักผ่อนหรืออยู่อาศัยระยะยาวเพิ่มมากขึ้นทุกปี ด้วยความงดงามของชายหาดและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แน่นอนว่าตลาดบ้านเช่าและทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในเกาะสมุยก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย คู่มือฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลอย่างเป็นระบบแก่ทั้งผู้เช่าชาวไทยที่กำลังมองหาทาวน์เฮ้าส์บนเกาะสมุย และนักลงทุนหรือเจ้าของทรัพย์สินชาวไทยที่ต้องการปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์ให้เกิดผลตอบแทนคุ้มค่า เนื้อหาครอบคลุมภาพรวมตลาดเช่าปัจจุบัน ประเภทและระดับราคาทาวน์เฮ้าส์ที่มีให้เช่าในสมุย ทำเลยอดนิยมสามแห่งได้แก่ ย่านหาดเฉวง, ย่านหาดละไม, และย่านบ่อผุด รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเรื่องกลุ่มผู้เช่าเป้าหมาย แนวโน้มผลตอบแทนการลงทุน ตลอดจนสิทธิของผู้เช่าและคำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับทั้งผู้เช่าและผู้ปล่อยเช่า
บทความนี้เขียนในรูปแบบคู่มืออย่างเป็นทางการ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายแต่ครอบคลุมข้อมูลสำคัญอย่างครบถ้วน เป้าหมายคือช่วยให้ผู้อ่านชาวไทยได้เข้าใจตลาดการเช่า–ปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์ในเกาะสมุยอย่างถ่องแท้ สามารถนำความรู้นี้ไปประกอบการตัดสินใจเช่าที่อยู่อาศัยหรือการลงทุนได้อย่างมั่นใจ พร้อมกันนี้ยังจัดโครงสร้างหัวข้อเป็นระเบียบชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาประเด็นที่ต้องการ โดยเฉพาะการเจาะลึกทั้ง 3 ทำเลหลักของสมุยที่มีความโดดเด่นแตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทั้งภาพรวมและรายละเอียดเชิงลึกในแต่ละส่วนอย่างครบถ้วน
ไม่ว่าคุณจะเป็น ผู้เช่าที่กำลังมองหาทาวน์เฮ้าส์ในฝันบนเกาะสมุย หรือ นักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่าทรัพย์สินให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด คู่มือนี้รวบรวมข้อมูลปัจจุบัน (อัปเดตปี 2566-2567) และเคล็ดลับที่มีประโยชน์ไว้ให้แล้ว มาเริ่มต้นสำรวจตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์บนเกาะสวรรค์แห่งนี้ไปด้วยกันตั้งแต่ภาพรวมจนถึงรายละเอียดในแต่ละย่านกันเลยครับ/ค่ะ
ภาพรวมตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์ในเกาะสมุย
ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าบนเกาะสมุยมีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างน่าสนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เกาะสมุยต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มาพำนักระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล (Digital Nomads), ผู้เกษียณอายุที่มองหาที่อยู่ภูมิอากาศสบาย, ตลอดจน คนไทยจากเมืองใหญ่ที่ย้ายมาทำงานหรือต้องการคุณภาพชีวิตแบบเกาะ แนวโน้มนี้เองที่ส่งผลให้ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยทุกประเภทบนสมุยเพิ่มสูงขึ้นมาก
ทาวน์เฮ้าส์ (Townhouse) กลายมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมอันดับต้นๆ ในตลาดเช่าบ้านบนเกาะสมุย รองจากวิลล่าหรือบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ เนื่องจากทาวน์เฮ้าส์มักมีค่าเช่าที่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวิลล่าหรู แต่ยังมีพื้นที่ใช้สอยและความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนต์ขนาดเล็ก ตามข้อมูลจากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์สมุยช่วงปี 2561-2565 ส่วนแบ่งการปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์มีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดิมทีปี 2561 ทาวน์เฮ้าส์คิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของตลาดบ้านเช่าทั้งหมดบนเกาะ แต่ในปี 2565 สัดส่วนนี้ขยับขึ้นใกล้เคียง 38% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2566-2567 นั่นหมายความว่าผู้เช่ายังคงมองหาทาวน์เฮ้าส์มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอบโจทย์ทั้งด้านราคาที่สมเหตุสมผลและรูปแบบการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย
ด้านอุปทานหรือจำนวนบ้านที่ปล่อยเช่าก็เพิ่มขึ้นตามดีมานด์เช่นกัน นักลงทุนไทยและต่างชาติเริ่มหันมาซื้อหรือพัฒนาทาวน์เฮ้าส์บนสมุยเพื่อตอบสนองตลาดเช่า โดยเฉพาะในทำเลที่ได้รับความนิยม (ซึ่งจะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไป) บางโครงการพัฒนาใหม่ในสมุยเสนอขายทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดพร้อมสัญญาการันตีผู้เช่าและผลตอบแทน เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน ปรากฏการณ์นี้ช่วยเพิ่มจำนวนยูนิตทาวน์เฮ้าส์ปล่อยเช่าให้เพียงพอกับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น ปัจจุบันมีประกาศปล่อยเช่าบ้าน/ทาวน์เฮ้าส์ในเกาะสมุยรวมหลายร้อยยูนิตกระจายทั่วเกาะ (ข้อมูลปี 2566 มีมากกว่า 700 ยูนิตประกาศเช่าในเว็บไซต์อสังหาฯ ชื่อดัง)
สิ่งที่น่าสนใจคือ กลุ่มผู้เช่าระยะยาวคุณภาพกำลังเติบโตในสมุย ไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวชั่วคราว แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่มาทำงานระยะยาว ครอบครัวชาวต่างชาติที่ย้ายตามงานหรือมาตั้งธุรกิจบนเกาะ รวมถึงคนไทยที่ย้ายถิ่นฐานมาทำงานหรือทำธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวในสมุย กลุ่มเหล่านี้มักมองหาที่อยู่อาศัยแบบบ้านที่มีพื้นที่และความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ทำให้ทาวน์เฮ้าส์ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากตอบสนองทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอยหลายชั้นสำหรับจัดสรรเป็นห้องนอน ห้องทำงาน และมีที่จอดรถหรือพื้นที่เล็กๆ หน้าบ้านของตนเอง ในขณะที่ราคาเช่าก็ไม่สูงเกินไปเมื่อแบ่งตามจำนวนผู้พักอาศัย (เช่น กลุ่มเพื่อนร่วมเช่าหรือครอบครัว)
อีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตลาดเช่าสมุยคือ การพัฒนาสาธารณูปโภคและบริการบนเกาะที่มีความพร้อม ปัจจุบันสมุยมีทั้งโรงเรียนนานาชาติคุณภาพดี 4-5 แห่ง, โรงพยาบาลมาตรฐานสูงหลายแห่ง (รวมถึงโรงพยาบาลกรุงเทพสมุย), ศูนย์การค้าใหญ่เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัลสมุย, เทสโก้โลตัส, แม็คโคร, บิ๊กซี ฯลฯ รวมถึงสนามบินนานาชาติสมุยที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออกเกาะ สาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างไฟฟ้า น้ำประปา อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็ครอบคลุมทั่วถึง ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ สมุยจึงกลายเป็น “เมืองเล็กในฝัน” ที่สามารถอยู่อาศัยและทำงานได้จริงจังในระยะยาว ผู้เช่าจำนวนมากจึงมั่นใจเลือกสมุยเป็นบ้านหลังที่สอง ส่งผลดีต่อความต้องการเช่าบ้านระยะยาวทุกประเภท
โดยสรุป ภาพรวมตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์ในเกาะสมุย ณ ปัจจุบันถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น ดีมานด์สูง อุปทานเพิ่ม และมีแนวโน้มที่ตลาดจะขยายตัวต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้ สำหรับผู้เช่า นี่หมายถึงตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นในราคาที่แข่งขันได้ ผู้เช่าสามารถหาอสังหาฯที่ตรงใจและงบประมาณได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ปล่อยเช่าหรือนักลงทุน ก็หมายถึงโอกาสสร้างรายได้และผลตอบแทนที่น่าสนใจจากทรัพย์สินบนเกาะแห่งนี้ ทั้งนี้ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่าควรศึกษาองค์ประกอบต่างๆ ของตลาดให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ ซึ่งในหัวข้อต่อๆ ไป เราจะไปเจาะลึกทำเลยอดนิยมบนสมุยและข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
ทำเลยอดนิยมสำหรับทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าบนเกาะสมุย
เกาะสมุยมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก (ประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร) แต่ละโซนของเกาะมีบรรยากาศและจุดเด่นเฉพาะตัว การเลือกทำเลที่พักบนสมุยจึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้เช่าเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม มีอยู่ 3 ทำเลหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเช่าที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เจริญที่สุดและสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตของทั้งคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ทำเลทั้งสาม ได้แก่ ย่านหาดเฉวง, ย่านหาดละไม, และ ย่านบ่อผุด/ฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจ ซึ่งแต่ละแห่งมีลักษณะตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์แตกต่างกันไป ดังนี้
ทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในย่านหาดเฉวง
“หาดเฉวง” คือทำเลดาวเด่นอันดับหนึ่งของเกาะสมุยเมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวและความเจริญ หาดเฉวงตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะ มีชายหาดทรายขาวยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งบนสมุย พื้นที่รอบๆ หาดเฉวงพัฒนาจนกลายเป็นศูนย์กลางความคึกคักของเกาะ รายล้อมด้วยโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหารนานาชาติ บาร์และสถานบันเทิงยามค่ำคืน ห้างสรรพสินค้า (เช่น เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย) คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัดคนเดิน แหล่งช้อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกด้าน นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเลือกพักบริเวณนี้เมื่อต้องการความสะดวกและสีสัน ส่งผลให้ย่านเฉวงกลายเป็นทำเลที่ “ฮอต” ที่สุดทั้งสำหรับการซื้อขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์บนสมุย
ลักษณะตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์ในเฉวง: เนื่องจากเฉวงเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าสูงที่สุด ค่าเช่าบ้านและทาวน์เฮ้าส์ในย่านนี้จึงสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ บนเกาะโดยเปรียบเทียบ โดยค่าเช่าบ้านเฉลี่ยใกล้หาดเฉวง (รวมทุกประเภททั้งบ้านเดี่ยว วิลล่า และทาวน์เฮ้าส์) อยู่ที่ราว ฿100,000 ต่อเดือน (ข้อมูลกลางปี 2566) ซึ่งค่านี้สะท้อนถึงอสังหาฯ หลากหลายระดับตั้งแต่วิลล่าหรูริมทะเลราคาหลายแสนบาทต่อเดือน ไปจนถึงบ้าน/ทาวน์เฮ้าส์ขนาดเล็กในตัวเมืองที่ราคาเอื้อมถึงกว่า อย่างไรก็ตาม หากโฟกัสเฉพาะ ทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านแถวในย่านเฉวง จะพบว่ามีตัวเลือกหลายช่วงราคา เช่น
- ทาวน์เฮ้าส์ขนาดเล็กหรืออาคารพาณิชย์ดัดแปลง ในซอยใกล้หาดหรือย่านตลาด อาจมีค่าเช่าเริ่มต้นประมาณ ฿6,000–฿15,000/เดือน เท่านั้น (ตัวอย่าง: ทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว 1 ห้องนอน ใกล้เซ็นทรัลสมุย มีเฟอร์นิเจอร์ครบ ให้เช่าเดือนละประมาณ 7,000 บาท) กลุ่มนี้เหมาะกับผู้เช่างบจำกัดหรือต้องการอยู่ในทำเลเฉวงแต่ยอมรับสภาพบ้านที่เรียบง่าย ไม่หรูหรา
- ทาวน์เฮ้าส์มาตรฐาน 2-3 ห้องนอน ในย่านเฉวงหรือพื้นที่เชื่อมต่อ (เช่น เฉวงใน, เฉวงใหญ่, ซอยพรุเฉวง ฯลฯ) ที่มีพื้นที่ใช้สอยราว 80-150 ตร.ม. มักตกแต่งพร้อมอยู่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ เช่น เครื่องปรับอากาศ ครัว และที่จอดรถ ค่าเช่าอยู่ในช่วงประมาณ ฿20,000–฿50,000/เดือน ตามความใหม่ของบ้าน ทำเล (ยิ่งใกล้ทะเลหรือถนนใหญ่ราคายิ่งสูง) และขนาดห้องนอน กลุ่มนี้เป็นที่ต้องการของทั้งชาวต่างชาติทำงานในสมุยและคนไทยมีครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการอยู่ใกล้ความเจริญ
- ทาวน์โฮมหรูหรือบ้านแฝดระดับไฮเอนด์ ในโครงการใหม่ใกล้เฉวง หรือวิลล่าติดกันแบบเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ ค่าเช่าอาจอยู่ในระดับ ฿60,000–฿100,000/เดือนขึ้นไป ซึ่งบางครั้งราคาเข้าใกล้วิลล่าหลังเดี่ยวเลยทีเดียว คุณภาพและทำเลของอสังหาฯ กลุ่มนี้มักยอดเยี่ยม เช่น อยู่ในซอยติดหาดเฉวง มีวิวทะเล หรือเป็นบ้านสร้างใหม่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ผู้เช่ามักเป็นกลุ่มรายได้สูง เช่น ผู้บริหารชาวต่างชาติ เจ้าของธุรกิจที่พำนักทั้งครอบครัว หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะยาวที่ต้องการความสะดวกสบายเต็มที่
ความต้องการเช่า (ดีมานด์) ในย่านเฉวง สูงตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว (พ.ย.–เม.ย.) จะมีผู้สนใจเช่าระยะสั้นและระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ในขณะที่ฤดูโลว์ซีซั่นก็ยังมีดีมานด์จากชาวต่างชาติที่พักอาศัยระยะยาว (นักเรียนโรงเรียนนานาชาติ พนักงานโรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ) และคนไทยที่ทำงานบนเกาะต่อเนื่อง ช่วยให้ตลาดเช่าค่อนข้างคึกคักสม่ำเสมอ ผู้เช่าทาวน์เฮ้าส์ในเฉวงส่วนใหญ่เป็น ชาวต่างชาติวัยทำงาน 20-40 ปี ที่ชื่นชอบชีวิตในเมือง (ใกล้แหล่งบันเทิง ร้านอาหาร) เช่น นักท่องเที่ยวที่กลายเป็นผู้พำนักระยะยาว (Long-Term Tourist) หรือคนทำงานสายเทคโนโลยี/ออนไลน์ที่เลือกสมุยเป็นฐานทำงานทางไกล นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม ผู้ประกอบการร้านค้าและครอบครัวคนไทย ซึ่งบางส่วนเช่าทาวน์เฮ้าส์ในเฉวงเพื่ออยู่อาศัยไปพร้อมๆ กับเปิดร้านค้าหรือโฮมออฟฟิศขนาดเล็ก เนื่องจากย่านนี้ค้าขายดีและเป็นทำเลทองของเกาะ
ข้อดีของการเช่าทาวน์เฮ้าส์ในเฉวง: ผู้อยู่อาศัยจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุด เพราะอยู่ใกล้ทั้งชายหาดสวย ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานบันเทิง และบริการต่างๆ แบบเดินถึงหรือขับรถไม่กี่นาที การเดินทางเชื่อมต่อส่วนอื่นของเกาะก็ง่าย (เฉวงอยู่กึ่งกลางฝั่งตะวันออกของเกาะ ถนนรอบเกาะผ่านด้านหน้า ทำให้ไปสนามบินหรือไปหน้าทอนก็ใช้เวลาไม่นาน) นอกจากนี้ย่านเฉวงยังมีความมีชีวิตชีวาทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะกับคนที่ชอบไลฟ์สไตล์ไม่เงียบเหงา
ข้อควรพิจารณา: ด้วยความนิยมของทำเลนี้ ค่าเช่าจึงสูงกว่าที่อื่น ผู้เช่าที่งบประมาณจำกัดอาจได้พื้นที่บ้านเล็กลงหรือสภาพบ้านเก่ากว่าเมื่อเทียบกับหากไปเช่าโซนอื่น นอกจากนี้ เฉวงในบางจุดอาจมีความพลุกพล่านและเสียงดังจากสถานบันเทิงยามค่ำคืนหรือรถสัญจร หากต้องการความสงบ ผู้เช่าอาจเลือกเฉวงน้อยหรือย่านขอบนอกที่ห่างจากบาร์ไนท์ไลฟ์เล็กน้อยเพื่อความสงบ อีกทั้งการแข่งขันในการหาบ้านเช่าดีๆ ในเฉวงค่อนข้างสูง เมื่อมีประกาศปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์ทำเลดีราคาสมเหตุสมผล มักถูกจับจองอย่างรวดเร็ว ผู้เช่าควรวางแผนล่วงหน้าและติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด
โดยภาพรวม เฉวง ยังคงเป็นทำเลอันดับหนึ่งสำหรับทั้งการอยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่าในสมุย ด้วยศักยภาพด้านทำเลและดีมานด์เช่าที่แข็งแกร่งไม่เคยขาด ทำให้ย่านนี้มีสภาพคล่องสูงในตลาดเช่า เหมาะกับผู้เช่าที่ต้องการใช้ชีวิตใจกลางแหล่งท่องเที่ยว และเหมาะกับเจ้าของทรัพย์สินที่ต้องการกลุ่มผู้เช่าแน่นอนตลอดปี
ทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในย่านหาดละไม
“หาดละไม” เป็นชายหาดใหญ่อันดับสองรองจากเฉวง ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสมุย โดดเด่นด้วยชายหาดโค้งเว้ายาวประมาณ 4 กิโลเมตร มีทิวมะพร้าวขนาบชายหาด น้ำทะเลใสสะอาด และมีบรรยากาศผ่อนคลาย ละไมขึ้นชื่อว่าเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าเฉวง นักท่องเที่ยวที่มาสมุยหลายคนเลือกพักละไมเพราะต้องการบรรยากาศสบายๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านจนเกินไป แต่ยังมีร้านอาหาร บาร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเพียงพอ หาดละไมยังเป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์คชื่อดัง หินตาหินยาย (โขดหินรูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชายหญิงตามธรรมชาติ) ซึ่งอยู่บริเวณปลายหาดฝั่งใต้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะชมทุกวัน
ลักษณะตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์ในละไม: ความเจริญของย่านละไมรองลงมาจากเฉวง มีถนนคนเดิน (ถนนคนเดินละไมจัดสัปดาห์ละครั้ง), ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านนวด ร้านค้าและบาร์ริมทะเล แต่ขนาดและจำนวนจะน้อยกว่าเฉวง หลายคนมองว่าละไมเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความสะดวกกับความสงบ ด้วยเหตุนี้ราคาค่าครองชีพและค่าเช่าที่พักในละไมจึงย่อมเยากว่าเฉวงเล็กน้อย จากข้อมูลตลาดอสังหาฯ ล่าสุด ค่าเช่าบ้านเฉลี่ยใกล้หาดละไม อยู่ที่ประมาณ ฿70,000 ต่อเดือน (ถูกกว่าค่าเฉลี่ยเฉวงที่เกือบแสนบาท) อย่างไรก็ดี ราคานี้เป็นค่าเฉลี่ยของบ้านหลายประเภทรวมกัน หากแยกเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ในละไม สามารถแจกแจงได้คร่าวๆ ดังนี้:
- ทาวน์เฮ้าส์/บ้านเช่าขนาดเล็ก 1-2 ห้องนอน ในซอยชุมชนหรือหมู่บ้านไทยรอบๆ ละไม มีให้เลือกพอสมควร ค่าเช่าเริ่มต้นที่ราว ฿8,000–฿15,000/เดือน เท่านั้น บ้านลักษณะนี้มักเป็นบ้านชั้นเดียวหรือสองชั้นหลังแฝด มีเฟอร์นิเจอร์พื้นฐาน บ้างอาจไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน เหมาะกับคนท้องถิ่นหรือผู้เช่าที่งบประมาณจำกัด และโอเคกับการอยู่ในชุมชนท้องถิ่นจริงๆ (อาจไม่ได้อยู่ใกล้ทะเลมาก)
- ทาวน์เฮ้าส์มาตรฐาน 2-3 ห้องนอน ในย่านละไมหรือใกล้เคียง (เช่น ต.มะเร็ต) มีจำนวนไม่น้อย เพราะนักพัฒนาได้สร้างบ้านจัดสรรและทาวน์โฮมสำหรับขายไว้ และบางส่วนถูกปล่อยเช่าในตลาด ค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์เหล่านี้อยู่ที่ประมาณ ฿20,000–฿50,000/เดือน ตามความใกล้ไกลชายหาดและความใหม่ของบ้าน หากอยู่ติดหาดละไมหรือสามารถเดินไปชายหาดได้ ค่าจะอยู่โซนสูงของช่วงราคา แต่ถ้าอยู่ฝั่งภูเขาหรือห่างจากหาดไปหน่อย ราคาจะถูกลง ในช่วงราคาเดียวกัน ผู้เช่าอาจได้บ้านที่ขนาดใหญ่หรือสภาพใหม่กว่าเมื่อเทียบกับในเฉวง ถือว่า “คุ้มค่า” กว่าในแง่พื้นที่ใช้สอย
- บ้านพักตากอากาศ/วิลล่าและทาวน์โฮมหรู ในละไม แม้จะมีไม่มากเท่าโซนเฉวงหรือบ่อผุด แต่ก็มีบางส่วน ค่าเช่าอาจอยู่ในช่วง ฿60,000–฿150,000/เดือน สำหรับบ้านระดับไฮเอนด์ 3-4 ห้องนอนขึ้นไป ที่ตั้งในวิวสวย (เช่น บนเขามองเห็นทะเล) หรือบ้านติดทะเลที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว กลุ่มผู้เช่าคือครอบครัวชาวต่างชาติที่มาอยู่ระยะยาวด้วยวีซ่าเกษียณหรือวีซ่าทำงาน และต้องการความเงียบสงบเป็นส่วนตัว มากกว่าความสะดวกแบบใจกลางเมือง
ความต้องการเช่าในละไม นับว่ามีความสมดุล ไม่ล้นหลามเท่าเฉวงแต่ก็ไม่น้อยจนน่าเป็นห่วง จุดแข็งของละไมคือดึงดูดกลุ่มผู้เช่าที่ชอบความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศพักผ่อน กลุ่มผู้เช่าหลักในละไม ได้แก่ ชาวต่างชาติวัยเกษียณหรือวัยทำงานที่มากับครอบครัวเล็ก ซึ่งชื่นชอบที่ละไมสงบกว่าเฉวง มีความเป็นชุมชนท้องถิ่นสูง (ผู้คนเป็นมิตร ไม่มีเสียงรบกวนมาก) รวมถึงยังมีกลุ่ม นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและโยคะ เนื่องจากในบริเวณละไม-มะเร็ตมีสตูดิโอโยคะและศูนย์สุขภาพอยู่หลายแห่ง ต่างชาติสายนี้มักมาพักแบบรีทรีตนานเป็นเดือนและนิยมเช่าบ้านพักมากกว่าอยู่โรงแรม นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม พนักงานโรงแรม/รีสอร์ท และครูโรงเรียนนานาชาติ ที่ปฏิบัติงานโซนนี้ เพราะละไมมีรีสอร์ทชื่อดังหลายแห่ง และไม่ไกลจากโรงเรียนนานาชาติบางแห่ง คนกลุ่มนี้อาจรวมแชร์ค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่ด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ข้อดีของการเช่าทาวน์เฮ้าส์ในละไม: ผู้เช่าจะได้รับบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ผ่อนคลายกว่าฝั่งเฉวง การจราจรในละไมไม่แน่นหนามาก สถานที่ต่างๆ เช่น ชายหาด ร้านอาหาร จะไม่แออัดจนเกินไป จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยยาวๆ โดยไม่รู้สึกวุ่นวาย นอกจากนี้ผู้เช่ายังอาจได้บ้านที่คุ้มราคากว่าในด้านขนาดและคุณภาพเมื่อเทียบกับการเช่าทำเลอื่นในสมุย (ด้วยงบประมาณเท่ากัน ทาวน์เฮ้าส์ในละไมอาจมีขนาดใหญ่กว่าหรือสภาพใหม่กว่า) สำหรับคนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หาดละไมก็มีพื้นที่ให้วิ่งออกกำลังหรือเล่นน้ำทะเลยามเช้าอย่างสงบ มีธรรมชาติสวยๆ ให้ชื่นชมใกล้ตัว
ข้อควรพิจารณา: ละไมแม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ แต่ก็อาจไม่หลากหลายเท่าเฉวง เช่น ร้านอาหารนานาชาติหรือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่มีจำนวนจำกัด (แต่ก็สามารถขับรถไปเฉวงใน 15-20 นาทีได้) ช่วงกลางคืนบรรยากาศค่อนข้างเงียบ ผู้ที่ชอบแสงสีอาจรู้สึกเหงาเล็กน้อย นอกจากนี้บางบริเวณของละไมที่ติดภูเขาหรือทางลงหาดลึกๆ อาจยังเข้าถึงยาก ทางไม่สะดวก ผู้เช่าควรตรวจสอบเส้นทางและระบบขนส่งด้วย หากไม่มีรถส่วนตัวอาจไม่สะดวกนักในการเดินทางไปมานอกพื้นที่ จุดที่ต้องระวังอีกเรื่องคือ ฤดูฝน (ประมาณตุลาคม–ธันวาคม) ละไมเป็นพื้นที่รับลมมรสุม อาจมีฝนตกหนักและน้ำไหลหลากเป็นบางจุด ควรเลือกทำเลบ้านที่ไม่ใช่ที่ลุ่มต่ำเสี่ยงน้ำท่วมขัง
โดยสรุป ย่านละไม เป็นทำเลที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่มองหาการอยู่อาศัยบนเกาะสมุยแบบสงบ ชิลๆ ในขณะที่ยังมีความสะดวกสบายพอตัว ค่าครองชีพและค่าเช่าที่พักมิตรภาพกว่าเฉวง เหมาะกับทั้งผู้เช่าที่เป็นครอบครัวและผู้เกษียณ รวมถึงนักลงทุนที่อยากปล่อยเช่าตลาดระยะยาวที่มั่นคง แม้ดีมานด์อาจไม่หวือหวาเท่าเฉวงแต่ผู้เช่ากลุ่มนี้มักเช่าต่อเนื่องยาวนานหลายปี สร้างรายได้สม่ำเสมอให้ผู้ปล่อยเช่าได้อย่างดี
ทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในย่านบ่อผุด (ฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจ)
“บ่อผุด” เป็นชื่อตำบลหนึ่งของเกาะสมุย ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตอนเหนือของเกาะ มีพื้นที่ครอบคลุมหลายย่านสำคัญ ทั้งหาดบ่อผุดที่มีหมู่บ้านชาวประมงเก่า (ฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจ) อันเลื่องชื่อ, หาดบางรัก (ใกล้ท่าเรือไปเกาะพะงันและจุดชมพระใหญ่), หาดเชิงมนและปลายแหลม (แหล่งวิลล่าหรู), ตลอดจนพื้นที่ชุมชนรอบสนามบินสมุย ตำบลบ่อผุดนี้ถือเป็นเขตที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นที่สุดของเกาะ มีความเจริญรองจากเฉวง และเป็นศูนย์รวมของชุมชนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่สมุยจำนวนมาก
จุดเด่นของย่านบ่อผุด ได้แก่ ฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจ (Fisherman’s Village) ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีสริมทะเล บูรณะบ้านเรือนชาวประมงดั้งเดิมให้กลายเป็นร้านอาหารนานาชาติ ร้านกาแฟเก๋ๆ บาร์ และร้านค้าของที่ระลึก มีถนนคนเดินทุกคืนวันศุกร์ที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น บ่อผุดยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติคุณภาพ (เช่น ISS และ Panyadee) มีห้างบิ๊กซีและแม็คโครสำหรับซื้อของใช้ประจำวัน การเดินทางไปสนามบินก็ง่าย (เพียง 10-15 นาที) ด้วยความครบครันเหล่านี้ บ่อผุดจึงกลายเป็นทำเลสุดฮิตในการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติระยะยาว หลายคนมองว่าบ่อผุด “น่าอยู่” เพราะมีทั้งความสะดวกแบบเมืองและวิถีชีวิตริมทะเลที่ผ่อนคลายไปพร้อมกัน
ลักษณะตลาดเช่าทาวน์เฮ้าส์ในบ่อผุด: ด้วยความที่เป็นย่านใหญ่รวมหลายพื้นที่ จะพบความหลากหลายสูงในตัวเลือกบ้านเช่าและทาวน์เฮ้าส์ บางส่วนอยู่ในชุมชนคนไทยท้องถิ่น บางส่วนอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีกลุ่มชาวต่างชาติอาศัยหนาแน่น ค่าครองชีพในบ่อผุดโดยรวมใกล้เคียงเฉวงหรืออาจสูงกว่าเล็กน้อยในบางด้าน (เนื่องจากมีกลุ่มชาวต่างชาติมาก ร้านค้าและร้านอาหารแนวตะวันตกเยอะ) ค่าเช่าบ้านเฉลี่ยในย่านบ่อผุด (รวมทุกประเภท) ปัจจุบันอยู่ที่ราว ฿88,000 ต่อเดือน ซึ่งเป็นระดับค่อนข้างสูง แต่ต้องเข้าใจว่าย่านนี้มีบ้านหรูราคาเช่าสูงจำนวนมากดึงค่าเฉลี่ยขึ้นไป หากมองเฉพาะทาวน์เฮ้าส์และบ้านขนาดกลางๆ ในบ่อผุด ยังมีหลายช่วงราคา ได้แก่:
- ทาวน์เฮ้าส์/บ้านแฝดขนาดเล็ก 1-2 ห้องนอน ในชุมชนรอบๆ บ่อผุด (เช่น ในซอยวัดบ่อผุด, หมู่บ้านใกล้ตลาดสดหรือบิ๊กซี) ค่าเช่าเริ่มประมาณ ฿10,000–฿18,000/เดือน เท่านั้น บ้านเหล่านี้มักเป็นบ้านของคนไทยที่นำมาปล่อยเช่าเมื่อย้ายออกหรือมีบ้านหลังที่สอง ลักษณะบ้านไม่หรูหรา แต่อยู่ในทำเลที่ใช้ชีวิตประจำวันสะดวก (ใกล้ตลาด ร้านของกิน) ผู้เช่ามักเป็นพนักงานบริษัทหรือครอบครัวคนไทยในพื้นที่ รวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่นานๆ และคุ้นเคยพื้นที่ดี (expat รุ่นเก๋าที่เน้นประหยัด)
- ทาวน์เฮ้าส์มาตรฐาน 2-3 ชั้น 2-3 ห้องนอน พบได้มากในโครงการหมู่บ้านจัดสรรของบ่อผุด บางโครงการเป็นทาวน์โฮมสร้างใหม่ที่เจาะกลุ่มชาวต่างชาติเลย เช่น มีรั้วรอบ ปลอดภัย มีสระว่ายน้ำส่วนกลางหรือฟิตเนส ค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ ฿25,000–฿60,000/เดือน ขึ้นอยู่กับความใหม่ ทำเลในโครงการ และการตกแต่ง จุดที่ราคาจะสูงคือทาวน์โฮมที่อยู่ใกล้กับ Fisherman’s Village หรือชายทะเล บางหลังสามารถเดินไปชายหาดได้ ทำให้ค่าเช่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับบ้านลึกเข้าไปด้านในเกาะ ผู้เช่ากลุ่มนี้ส่วนมากคือชาวต่างชาติที่ย้ายครอบครัวมาอยู่สมุยหรือมาทำงาน เช่น กลุ่มครูต่างชาติ ผู้จัดการโรงแรม นักลงทุนที่มาเปิดร้านในฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจ เป็นต้น
- บ้านเดี่ยว/วิลล่าและทาวน์เฮ้าส์ระดับหรู ในพื้นที่บ่อผุดตอนปลายแหลม-เชิงมน ซึ่งเป็นโซนยอดนิยมของวิลล่าตากอากาศ มีอสังหาฯ ระดับลักชัวรีจำนวนมาก ปัจจุบันหลายหลังก็ปล่อยเช่าระยะยาวเพื่อสร้างรายได้ อัตราค่าเช่าอยู่ที่ ฿70,000–฿300,000/เดือน หรือมากกว่านั้น (บางหลังใหญ่ 5 ห้องนอนติดทะเลอาจแตะหลักหลายแสนต่อเดือน) อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้จะเป็นวิลล่าหรูเสียมาก ส่วนทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านแฝดหรูอาจอยู่ในช่วง 70,000-100,000 บาท/เดือน ผู้เช่าคือกลุ่มมีฐานะและความต้องการสูง เช่น ผู้บริหารระดับสูงชาวต่างชาติที่มีแพ็คเกจที่พักจากบริษัท ครอบครัวนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาใช้ชีวิตเมืองร้อน เป็นต้น
ความต้องการเช่าในบ่อผุด ถือว่าสูงและต่อเนื่องทั้งปีไม่แพ้เฉวง เนื่องจากเป็น “ย่านที่คนอยู่จริง” มีคนอาศัยตลอดเวลาไม่ใช่แค่ฤดูท่องเที่ยว กลุ่มผู้เช่าในบ่อผุดส่วนใหญ่อาจไม่ใช่นักท่องเที่ยวระยะสั้น แต่เป็น ชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาว ในสมุยอยู่แล้ว (Expats) และ คนไทยที่ทำงานธุรกิจบริการบนเกาะ เพราะบ่อผุดน่าอยู่สำหรับชีวิตประจำวัน (มีตลาดสด ร้านค้าท้องถิ่น โรงเรียน วัด และคอมมูนิตี้คนต่างชาติ) ตัวอย่างผู้เช่าเช่น ครอบครัวชาวต่างชาติที่มีลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ – พ่อแม่เลือกเช่าบ้านในบ่อผุดเพราะใกล้โรงเรียนและชุมชน, เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร/สปาในฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจ – เช่าทาวน์เฮ้าส์ใกล้ๆ เพื่ออยู่อาศัยและสะดวกดูแลกิจการ, ตลอดจนพนักงานบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานราชการที่ปฏิบัติงานในสมุย – เช่าบ้านอยู่เป็นหลักแหล่งในย่านนี้เพราะเดินทางสะดวก เป็นต้น
ข้อดีของการเช่าทาวน์เฮ้าส์ในบ่อผุด: ทำเลนี้เรียกได้ว่าครบเครื่องใกล้เคียงเฉวง แต่บรรยากาศจะผ่อนคลายกว่าและมีกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นมากกว่า ผู้เช่าจะได้สัมผัสทั้งความสะดวก (ใกล้ห้าง ตลาด ของกินเพียบ) และความงามของหมู่บ้านชาวประมงริมน้ำ ยามเย็นสามารถเดินเล่นริมทะเลที่ฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจหรือดินเนอร์ร้านอาหารดีๆ ได้บ่อยๆ สำหรับครอบครัวฝรั่ง การอยู่บ่อผุดหมายถึงลูกๆ ไปโรงเรียนนานาชาติได้ง่าย มีเพื่อนเล่นในคอมมูนิตี้เดียวกัน ความปลอดภัยในย่านนี้ก็ดี ปัญหาอาชญากรรมน้อย ทำให้ต่างชาติรู้สึกอุ่นใจ นอกจากนี้บ่อผุดยังอยู่ระหว่างกลางของเกาะ จะไปเฉวงหรือละไมก็ไม่ไกล หรือจะข้ามไปเที่ยวเกาะพะงัน เกาะเต่าต่อก็สะดวกผ่านท่าเรือบางรัก เรียกว่าทำเลนี้ “อยู่สบาย เที่ยวสนุก และทำงานได้” ในที่เดียว
ข้อควรพิจารณา: จุดด้อยมีไม่มาก นอกจาก ค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบ้านระดับกลางขึ้นไปเพราะแข่งขันสูงในกลุ่มผู้เช่าต่างชาติ ถ้าเป็นบ้านคุณภาพดีทำเลดีในบ่อผุดมักถูกจองเร็วและราคาแรง นอกจากนี้บางช่วงเวลาอย่างคืนวันศุกร์ที่มีถนนคนเดินหรือช่วงเทศกาล บริเวณฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจจะคึกคักมาก การจราจรหนาแน่นและเสียงดังถึงดึก ผู้เช่าที่อยู่ใกล้ย่านตลาดอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่หากอยู่ในซอยลึกหน่อยก็ไม่มีปัญหาใด ส่วนเขตที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ในบ่อผุดเช่น แถวเชิงมน ปลายแหลม แม้วิวสวยและเงียบสงบ แต่อยู่ห่างจากตลาดและร้านค้าต้องมีรถส่วนตัวในการออกมาจับจ่าย ระยะหลังพื้นที่เหล่านี้กำลังก่อสร้างโครงการใหม่ๆ เยอะ ผู้เช่าอาจพบเสียงหรือฝุ่นจากไซต์งานบ้างในบางบริเวณ
สรุปแล้ว ย่านบ่อผุด ถือเป็นทำเลที่ผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตคนท้องถิ่นกับชุมชนชาวต่างชาติได้อย่างลงตัว เป็น “ย่านอยู่อาศัย” ที่สมบูรณ์แบบบนเกาะสมุย ค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์มีหลายระดับตั้งแต่ถูกถึงแพงมาก ผู้เช่าสามารถเลือกตามงบและความต้องการได้ไม่ยาก หากต้องการความสะดวกแบบเมืองและบรรยากาศชุมชนอบอุ่น บ่อผุดเป็นคำตอบที่ดี ส่วนในมุมมองนักลงทุน ทำเลนี้ก็เป็น “ทำเลทอง” ที่ปล่อยเช่าง่าย มีผู้เช่าคุณภาพในมือเสมอ ทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านที่นี่จึงแทบไม่เคยว่างนาน ทำให้ผลตอบแทนและกระแสเงินสดน่าพอใจอย่างยิ่ง
ประเภทบ้านเช่าทาวน์เฮ้าส์และระดับราคาบนเกาะสมุย
หลังจากรู้จักภาพรวมตลาดและทำเลหลักแล้ว เรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าที่พบได้บนเกาะสมุย ตลอดจนระดับราคาค่าเช่าในแต่ละกลุ่มกันบ้าง ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่าเห็นภาพว่าทรัพย์สินลักษณะใดอยู่ในช่วงราคาเท่าไร และควรคาดหวังสิ่งอำนวยความสะดวกหรือมาตรฐานอย่างไรในแต่ละช่วงราคา
โดยทั่วไปแล้ว “ทาวน์เฮ้าส์” หรือ “ทาวน์โฮม” บนเกาะสมุยจะหมายถึงบ้านที่มีผนังด้านข้างติดกับบ้านอื่น (บ้านแถว) อาจเป็นหลังมุมหรือหลังกลางก็ได้ ส่วนมากสูง 2 ชั้นขึ้นไป มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 50 ตร.ม. ไปจนถึง 150-200 ตร.ม. ในบางกรณี (บ้านแฝดหรือทาวน์เฮ้าส์หลังใหญ่) จำนวนห้องนอนที่พบบ่อยคือ 2-3 ห้องนอน บางหลังใหญ่หน่อยอาจมี 4 ห้องนอน ลักษณะการตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกจะแตกต่างกันไป เช่น ทาวน์เฮ้าส์บางหลังเป็นอาคารพาณิชย์ดัดแปลง เฟอร์นิเจอร์อาจน้อย ต้องตกแต่งเพิ่มเอง ขณะที่บางหลังอยู่ในโครงการสร้างใหม่ มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน สวนหย่อม และระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนคำว่า “บ้านแฝด” ก็จัดอยู่ในกลุ่มใกล้เคียงกัน เพราะมักปล่อยเช่าในลักษณะคล้ายทาวน์เฮ้าส์ (บ้านแฝดคือบ้านสองหลังติดกันมีผนังส่วนหนึ่งร่วมกัน)
ระดับราคาค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์ในสมุย สามารถแบ่งเป็นช่วงกว้างๆ เพื่อความเข้าใจง่ายดังนี้:
- ช่วงราคาประหยัด (ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน): ในงบประมาณนี้ ผู้เช่าจะได้ทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านแถวขนาดเล็ก 1-2 ห้องนอน สภาพบ้านอาจไม่ใหม่มาก (อายุ 5-15 ปี) ตั้งอยู่ในทำเลชุมชนท้องถิ่นที่ไม่ไกลความเจริญจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ติดทะเลหรืออยู่ในย่านท่องเที่ยวหลัก บ้านกลุ่มนี้มักเป็นบ้านของคนพื้นที่ที่แบ่งปล่อยเช่า มีเฟอร์นิเจอร์บางส่วน เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว เครื่องปรับอากาศ 1-2 ตัว แต่ไม่ครบทุกอย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า อาจไม่มีให้ ผู้เช่ากลุ่มนี้มักเป็น คนทำงานท้องถิ่นหรือนักศึกษาฝึกงาน ที่ต้องการที่พักราคาถูก หรือ ชาวต่างชาติแบ็คแพ็คเกอร์ ที่ปักหลักอยู่นานแบบประหยัด ช่วงราคานี้ค่อนข้างมีจำกัดและมักอยู่ในรูปห้องเช่า/อพาร์ทเมนต์มากกว่าทาวน์เฮ้าส์ แต่ก็พอหาได้บ้างดังตัวอย่างที่กล่าวในย่านเฉวงและบ่อผุด
- ช่วงราคากลาง (ประมาณ 10,000–30,000 บาท/เดือน): เป็นช่วงราคาที่มีตัวเลือกทาวน์เฮ้าส์ให้เช่ามากที่สุดบนเกาะสมุย บ้านในช่วงนี้มักมี 2 ห้องนอนขึ้นไป ขนาดพื้นที่ 70-120 ตร.ม. เพียงพอสำหรับอยู่กัน 2-4 คนสบายๆ สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐาน ที่ผู้เช่าจะได้ในงบนี้ เช่น เครื่องปรับอากาศในห้องนอน เฟอร์นิเจอร์หลักครบ (เตียง ที่นอน โซฟา โต๊ะทานข้าว ตู้เสื้อผ้า) ชุดครัวพร้อมเตาและตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำ อินเทอร์เน็ต (บางแห่งรวม Wi-Fi ให้หรือมีการเดินสายอินเทอร์เน็ตพร้อม) ที่จอดรถยนต์/จักรยานยนต์อาจเป็นแบบจอดหน้าบ้านหรือมีโรงจอดในรั้วบ้าน ถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำสำรอง (สำคัญบนเกาะ) บ้านกลุ่มนี้อาจอยู่ได้ทั้งในโครงการจัดสรรที่ดูปลอดภัย มีรั้วรอบ หรือในซอยเล็กๆ รวมกับบ้านคนอื่น แต่โดยรวมถือว่าอยู่สบายตามมาตรฐานชีวิตยุคใหม่ ผู้เช่าในช่วงนี้หลากหลาย ทั้งคนไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะโสด คู่รัก หรือครอบครัวเล็ก หลายคนเริ่มต้นเช่าบ้านในช่วงงบประมาณนี้เพราะถือว่าคุ้มค่า ได้คุณภาพชีวิตดีในราคาจับต้องได้
- ช่วงราคากลาง-สูง (ประมาณ 30,000–60,000 บาท/เดือน): ในระดับนี้จะเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่มีความพรีเมียมขึ้นมาทั้งด้านทำเลและตัวบ้าน มักจะได้บ้านขนาด 3-4 ห้องนอน หรือถ้าเป็น 2 ห้องนอนก็จะเป็นหลังใหม่เอี่ยม ดีไซน์ทันสมัย มีคุณภาพวัสดุก่อสร้างและการตกแต่งระดับดีมาก หลายหลังในกลุ่มนี้อยู่ในทำเลใกล้ชายหาดหรืออยู่ในโครงการหรู มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม รวมถึงบริการดูแลจัดการให้ (เช่น มีนิติบุคคลดูแลซ่อมแซมส่วนกลาง) การตกแต่งภายในมักครบชุดทันสมัย ทีวีจอแบน เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เตาอบ จานชาม เครื่องนอน มาให้พร้อม เข้าอยู่ได้เลยโดยไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม ผู้เช่าที่มีกำลังจ่ายระดับนี้ส่วนใหญ่เป็น ชาวต่างชาติ ซึ่งอาจได้รับงบที่พักจากบริษัท หรือไม่ก็เห็นว่าคุ้มที่จะจ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตสูงบนเกาะสวรรค์ เช่น ผู้จัดการรีสอร์ทระดับ 5 ดาว, เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร, กลุ่มดิจิทัลโนแมดที่รวมตัวแชร์บ้านกัน, รวมถึงคนไทยฐานะดีที่ย้ายครอบครัวมาอยู่สมุยและต้องการบ้านเช่าคุณภาพดี
- ช่วงราคาสูง (มากกว่า 60,000 บาท/เดือน): ช่วงนี้เริ่มเป็นเขตของบ้านหรูหรือวิลล่ามากกว่าทาวน์เฮ้าส์ปกติ แต่ก็มีทาวน์เฮ้าส์บางหลังที่อาจอยู่ติดทะเลหรือในโครงการลักชัวรีที่ค่าเช่าสูงเกิน 6 หมื่นบาทขึ้นไป ผู้เช่ากลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มเล็กเฉพาะทาง เช่น ผู้บริหารต่างชาติระดับสูง ที่ต้องการที่พักเทียบเท่าโรงแรมห้าดาว, เศรษฐีต่างชาติ/ไทยที่มาอยู่อาศัยระยะกลาง และพร้อมจ่ายเพื่ออยู่บ้านที่ดีที่สุด, หรือ วิลล่าเพื่อสุขภาพ/ทำรีทรีต ที่เช่าเป็นแพ็คเกจ (เช่น โครงการสุขภาพเช่า 3 เดือน 300,000 บาทเป็นต้น) เป็นต้น บ้านในกลุ่มนี้แน่นอนว่ามาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สุด บ้างมี สระว่ายน้ำส่วนตัว ระบบบ้านอัจฉริยะ บริการแม่บ้านทำความสะอาดรายสัปดาห์ รวมอยู่ในสัญญาเช่าด้วย
ทั้งนี้ ราคาค่าเช่าทาวน์เฮ้าส์บนเกาะสมุยสามารถยืดหยุ่นได้พอสมควร ขึ้นอยู่กับปัจจัยฤดูกาลและระยะเวลาที่เช่า หากผู้เช่าทำสัญญาระยะยาว 1 ปีขึ้นไป มักจะต่อรองให้ได้ราคาเฉลี่ยต่อเดือนถูกลงเมื่อเทียบกับการเช่าระยะสั้น 1-3 เดือน ยกตัวอย่างเช่น ทาวน์เฮ้าส์ที่ปล่อยเช่า เดือนละ 40,000 บาทสำหรับสัญญา 1 ปี อาจถูกตั้งราคาที่ 50,000 บาท/เดือน หากผู้เช่าต้องการอยู่แค่ 3 เดือนในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นธรรมชาติของตลาดเช่าในเมืองท่องเที่ยวที่เจ้าของมักให้ส่วนลดกับผู้เช่าที่อยู่ยาวเพื่อรักษาคนเช่า นอกจากนี้ ช่วงเวลาในการหาบ้านก็สำคัญ ฤดูท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) บ้านเช่าดีๆ มักถูกจองเต็ม ราคาไม่ค่อยลด ต้องแข่งขันกับผู้เช่ารายอื่น ในขณะที่ ช่วงโลว์ซีซั่น เจ้าของบางรายยอมลดราคาหรือแถมเดือนฟรีเพื่อจูงใจให้เช่า ดังนั้น ผู้เช่าที่มีกำลังต่อรองและวางแผนได้ อาจเริ่มสัญญาเช่าในช่วงโลว์ซีซั่นเพื่อได้เงื่อนไขที่ดีกว่า
สำหรับผู้ให้เช่า การกำหนดค่าเช่าควรพิจารณาจากประเภทและจุดขายของบ้านตนเอง เทียบเคียงกับราคาตลาดในทำเลเดียวกัน หากบ้านเรามีเฟอร์ครบ มีสระ น้ำไฟพร้อม ควรตั้งราคาในระดับที่สะท้อนคุณภาพ แต่ก็ไม่สูงกว่าคู่แข่งจนผู้เช่าหนีไปบ้านอื่น สิ่งสำคัญคือต้อง ระบุรายละเอียดให้ชัดเจนในสัญญาว่าค่าเช่าที่เรียกรวมอะไรบ้าง เช่น รวมค่าสวน คนดูแลสระ หรืออินเทอร์เน็ตแล้วหรือไม่ ผู้เช่าจะได้เปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ถูกต้อง
กลุ่มผู้เช่าเป้าหมายของทาวน์เฮ้าส์ในเกาะสมุย
เมื่อตลาดเช่าบ้านบนสมุยขยายตัว การเข้าใจว่า “ใคร” คือผู้เช่าหลักในพื้นที่นี้จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ปล่อยเช่าในการปรับกลยุทธ์การตลาด และต่อผู้เช่าเองในการประเมินการแข่งขันและลักษณะเพื่อนบ้านรอบข้าง โดยภาพรวมแล้ว กลุ่มผู้เช่าทาวน์เฮ้าส์ในสมุย มีความหลากหลายทางสัญชาติ อายุ และวัตถุประสงค์การเข้าพำนัก แต่สามารถจำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้:
- ชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาว (Expatriates): นี่คือกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนดีมานด์เช่าบ้านบนสมุยในช่วงหลัง คนกลุ่มนี้รวมถึงชาวยุโรป อเมริกัน ออสเตรเลีย จีน รัสเซีย ฯลฯ ที่ย้ายมาอยู่สมุยด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ทำงานประจำในธุรกิจท่องเที่ยว/บริการบนเกาะ, ทำงานทางไกลให้บริษัทต่างประเทศ (Digital Nomad) แล้วเลือกสมุยเป็นฐาน, ย้ายมาเปิดธุรกิจส่วนตัว (ร้านอาหาร บาร์ โยคะ ฯลฯ) หรือมาใช้ชีวิตหลังเกษียณภายใต้โครงการวีซ่าระยะยาวของไทย ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีรายได้หรือเงินบำนาญมั่นคง สามารถจ่ายค่าเช่าระดับกลางถึงสูงได้ และมองหาที่พักที่ให้ความรู้สึกเหมือน “บ้าน” จริงๆ มากกว่าอยู่โรงแรม เขาจึงนิยมเช่าบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์มากกว่าคอนโด การมองหาที่พักของ expat มักคำนึงถึงความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอ (เช่น มีห้องทำงาน ครัวทำอาหารได้) และใกล้โรงเรียนนานาชาติหรือใกล้ชุมชนเพื่อนชาวต่างชาติด้วยกัน กลุ่มนี้พบได้มากในย่านบ่อผุด เชิงมน บางรัก และเฉวง
- ชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวระยะยาว: แตกต่างจากกลุ่ม expat ตรงที่กลุ่มนี้อาจไม่ได้มีงานหรือธุรกิจในสมุย แต่เลือกมา ใช้ชีวิต “เที่ยว+อยู่” บนเกาะเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน เช่น หนีฤดูหนาวจากยุโรปมาพักผ่อน 3 เดือน, มาทำงานไปเที่ยวไป (Workation) 1-2 เดือน, หรือมาเรียนรู้วัฒนธรรมไทย กลุ่มนี้มักนิยมเช่าบ้านระยะกลาง (1-6 เดือน) บางคนมาเป็นครอบครัว บางคนมาเป็นคู่หรือกลุ่มเพื่อน สิ่งที่มองหาคือบ้านเช่าที่พร้อมอยู่ในทำเลที่เดินทางท่องเที่ยวสะดวก ใกล้ชายหาด ร้านอาหาร สามารถเช่ารถขับเที่ยวรอบเกาะได้ง่าย กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เลือกเฉวง ละไม หรือหาดแม่น้ำ (ฝั่งทิศเหนือใกล้บ่อผุด) ผู้ให้เช่าที่ปล่อยเช่ารายเดือนจะเจอกลุ่มนี้ในช่วงไฮซีซั่นเยอะ
- คนไทยจากแผ่นดินใหญ่ที่ย้ายมาทำงานหรือใช้ชีวิตบนสมุย: แม้คนไทยจะนิยมซื้อบ้านมากกว่าเช่าเมื่อคิดอยู่อาศัยระยะยาว แต่ก็มีคนไทยจำนวนหนึ่งที่มาทำงานบนสมุยเป็นการชั่วคราวหรือย้ายมาอยู่โดยไม่ถาวร เช่น ข้าราชการที่ย้ายมาประจำเกาะสมุย, พนักงานธนาคาร/บริษัทเอกชนที่หมุนเวียนมาทำงานสาขาสมุย 1-2 ปี, เจ้าหน้าที่สนามบิน, เจ้าหน้าที่โรงแรมจากภูเก็ตหรือกรุงเทพฯ ที่มาประจำรีสอร์ทในสมุย กลุ่มนี้จะเช่าบ้านอยู่มากกว่าซื้อเพราะไม่แน่ใจระยะเวลาพำนัก คนไทยอีกกลุ่มคือ ฟรีแลนซ์/คนทำงานออนไลน์ จากกรุงเทพฯ ที่เบื่อชีวิตเมืองใหญ่แล้วมาลองใช้ชีวิตสงบที่สมุยช่วงหนึ่ง พวกเขาก็ต้องการเช่าบ้านแทนการอยู่โรงแรมเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและอยู่ได้นาน กลุ่มผู้เช่าคนไทยจะกระจายตามความสะดวกของที่ทำงาน เช่น ถ้าทำงานในเฉวงก็เช่าเฉวง ทำงานโรงแรมละไมก็เช่าละแม เป็นต้น จุดที่น่าสังเกตคือ คนไทยมักคุ้นเคยกับอาหารการกินและวัฒนธรรมไทย ย่านที่มีตลาดและชุมชนคนไทยหน่อย (เช่น บ่อผุด แม่น้ำ) จะเป็นที่สนใจของกลุ่มนี้
- ครอบครัวต่างชาติที่มีบุตรในวัยเรียน: สมุยมีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งที่ได้รับความนิยม (เช่น International School of Samui, Panyadee, Oonrak International School) ส่งผลให้มีครอบครัวชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งย้ายมาอยู่สมุยเพื่อให้บุตรหลานได้เรียนที่นี่โดยเฉพาะ กลุ่มนี้มักจะเซ็นสัญญาเช่า 1-3 ปีตามระดับชั้นของลูก มองหาบ้านที่มี 3-4 ห้องนอน เพื่อรองรับสมาชิกครอบครัว มีพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กวิ่งเล่น ใกล้โรงเรียนหรือมีเส้นทางรถรับส่งโรงเรียนผ่าน ทั้งบิดามารดาอาจทำงานออนไลน์หรือเป็นแม่บ้านดูแลลูกเต็มตัวก็ได้ พวกเขานิยมอยู่ใกล้ชุมชน expat คนอื่นเพื่อให้ลูกมีเพื่อนเล่นและตัวเองก็มีกลุ่มเพื่อนพ่อแม่ ตัวเลือกยอดฮิตคือย่านบ่อผุด เชิงมน ปลายแหลม ซึ่งใกล้โรงเรียนและมีเพื่อนบ้านลักษณะเดียวกัน
- ผู้เช่าเชิงพาณิชย์บางส่วน: อันนี้ไม่ได้เป็นผู้เช่าที่อยู่อาศัยโดยตรง แต่ควรกล่าวถึงเพราะเกี่ยวข้องกับทาวน์เฮ้าส์เช่นกัน กลุ่มนี้คือคนที่เช่าทาวน์เฮ้าส์เพื่อทำธุรกิจหรือทำร้านค้า เช่น เช่าทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นในฟิชเชอร์แมนส์วิลเลจเพื่อเปิดร้านอาหารแล้วพักอาศัยชั้นบน, เช่าบ้านแถวในเฉวงเปิดร้านนวด/คาเฟ่เล็กๆ และอยู่หลังร้าน, หรือเช่าบ้านแฝดทำโฮมออฟฟิศบริษัทนำเที่ยว เป็นต้น กลุ่มนี้สนใจทำเลเป็นหลัก (ต้องอยู่ในย่านการค้า) และพร้อมจ่ายค่าเช่าสูงเพื่อให้ได้ทำเลค้าขายที่ดี ความต้องการพื้นที่พักอาศัยจริงๆ เป็นรอง
วิเคราะห์เพิ่มเติม: จากกลุ่มที่กล่าวมา จะเห็นว่าชาวต่างชาติถือเป็นสัดส่วนใหญ่ของผู้เช่าทาวน์เฮ้าส์ในสมุย ซึ่งแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ ที่คนไทยอาจเป็นผู้เช่าส่วนใหญ่ ความต้องการและความคาดหวังของผู้เช่าต่างชาติอาจแตกต่างไปบ้าง เช่น ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานบ้าน (น้ำไฟดี อินเทอร์เน็ตเร็ว), ต้องการเจ้าของบ้านที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้, นิยมบ้านที่มีครัวฝรั่งทำอาหารและอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ฝั่งผู้ให้เช่าที่ตั้งเป้ากลุ่มนี้จึงควรเตรียมความพร้อม เช่น เขียนสัญญาเช่าสองภาษา จัดบ้านให้พร้อมอยู่สไตล์ตะวันตก (มีเตาอบ เครื่องครัวครบ) และยืดหยุ่นเรื่องสัตว์เลี้ยงหากเป็นไปได้ เพราะหลายครอบครัวต่างชาติย้ายมาพร้อมสัตว์เลี้ยง
ด้านผู้เช่าคนไทยแม้จะเป็นกลุ่มรอง แต่ก็เป็นตลาดที่เริ่มโตตามการเคลื่อนย้ายงานยุคใหม่ คนไทยค่อนข้างคุ้นกับวัฒนธรรมบ้านเช่าอยู่แล้วในกรณีต้องย้ายที่ทำงาน เพียงแต่บนเกาะสมุยนั้น ตัวเลือกที่พักให้เช่าส่วนใหญ่ดึงดูดต่างชาติเป็นหลัก ผู้เช่าคนไทยอาจต้องแข่งขันและยอมรับราคาตลาดที่สูงกว่าต่างจังหวัดทั่วไป
โดยสรุป กลุ่มผู้เช่าเป้าหมายบนเกาะสมุยมีความนานาชาติและหลากหลาย ผู้ให้เช่าควรทำการบ้านว่าอสังหาของตนเหมาะกับกลุ่มไหน แล้วโฟกัสการทำตลาดกับกลุ่มนั้น เช่น หากบ้านอยู่ในคอมมิวนิตี้ฝรั่ง ใกล้โรงเรียนนานาชาติ ก็ควรลงประกาศในสื่อภาษาอังกฤษ เจาะกลุ่มครอบครัว expat เป็นต้น ขณะเดียวกัน ผู้เช่าเองก็ควรทราบว่าคู่แข่งในการแย่งเช่าบ้านของตนเป็นใคร หากเราคนไทยเงินเดือนทั่วไปอาจสู้ราคาไม่ไหวในย่านยอดนิยมที่ฝรั่งเต็ม ก็อาจมองหาทำเลทางเลือกเพื่อให้ได้บ้านในงบประมาณที่เหมาะสม
แนวโน้มผลตอบแทนการปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์ในสมุย
หัวข้อนี้จะเน้นไปที่มุมมองของนักลงทุนหรือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์บนเกาะสมุย เพื่อดูว่าแนวโน้มอัตราผลตอบแทน (Rental Yield) เป็นอย่างไร และปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อความคุ้มค่าในการลงทุนปล่อยเช่าในพื้นที่นี้
สถานการณ์ปัจจุบัน (ปี 2566-2567) บ่งชี้ว่าผลตอบแทนการปล่อยเช่าในสมุยอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจอย่างยิ่ง อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์บริษัทอสังหาฯ รายหนึ่งที่ระบุว่า “ตลาดเช่าอสังหาฯ สมุยกำลังเฟื่องฟู แทบไม่มีที่พักให้เช่าว่างเลยและราคาเช่ายังสูงกว่าที่เคย ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนสุทธิจำนวนมาก” ซึ่งสอดคล้องกับที่เราเห็นว่าหลังโควิดผ่านพ้น ความต้องการเช่าที่พักในสมุยพุ่งขึ้นมาก จนซัพพลายตามแทบไม่ทัน ส่งผลดีโดยตรงต่ออัตราการเข้าพักและระดับค่าเช่าโดยรวม
ตัวเลขผลตอบแทน: หากประเมินคร่าวๆ จากค่าเช่าและราคาบ้านในสมุย จะพบว่า Rental Yield ต่อปี (ผลตอบแทนจากการเช่าเทียบกับราคาซื้อ) สามารถอยู่ที่ประมาณ 5-10% ต่อปี ขึ้นกับประเภททรัพย์และการบริหารจัดการ เช่น
- ทาวน์เฮ้าส์ราคาซื้อ ~5 ล้านบาท ปล่อยเช่าเดือนละ 30,000 บาท จะได้ค่าเช่าปีละ 360,000 บาท คิดเป็น Yield ~7.2% (ยังไม่หักค่าใช้จ่าย)
- หากเป็นบ้านหรือวิลล่าหรูราคาสูง 15 ล้านบาท ปล่อยเช่าเดือนละ 100,000 บาท ได้ค่าเช่าปีละ 1.2 ล้านบาท Yield ~8% ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับอสังหาฯ
- ทั้งนี้หากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าซ่อมบำรุง ค่าการจัดการ หรืองวดที่ว่างผู้เช่า (vacancy) ผลตอบแทนสุทธิ (Net Yield) อาจอยู่ที่ ~5-6% ก็ยังถือว่าดีเมื่อเทียบกับการลงทุนปล่อยเช่าในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่ช่วงหลัง Yield ตกเหลือ ~3-5% เท่านั้น
ปัจจัยสนับสนุน: มีหลายเหตุผลที่ทำให้ผลตอบแทนปล่อยเช่าสมุยอยู่ในระดับสูง
- ราคาซื้ออสังหาฯ ในสมุยยังต่ำกว่าทำเลท่องเที่ยวอื่น: มีการวิเคราะห์ว่าโดยเฉลี่ยราคาอสังหาฯ สมุยต่ำกว่าภูเก็ตประมาณ 30% แต่ค่าบ้านเช่าหรือวิลล่าเช่าในสมุยไม่ได้ต่ำกว่าภูเก็ตมากนัก (บางประเภทใกล้เคียงกันด้วยซ้ำ) ทำให้อัตราผลตอบแทนของสมุยดีกว่า เช่น ทาวน์เฮ้าส์ 3 ห้องนอนในภูเก็ตอาจซื้อ 8 ล้าน ปล่อยเช่า 50,000 บาท/ด. (Yield ~7.5%) ในขณะที่สมุยซื้อแค่ 5-6 ล้าน แต่ปล่อยเช่าได้ 50,000 เท่ากัน (Yield ~10% เลย) แน่นอนว่าสิ่งนี้ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในตลาดสมุยมากขึ้น
- ความต้องการเช่าที่แข็งแกร่งและเติบโต: ดังที่ได้กล่าวไป ความนิยมของสมุยในหมู่ชาวต่างชาติเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงสั้นอีกต่อไป ชุมชน expat ขยายตัว ก่อให้เกิดดีมานด์เช่าที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง เจ้าของบ้านหลายรายมีผู้เช่าเต็มตลอด 12 เดือนในปีที่ผ่านมา (แทบไม่มีช่วงบ้านว่าง) แถมสามารถปรับขึ้นค่าเช่าเมื่อมีการต่อสัญญาใหม่ได้เฉลี่ยปีละ 3-5% ตามสภาวะตลาด นั่นหมายถึงรายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ต้นทุนถือทรัพย์ไม่ได้สูงขึ้นในอัตราเดียวกัน
- การท่องเที่ยวยังหนุนตลาดเช่าเสมอ: แม้ผู้เช่าหลักจะเป็นกลุ่มระยะยาว แต่ตลาดนักท่องเที่ยวก็คอยเสริมผลตอบแทนให้ผู้ปล่อยเช่าได้เพิ่มเติม เช่น ช่วงบางเดือนที่ผู้เช่าหลักย้ายออก ถ้าเจ้าของยืดหยุ่นทำปล่อยเช่าระยะสั้น (รายวัน/รายสัปดาห์) ให้กลุ่มนักท่องเที่ยว ก็สามารถเรียกราคาสูงกว่าเฉลี่ยและทดแทนรายได้ช่วงบ้านว่างได้เป็นอย่างดี เจ้าของบางรายเลือกโมเดลผสมคือ ปล่อยเช่ารายวันในช่วงไฮซีซั่น (รายได้สูงมาก อาจเทียบเท่าค่าเช่า 1 เดือนในเวลาเพียง 2 สัปดาห์) แล้วปล่อยเช่ารายเดือนในช่วงโลว์ซีซั่น วิธีนี้หากบริหารดีๆ จะได้ผลตอบแทนรวมต่อปีสูงกว่าปล่อยเช่ารายปีแบบคงที่เสียอีก
- สิ่งแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำ–กลาง: ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ (1-2%) ทำให้นักลงทุนมองหาช่องทางที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น การลงทุนอสังหาฯ ปล่อยเช่าที่ได้ 5-8% ในทำเลท่องเที่ยวที่มีโอกาสมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย (Capital Gain) จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก เงินทุนทั้งไทยและต่างประเทศจึงไหลเข้าสมุยพอสมควร นักลงทุนบางรายซื้อบ้านบนเกาะหลายหลังเพื่อทำเป็นพอร์ตการเช่าโดยเฉพาะ
ความเสี่ยงและข้อควรระวัง: แน่นอนว่าการลงทุนใดๆ ย่อมมีความเสี่ยง ผลตอบแทนปล่อยเช่าสมุยแม้ดูสวยงาม แต่ผู้ลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ด้วย
- ความผันผวนตามภาวะท่องเที่ยว: สมุยพึ่งพาการท่องเที่ยวสูง หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่น โรคระบาดรุนแรงหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่ทำให้คนเดินทางน้อยลง ดีมานด์เช่าบนเกาะอาจลดลงในระยะสั้น เหมือนบทเรียนช่วงโควิดที่ผ่านมาซึ่งอสังหาฯ ปล่อยเช่าหลายแห่งรายได้หดหาย ดังนั้นต้องมีแผนรองรับและเงินทุนสำรองพยุงช่วงวิกฤต
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สิน: บ้านบนเกาะต้องเผชิญสภาพอากาศชื้นและไอทะเล ทำให้เสื่อมโทรมเร็วในบางจุด เจ้าของต้องเผื่องบสำหรับการบำรุงรักษาสม่ำเสมอ (ทาสี ซ่อมหลังคากันรั่ว ล้างแอร์ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เมื่อเก่า) ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะหักจากค่าเช่าที่ได้รับ ทำให้ Net Yield ต่ำกว่า Gross Yield ที่คำนวณแบบยังไม่หักค่าใช้จ่าย
- การแข่งขันและซัพพลายใหม่: แม้ตอนนี้ผู้เช่าจะล้นหาบ้าน แต่อนาคตหากมีนักลงทุนแห่สร้างโครงการใหม่มากๆ จนซัพพลายเริ่มล้น ความสามารถในการตั้งค่าเช่าสูงๆ ก็อาจลดลง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น 2-3 ปีนี้ ยังไม่มีสัญญาณ Oversupply เด่นชัดนักในตลาดบ้านเช่าสมุย (ส่วนมากโครงการใหม่เป็นขายมากกว่าปล่อยเช่า)
- ข้อกฎหมายการเช่าระยะสั้น: หากเจ้าของวางแผนจะทำปล่อยเช่ารายวัน/รายสัปดาห์ (คล้าย Airbnb) ต้องทราบว่ากฎหมายไทยกำหนดให้การปล่อยเช่ารายวันเข้าข่ายธุรกิจโรงแรม ซึ่งจำเป็นต้องมีใบอนุญาต ถ้าไม่มีแล้วปล่อยเช่าสั้นๆ อาจมีความเสี่ยงด้านกฎหมายได้ ดังนั้นส่วนใหญ่เจ้าของจึงเน้นปล่อยเช่ารายเดือนขึ้นไป (30 วันขึ้นไป) ซึ่งไม่ติดข้อจำกัดดังกล่าว
โดยภาพรวม แนวโน้ม Rental Yield ในสมุยช่วงนี้อยู่ในระดับสูงและค่อนข้างเสถียร หลายโครงการอสังหาฯ ที่เสนอขายบ้านบนสมุยก็มักใช้จุดขายเรื่อง “ผลตอบแทนจากการเช่าดี” มาโฆษณา เช่น การันตี yield 6-8% นาน 2-5 ปี เพื่อจูงใจนักลงทุน ทั้งนี้ผู้ที่สนใจลงทุนก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ทำเลที่ดี ผู้เช่าต้องการ ช่วยลดความเสี่ยงปล่อยเช่าไม่ได้และรักษาอัตราผลตอบแทนให้เป็นไปตามคาด หากเลือกทรัพย์สินถูกต้องและบริหารอย่างมืออาชีพ สมุยก็เป็นหนึ่งในทำเลที่สามารถสร้างรายได้ค่าเช่าเป็นกอบเป็นกำ พร้อมโอกาสที่มูลค่าทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคตจากการเติบโตของเกาะอีกด้วย
สิทธิและข้อควรรู้ของผู้เช่าทาวน์เฮ้าส์
การเช่าที่พักอาศัยไม่ว่าจะที่ไหน ผู้เช่าย่อมมีสิทธิตามกฎหมายและควรตระหนักรู้หน้าที่ของตน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองและอยู่ร่วมกับผู้ให้เช่าได้อย่างราบรื่น บทนี้จะสรุปประเด็นสำคัญที่ผู้เช่าทาวน์เฮ้าส์ในสมุย (และทั่วไทย) ควรรู้ไว้ ดังนี้
- สิทธิในการทำสัญญาเช่าที่เป็นธรรม: เมื่อจะเช่าทาวน์เฮ้าส์ ผู้เช่าควรทำสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ สัญญาควรมีรายละเอียดชัดเจน เช่น ข้อมูลผู้เช่า-ผู้ให้เช่า ที่อยู่ทรัพย์สิน ค่าเช่าและกำหนดชำระ วันเริ่มต้นและสิ้นสุดสัญญา จำนวนเงินประกัน (มัดจำ) เงื่อนไขการคืนเงินประกัน เงื่อนไขการบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนด ฯลฯ ทั้งนี้สัญญาควรจัดทำอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกินควร ผู้เช่ามีสิทธิขอต่อรองหรือสอบถามให้ปรับแก้ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เช่น หากสัญญาระบุว่า “ผู้ให้เช่าสามารถยกเลิกสัญญาและไล่ผู้เช่าออกได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า” อันนี้ถือว่าไม่ยุติธรรมและขัดกฎหมาย ผู้เช่าสามารถทักท้วงให้แก้ไขได้ สัญญาควรระบุการบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันทั้งสองฝ่าย เป็นต้น
- สิทธิในความเป็นส่วนตัวและการครอบครอง: เมื่อลงนามสัญญาและจ่ายค่าเช่าตามกำหนด ผู้เช่ามีสิทธิครอบครองที่พักนั้นแต่เพียงผู้เดียวตลอดระยะเวลาสัญญา ผู้ให้เช่าไม่สามารถเข้ามาในบ้านหรือห้องเช่าได้โดยพลการหากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เช่า ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน (เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม) หรือกรณีที่ระบุในสัญญาว่าผู้ให้เช่าจะเข้ามาตรวจสอบสภาพทรัพย์เป็นครั้งคราว ซึ่งก็ต้องนัดหมายล่วงหน้า หากผู้ให้เช่าเข้ามาในบ้านโดยพลการหรือย้ายของของผู้เช่าออกไปโดยไม่มีคำสั่งศาล ถือเป็นการละเมิดสิทธิและผิดกฎหมาย (เข้าข่ายบุกรุกและลักทรัพย์ได้) ดังนั้น ผู้เช่ามั่นใจได้ว่าบ้านที่ตนเช่าคือพื้นที่ส่วนตัวของตน ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยพลการ
- สิทธิในการใช้ทรัพย์ตามปกติ: ผู้เช่ามีสิทธิใช้บ้านหรือทาวน์เฮ้าส์ที่เช่าได้ตามวัตถุประสงค์การอยู่อาศัยปกติ เช่น พักอาศัย ทำอาหาร รับแขก (ตามสมควร) โดยผู้ให้เช่าไม่สามารถกำหนดเงื่อนไขเกินสมควรที่ริดรอนการใช้ชีวิตปกติของผู้เช่าได้ เช่น ไม่สามารถห้ามผู้เช่า “ห้ามทำอาหารโดยเด็ดขาด” หรือ “ห้ามมีเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้านเลย” ในทางเดียวกัน ผู้เช่าก็ควรใช้ทรัพย์อย่างระมัดระวัง ไม่ก่อความเสียหายเกินการใช้งานปกติ หากมีข้อกำหนดพิเศษ (เช่น ห้ามเลี้ยงสัตว์, ห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน) ซึ่งระบุในสัญญา ผู้เช่าก็ควรปฏิบัติตาม เพราะหากฝ่าฝืน ผู้ให้เช่าอาจบอกเลิกสัญญาและริบเงินประกันได้
- เงินประกัน (เงินมัดจำ): ปกติการเช่าบ้านในไทย ผู้ให้เช่าจะเก็บเงินประกันความเสียหายไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งในกรณีผู้ให้เช่าเป็นบุคคลธรรมดาปล่อยเช่า 1-2 ยูนิต มักเก็บที่ 2 เดือนของค่าเช่า + ล่วงหน้า 1 เดือน (เช่น ค่าเช่า 20,000 ก็อาจจ่าย 60,000 วันทำสัญญา โดย 40,000 เป็นมัดจำ) กรณีผู้ให้เช่าเป็นบริษัทหรือปล่อยเช่าเป็นธุรกิจหลายยูนิต ตามกฎหมายผู้บริโภคจะกำหนดให้เก็บมัดจำได้ไม่เกิน 1 เดือน ผู้เช่าควรเก็บหลักฐานการชำระเงินนี้ไว้และในสัญญาต้องระบุยอดมัดจำชัดเจน สิทธิของผู้เช่าคือได้รับเงินประกันคืนเมื่อสิ้นสุดสัญญา หากไม่มีค่าเสียหายใดๆ หัก ซึ่งเงินนี้ควรคืนภายในระยะเวลาที่ตกลง (เช่น 7 วันหรือ 30 วันหลังย้ายออก) ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธินำเงินมัดจำไปริบหรือหักตามใจชอบโดยไม่มีหลักฐานความเสียหาย หากมีการหักค่าความเสียหาย ผู้เช่ามีสิทธิขอดูใบเสร็จค่าซ่อมแซมประกอบเพื่อความโปร่งใส
- การบอกเลิกสัญญา: ผู้เช่าควรสังเกตเงื่อนไขในสัญญาเกี่ยวกับการบอกเลิก หากสัญญามีกำหนดระยะเวลา (เช่น 1 ปี) ผู้เช่ามีหน้าที่อยู่ครบตามระยะเวลาหรือหา ผู้มาเช่าต่อ (Sublet) ตามที่ตกลงได้ ในกรณีจำเป็นต้องย้ายออกก่อนครบสัญญา หลายครั้งผู้เช่าจะไม่ได้รับเงินมัดจำคืน หรืออาจต้องจ่ายค่าปรับตามที่ระบุไว้ แต่ตามกฎหมายแล้ว ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาทันทีเพราะผู้เช่าออกก่อนไม่ได้ (เพราะถือว่าผู้ให้เช่าก็ผิดสัญญาด้วยหากไม่ให้ผู้เช่าอยู่ต่อ) ดังนั้นควรเจรจาประนีประนอมกับผู้ให้เช่าหากต้องออกก่อน เช่น แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน ช่วยหา tenant ใหม่มาแทน หรือยอมให้ยึดมัดจำ 1 เดือนเป็นค่าเสียโอกาส เป็นต้น ในทางกลับกัน ผู้ให้เช่าก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการบอกเลิก เช่น หากผู้เช่าจ่ายตรงเวลาและไม่ผิดสัญญา ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิมาไล่ผู้เช่าออกกลางคันโดยไม่แจ้งล่วงหน้าตามที่สัญญากำหนด หากฝ่าฝืน ผู้เช่าสามารถเรียกร้องค่าเสียหายหรือไม่ยอมย้ายออกจนกว่าจะครบสัญญาได้
- การบำรุงรักษาและซ่อมแซม: กฎหมายแพ่งระบุว่า ผู้ให้เช่าต้องดูแลซ่อมแซมใหญ่ให้สถานที่เช่าอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ (เช่น ซ่อมหลังคารั่ว ระบบประปาไฟฟ้าที่เสียเนื่องจากความเสื่อม ฯลฯ) ส่วน ผู้เช่าต้องดูแลรักษาทรัพย์ไม่ให้เสียหายเกินสึกหรอตามปกติ และรับผิดชอบซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ (เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ เปลี่ยนก๊อกน้ำเล็กน้อยที่ตนทำหัก) ในทางปฏิบัติ ถ้ามีอะไรชำรุด ผู้เช่าควรแจ้งผู้ให้เช่าทราบทันที ผู้ให้เช่าที่ดีมักจะจัดการซ่อมให้หรือส่งช่างมาโดยไวโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (ยกเว้นกรณีพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากการใช้งานผิดวิธีของผู้เช่า) ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าจ่ายค่าซ่อมสิ่งที่ตนไม่ได้ทำเสีย เช่น ถังแซก (ถังบำบัด) เต็มหรือแตกเองเพราะอายุการใช้งาน นั่นเป็นหน้าที่ผู้ให้เช่าที่ต้องซ่อม เป็นต้น ผู้เช่าควรเก็บบันทึกการแจ้งซ่อมต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน ป้องกันกรณีถูกกล่าวหาภายหลัง
- ค่าน้ำค่าไฟ: แต่ละบ้านอาจมีวิธีจัดเก็บค่าน้ำค่าไฟต่างกัน บางที่ผู้เช่าออกชื่อขอใช้มิเตอร์ตรงกับการไฟฟ้า-ประปาเอง แล้วจ่ายตามบิลตรง (มักจะถูกที่สุด) หรือบางที่เจ้าของรวมบิลมาเรียกเก็บ (ซึ่งตามกฎหมาย หากเป็นการเช่าแบบธุรกิจ เจ้าของต้องเรียกเท่าราคาจริง ห้ามบวกกำไร) ผู้เช่าควรถามให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าอัตราค่าน้ำค่าไฟคิดเท่าไร มีการ คิดเหมารวมหรือไม่ เช่น บางบ้านเหมารวมค่าน้ำให้ฟรีเพราะน้อย แต่ไฟคิดตามหน่วย ผู้เช่ามีสิทธิขอดูบิลค่าไฟค่า น้ำจากหน่วยงานเพื่อให้ทราบว่าเจ้าของคิดราคาเป็นธรรม
- กรณีเกิดข้อพิพาท: หากเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า เช่น เจ้าของไม่ยอมคืนมัดจำโดยไม่มีเหตุผล, ผู้เช่าทำบ้านพังแล้วไม่ยอมชดใช้, หรือกรณีร้ายแรงอย่างผู้ให้เช่าบุกมาล็อคบ้านไล่ผู้เช่าออก ผู้เช่ามีสิทธิใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อปกป้องตนเอง เช่น แจ้งความตำรวจในกรณีถูกบุกรุก ไล่ออกโดยมิชอบ, ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หากเป็นกรณีสัญญาไม่เป็นธรรมหรือผู้ให้เช่าเอาเปรียบ (โดยเฉพาะถ้าผู้ให้เช่าเข้าข่ายผู้ประกอบธุรกิจเช่าที่อยู่อาศัย ซึ่งต้องปฏิบัติตามประกาศ สคบ. เช่น คืนมัดจำใน 7 วัน เป็นต้น), หรือฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย/มัดจำคืนตามสิทธิ
- เอกสารสำคัญ: เมื่อเช่าบ้าน ผู้เช่าควรได้รับ/เตรียมเอกสารเหล่านี้
- สำเนาสัญญาเช่าที่ลงนามโดยทั้งสองฝ่าย (ภาษาไทย หรือไทย-อังกฤษ)
- ใบเสร็จหรือหลักฐานโอนเงินค่ามัดจำและค่าเช่าต่างๆ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ให้เช่าหรือเอกสารแสดงสิทธิว่าผู้ให้เช่าเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่าจริง (เพื่อป้องกันมิจฉาชีพเช่าช่วง)
- รายการทรัพย์สิน/เฟอร์นิเจอร์ในบ้านตอนรับมอบ (ถ้ามี) พร้อมบันทึกสภาพ เช่น ขีดเขียนในแบบตรวจรับบ้านหรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อใช้เปรียบเทียบตอนย้ายออก
- กฎหมายควบคุมธุรกิจเช่าที่อยู่อาศัย (ถ้ามี): เกร็ดเพิ่มเติมคือ หากผู้ให้เช่าเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลที่ปล่อยเช่าที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 5 ยูนิตขึ้นไป ถือว่าประกอบธุรกิจควบคุมสัญญา จะอยู่ภายใต้ประกาศ สคบ. ที่กำหนดเงื่อนไขบางอย่างเพื่อคุ้มครองผู้เช่า เช่น เก็บเงินประกันได้ไม่เกิน 1 เดือน, ห้ามเก็บค่าเช่าล่วงหน้ามากกว่า 1 เดือน, ต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วันหลังสิ้นสัญญา, ห้ามผู้ให้เช่าเข้าห้องโดยพลการ, ห้ามตั้งเงื่อนไขปรับหรือเบี้ยปรับที่ไม่เป็นธรรม เป็นต้น ผู้เช่าควรพอทราบไว้ว่าหากเราเช่ากับบริษัทหรืออพาร์ตเมนต์ใหญ่ๆ เราจะมีสิทธิเพิ่มเติมตามกฎหมายนี้ แต่ถ้าเช่ากับเจ้าของบ้านทั่วไปที่มีบ้านเดียว กฎหมายนี้ไม่ครอบคลุม ก็ให้ยึดตามข้อตกลงในสัญญาเป็นหลัก
โดยสรุป ผู้เช่าควรตระหนักถึงสิทธิพื้นฐานของตนและใช้วิจารณญาณก่อนเซ็นสัญญา ไม่ควรเกรงใจหากเห็นข้อสัญญาไม่เป็นธรรม ควรพูดคุยให้ตกลงกันก่อนเริ่มการเช่า การมีความรู้เบื้องต้นเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เช่าอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ให้เช่าบนพื้นฐานความเข้าใจซึ่งกันและกัน
คำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้เช่า
เมื่อตัดสินใจจะเช่าทาวน์เฮ้าส์สักหลังบนเกาะสมุย ผู้เช่าควรวางแผนและมีกลยุทธ์เล็กน้อยในการค้นหาและเจรจาเช่า เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงใจในราคาคุ้มค่าและลดโอกาสเกิดปัญหาในภายหลัง ต่อไปนี้คือคำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้เช่าที่จะช่วยให้กระบวนการเช่าเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ประโยชน์สูงสุด:
- ศึกษาตลาดและราคาเฉลี่ย: ก่อนเริ่มหาบ้าน ให้ผู้เช่าทำการบ้านโดยการดูประกาศเช่าบ้านในสมุยจากหลายๆ แหล่ง (เว็บไซต์อสังหาฯ กลุ่มเฟซบุ๊ก เป็นต้น) เพื่อทราบระดับราคาค่าเช่าในทำเลและขนาดบ้านที่เราสนใจ เช่น สนใจ 2 ห้องนอนใกล้หาดเฉวง ก็ลองดูหลายประกาศว่าอยู่ในช่วงประมาณเท่าไร สมมติพบว่าเฉลี่ย 30,000-40,000 บาท/เดือน เมื่อเราทราบราคากลางแล้ว เวลาไปเจอบ้านที่ถูกใจ เราจะรู้ว่าราคาที่เจ้าของเรียกนั้นสมเหตุสมผลหรือสูง/ต่ำกว่าตลาดอย่างไร ความรู้นี้ช่วยในการเจรจาต่อรองราคา อย่ากลัวที่จะต่อรองอย่างสุภาพ หากเห็นว่าราคาที่ตั้งสูงเกินไปจากค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะถ้าเรามีข้อมูลเปรียบเทียบบ้านคล้ายกันที่ราคาถูกกว่า ผู้ให้เช่าที่ไม่ดื้อรั้นมักยอมปรับลดบ้างเพื่อปิดการเช่า
- กำหนดความต้องการและลำดับความสำคัญ: เขียนรายการความต้องการของตนเองออกมาเป็นข้อๆ แล้วจัดลำดับความสำคัญ สิ่งใด “จำเป็นต้องมี” กับสิ่งใด “มีก็ดี” ตัวอย่างเช่น จำเป็นต้องมี 3 ห้องนอนเพราะมีลูก 2 คน, ต้องอนุญาตเลี้ยงสัตว์เพราะมีสุนัข, อยากได้ที่มีครัวฝรั่งเพราะทำอาหารทุกวัน, อยากได้เดินไปหาดได้ ฯลฯ เมื่อเราเคลียร์ความต้องการของตัวเอง จะช่วยโฟกัสการหาบ้านได้ตรงจุด ไม่เสียเวลาไปดูบ้านที่ไม่ตอบโจทย์ และในการเจรจากับเจ้าของ เราก็รู้ว่าจะถามหรือขอสิ่งใดบ้าง เช่น ถ้าบ้านตรงใจทุกอย่างแต่ยังไม่มีเครื่องซักผ้า เราอาจขอให้เจ้าของจัดหาให้ก่อนเข้าอยู่ เป็นต้น
- เลือกช่วงเวลาหาบ้านให้เหมาะ: อย่างที่กล่าวไป ตลาดสมุยมีฤดูกาล ผู้เช่าที่มีอิสระด้านเวลา ควรเล็งหาบ้านในช่วง ปลายโลว์ซีซั่น (ประมาณกันยายน–พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เช่าเก่าบางคนออก (หลังอยู่ครบ 1 ปี) และยังไม่ใช่พีคไฮซีซั่น เจ้าของจะกระตือรือร้นหาผู้เช่าใหม่และพร้อมเจรจาราคามากกว่า หากไปหาในช่วงธันวาคม-มกราคม ซึ่งคนยุโรปหนีหนาวมาเยอะ บ้านดีๆ อาจโดนจองหมดและราคาจะไม่ลดเลย การเริ่มสัญญาเช่าในช่วงต้นปีหรือต้นไฮซีซั่นมีแนวโน้มจ่ายแพงกว่าและตัวเลือกน้อยกว่า
- ตรวจสอบบ้านอย่างละเอียดก่อนทำสัญญา: เมื่อเจอบ้านที่ถูกใจ ให้ทำการตรวจเช็คสภาพต่างๆ อย่างรอบคอบ อย่าเกรงใจที่จะเปิดใช้งานทุกอย่าง เช่น เปิดก๊อกน้ำทุกจุดเช็คแรงดันน้ำ, กดชักโครกลองดู, เปิดไฟและแอร์ทุกห้องว่าทำงานดีไหม, ตรวจเพดานผนังว่ามีคราบน้ำรั่ว/เชื้อราหรือไม่, ประตูหน้าต่างล็อกได้แน่นหนาหรือเปล่า, เฟอร์นิเจอร์ไหนชำรุดเสียหายอยู่ก่อนแล้วบ้าง (จดไว้) ฯลฯ หากพบปัญหา แจ้งให้เจ้าของซ่อมหรือเปลี่ยนก่อนเข้าอยู่ หรืออย่างน้อยบันทึกลงภาพถ่าย/เอกสารแนบท้ายสัญญาว่าอยู่ในสภาพเช่นนั้นก่อนเช่า เพื่อป้องกันความรับผิดชอบภายหลัง
- ทำความรู้จักเพื่อนบ้านและสภาพแวดล้อม: ลองสังเกตบริเวณรอบๆ บ้านที่เช่า ดูว่าเพื่อนบ้านเป็นใคร คนไทยหรือต่างชาติ มีร้านอาหาร บาร์ หรือสถานบันเทิงอยู่ใกล้มากไหม (อาจมีเสียงหรือกลิ่นรบกวน) สภาพถนนทางเข้าเป็นอย่างไร น้ำท่วมขังหรือเปล่า ลองไปเยือนบ้านในเวลาต่างกัน เช่น กลางวันทีนึง กลางคืนทีนึง จะได้เห็นภาพครบ ในเกาะสมุยบางทีเวลากลางคืนอาจมีสุนัขจรจัดออกมา หรือตอนเช้าอาจมีเสียงไก่ขัน เสียงมัสยิด (บางพื้นที่) สิ่งเหล่านี้หากเรารับได้ก็โอเค แต่หากไม่ปลื้มจะได้พิจารณาบ้านอื่น
- สอบถามเรื่องบริการและรายจ่ายเพิ่มเติม: อย่าลืมถามผู้ให้เช่าเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือค่าเช่า เช่น
- ค่าส่วนกลางหรือค่าดูแลพื้นที่ (ถ้าอยู่ในโครงการ มีการเก็บค่าส่วนกลางหรือเจ้าของออกให้?)
- ค่าดูแลสวน/สระ (มีสระว่ายน้ำส่วนตัวไหม ใครรับผิดชอบค่าดูแล รายเดือนเท่าไร)
- ค่าอินเทอร์เน็ต เคเบิลทีวี (ผู้ให้เช่ารวมมาให้ไหม ถ้าไม่รวม เราต้องติดตั้งเองได้หรือไม่)
- บริการแม่บ้านทำความสะอาด (เจ้าของมีจัดให้หรือแนะนำคนให้ไหม ค่าใช้จ่ายอย่างไร)
สิ่งเหล่านี้แม้เป็นเรื่องรองแต่ก็ควรชัดเจน จะได้คำนวณงบประมาณจริงในการเช่าอยู่ หากมีรายการไหนที่เจ้าของรวมให้ฟรีก็นับเป็นผลประโยชน์ของเรา
- ต่อรองปรับปรุง/เพิ่มเติม: หากบ้านที่ดูอยู่โดยรวมดีมาก ขาดแค่บางอย่างที่ทำให้เราลังเล เช่น ไม่มีไมโครเวฟ ไม่มีเตาอบ หรือไม่มีม่านติดหน้าต่าง อย่ารีบปฏิเสธบ้านนั้น ผู้เช่าสามารถเจรจากับเจ้าของได้ว่าหากจะเช่าจริง ขอให้จัดหา/ติดตั้งสิ่งนั้นให้ ซึ่งหลายครั้งเจ้าของก็ยินดีเพราะอยากปล่อยเช่าได้ เช่น “ผมชอบบ้านนี้มาก แต่ผม Work from Home ต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่ทราบว่ามีไฟเบอร์เดินมาถึงบ้านไหม ถ้ายัง คุณลุงเจ้าของช่วยติดตั้งให้ได้ไหม ค่าใช้จ่ายผมช่วยออกก็ได้บางส่วน” การพูดคุยตรงไปตรงมาเช่นนี้อาจได้ทางออกที่ win-win ทั้งสองฝ่าย
- วางมัดจำอย่างระวัง: เมื่อตกลงจะเช่ากัน ให้ทำสัญญาและชำระเงินอย่างเป็นระบบ อย่าโอนเงินหรือจ่ายมัดจำก่อนเห็นสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรที่คู่สัญญาลงชื่อครบ และควรชำระเป็นวิธีที่มีหลักฐานชัดเจน เช่น โอนบัญชีธนาคารแล้วเก็บสลิป ไม่ควรจ่ายเงินสดก้อนใหญ่โดยไม่มีใบเสร็จ ใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ให้เช่า: หลังย้ายเข้าอยู่แล้ว พยายามรักษาความสัมพันธ์กับเจ้าของบ้านให้ราบรื่น ซื่อสัตย์ และมีช่องทางสื่อสารที่ดี หากมีปัญหาเล็กน้อยในบ้านที่เราซ่อมเองได้ เช่น หลอดไฟขาด ก็ซ่อมเองโดยไม่ต้องเรียกทุกเรื่อง แสดงความรับผิดชอบในการดูแลบ้านของเขาเหมือนบ้านเราเอง ในขณะเดียวกันหากมีปัญหาใหญ่ที่ต้องแจ้ง อย่ารอช้า ให้รีบแจ้งด้วยท่าทีที่สุภาพ ไม่ใช้อารมณ์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เจ้าของบ้านเอาใจใส่และไว้ใจเรามากขึ้น เวลาต่อรองหรือต่อสัญญาใหม่ก็ง่ายขึ้น และมีโอกาสที่เขาจะไม่ขึ้นค่าเช่าหรือยินดีปรับปรุงบ้านเพิ่มเติมให้เมื่อรู้ว่าได้ผู้เช่าดี
- เตรียมแผนล่วงหน้าก่อนสัญญาหมด: หากวางแผนจะอยู่ต่อ ควรติดต่อผู้ให้เช่าล่วงหน้าสัก 1-2 เดือนก่อนสัญญาหมดเพื่อแจ้งความประสงค์และสอบถามเงื่อนไขการต่อสัญญา ส่วนใหญ่หากไม่มีปัญหาอะไร ผู้ให้เช่าก็ยินดีให้ต่อ และบางครั้งผู้เช่าสามารถใช้โอกาสนี้ขอต่อรองบางอย่างได้ เช่น “ผมอยากต่ออีกปี ไม่ทราบว่าจะตรึงค่าเช่าเท่าเดิมได้ไหม” หรือ “ถ้าสัญญาใหม่ ขออนุญาตเลี้ยงแมว 1 ตัวในบ้าน เพราะตอนนี้ผมแฟนจะย้ายมาอยู่ด้วย” เป็นต้น การคุยแต่เนิ่นๆ แสดงถึงความจริงใจและให้เวลาคู่กรณีพิจารณา ไม่ควรแจ้งกระชั้นชิดเกินไป
คำแนะนำเหล่านี้สรุปมาจากประสบการณ์ผู้เช่ามากมาย และหวังว่าจะช่วยให้ผู้เช่าทุกท่านหาทาวน์เฮ้าส์เช่าในเกาะสมุยที่ตรงใจ ได้ราคายุติธรรม และอยู่อาศัยอย่างมีความสุขตลอดสัญญาเช่าที่ตกลงกัน
คำแนะนำเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้ปล่อยเช่า
ฝั่งของผู้ปล่อยเช่าหรือนักลงทุนเจ้าของทรัพย์เอง ก็มีหลายสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อเพิ่มความสำเร็จในการปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์ในสมุย ไม่ว่าจะเป็นการหาผู้เช่าที่ดีให้ได้เร็วที่สุด การรักษาผู้เช่าให้อยู่ยาวนาน หรือการบริหารจัดการทรัพย์สินให้สร้างผลตอบแทนคุ้มค่า ต่อไปนี้คือกลยุทธ์และเคล็ดลับที่แนะนำสำหรับผู้ปล่อยเช่า:
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายและปรับปรุงทรัพย์ให้เหมาะสม: พิจารณาว่าทาวน์เฮ้าส์ของคุณเหมาะจะจับกลุ่มผู้เช่าใดมากที่สุด เช่น เป็นบ้าน 2 ห้องนอนใกล้โรงเรียนนานาชาติ – กลุ่มเป้าหมายคือครอบครัว expat, เป็นบ้าน 1 ห้องนอนในซอยชุมชน – กลุ่มเป้าหมายคือพนักงานคนไทยหรือต่างชาติคนเดียว, หรือเป็นบ้านหลังใหญ่พร้อมสระ – กลุ่มเป้าคือผู้บริหารระดับสูง/กลุ่มเพื่อนแชร์บ้าน เป็นต้น เมื่อระบุกลุ่มเป้าได้แล้ว จงปรับสภาพและตกแต่งบ้านให้ตรงใจกลุ่มนั้น เช่น กลุ่มครอบครัว expat ก็ควรมีเฟอร์นิเจอร์ครบถึงเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า มีประตูรั้วปลอดภัยสำหรับเด็ก, หากเล็งกลุ่มวัยรุ่นเที่ยว – บ้านอาจตกแต่งทันสมัย Instagrammable หน่อย เป็นต้น การรู้จักตลาดของตนทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นและดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มนั้นๆ
- ตั้งราคาค่าเช่าอย่างเหมาะสม: ศึกษาค่าเช่าตลาด ในทำเลเดียวกันและระดับบ้านใกล้เคียงกัน อย่าตั้งราคาสูงลิ่วเกินจริงเพียงเพราะคิดว่าบ้านเราดี เพราะจะปล่อยเช่าไม่ออกนานกลายเป็นเสียโอกาสรายได้ ให้ตั้งราคาที่แข่งขันได้และสะท้อนคุณภาพบ้าน เช่น ถ้าบ้านเรามีข้อด้อยบางอย่าง (ไม่มีวิว ไม่มีสระ อยู่ไกลทะเล) ก็ควรตั้งถูกกว่าคู่แข่งที่มีจุดเด่นเหล่านั้น หากบ้านเรามีข้อเด่นชัด (เช่น หลังมุม มีพื้นที่สวน) อาจตั้งเท่าหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยนิดหน่อยได้ กลยุทธ์หนึ่งคือเผื่อส่วนลดไว้เล็กน้อย ตั้งราคาให้มีช่องเจรจา เช่น อยากได้สุทธิ 25,000 อาจตั้ง 28,000 ไว้ก่อน เพื่อให้ลดให้นิดหน่อยแล้วผู้เช่ารู้สึกพอใจ ทั้งนี้หลีกเลี่ยงการตั้งราคาต่ำเกินไปด้วย เพราะอาจถูกมองว่าบ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
- ประกาศและโปรโมททรัพย์อย่างมืออาชีพ: ในยุคนี้ผู้เช่าส่วนใหญ่ค้นหาบ้านผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ปล่อยเช่าควรลงทุนกับรูปถ่ายคุณภาพสูงของบ้าน จัดบ้านให้เรียบร้อยก่อนถ่าย เน้นมุมเด่นๆ เช่น ห้องนั่งเล่นกว้าง ครัวสวย วิวระเบียง จากนั้นลงประกาศในแพลตฟอร์มยอดนิยม (ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ) พร้อมรายละเอียดครบถ้วน เช่น ขนาดพื้นที่ จำนวนห้อง เฟอร์นิเจอร์ สิ่งอำนวยความสะดวก แผนที่คร่าวๆ และเงื่อนไขค่าเช่า การลงข้อมูลละเอียดและตรงไปตรงมาจะดึงดูดผู้เช่าคุณภาพได้ดีกว่าประกาศที่ข้อมูลน้อย ยิ่งถ้าเขียนทั้งภาษาไทยและอังกฤษจะเข้าถึงทั้งตลาดคนไทยและต่างชาติ อย่าลืมใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย กลุ่ม Facebook “บ้านเช่าเกาะสมุย” หรือเว็บบอร์ด expat ท้องถิ่นก็เป็นช่องทางที่ดี
- ยืดหยุ่นเรื่องเงื่อนไขเพื่อขยายฐานลูกค้า: หากเป็นไปได้ ควรพิจารณาเงื่อนไขที่เข้มงวดบางอย่างว่าจำเป็นแค่ไหน เช่น การอนุญาตสัตว์เลี้ยง – ปัจจุบันหลายครอบครัวมีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิก ถ้าเรากีดกันหมดอาจเสียลูกค้ากลุ่มใหญ่ ลองปรับเป็นอนุญาตกรณีต่อกรณี อาจเก็บเงินประกันเพิ่มเพื่อครอบคลุมความเสียหาย (เช่น +หนึ่งเดือนสำหรับกรณีมีสัตว์เลี้ยง) จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการปล่อยเช่า หรือ เรื่องสัญญาเช่า – ถ้าเรายืนกรานจะเอาแต่สัญญา 1 ปี อาจพลาดลูกค้าที่อยากเช่า 6 เดือนบางกลุ่มไป หากเรารับ 6 เดือนได้และตั้งราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยชดเชย ก็อาจปิดดีลได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ควรชั่งดูกับความเสี่ยงและความสะดวกของเราเป็นสำคัญ
- ดูแลบำรุงรักษาทรัพย์สินสม่ำเสมอ: บ้านที่อยู่ในสภาพดีจะดึงดูดและรักษาผู้เช่าได้ดีกว่า ก่อนปล่อยเช่า ควรตรวจแก้ไขจุดชำรุดต่างๆ ให้เรียบร้อย เช่น ทาสีใหม่ถ้าผนังลอก เปลี่ยนหลอดไฟ ตรวจระบบน้ำให้น้ำไหลแรงไม่มีท่อรั่ว สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้แสดงถึงความใส่ใจและผู้เช่าจะรู้สึกสบายใจที่ได้บ้านคุณภาพ เมื่อมีผู้เช่าแล้ว ก็อย่าหย่อนการดูแล หากผู้เช้าแจ้งปัญหา ควรรีบดำเนินการซ่อมแซมหรือช่วยเหลือโดยเร็ว การบริการที่ดีจะสร้างความประทับใจและความภักดี ผู้เช่าก็มีแนวโน้มอยู่ต่อยาวๆ ไม่ย้ายออก
- สร้างระบบความปลอดภัยและความสะดวก: หากบ้านอยู่ในบริเวณที่ไม่มียามหรือรั้วรอบ อาจติดกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านเพื่อเสริมความปลอดภัย (แน่นอนว่าต้องไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้เช่า – ติดเฉพาะภายนอก) หรือจัดหาอุปกรณ์ดับเพลิง ถังดับเพลิงติดบ้านไว้ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าในการปล่อยเช่า เพราะผู้เช่าจะรู้สึกว่าบ้านเราปลอดภัยครบครันกว่าหลังอื่น นอกจากนี้หากเรามีคู่ค้าบริการ เช่น มีแม่บ้านสามารถแนะนำให้ผู้เช่าเรียกใช้ มีช่างประจำพร้อมติดต่อ เป็นต้น จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้ผู้เช่าว่าการอยู่บ้านเราจะไร้กังวลเรื่องการดูแล
- สื่อสารและคัดกรองผู้เช่าอย่างมืออาชีพ: เมื่อมีผู้สนใจติดต่อมา ควรตอบกลับอย่างรวดเร็วและให้ข้อมูลครบถ้วน นัดหมายดูบ้านตามเวลาที่สะดวกทั้งสองฝ่าย เมื่อพบกันควรแสดงความเป็นกันเองแต่ก็มืออาชีพ สร้างความไว้วางใจตั้งแต่แรก การคัดกรองผู้เช่าก็สำคัญ อาจสอบถามคร่าวๆ ถึงประวัติ เช่น ทำงานอะไร อยู่กี่คน มีสัตว์เลี้ยงไหม แผนการเช่าระยะยาวหรือไม่ โดยถามอย่างสุภาพเป็นกันเอง หากเป็นชาวต่างชาติการขอดู passport หรือวีซ่าคร่าวๆ ก็ช่วยให้มั่นใจว่าเขาอยู่ในไทยอย่างถูกกฎหมายและอยู่ได้ยาวตามที่จะเช่า ผู้ให้เช่าเองก็ควรเตรียมสำเนาเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของบ้านไว้เผื่อผู้เช่าขอดูเพื่อความสบายใจ
- ทำสัญญาชัดเจนและรักษาคำพูด: เมื่อตกลงกันได้แล้ว ให้ทำสัญญาที่ครอบคลุมประเด็นต่างๆ และปฏิบัติตามสัญญานั้นอย่างเคร่งครัด ผู้ให้เช่าที่ดีควร รักษาคำพูด เช่น สัญญาว่าจะซื้อไมโครเวฟเพิ่มให้ก่อนผู้เช่าเข้าอยู่ ก็ควรทำตามที่พูด หรือหากบอกว่าจะไม่ขึ้นค่าเช่าในปีหน้าก็ควรทำตามนั้น ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมาก หากผู้เช่าเชื่อใจเราแล้ว ความสัมพันธ์จะราบรื่นและเขาอาจแนะนำเพื่อนฝูงให้มาเช่าบ้านเราในอนาคตด้วย
- บริหารการเงินและภาษีอย่างเป็นระบบ: รายได้ค่าเช่าเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ผู้ให้เช่าควรเก็บบันทึกรายรับรายจ่ายจากการปล่อยเช่า รวมถึงค่าใช้จ่ายที่นำไปลดหย่อนภาษีได้ เช่น ค่าซ่อมบ้าน ค่าส่วนกลาง เพื่อบริหารภาษีให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ การวางบิลค่าเช่าและใบเสร็จก็ควรมีให้ผู้เช่าอย่างเป็นระเบียบ โดยเฉพาะถ้าผู้เช่าเป็นบริษัทต้องการใบเสร็จไปเบิก เป็นต้น การจัดระบบการเงินดีจะทำให้ทราบผลตอบแทนที่แท้จริงและวางแผนปรับปรุงลงทุนในอนาคตได้ง่าย
- มีแผนรับมือเมื่อบ้านว่าง: ไม่มีผู้ให้เช่าคนไหนอยากให้บ้านว่าง แต่ควรเตรียมแผนไว้เผื่อกรณีผู้เช่าย้ายออกและยังหาคนใหม่ไม่ได้ทันที เช่น มีเงินสำรองเผื่อผ่อนธนาคาร 2-3 เดือนโดยไม่ต้องพึ่งค่าเช่า, วางกลยุทธ์ว่าจะลดค่าเช่าชั่วคราวดึงดูดลูกค้าหรือไม่, หรือใช้ช่วงบ้านว่างปรับปรุงซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ไปเลย เป็นต้น การเตรียมพร้อมทำให้ไม่ตระหนกหากเกิดช่องว่างและสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้
การเป็นผู้ให้เช่าที่ดีในสายตาผู้เช่าและการบริหารทรัพย์สินอย่างมืออาชีพนั้นไม่เพียงช่วยให้ปล่อยเช่าได้ง่ายและได้ราคาดี แต่ยังสร้างชื่อเสียงบอกต่อในหมู่ผู้เช่าด้วยกัน สมุยเป็นเกาะเล็กที่ข่าวสารในกลุ่ม expat กระจายเร็ว หากบ้านเราอยู่สบาย เจ้าของน่ารัก ราคาเหมาะสม ก็จะมีคนแนะนำต่อๆ กัน ทำให้ไม่มีปัญหาผู้เช่าขาดในระยะยาว กลยุทธ์ข้างต้นเป็นแนวทางทั่วไปซึ่งเจ้าของแต่ละรายอาจนำไปปรับใช้ตามสถานการณ์ของตนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
สรุป
ตลาดทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในเกาะสมุย ณ ปัจจุบันถือว่าเป็นตลาดที่คึกคักและเปี่ยมไปด้วยโอกาส ไม่ว่าจะในมุมมองของผู้เช่าที่มองหาความคุ้มค่าและคุณภาพชีวิตบนเกาะสวรรค์ หรือในมุมของนักลงทุนผู้ปล่อยเช่าที่ต้องการผลตอบแทนจากทรัพย์สินของตน เกาะสมุยได้พิสูจน์ตนเองหลังยุคโควิดว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการอยู่อาศัยระยะยาว ไม่แพ้เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ อย่างภูเก็ตหรือต่างประเทศ ด้วยความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อมธรรมชาติที่งดงาม และชุมชนชาวต่างชาติที่เติบโต สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้ตลาดเช่าบ้านโดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์เติบโตต่อเนื่อง
ในบทความนี้ เราได้ลงลึกถึงสามทำเลหลักของสมุย – เฉวง, ละไม, บ่อผุด – ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ต่างกันไป เฉวงเหมาะกับคนชอบความครึกครื้น ใจกลางแสงสี แต่ค่าเช่าสูงสุด ละไมตอบโจทย์คนมองหาความสงบผ่อนคลาย ในงบประมาณที่เป็นมิตรมากขึ้น ส่วนบ่อผุดเป็นแหล่งอยู่อาศัยยอดนิยมของทั้งต่างชาติและคนไทย มีความสมดุลระหว่างความสะดวกเมืองและบรรยากาศชุมชน นอกจากนี้ ยังได้อธิบายประเภทของทาวน์เฮ้าส์และช่วงราคาค่าเช่าต่างๆ เพื่อให้ผู้อ่านประเมินงบประมาณและความคุ้มค่าได้ถูกต้อง รวมถึงวิเคราะห์กลุ่มผู้เช่าหลักในสมุยที่มีความหลากหลาย นับตั้งแต่วัยเกษียณต่างชาติ ครอบครัว expat พนักงานคนไทย ไปจนถึงนักท่องเที่ยวระยะยาว ซึ่งล้วนส่งผลต่อกลยุทธ์การปล่อยเช่าและการหาเช่าด้วยกันทั้งสิ้น
ในด้านการลงทุน ผลตอบแทนการปล่อยเช่าบนสมุยถือว่าสดใส แต่ผู้ลงทุนก็ต้องตระหนักถึงการบริหารความเสี่ยงและการดูแลทรัพย์สิน ส่วนผู้เช่าเองก็มีสิทธิและหน้าที่ที่ควรรู้เพื่อคุ้มครองตนเอง การเช่าบ้านจะราบรื่นได้ต้องอาศัยความเข้าใจและความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย คู่มือฉบับนี้จึงให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์แก่ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่า ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเจรจา การดูแลรักษาบ้าน หรือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่สัญญา ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสริมให้การเช่า-ให้เช่าเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกคน
ท้ายที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะผู้เช่าที่กำลังมองหาทาวน์เฮ้าส์ในฝันบนเกาะสมุย หรือเจ้าของบ้านที่หวังปล่อยเช่าให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า เราหวังว่าข้อมูลและคำแนะนำในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคุณ เกาะสมุยในวันนี้ไม่ได้มีดีแค่ทิวทัศน์สวยงามสำหรับท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมด้วยโอกาสในการอยู่อาศัยและลงทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน หากมีการวางแผนและดำเนินการอย่างเหมาะสม การเช่าหรือปล่อยเช่าทาวน์เฮ้าส์บนเกาะสมุยสามารถกลายเป็นประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เรียนผู้อ่านทุกท่านที่สนใจทาวน์เฮ้าส์ให้เช่าในเกาะสมุย ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน ขอให้ประสบความสำเร็จในการค้นหาสิ่งที่ใช่ และขอให้การใช้ชีวิตหรือดำเนินธุรกิจบนเกาะสมุยเต็มไปด้วยความสุขและความรุ่งเรือง สมกับที่สมุยได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์กลางอ่าวไทย” อย่างแท้จริง