ชวนทำความรู้จัก ประกันบ้าน คืออะไร ?

สำหรับคนที่เตรียมตัวซื้อบ้านและยื่นกู้ขอสินเชื่อจากธนาคาร มักจะพบว่ามีประกันโครงสร้างบ้านด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้รายละเอียดว่าประกันบ้านคืออะไร สามารถครอบคลุมการคุ้มครองบ้านในเรื่องไหนบ้าง มีความแตกต่างจากรมธรรม์อื่นๆ อย่างไร ในบทความนี้จะรวบรวมข้อมูลของประกันบ้านไว้อย่างครบถ้วน

ประกันบ้านคืออะไร สำคัญแค่ไหน?

ประกันโครงสร้างบ้าน หรือ ประกันบ้านคือสิทธิ์ที่ผู้ซื้อขาย จะได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่ซื้อบ้านไป แล้วพบว่าโครงสร้างบ้านมีความไม่สมบูรณ์ ก่อสร้างไม่ได้ตามมาตรฐาน หรือมีความชำรุดเสียดาย ซึ่งจะเป็นผลให้เจ้าของบ้านจะต้องตามมาปรับปรุงซ่อมแซมบ้านแบบไม่รู้จบ ซึ่งประกันบ้านคือสิ่งที่จะช่วยให้ผู้ซื้อบ้าน สามารถเรียกร้องเอาประกันกับทางโครงการหรือผู้ขายได้

_pic_1_

หลักการสำคัญของประกันบ้านคือ?

หลักประกันในความปลอดภัยและคุณภาพของโครงสร้างหรือวัสดุบ้านที่มีการตกลงซื้อขายกันตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปหลักการของประกันบ้านนั้น มักจะมีการกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขภายใต้กฎหมาย ซึ่งกฎหมายที่คุ้มครองในประกันบ้านคือกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และพระราชบัญญัติที่ดิน หลักการของประกันบ้านคือเมื่อมีการทำสัญญาซื้อขายบ้าน ผู้ขายจะต้องทำการระบุเงื่อนไขต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะรับผิดชอบและซ่อมแซมในกรณีที่พบความเสียหาย โครงสร้างบ้านมีความไม่สมบูรณ์ พบการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือส่วนต่าง ๆ เกิดความเสียหาย เป็นต้น

ประกันบ้าน จึงเหมือนเป็นการการันตีในความมั่นคงและคุณภาพของบ้านที่เป็นของเราในอนาคต ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงมีสิทธิเรียกร้องเอาประกันได้ในกรณีที่พบความเสียหายหรือชำรุดภายในบ้าน อุปกรณ์ รวมไปถึงระบบต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการติดตั้งและก่อสร้างในส่วนที่รับมอบบ้าน ซึ่งผู้รับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนนี้ จะเป็นทางโครงการหรือผู้ขาย ที่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทั้งหมด โดยที่เจ้าของบ้านไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเอง

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ซื้อบ้านมักจะละเลยในการพิจารณาประกันบ้านคือ รายละเอียดของกรมธรรม์ที่ระบุการคุ้มครอง ดังนั้นข้อสำคัญคือเจ้าของบ้านจะต้องตรวจสอบและพิจารณารายละเอียดในส่วนนี้ และมีการซักถามในสิ่งที่ยังมีความข้องใจก่อนทำประกันบ้าน

_pic_2_

ประกันบ้านมีประกันอะไรบ้าง?

ในส่วนข้างต้นที่ได้กล่าวถึง เป็นการพูดถึงประกันโครงสร้างบ้าน แต่นอกเหนือไปจากประกันบ้านแล้ว ยังมีประกันในส่วนอื่น ๆ ที่มักจะเป็นที่นิยมของผู้ซื้อบ้านเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นประกันที่ครอบคลุมอุบัติเหตุและภัยต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย อุทกภัย พายุ แผ่นดินไหว ภัยลูกเห็บ หรือแม้แต่ความเสียหายที่เกิดต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

ประกันบ้านที่ไหนดีที่น่าสนใจ?

ในส่วนของประกันโครงสร้างบ้านนั้น มักจะเป็นสิทธิ์ที่ผู้ซื้อบ้านจะได้รับโดยชอบธรรมอยู่แล้ว ภายใต้ชื่อ ประกันโครงสร้างบ้าน แต่สำหรับประกันภัยในการคุ้มครองบ้านประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ประกันอัคคีภัย อุทกภัย พายุ แผ่นดินไหว ภัยลูกเห็บ หรือแม้แต่ความเสียหายที่เกิดต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า ผู้ซื้อบ้านจะต้องซื้อประกันภัยแยกต่างหาก ซึ่งในส่วนนี้หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อประกันบ้านที่ไหนดี ซึ่งโดยหลักการแล้วแต่ละบริษัทประกันภัยก็มักจะมีเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่หากยังไม่มั่นใจว่าควรจะประกันบ้านที่ไหนดี ให้ลองพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

  • ความน่าเชื่อถือของฝ่ายขายประกัน

ฝ่ายขายของประกัน เรียกได้ว่าเป็นหน้าตาของบริษัทประกันที่สามารถสะท้อนความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี โดยฝ่ายขายที่ดีควรจะมีความเชี่ยวชาญ สามารถบอกเล่ารายละเอียดของประกันได้อย่างชัดเจน มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ทำให้ลูกค้าสับสน

  • แผนประกันที่มีความเหมาะสม

อีกหนึ่งเงื่อนไขสำหรับการซื้อประกันภัยบ้านคือรูปแบบแผนประกันภัยที่มี่ความเหมาะสม โดยส่วนสำคัญที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน คือในส่วนของเงื่อนไขของประกัน ประเภทของความคุ้มครอง ตลอดจนถึงข้อยกเว้นความคุ้มครอง เพื่อพิจารณารายละเอียดให้ชัดเจน

  • ค่าเบี้ยประกันภัย

ระยะเวลาคุ้มครองของประกันบ้านนั้นจะสั้นยาว ขึ้นอยู่กับรูปแบบของกรมธรรม์ โดยค่าเบี้ยประกันภัยก็จะสอดคล้องไปกับระยะเวลาคุ้มครองด้วยเช่นกัน ซึ่งค่าเบี้ยประกันสามารถเปรียบเทียบได้จากระยะเวลาส่วนนี้

  • ฐานะทางการเงินของบริษัทประกัน

แน่นอนว่าฐานะทางการเงินของบริษัทประกัน เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการเลือกซื้อประกันบ้าน เพราะหากบริษัทประกันไม่มีความมั่นคงทางการเงิน อาจจะทำให้บริษัทไม่มีความสามารถในการชำระเบี้ยประกันให้กับเราได้

_pic_3_

สำหรับประกันบ้าน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับเจ้าของบ้านที่อยากได้ความคุ้มครองเกี่ยวกับทรัพย์สินและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้โดยคาดฝัน อย่างไรก็ตาม ประกันบ้านเองก็เหมือนกับประกันภัยทั่วไป สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ซื้อจะต้อวงศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์และพิจารณามให้ถี่ถ้วน เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเอง