นายโอภาส หนูชิต ที่ปรึกษาสหกรณ์ปาล์มน้ำมันจังหวัดพัทลุง จำกัด ได้กล่าวเปิดเผยว่า ในช่วงปีนี้ภายในพื้นที่ภาคใต้ได้มีการปลูกปาล์มเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งทำให้ราคาที่ดินที่เหมาะกับการปลูกปาล์มมีการปรับตัวสูงขึ้น
ซึ่งในปัจจุบันมีนักลงทุนหันมาซื้อที่ดินปลูกปาล์มกันเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีพื้นที่แปลงขนาดใหญ่รองรับ ทำให้ต้องใช้วิธีรวบรวมซื้อจากแปลงย่อย ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ที่มีความเหมาะสมสำหรับการปลูกปาล์มมักจะอยู่ในโซนริมทะเลสาบสงขลา ตั้งแต่จังหวัดพัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช ประมาณ 3 ไร่ ซึ่งคาดว่าในช่วงปี 2563 จะสามารถทำการทยอยปลูกปาล์มได้เต็มพื้นที่ดังกล่าว ส่วนทางด้านเจ้าของสวนปาล์มในพื้นที่อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ได้ทำการเปิดเผยต่ออีกว่า ขณะนี้เกษตรกรในอำเภอปากพะยูน กำลังแปรสภาพพื้นที่นาร้าง บ่อกุ้งร้างมาทำเป็นพื้นที่สวนปาล์ม โดยเฉพาะในเขตตำบลเกาะคำนับได้ว่ามีพื้นที่ที่มีความเหมาะสมกับการปลูกปาล์มมากกว่า 10000 ไร่ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยปลูกไปแล้วบ้าง โดยมีกลุ่มนักลงทุนจากจังหวัดสงขลาเข้ามาปลูกแปลงใหญ่นับร้อยไร่ ซึ่งในอำเภอปากพะยูนจะเป็นแหล่งปลูกปาล์มอันดับ 1 ของพัทลุง
สำหรับในปัจจุบันเจ้าของสวนยางหลายรายได้ทำการโค่นยางพาราทิ้งทั้งหมด และได้หันมาปลูกปาล์มทดแทน เพราะนับได้ว่ามีรายได้ดีกว่ายางพาราเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็ทำให้ราคาที่ดินในอำเภอปากพะยูนพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจากราคาเดิมราคาที่ดินอยู่ที่ไร่ละ 2000 บาท แต่ในขณะนี้ราคาที่ดินกลับสูงขึ้นเป็นไร่ละ 60000 – 80000 บาทเลยทีเดียว
