รากหญ้าเริ่มแย่ นายทุนเงินจมหวั่นลดเงินเดือนคนใช้แรงงาน

มีการเปิดเผยออกมาจาก สมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย ว่ามีสัญญาณอันตรายที่ส่อเค้าเศรษฐกิจย่ำแย่ลงกว่าเดิม ซึ่งในเรื่องนี้นั้น นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย เปิดเผยว่าร้านค้าปลีกรายย่อย หรือ โชห่วย เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจบางแล้ว เพราะ โรงงานผลิตสินค้าระดับล่างและโรงงานขนาดกลางและย่อย (SME) ลดเวลาทำงานจากปกติ (OT) หรือ มีการลดการจ้างงาน การลดสวัสดิการพนักงานเช่น เบี้ยขยัน โบนัส เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ ลดความเสี่ยงต่างๆ เพื่อประคองตัวและเก็บเงินไว้สำรองยามฉุกเฉินimages

เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาลง ไม่ว่าจะส่งออก หรือ อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการค้าต่างๆ ทำให้หลายๆคนเริ่มมองปัญหาว่ามาจากไหน ใครได้รับผลกระทบบ้าง และ สัญญาณเริ่มมาจากไหนที่ส่อเค้าลางที่ไม่ดี ไม่เว้นแม้แต่ปัญหาการจำนำข้าว ที่ทำให้รากหญ้าที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติได้รับผลกระทบ และ ยิ่งเป็นคนใช้แรงงานด้วยแล้ว แน่นอนว่าผลกระทบตกไปที่สองกลุ่มนี้ตรงๆ

อย่างเช่น ร้านค้าโชห่วยที่มีปัญหาได้รับผลกระทบจากการที่มีร้านสะดวกซื้อ และ ห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว ก็ยิ่งได้รับผลกระทบเข้าไปอีก เพราะร้านเหล่านี้แฝงตัวอยู่ตามตรอก ซอย ต่างๆ ตามชุมชน ซึ่งกำลังซื้อมักเป็นกลุ่มคนใช้แรงงาน คนรายได้น้อย ที่ไม่ต้องการไปห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านสะดวกซื้อ ก็ซื้อจากร้านโชห่วย หรือ ร้านของชำ เหล่านี้ ซึ่งเมื่อมีการขึ้นราคาจากผู้ผลิต หรือ ขึ้นราคาจากผู้ประกอบการ ร้านค้าเหล่านี้แน่นอนว่าได้รับผลกระทบเต็มๆ บางร้านไม่สามารถขึ้นราคาของที่ขายหน้าร้านได้ ก็ต้องทนแบกรับกับกำไรที่น้อยลง ผู้คนเริ่มประหยัดมากขึ้น เพราะรายได้ลดลง เนื่องจาก โรงงานไม่มีโอที เพราะยอดสั่งซื้อของโรงงานไม่มีเข้ามา สต๊อคสินค้าคงคลังมีเยอะ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเร่งการผลิต ดังนั้นคนงานจึงทำงานแค่ตามเวลา รายได้ก็ลดลง เพราะส่วนมากเป็นการจ้างรายวัน หรือ บางแห่ง จ้างทำงานเท่าที่จำเป็น มีการลดพนักงาน

โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่ต้องประคองตัวให้รอดในสถานการณ์นี้ และ ยังต้องมองถึงอนาคต ว่าจะเปิดตลาดใหม่ได้หรือไม่ ต้องใช้เงินลงทุนอีกเท่าไหร่ และ ในอนาคตที่จะเปิด AEC ยิ่งทำให้ต้องมองถึงคู่แข่งในกลุ่มอาเซียน เพราะบางประเทศมีค่าแรงถูกกว่า ดังนั้นการจ้างงานจากต่างประเทศอาจไปยังประเทศอื่น ๆ มากกว่าบ้านเรา รวมถึง ประชาชนในประเทศ เริ่มระมัดระวังเพราะกลัวปัญหาฟองสบู่แตก จึงเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น และ นักท่องเที่ยวเองก็เข้าประเทศน้อยลง ผลกระทบมีไปทุกภาคส่วน และ สัญญาณที่มองเห็นได้ชัด คือ ปัญหาจากกลุ่มคนใช้แรงงาน หรือ รากหญ้า ที่มีรายได้น้อย แต่ ค่าครองชีพสูง

ดังนั้นสัญญาณที่มาจากร้านขายของชำ หรือ โชห่วย นั้น คงจะปฏิเสธกันไม่ได้ว่า มันคือสัญญาณของปัญหาที่แท้จริง และ กำลังเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับรู้และมองถึงสภาพการณ์ของคนรายได้น้อยที่เป็นประชากรจำนวนมากของประเทศเรา