ราคาประเมินที่ดินใหม่ร่วง เพราะผลพวงเศรษฐกิจ

จากการที่รัฐบาลเร่งจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อขยายฐานสร้างรายได้เพื่อนำไปพัฒนาประเทศนั้น ทำให้ขณะนี้กรมธนารักษ์ต้องเร่งมือเพื่อพัฒนาระบบการประเมินราคาที่ดิน 23 ล้านแปลงทั้งประเทศใหม่ ซึ่งคาดว่าราคาประเมินที่ดินใหม่จะเริ่มประกาศใช้ได้ในปี 2559 นี้

เบื้องต้นคาดว่า หากยังไม่เดินหน้าเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ผลจากราคาประเมินใหม่จะทำให้รัฐมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการโอนของกรมที่ดินเพิ่มอีกปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน เห็นว่า การที่กรมธนารักษ์ปรับระบบประเมินราคาที่ดินใหม่เป็นแบบฐานข้อมูลกลางสามารถอัพเดทข้อมูลได้ตลอด โดยที่ไม่ต้องรอราคาประเมินใหม่ทุกปี เพื่อให้การจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมมีความทันสมัยเป็นปัจจุบันและมีรายได้เพิ่มขึ้นสอดรับกับแผนพัฒนาเมืองและการขยายการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคของรัฐบาล

ซึ่งผลจากการลงทุนสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย ทำให้ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าพุ่งอีกอย่างน้อยๆ 10% เนื่องจากทำให้เกิดการลงทุนอื่นๆ เช่น การสร้างห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม หรือ อพาร์ตเมนต์

นอกจากนี้ผลจากการก่อสร้างมอเตอร์เวย์จะทำให้การเดินทางขนส่งสินค้าสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ และหากมีการก่อสร้างลงทุนจริง ก็จะนำไปสู่การ กระจายความเจริญ เมื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บุก ราคาที่ดินก็จะปรับตัวสูงขึ้นตามทันทีด้วย

จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย การประกาศราคาที่ดิน จากเดิมจะประกาศราคาที่ดินทุก 4 ปี แต่จะเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยการอ้างอิงจากข้อมูลการซื้อขายเปลี่ยนมือ เข้าระบบดิจิตอล ซึ่งราคาใหม่จะถูกใส่เข้าไปในระบบมีผลต่อราคาประเมินครั้งต่อๆ ไป

ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ, หนี้ครัวเรือน จึงส่งผลให้คนจะชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยเพราะไม่สามารถสู้ราคาที่ปรับใหม่ได้ เหล่านี้กระทบต่อราคาประเมินในภาพรวมจากที่หวังกันว่าจะพุ่งเป็น 20-30 % ก็จะเหลือแค่เป็นการปรับตัวเฉพาะย่านเศรษฐกิจ ซึ่งราคาประเมินในภาพรวมจะไม่สูงขึ้นทั้งประเทศ เป้าหมายที่หวังว่ามีรายได้จากค่าโอนก็อาจจะไม่มากถึง 2-3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ยังแขวนอยู่ที่ความชัดเจนทางการเมือง หากรัฐบาลนี้ก็เกิดอยู่ไม่ได้อย่างที่คิด โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดก็ต้องพับแผนรอรัฐบาลใหม่ ทำให้นักเก็งกำไรจากราคาที่ดินอาจเจ็บตัว เพราะราคาประเมินใหม่อาจจะไม่พุ่ง ซึ่งก็เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน

ที่มา : โพสต์ทูเดย์