หวั่นหนี้ค้างอ่วมกลุ่มสินเชื่อรถยนต์-สินเชื่อบ้าน

สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้าน
สินเชื่อบ้าน

มีการเปิดเผยจากธนาคารแห่งประเทศไทยถึงเรื่องภาวะหนี้เสีย ซึ่งจากการตรจสอบที่ผ่านมาพบว่า มีสินเชื่อที่ค้างชำระตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไปนั้นในไตรมาสสองของปี 2557 นั้นมีสินเชื่อที่ค้างชำระ(SM) ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปนั้นมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปัจจุบันยอดคงค้างตั้งแต่ 1 เดือน –3 เดือนสูงถึง 98,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,600 ล้านบาท โดยหากเทียบสัดส่วน SM ต่อสินเชื่อรวม พบว่า อยู่ที่ 2.4% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ 2.3% ทั้งนี้ SM ในไตรมาสที่ 2 ที่เพิ่มขึ้นเป็นอัตราส่วนมากกว่าสินเชื่ออื่น เช่น SM สินเชื่อภาคอุตสาหกรรม เพิ่มจาก 3.9% เป็น 4.1% สินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเพิ่มขึ้นจาก 2.4% เป็น 2.9% สินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้นจาก 7.7% เป็น 8.2% และสินเชื่อบัตรเครดิตที่ SM เพิ่มขึ้นจาก 2% ในไตรมาสที่ 1 เป็น 2.2% ในไตรมาสที่ 2

ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเป็นหนี้ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นหนีเสียมากขึ้นในทุกกลุ่มที่มีสินเชื่อเช่าซื้อ ทั้งบ้าน รถ และอื่นๆ รวมทั้งบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด แม้ว่าหลายๆฝ่ายจะบอกว่าเศรษฐกิจกำลังจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และ ทางรัฐบาลเองก็ประกาศการปรับเงินเดือน ค่าแรง ของกลุ่มราชการ แต่ด้วยสภาวะจริงในปัจจุบันที่ต้องยอมรับความจริงว่าค่าใช้จ่ายสูงขึ้นทุกๆวัน แต่ค่าแรงขั้นต่ำยังถูกอยู่ ทำให้มีช่องว่างของค่าครองชีพ และ กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ คือระดับรากหญ้า และ มนุษย์เงินเดือนระดับล่าง และ กลาง ที่รายได้นั้นไม่สูงมาก ยิ่งบางคนนั้นมีภาระผ่อนบ้าน รถ ด้วยแล้วรับรองได้ว่าโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้เสียนั้นมีสูง และ ยิ่งปัจจุบันหลักเกณฑ์ของธนาคารในการปล่อยกู้บ้านนั้นต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำที่ 15,000 บาทซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถกู้คนเดียวได้ต้องทำกู้ร่วมและหากพิจารณาปัจจัยค่าครองชีพประกอบการพิจารณาสินเชื่อด้วยแล้ว เงินเดือนแค่นี้ไม่สามารถผ่อนบ้านได้แน่นอน เพราะบางคนนั้นมีทั้งผ่อนรถ ผ่อนบัตรต่างๆ

แม้ว่าทางภาคอสังหาฯจะมีแนวโน้มการทำบ้านราคาต่ำออกมาเพื่อสนองความต้องการของกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองแต่ก็ต้องยอมรับกันว่ามันเป็นเรื่องยากขึ้นทุกวัน และ สำหรับกลุ่มคนทำงานนั้นการซื้อบ้านก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะไหนจะเงินดาวน์ที่ต้องมีเงินจำนวนหนึ่งที่ต้องจ่ายสด ส่วนเรื่องการผ่อนซึ่งอย่างน้อยๆ ก็ไม่หนีเดือนละ 10,000 บาท จึงทำให้การมีภาระสินเชื่อบ้านที่กว่าจะผ่อนหมดนั้นเป็นภาระหนักของหลายๆคน อีกทั้งค่าครองชีพที่ต้องยอมรับว่าสูงขึ้นทุกวัน และ ค่านิยมในการใช้ชิวิตของคนไทยก็เปลี่ยนไปและทำให้ต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายกันบ้างขึ้นกลายเป็นภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกครัวเรือนไม่ว่าจะเป็นคนที่รายได้น้อย หรือรายได้สูง ซึ่งปัจจุบันนี้หาได้น้อยมากที่จะไม่มีคนเป็นหนี้