อนันดาฯ ยิ้มรับยอดขายอสังหาฯ Q4/63 เกินเป้า 18%พร้อมดันยอดขายทั้งปี 17,473 ล้าน สูงกว่าเป้า 4%

อย่างที่ทราบกันดีว่าตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2563 เป็นต้นมา ยอดขายอสังหาฯ อยู่ในช่วงดิ่งลงเป็นอย่างมาก จากปัญหาในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งก่อให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ที่ซื้ออสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยหรือการลงทุน แต่สำหรับอนันดาฯ หรือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นั้นพบว่ายอดขายอสังหา 2563 ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่ไม่น้อยก็ตาม

05_ยอดขายอสังหา(1)ยอดขายอสังหาฯ 2563 ถือว่าสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ถือเป็นผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เผยยอดขายโครงการทั้งหมดในไตรมาส 4/2563 มีจำนวน 4,384 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำยอดขายอสังหา 2563 ได้ถึง 17,473 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 4% และยังมั่นใจว่าดีมานด์คอนโดติดรถไฟฟ้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่จะยังมีต่อเนื่อง

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความพึงพอใจเป็นอย่างที่ได้เห็นสัญญาณการเติบโตยอดขายอสังหา 2563 ของทางบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2563 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายอสังหาฯ จำนวน 4,384 ล้านบาท ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 3,712 ล้านบาท ถึง 18% ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ ส่งผลให้ยอดขายรวมของปี 2563 มีจำนวนกว่า 17,473 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 4%

05_ยอดขายอสังหา(2)เพราะอะไรจึงทำให้ยอดขายอสังหาฯ เติบโตกว่าที่คาดการณ์ไว้

แน่นอนว่าการขายอสังหาฯ โครงการต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีอยู่โครงการใดก็ได้เท่านั้น แต่ที่สำคัญคือการเลือกขายโครงการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วยอดขายอสังหาของอนันดาฯ มาจากการมุ่งเน้นการขายโครงการพร้อมอยู่ ซึ่งบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบที่หลากหลาย รองรับความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างทั่วถึงทั้งผู้ซื้อในประเทศ และต่างประเทศ และนอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงการในยุค New Normal โดยการเน้นในเรื่องของความคุ้มค่าเพื่อสอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค และมาตรการสาธารณสุข เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจเมื่อมีการเยี่ยมชมโครงการของบริษัทมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถโอนคอนโดมิเนียมที่สร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/2563 ทั้ง 5 โครงการ ต่อเนื่องในไตรมาส 4/2563 ได้แก่ โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9, ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36, ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์, ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร และโครงการเอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ ภายใต้แนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC” โดยทั้ง 5 โครงการข้างต้นจะช่วยผลักดันให้ยอดโอนในไตรมาสที่ 4/2563 สูงที่สุดของปี 2563 และบริษัทฯ ยังคงมีการติดตามสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐอย่างเต็มที่เพื่อร่วมกันระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว

“อนันดาฯ ได้วางมาตรการเน้นย้ำความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกบ้าน ลูกค้า พนักงานและพันธมิตร เพื่อความปลอดภัยทั้งในโครงการและในทุกสำนักงานขาย เพราะความปลอดภัยของลูกบ้านและลูกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด” ดร. ชัยยุทธกล่าว

05_ยอดขายอสังหา(3)ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการที่ยอดขายอสังหาฯ ของอนันดาฯ นั้นเติบโตมาได้เป็นอย่างดี เป็นเพราะการเลือกขายโครงการอสังหาฯ พร้อมอยู่ ที่พร้อมตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริง อีกทั้งยังมุ่งมั่นในเรื่องของมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาอยู่อาศัยมีความไว้วางใจในตัวโครงการมากขึ้น และเลือกที่จะซื้อโครงการอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยกับทางอนันดาฯ นั่นเอง เพราะแน่นอนว่าในยุคโควิด 19 แบบนี้นั้น การที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อคอนโดมิเนียมสักโครงการจำเป็นต้องมีปัจจัยต่าง ๆ ให้พิจารณาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ใกล้ที่ทำงานจริงหรือไม่ เดินทางสะดวกและติดรถไฟฟ้าหรือไม่ รวมไปถึงมีระบบในการจัดการและดูแลลูกบ้านจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือไม่ ดังนั้นแล้วจึงตั้งข้อสังเกตได้ว่าการที่ผู้พัฒนาอสังหาฯสามารถพัฒนาโครงการต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุก ๆ ข้อ ก็จะทำให้ยอดขายอสังหาฯ เติบโตดีมากขึ้นนั่นเอง

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/property/news-592201