อนุทิน ยืดเดดไลน์ เซ็นรถไฟไฮสปีด หากCPไม่มาจะริบเงินประกันซอง 2,000 ล้านบาท

อนุทิน

เดือด..!! อนุทิน ยื่นคำขาดเซ็นสัญญา รถไฟไฮสปีด  หากไม่มาจะริบเงินประกันซอง 2,000 ล้านบาท และถูกขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ทิ้งงาน ทันที่ ฝั่งวงในเผยกลุ่ม ซี.พี.เซ็นแน่ แต่ขอเวลาเคลียร์เอกสาร สัญญา การส่งมอบพื้นที่ ก่อน

 

อนุทิน…ยืดคำขาด CP เซ็นรถไฟไฮสปีด  ไม่มาริบเงิน 2,000 ล้านบาท

อนุทินหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดดไลน์วันที่ 15 ต.ค.นี้ ให้กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร(กลุ่ม CPH) ที่ชนะประมูล 117,227ล้านบาท หากไม่มาจะริบเงินประกันซอง 2,000 ล้านบาท และถูกขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ทิ้งงาน

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า รัฐบาลยินดีจะร่วมลงทุนกับเอกชน แต่ที่ต้องการให้รัฐร่วมรับผิดชอบมากกว่านี้ ต้องดูเงื่อนไขในทีโออาร์ รัฐทำอะไรได้มากแค่ไหน และทีโออาร์กำหนดให้เอกชนรับผิดชอบความเสี่ยงทั้งหมด 10 ต.ค. คณะอนุกรรมการดูแลโครงการโครงสร้างพื้นฐานของอีอีซี มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน จะหารือเรื่องการส่งมอบพื้นที่ 72% มีตรงไหนบ้าง ยังมีพื้นที่ไหนเป็นฟันหลอ จะได้วางแผน และมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจใดรับผิดชอบ งบฯดำเนินการเพียงพอหรือไม่ จะได้ขออนุมัติให้

 

เลื่อนเซ็นสัญญา

“ไม่ได้เร่งเอกชนฝ่ายเดียว รัฐก็เร่งด้วย อย่ากังวลว่าผมจะกลั่นแกล้ง มีแต่เรียกให้มาเซ็นสัญญา ถ้าทุกฝ่ายทำตามทีโออาร์ จะไม่มีคำถามพวกนี้ แล้วเอกชนเองก็ไม่ควรมาขออะไรนอกทีโออาร์ เพราะต้องรู้อยู่แล้วว่ามีเงื่อนไขอะไร ส่วนการช่วยเหลือเอกชน ก็ให้รัฐทำเงื่อนไขตามทีโออาร์ให้ครบแล้ว”

 

ซี.พี.  เซ็นแน่

อนุทินจากเเหล่งข่าววงใน มั่นใจว่ากลุ่ม ซี.พี. จะเซ็นสัญญา รถไฟความเร็วสูง แน่นอน แต่การกำหนดวันอยู่ที่ ซี.พี.กำหนด น่าจะเป็นภายในเดือน ต.ค.นี้ โครงการใหญ่ ต้องเตรียมเอกสารจำนวนมาก แบงก์การันตี การจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ เอกสารการส่งมอบพื้นที่ เป็นต้น  “แผนก่อสร้างส่งให้การรถไฟฯแล้ว หลังเซ็นสัญญาต้องใช้เวลาเตรียมพื้นที่ ออกแบบรายละเอียด จะใช้เวลา 1 ปี ถึงจะเริ่มต้นโครงการ ที่ต้องใช้เวลาพิจารณาสัญญานาน เพราะโครงการใหญ่ ใช้เงินลงทุนสูงและความเสี่ยงสูง หากระหว่างก่อสร้างรัฐมอบพื้นที่ให้ไม่ได้ จะสร้างไม่เสร็จ 5 ปี จะมีต้นทุนดอกเบี้ย จึงต้องการความชัดเจนเรื่องส่งมอบพื้นที่ให้ชัด ๆ เพราะใน 5 ปีแรกมีแต่รายจ่าย ไม่มีรายรับ กว่าจะได้รับเงินจากรัฐก็ปีที่ 6”

ที่มา prachachat