เมืองกรุงยังเนื้อหอม กลุ่มทุนต่างจังหวัดรุกคืบสร้างแบรนด์แข่งเจ้าถิ่น

อสังหาฯเริ่มกลับมาคึกคักเต็มที่ มีการแข่งขันที่ดุเดือดและสนุกสนานในสายตาของผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่ต้องชิงไหวชิงพริบ แย่งซื้อทำเลทอง หวังขึ้นแท่นเปิดโครงการแนวหน้าทั้งระดับล่าง กลาง หรู เพื่อไม่ให้ความสนใจหล่นจากกระแสและให้ชื่อผู้ประกอบการนั้นๆติดหูติดตาแก่คนเมือPrint

ล่าสุดมีข่าวว่ากลุ่ม “อาภาสิริ” กลุ่มทุนอสังหาฯต่างถิ่นจากสุราษฎร์ธานี บุกตะลุยเข้าเมืองกรุงผุดโครงการ “เวียร์เซเว่น” ยึดทำเลย่านริมถนนบางนา-ตราด กม. 27 ทำโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 5 ชั้น 7 อาคาร รวมๆแล้วจำนวนห้องมากถึง 277 ยูนิต ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควรกับโครงการแรกที่ลุยในเมือง และ ยังเป็นย่านชานเมืองที่นักลงทุนอสังหาฯมองข้าม เพราะด้วยทำเลที่เป็นชานเมืองแล้วและอยู่ในเขตสมุทรปราการ อีกทั้งย่านนี้การเดินทางดูเหมือนว่าต้องมีรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้นจึงจะสะดวก เพราะ เป็นทำเลริมถนนใหญ่ สะพานลอยคนข้ามมีน้อย และ ค่อนข้างเปลี่ยวในเวลากลางคืน แต่ปัจจุบันมีโครงการใหญ่ๆหลายโครงการเริ่มผุดขึ้นในบริเวณนี้มากขึ้น อีกทั้งในละแวกนี้เริ่มเจริญและพัฒนาไปมาก ซึ่งทำเลของ เวียร์เซเว่น นั้นแวดล้อมไปด้วยสิ่งสาธารณูปโภคมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน มหาวิทยาลัย นิคมอุตสาหกรรม (บางพลี-ลาดกระบัง) และ โรงพยาบาล การเดินทางที่ไม่ลำบาก เพราะโอบล้อมด้วยถนนหลายสาย

อีกทั้งยังมีรถประจำทาง ซึ่งหากมองในมุมของผู้ซื้อนั้นเชื่อว่า โครงการนี้น่าจะไปได้สวย เพราะสามารถดึงความน่าสนใจให้ผู้คนที่ทำงานในละแวกนั้นมาซื้อได้ เพราะมีทั้งคนที่ทำงานในนิคมเมืองใหม่บางพลี นิคมลาดกระบังที่อยู่ใกล้เคียง คนที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ แม้แต่คนที่ทำงานนิคมอื่นๆที่ใกล้ออกไปอย่าง ชลบุรี และ นักศึกษาที่อยู่ละแวกนั้น ซึ่งผู้ปกครองอาจจะซื้อเพื่อให้เป็นที่พัก หรือ บางคนที่มีความสามารถก็จะซื้อแล้วปล่อยเช่าให้เพราะมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ไม่ไกล ดังนั้นน่าจะมีนักศึกษามาเช่าพักได้ไม่อยาก

ซึ่งทางกลุ่มอาภาสิริ เน้นกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นนักศึกษา และ ประชาชนทั่วไป กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าสัดส่วนนั้น 50-50 และ อาจมีบ้างที่ซื้ออยู่เอง และ การแข่งขันบนทำเลนี้นั้นยังไม่รุนแรงมากเหมือนทำเลอื่นๆ ที่ดินยังสามารถต่อรองราคาได้ และ ที่ดินราคาไม่สูงเกินกว่าจะทำโครงการราคากลาง หรือ ต่ำ ได้ อีกทั้งในอนาคตการขยายตัวของเมืองต้องกระจายมาทางด้านนี้ ทั้งรอบนอกและด้านในของเขตนี้ จึงคิดว่าการสร้างโครงการนี้น่าจะทำกำไรได้ และ คิดว่าไม่น่าจะประสบปัญหาขายไม่ออก และ จากการที่เปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้น โครงการสามารถสร้างยอดจอง และ ขายไปได้มากกว่า 20% แล้ว จึงคาดว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน และมูลค่าโดยรวมของโครงการอยู่ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่กำลังสวยของการบุกเมืองกรุงเปิดโครงการในครั้งนี้

ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]