ถอดผลลัพธ์การปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาในยุคโควิด

หลังจากประเทศได้ผ่านพ้นช่วงเวลาของการล็อคดาวน์มาแล้วกว่า 2 เดือน ดูเหมือนว่าภาพรวมของการดำเนินชีวิตในยุค New normal เริ่มเข้าร่องเข้ารอย สำหรับในตลาดอสังหาริมทรัพย์เอง ผู้ประกอบการอสังหาก็ผ่านช่วงเวลาแห่งความท้าทายและการแข่งขันอย่างเข้มข้น ทุกบริษัทต่างงัดทุกกลยุทธ์ ประสบการณ์ และกลเม็ดต่างๆ เพื่อพยุงตัวเองให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ ลองมาทบทวนกันหน่อยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาในช่วงอสังหา โควิด ผู้ประกอบการอสังหามีใครปรับตัวมาแล้วอย่างไร และได้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง

ผู้ประกอบการอสังหา พร้อมใจตบเท้าเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ

ต้องบอกว่าการขายอสังหาริมทรัพย์ผ่านทางช่องทางออนไลน์ เป็นวิธีการขายที่ผู้ประกอบการอสังหาหลายเจ้าได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการเข้ามาของอสังหาโควิดนั่นก็คือ ไม่เพียงแต่ผู้ประกอบการอสังหาจะพร้อมใจกันแย่งชิงพื้นที่การขายในโลกออนไลน์ในช่องทางของตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีการต่อยอดกลยุทธ์การตลาดเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ โดยการใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

  • บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ผู้ประกอบการอสังหาที่พบว่าตลอด 6 เดือนแรกในปี 2563 ที่ผ่านมา ยอดขายจากลูกค้าต่างประเทศล้วนมาจากช่องทองออนไลน์ทั้นสิ้น โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของรายได้จากช่องทางออนไลน์ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากประเทศจีน ไต้หวัน และสิงคโปร์ ที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์มาจากการมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มการขายผ่านช่องทางออน์ไลน์ โดยมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าต่างประเทศ โดยยอดขายครึ่งปีแรก มาจากยอดขายภายในประเทศ 1,727.4 ล้านบาท เติบโตขึ้น 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมาจากยอดขายตลาดต่างประเทศ 894.8 ล้านบาท ลดลง 58.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

  • บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) 

_pic_1_Image Credit : FB/OriginPropertyGroup

ผู้ประกอบการอสังหาที่มีการทำตลาดช่องทางออนไลน์มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ในช่วงอสังหาโควิด ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีการขยับเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง และเต็มรูปแบบภายใต้กลยุทธ์ Origin Next Normal โดยเริ่มจากนโยบายเปลี่ยนพนักงานในองค์กรให้กลายเป็น Influencer เพื่อทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และยังลดงบประมาณการตลาด นอกจากนั้นยังเปิดมาร์เก็ตเพสออนไลน์  Origin Family Market โดยให้ลูกบ้านในเครือออริจิ้นกว่า 2 หมื่นครอบครัว ได้เข้ากลุ่มเพื่อลงประกาศซื้อขายสินค้าและบริการ ช่วยลูกบ้านในการมีรายได้เสริม โดยในอนาคตยังจะต่อยอดสู่การเปิดตลาดบนพื้นที่จริงให้กับลูกบ้าน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร

ผู้ประกอบการอสังหา หันหน้าเข้าสู่ตลาดมิกซ์ยูส

จากผลกระทบของโควิดที่ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองเริ่มชะลอตัวลง ผู้ประกอบการบางส่วนหันมาให้ความสำคัญกับโครงการมิกซ์ยา ด้วยจำนวนโครงการมิกซ์ยูสในประเทศไทยที่ยังมีจำนวนไม่มากนัก บวกกับยังไม่มีการแข่งขันทำสงครามราคา โครงการมิกซ์ยูสจึงกลายเป็นทางรอดอีกทางที่ผู้ประกอบการมองเห็น

  • บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป

รุกพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส จากแนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะซึมยาวไปอีกประมาณ 2-3 ปี กำลังซื้อชาวต่างชาติหายไป และกำลังซื้อจากภายในประเทศจำกัด ทำให้ ฮาบิแทท กรุ๊ป จึงได้หันไปพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในทำเลท่องเที่ยวอย่างเมืองพัทยา ซึ่งมองว่ายังเป็นบลูโอเชี่ยน โดยเป็นโครงการที่ประกอบปด้วย โรงแรมและคอนโดมิเนียม รองรับความต้องการอยู่อาศัยและการลงทุน

  • บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด

_pic_2_Image Credit : FB/SinghaEstate

แม้ว่าที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท จะมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นการกระจายความเสี่ยง ทั้งอาคารสำนักงาน โครงการมิกซ์ยูส โรงแรม และคอนโดมิเนียม แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้สิงก์ เอสเตท ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารโครงการมิกซ์ยูส และยังเพิ่มจัดตั้งกองทรัสต์ SPRIME ได้ปรับแผนมาเน้นการพัฒนามิกซ์ยูสและรับบริหารโครงการ ตามแผน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2563 – 2567 ภายใต้งบลงทุน 68,000 ล้านบาท สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก

ผู้ประกอบการอสังหา หนีแนวสูงไปลุยแนวราบ

เห็นได้ชัดว่าผลกระทบที่รุนแรงที่สุดไปตกอยู่ที่ตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางกรุงเทพ ทำให้ผู้ประกอบการต่างแตะเบรกพักการเปิดตัวโครงการใหม่ และหันไปลุยตลาดแนวราบกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และระบายอุปทานคงค้างในมือออกไปก่อน

_pic_3_Image Credit : FB/notes/ap-thai

หลังจากต้นปีที่ เอพี ไทยแลนด์ ประกาศแผนธุรกิจว่าจะเดินหน้าพัฒนาโครงการแนวราบทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ให้ครอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภคในทุกระดับ โดยเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด 26 โครงการ ผลปรากฏว่าในครึ่งปีแรก เอพี ไทยแลนด์ มีการเติบโตด้านรายได้ครั้งใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้จากแนวราบและคอนโดที่ 19,960 ล้านบาท สร้าง New High ให้กับตัวเองสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจ

แน่นอนว่าคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง มักมีน้ำกระเซ็นเสมอ เช่นเดียวกับวิกฤตโควิดในครั้งนี้ ที่ผู้ประกอบการต่างต้องเร่งปรับตัวเพื่อสะบัดผลกระทบที่กระเซ็นมาอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งหลายผู้ประกอบการต่างก็ปรับตัวเท่าทันกับสถานการณ์ และสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาได้อย่างดีเยี่ยม

ที่มา:

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/889340

https://thestandard.co/apthai-half-year-income-hit-highest-in-history/

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/893275

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/893720

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/893542

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/890261