10 ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยสำหรับคนเริ่มต้นจะซื้อบ้าน

ข้อผิดพลาด

ในการซื้อบ้านนั้นไม่ว่าจะครั้งแรกหรือครั้งไหนๆ เชื่อว่าหลายคนแม้จะปรึกษาผู้รู้มาเป็นอย่างดีแล้วก่อนการตัดสินใจ แต่ก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก  และเฉพาะอย่างยิ่งนับประสาอะไรกับคนที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองล่ะ เพราะฉะนั้น วันนี้เรามาดู ข้อผิดพลาด 10 ข้อ และเตรียมตัวเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดนี้ขึ้นมาได้เพื่อเป็นการเตือนสติและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวคุณและคนรอบข้างนะคะ เพื่อไม่เสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ

ข้อผิดพลาด 10 ข้อ สำหรับคนซื้อบ้าน ที่เกิดขึ้นบ่อย

ข้อผิดพลาด1.ระวังเรื่อง ผ่อนดาวน์น้อย

โดยการซื้อบ้านในยุคสมัยนี้นั้น มันมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆมากมาย สำหรับคนที่สนใจจะซื้อทั้งบ้านและคอนโด ที่มีมาให้เลือกกันอย่างมากมาย  โดยที่สามารถ ผ่อนดาวน์ ได้ในอัตราต่ำมากๆ เช่นบ้านราคา 3 ล้าน สามารถผ่อนยาวได้พิเศษเพียงงวดละ 7,000 บาท โดยที่คนเงินเดือน 15,000-20,000 บาท อาจจะคิดว่าน่าจะสามารถที่จะผ่อนได้ไหว ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ต้องระวังนะค่ะว่าเมื่อผ่อนดาวน์น้อยจนจบไปแล้วนั้น จะเหลือยอดเงินต้นเกือบๆ 3 ล้าน ที่โดยปกติแล้ว ธนาคารที่ปล่อยกู้จะดูราคาและฐานเงินเดือนสำหรับผู้กู้  เพื่อประเมิณการกู้ยืม โดยส่วนมากนั้น เงินเดือน15,000-20,000 บาท และทำการข้อกู้ในวงเงิน  ล้านปลายๆ ธนาคารส่วนใหญ่จะไม่กล้าที่จะให้ปล่อยกู้ได้ สุดท้ายแล้สวเราอาจจะเสียเงินดาวน์ไปในที่สุดได้ค่ะ

2.ระวังเรื่องการเลือกซื้อแต่โครงการที่ถูกๆ อาจจะได้ของไม่ดีแถมมาให้ได้

โดยปกติแล้วการที่มีการเปิดขายบ้านหรือคอนโดในราคาที่ถูกนั้น อาจจะไม่ดีเสมอไปนะค่ะ ควรจะต้องดูที่ คุณภาพวัสดุก่อสร้างเป็นหลัก  โครงการที่ใช้สุขภัณฑ์เกรดอะไร  ทำเลละดีหรือไม่ โดยหากเจอโครงการที่มีทำเลดี มีวัสดุดี ราคาถูกอีกด้วยนั้น ควรที่จะตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าเชื่อถือได้หรือไม่ โครงการนี้สร้างเสร็จแล้วหรือยังและ เจ้าของโครงการเป็นใครกัน น่าเชื่อถือมากน้อบแค่ไหนค่ะ

3.สำรองเงินฉุกเฉินไว้ด้วย

หากคุณพร้อมที่จะซื้อบ้าน คุณจะต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีเงินพร้อมก่อนได้รับการอนุมัติจากผู้ให้กู้ หลังจากนั้นก็ต้องเตรียมเอกสารกู้ยืมเงินให้พร้อม และสามารถที่จะจ่ายเงินมัดจำทันที

4.ลืมตรวจสอบอาคาร

การตรวจสอบอาคารทั้งภายในและภายนอก ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณเท่านั้น แต่อาจจะช่วยชีวิตคุณได้ เช่น เจอการเดินสายไฟผิดพลาด ฐานรากสั่นคลอน มีรอยแตกผุกร่อน ฯลฯ อาจจะเสียเวลาเล็กน้อยในการตรวจสอบตัวอาคาร แต่ก็ยังดีกว่ามาเสียเงินมากมายในการซ่อมแซมในวันข้างหน้าหลังจากย้ายเข้ามาอยู่

5.อ่านสัญญาไม่รอบครอบหรือไม่อ่าน

เรี่องนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอ่านกันโดยเฉพาะคนที่กำลังจะซื้อ บ้านหลังแรก เพราะเรื่องสัญญานี้จะเป็นเครื่องมือที่เจ้าของโครงการแอบยัดไส้มาให้เราโดยไม่บอกเช่น  ยอดเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้นเพราะขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องใหญ่ขึ้นกว่าขนาดที่เราดูเริ่มต้น หรือไม่บอกระยะเวลาเสร็จที่ตรงกับใบประกาศ หรือโครงการเสร็จเร็วและต้องรีบรับโอนตามที่เขาแจ้งมา อาจถูกปรับหรือริบเงินดาวน์ได้อีก ดังนั้นอย่างลืมอ่านใบสัญญาต่างๆให้รอบครอบ

6.ซื้อบ้านที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตจัดสรร

ก่อจะซื้อโครงการใดโครงการหนึ่งควรที่จะ สอบถามข้อมูลต่างๆของโครงการที่เราจะซื้อว่า มีใบอนุญาตจัดสรร ส่วนโครงการอาคารชุด มีใบอนุญาตก่อสร้างนั้นผ่านEIA  แล้วหรือยัง เพราะหลายโครงการนั้นไม่สามารถสร้างได้เพราะติดเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA

7.รีบรับโอนบ้านหรือห้องชุด ในสภาพที่ไม่เสร็จ

สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดเพราะว่าเมื่อเราโอนเงินไปแล้วนั้น การปฏิบัติต่อคุณจะแตกต่างมากกว่าตอนที่เขายังไม่ได้เงินของคุณอย่างแน่นอน ความเอาใจใส่จะน้อยลงอย่างแน่นอนค่ะ ดีไม่ดีอาจจะได้บ้านที่้เราต้องมาซ่อมเองอีกด้วย

8.ไม่ทำงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่ซ่อนอยู่

ป้ายราคาบ้านนั้นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ก่อนที่คุณจะได้ซื้อคุณจะต้องคำนึงถึงปัจจัยที่ค่าใช้จ่ายของอาคาร ที่ดิน ค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ฯลฯ หลังจากที่ย้ายเข้าไปอยู่แล้ว

9.ปล่อยให้งบประมาณบานปลาย

การซื้อบ้านแต่ละครั้ง ควรมีการจำกัดงบประมาณที่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นบ้านหลังแรกด้วยล่ะก็ เพราะส่วนใหญ่คุณกำลังอยู่ในวัยทำงานกันใช่ไหมล่ะ ไหนจะค่าดำรงชีวิต ค่านู่น ค่านี่ บลาๆๆ เดี๋ยวจะชักหน้าไม่ถึงหลังเอานะจ๊ะ

10.สุดท้ายไม่จัดการควบคุมอารมณ์ให้ดี

เนื่องจากการซื้อบ้านครั้งแรก คุณมักที่จะต้องการที่ปรึกษามากมาย แต่จากหลายต่อหลายเสียง แน่นอนว่าคุณจะต้องเกิดอาการหงุดหงิดบ้างล่ะ จนบางครั้งก็อาจจะทำให้ตัดสินใจพลาดในการเลือกซื้อบ้านดังนั้นคุณจึงจะต้องจัดการกับอารมณ์ที่จะเกิดขึ้น ควบคุมให้ดี ไม่อย่างนั้นคุณจะมองไม่เห็นถึงปัญหาและความเสี่ยงต่างๆ ก่อนการตัดสินใจ

 

สุดท้าย จำให้ขึ้นใจว่า “นี่คือการซื้อของชิ้นใหญ่ และคุณต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปอีกนาน เพราะฉะนั้นดูแปลนบ้านและรายละเอียดให้ดี แม้ว่าคุณจะตื่นตาตื่นใจกับรูปลักษณ์ของตัวบ้านมากแค่ไหนก็ตาม”  ขอให้โชคดีมีความสุขกับบ้านหลังใหม่ค่ะ