ไอเดีย รีโนเวท วันนี้ขอเสนอ แนวทางสำหรับท่านไหนที่กำลังอยากจะทำกิจการหรือร้านขายของต่างอาจจะต้องมาลองอ่าน กระทู้นี้นะคะ เพราะเรามีแนวทางดีๆจาก คุณ อึ้งเอี้ยซือ กระบี่ขลุ่ยหยก สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com ที่ได้มาแชร์ประสบการณ์ ให้กับคนที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ที่มีข้อจำกัดทั้งทุน ทั้งสถานที่ ให้ได้มีแนวทางนั้นเอง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลบ
รีโนเวท จากโรงจอดรถ 2×5.5 ม. สู่ร้านกาแฟ BY อึ้งเอี้ยซือ กระบี่ขลุ่ยหยก
ก่อนอื่นผมต้องบอกว่า ผมไม่ได้เขียนกระทู้นี้ด้วยการสร้างร้านด้วยเงิน 30,000 บาท อย่างกระทู้ที่แล้ว แต่กระทู้นี้จะมาเล่าเรื่องราวของการสร้างร้านกาแฟในพื้นที่โรงจอดรถเก่า
โดยผมจะอธิบายบริบทของพื้นที่ย่านนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไรนะครับ เริ่มจากย่านนี้เป็นย่านตลาดเก่าของชุมชนล้อมแรด ในอ.เถิน ซึ่งเป็นย่านที่ค่อนข้างแออัด ถนนแคบ หาที่จอดรถยาก แต่จะทำอย่างไรให้พื้นที่ 2×5.5 ม.เกิดประโยชน์มากกว่าแค่ที่จอดรถ เรื่องนี้จึงเป็นโจทย์ที่ทางผมและภรรยาต้องช่วยกันคิด สรุปว่าจะทำร้านกาแฟ โดยร้านนี้จะเป็นสาขาที่ 2 จากร้านแรกที่ผมได้เคยทำไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ซึ่งร้านนั้น ผมสร้างด้วยหยาดเหงือตัวเอง บางส่วนที่ทำไม่ได้ก็ต้องจ้างผู้รับเหมาช่วยทำ แต่ร้านนี้ผมจะไม่พูดว่า ผมจะทำโดยใช้เงินให้น้อยกว่าร้านแรก เพราะพื้นที่มันเล็กลง ร้านนี้ใช้ทุนก่อสร้างประมาณ 8x,xxx บาท โดยร้านนี้ผมได้ทำการออกแบบเอง โดยวิเคราะห์เรื่องรูปแบบของร้านกาแฟในท้องถิ่น ว่าแต่ละร้านตกแต่งสไตล์ไหน สุดท้ายผมมาสรุปรูปแบบของร้านด้วย สไตล์มินิมอล
น่าจะเป็นรูปแบบที่ยังไม่มีในชุมชน ผมไม่ได้ใช้ความรู้สึกว่าอยากได้แบบนี้ แต่บริบทของร้านต่างๆ เป็นตัวกำหนดรูปแบบของร้านนี้ที่ให้เกิดความรู้สึกแตกต่าง เพื่อให้การทำงานคล่องตัวขึ้นผมช่วยเคลียร์แบบให้กับผู้รับเหมาในแต่ละจุด เพื่อให้ทำงานง่ายขึ้น
ลักษณะของโครงสร้างเดิมจะเป็นดังในภาพ สิ่งแรกที่ต้องเคลียร์กับทางช่างคือ เรื่องของระยะภายใน ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะถ้าหายไปซัก 10-15 ซม.มันจะแคบมาก หลังจากเคลียร์ระยะภายในได้ ก็เริ่มทำโครงผนัง โครงฝ้า เพื่อเดินสายไฟซ่อนไว้ภายใน และเดินท่อน้ำทิ้งซ่อนไว้ในผนังเช่นกัน เมื่อทำการขึ้นโครงผนังแล้ว มันก็จะมีงานกรุผนังปิดโครงสร้าง ระหว่างที่มีการกรุผนัง
ช่างที่เชื่อมเคาท์เตอร์บาร์ก็ได้ทำการเชื่อม โดยเคาท์เตอร์บาร์นี้เป็นหัวใจของร้านเล็กๆเลย เพราะเป็นพื้นที่ปรุงเครื่อมดื่ม สต๊อกของใต้บาร์ วางโน๊ตบุคทำงานใต้บาร์ และยังเป็นพื้นที่นั่งทานกาแฟสำหรับลูกค้าด้วย โดยร้านนี้จะรองรับลูกค้าได้ 4-5 คนโดยประมาณ
เคาท์เตอร์บาร์นี้ จะแยกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือ
1 พื้นที่บนบาร์ รองรับเครื่องชงกาแฟขนาด 1 หัวชง เครื่องบดใหญ่ 1 ตัว เครื่องบดเล็ก 1 ตัว เครื่องชงกาแฟเล็กสำหรับชงชา 1 ตัว เครื่องปั่น 1 ตัว กาน้ำร้อน 1 ตัว และกระปุกใส่วัตถุดิบประมาณ 8-10 กระปุก
2.ส่วนพื้นที่ใต้บาร์ สามารถเก็บถังน้ำได้ 3 ถัง เก็บกาแฟที่สต๊อกไว้ได้ประมาณ 10-20 กิโลกรัม ,เก็บลังนมข้นหวาน 1 ลัง ,เก็บลังนมข้นจืด 1 ลัง ,เก็บลังน้ำเชื่อม 1 ลัง ,และเก็บพวกไซรับต่างได้ เป็นต้น ที่สำคัญใต้บาร์ผมได้กำหนดเต้าเสียบ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ใต้บาร์ด้วย ทำให้สายไฟไม่เกะกะด้านบนบาร์
อย่างไรก็ตามครับ ผมมองว่ามันก็เป็นแค่ส่วนส่วนหนึ่งของการทำร้านกาแฟ องค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ การปรับตัวให้เข้ากับชุมชน โปรโมชั่นต่างๆ ล้วนแล้วทำให้ร้านอยู่รอดและหล่อเลี้ยงตัวเองได้ หากใครอยากทราบว่าก่อนหน้านี้ผมเริ่มต้นอย่างไร ให้ย้อนกลับไปอ่านกระทู้แรกhttps://pantip.com/topic/35242724 และกระทู้ที่สองhttps://pantip.com/topic/35885254 ซึ่งจะทราบว่า การทำร้านของผม เริ่มต้นจากร้านเล็กๆที่ต้นทุนของตัวเองมีไม่มาก ฉะนั้นจึงต้องลงมือทำเองให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
—จุดประสงค์ของการเขียนกระทู้นี้ไม่ใช่เพื่อโปรโมทร้านแต่อย่างใด แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ให้กับคนที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ที่มีข้อจำกัดทั้งทุน ทั้งสถานที่ ผมว่าสิ่งที่เราไม่ควรทำให้มีข้อจำกัดเลยคือ ” ความคิดและจิตใจ ” เพราะถ้าคิดว่าทำไม่ได้ คงไม่ได้ทำซักที และใจที่อยากทำมันมันจะผลักดันให้เราทำมันให้สำเร็จ ทุกๆร้านที่ทำล้วนมีอุปสรรค์ปัญหาแทบทุกร้าน เราต้องพร้อมที่จะรับมือ แก้ไขและปรับตัวให้ได้
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจาก อึ้งเอี้ยซือ กระบี่ขลุ่ยหยก
