กระจกนับเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับความสำคัญของบ้านเลยทีเดียวเพราะการติดกระจกเป็นการเพิ่มช่องแสงให้กับบ้านสามารถจัดวางเพื่อแต่งให้บ้านดูโปร่งและสวยมากขึ้นได้ แต่ด้วยอากาศของบ้านเราทำให้การติดกระจกจำนวนมากหรือกินพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ยากเพราะจะทำให้ร้อนอบ ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเปลืองค่าไฟกันไป แต่ด้วยนวัตกรรมและการพัฒนาของโลกในทุกวันนี้เราจึงมีกระจกหลายประเภทให้เลือกสรร
วันนี้ดอทจึงพาทุกคนมาดูประเภทของกระจกใสและคุณสมบัติของมันว่ากระจกแบบที่เราต้องการนั้นจะเป็นกระจกประเภทใด โดยนำเสนอทั้งหมด 6 ประเภทด้วยกันครับ มีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย
กระจกธรรมดา
กระจกธรรมดาหรือกระจกใสเป็นกระจกที่ใช้ติดกับบานประตู หน้าต่าง โดยเนื้อกระจกจะใสจนมองเห็นอีกด้านได้ชัดเจนซึ่งทำให้ความร้อนและแสงสามารถผ่านเข้ามาได้เต็มที่ด้วยเช่นกันจึงทำให้ห้องที่ติดกระจกใสส่วนมากจะร้อนและอบในเวลากลางวันเมื่อโดนแดดส่อง นอกจากความใสแล้วเนื้อสีของกระจกธรรมดาอาจมีความแตกต่างกันอยู่ด้วย
กระจกนิรภัยเทมเปอร์
กระจกเทมเปอร์เป็นกระจกที่มีความแข็งแรงมากกว่ากระจกใสถึง 3-5 เท่าด้วยกระบวนการผลิตที่ผ่านการอบความร้อนแล้วทำให้ผิวกระจกเย็นลงอย่างรวดเร็วจึงแตกหักได้ยาก เวลาแตกจะเป็นเม็ดเล็ก ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ทำให้นิยมใช้กันเป็นผนังอาคาร กระจกบานเปลือย ราวระเบียง เป็นต้น
กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์/กระจกเคลือบผิว
กระจกเคลือบผิวเป็นการนำกระจกธรรมดาไปเคลือบด้วยออกไซด์เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ทำให้เรียกว่า กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์(Solar Reflective Glass) ช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ให้ผ่านเข้าสู่อาคาร โดยจะลดได้ประมาณ 30% ช่วยลดภาระของเครื่องปรับอากาศและทำให้ห้องไม่ร้อนมากนัก แสงที่ส่องเข้ามาจะไม่แรงเท่าการส่องผ่านกระจกธรรมดา และช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวได้เพราะกระจกเคลือบผิวนี้จะทำให้คนด้านนอกมองเข้ามาด้านในได้ลำบาก แต่คนด้านในสามารถมองเห็นข้างนอกได้ชัดเจน
กระจกสะท้อนแสงกันความร้อน
กระจกสะท้อนแสงกันความร้อน(Low-E Glass) นี้เป็นอีกหนึ่งประเภทของกระจกเคลือบผิวซึ่งใช้โลหะเงินบริสุทธิ์เคลือบทำให้สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี ลดปัญหาการแตกร้าวและทนทานกว่ากระจกเคลือบผิวประเภทสะท้อนรังสีอาทิตย์ นอกจากนี้ยังยอมยังแสงผ่านได้มากกว่าด้วย ใครที่ชอบแสงสว่างแต่ไม่ชอบความร้อนสามารถเลือกเป็นกระจกสะท้อนแสงกันความร้อนได้
กระจกฉนวนกันความร้อน
กระจกฉนวนกันความร้อน(Insulated Glass Unit หรือ IGU) เป็นการนำกระจกสองแผ่นมาประกบกันโดยมีเฟรมอลูมิเนียมและช่องว่างคั่นกลางระหว่างกระจกทั้ง 2 แผ่น โดยที่ช่องว่างนี้อาจจะใส่เป็นอากาศแห้งหรือก๊าซเฉื่อยซึ่งทำให้เกิดคุณสมบัติป้องกันหรือลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคารได้ ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและประหยัดไฟได้มากขึ้น
กระจกลามิเนต
กระจกลามิเนตจัดเป็นกระจกนิรภัยประเภทหนึ่งด้วยเช่นกันเพราะด้วยคุณสมบัติที่เมื่อแตกแล้วเศษกระจกยังคงยึดติดกันเป็นแผ่น เพราะว่ากระจกลามิเนตคือการนำเอากระจกนิรภัยเทมเปอร์หรือกระจกธรรมดาจำนวน 2 แผ่นหรือมากกว่ามาติดประกบโดยมีแผ่นฟิล์มคั่นกลางระหว่างกระจก ทำให้เมื่อกระจกแตกฟิล์มจะยึดเศษกระจกเอาไว้ ช่วยลดอันตรายได้ นอกจากนี้กระจกลามิเนตยังเก็บเสียงได้ดีและป้องกันความร้อน รังสี UV ได้มากกว่า 90% ได้ นับเป็นกระจกที่มีความแข็งแรงอย่างมากทีเดียว
กระจกแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปทำให้การนำมาใช้งานก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน โดยกระจกทั้ง 6 ประเภทที่กล่าวมาจะมีทั้งที่นิยมนำมาทำเป็นหน้าต่าง ช่องแสง หรือกระทั้งบานประตูก็ได้เช่นกัน หวังว่าคุณจะได้พบกับกระจกที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการนะครับ
