สินเชื่อรายใหญ่เตรียมอนุมัตินับพันล้าน

การเงินเริ่มสะพัด ผู้ประกอบการอสังหาฯรุมขอสินเชื่อ หาแหล่งเงินทุนเปิดโครงการใหญ่ หลังสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัวการเมืองเริ่มเข้าที่เข้าทาง คสช.บริหารงานมาได้สักระยะความเปลี่ยนแปลงมีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มอสังหาฯเริ่มลุยโครงการทั้งใหม่และเก่าอย่างคึกคัก ทั้งเมืองกรุงและต่างจังหวัด

ซึ่งแหล่งข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวศิน วณิชยวรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ณ.ปัจจุบันมีผู้ประกอการอสังหาฯรายใหญ่เกินกว่า 5 รายได้ติดต่อเข้ามาขอสินเชื่อ เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยว และโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งทำเลและโครงการที่ยื่นขอสินเชื่อมานั้นส่วนใหญ่เป็นในเมืองและตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งความเป็นไปได้ของโครงการนั้นเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคซึ่งส่วนใหญ่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลที่สะดวก ซึ่งนักลงทุนอสังหาฯรายใหญ่ต่างมีโปรเจคที่น่าสนใจทั้งสิ้น

ประกอบกับตัวเลขดัชนีแนวโน้มของอสังหาฯเริ่มดีขึ้นอัตราการเติบโต 5.8% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะขยายตัวถึง 3.4% จากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 13.1% และนอกจากนี้สภาพเศรษฐกิจองค์รวมเริ่มเห็นความชัดเจนในทุกๆกลุ่มตั้งแต่รากหญ้าจนถึงเศรษฐี ที่เริ่มหันกลับมาใช้จ่ายมีเงินหมุนเวียนในระบบเหมือนก่อนที่จะเกิดปัญหาแม้แต่ชาวนาก็ได้รับเงินจำนำข้าวครบทุกรายทำให้เศรษฐกิจระดับล่างฟื้นตัวส่งผลต่อเนื่องในระบบเงินทำให้มีการคล่องตัวขึ้น และ การเปิดโครงการใหญ่ที่มีการออกข่าวไปแล้วนั้นทำให้ราคาที่ดินขยับตัว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯก็กลับมาคึกคัก ตั้งแต่นายหน้า ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีของวงการอสังหาฯ

นอกจากนี้ นายวศิน กล่าวอีกว่า สินเชื่อรายใหญ่ที่ปล่อยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นสินเชื่อที่เป็นเงินทุนหมุนเวียน ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก ส่วนสินเชื่อที่ใช้ในการลงทุน จะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป โดยปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 5% และทำให้ยอดสินคงค้างอยู่ที่ 440,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2556 อยู่ที่ 417,000 ล้านบาท ขณะที่ รายได้จากค่าธรรมเนียมทั้งปีเติบโต 10% ตามเป้า ทำให้มองได้ว่าแนวโน้มในอนาคตของกลุ่มอสังหาฯจะไปได้อย่างต่อเนื่อง และ สอดคล้องกับการเปิด AEC ซึ่งจะมีนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจก็จะไปได้อย่างต่อเนื่อง ปัญหาการเมืองก็ไม่น่าจะมีอะไรมาสะดุด หรือ ทำให้เป็นปัญหาอีก เพราะจากภาพรวมที่ผ่านมาได้สักระยะเริ่มมองเห็นอนาคตแนวทางการพัฒนาประเทศ แม้ว่าจะมีปัญหาด้านการส่งออก และ แรงงาน ที่ต่างชาติยังเพ่งเล็งอยู่ แต่หากมองแค่ในประเทศแล้วคิดว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าส่งผลอะไรมากนัก ตลาดส่งออกที่ยังต้องการสินค้าไทยก็ยังมีอีกหลายที่และไทยยังสามารถทำตลาดใหม่ๆ ได้ไม่ยาก ปัญหาแรงงาน ผู้ประกอบการอสังหาฯและผู้รับเหมาต่างก็นำแรงงานเข้ามาอย่างถูกกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ผู้บริโภคมั่นใจในการใช้เงิน ดังนั้นภาพรวมจึงออกมาอย่างที่เห็น คือ ประเทศไทยกำลังก้าวไปได้อย่างต่อเนื่องอย่างช้าๆแต่ว่ามั่นคง

ข่าวและบทความข้างต้นนี้จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ดอท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการส่งข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการประชาสัมพันธ์ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]