ผู้ประกอบการ อสังหาฯ ผนึกแบงก์ ตรวจสอบสถานะทางการเงินก่อนจองซื้อแก้ปัญหาทำการตลาดซ้ำ หนี้ครัวเรือน ปัญหาใหญ่ ผู้ประกอบการอสังหาฯ จับมือแบงก์ ตรวจสถานะการเงินก่อนจองซื้อแก้ปัญหาทำการตลาดซ้ำ
ตลาดกลาง-ล่าง ทำ หนี้ครัวเรือน พุ่ง
น.ส.วรางคณา อัครสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการเงินและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท แสนสิริ เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการทำตลาดระดับกลาง-ล่างมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการทาวน์เฮาส์แบรนด์สิริเพลส ที่มีระดับราคา 1.8-3 ล้านบาท/ยูนิตมากขึ้น
แต่จากปัญหาหนี้ครัวเรือนในภาพรวมยังมีตัวเลขที่ค่อนข้างสูง บริษัทจึงแก้ปัญหาตั้งแต่วันที่เปิดจองโครงการโดยเชิญธนาคารหลายแห่ง บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ มาร่วมตรวจสอบสถานะของผู้ซื้อตั้งแต่เริ่มต้นจองโครงการว่าเป็นอย่างไร มีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่ เพื่อลดปัญหาในการนำกลับมาทำการตลาดใหม่ในภายหลัง
ทั้งนี้ อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินกับลูกค้าโครงการของบริษัท ปัจจุบันอยู่ที่ 8% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 5.6% เป็นการเพิ่มขึ้นจากโครงการทาวน์เฮาส์ระดับกลาง-ล่าง ที่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อพอสมควร คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10%
นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า กลยุทธ์การพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ของบริษัทจะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขาย (Ready to Move) เป็นส่วนใหญ่ เพื่อทำให้การรับรู้รายได้มีความแน่นอน และสร้างรายได้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาอัตราการปฏิเสธสินเชื่อให้ไม่เพิ่มขึ้นได้ เพราะธนาคารมีความมั่นใจในตัวของลูกค้าที่ยื่นกู้มากขึ้น
ซึ่งการที่หันมาพัฒนาโครงการรูปแบบพร้อมอยู่ มองว่าเป็นการที่ลดปัญหาในด้านการสร้างภาระหนี้ของลูกค้า หากมีการโอนที่ใช้ระยะเวลาที่นาน โดยเฉพาะปัญหาที่กลุ่มลูกค้าต้องเผชิญคือ การผ่อนชำระหลายทาง เช่น ต้องเช่าบ้าน และผ่อนรถยนต์ เป็นต้น
ปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อโครงการ ทาวน์เฮาส์ของบริษัทมีการโอนภายใน 2 สัปดาห์ ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้เข้ามาเร็วขึ้นและธนาคารเชื่อมั่นในการอนุมัติเงินกู้ให้กับลูกค้า ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการทาวน์เฮาส์ของบริษัทในปัจจุบันทรงตัวอยู่ที่ 16-17%
ด้าน นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินในภาพรวมนั้นยังเป็นปัญหากับผู้ประกอบการอสังหาฯ มีสัดส่วนสูงถึง 30% เช่น โครงการที่เปิดขายไป 100% จะต้องกลับมาทำการตลาดซ้ำใหม่ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเริ่มอยู่ในช่วงขึ้นด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
