แนวโน้มฟื้นตัวของ ”ธุรกิจโรงแรม”

ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2557 ที่ผ่านมานี้ จำนวนนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในกรุงเทพมหานคร จะดูมีอัตราหรือสถิติที่ลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมการท่องเที่ยวพยายามที่จะชี้ตัวเลขสถิติของนักท่องเที่ยวที่ลดลงให้เห็นอย่างเด่นชัด ว่ามีอัตราการลดลงถึง 11.3% เมื่อมีการเปรียบเทียบกับปี 2556 ซึ่งอัตราการลดลงของนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ กลับเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ ฝ่ายเกิดความวิตกกังวล โดยเฉพาะภาคธุรกิจโรงแรมภายในกรุงเทพมหานคร ที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างสูงสุด

แต่ล่าสุด นายแอนดรูว์ แลงดอน รองประธานบริหารหน่วยธุรกิจบริการด้านโรงแรม JLL ได้พยายามออกมากล่าวเปิดเผยในเรื่องนี้ว่า อัตราการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่ในปี 2557 นั้น เป็นผลมาจากการประสบปัญหาต่อการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเป็นไปในระยะเวลาที่ยาวนาน และเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไข และถึงแม้ว่าจะส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวมีอัตราลดลงถึง 11.3% ก็ตาม แต่จำนวนอัตราการลดลงในครั้งนี้ ยังคงนับได้ว่าเป็นอัตราที่น้อยกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้อย่างมาก ก็นับได้ว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะตราบใดก็ตามที่กรุงเทพมหานครยังคงมีสถานภาพที่แข็งแกร่ง โดยกรุงเทพมหานครในปัจจุบันยังคงมีฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยวของไทย ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในโลก เมื่อถึงช่วงเวลาที่การเมืองสงบลงในช่วงครึ่งหลังของปี สถานการณ์ความสงบจะสามารถช่วยพยุงให้ภาคธุรกิจโรงแรมภายในกรุงเทพมหานครในปีที่ผ่านมานี้ ไม่ถึงกับต้องล่มหรือล้มลง แต่ยังคงสามารถพลิกฟื้นคืนสภาพได้ดั่งเดิม

นอกจากนี้ ทางด้าน JLL ยังคงชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า โดยเฉพาะในช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา มีโรงแรมที่ถูกสร้างขึ้นใหม่และเสร็จสิ้นแล้วจำนวนเพิ่มขึ้นภายในกรุงเทพมหานคร โดยคิดเป็นจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 1,100 ห้อง ส่วนในปี 2559 – 2561 อาจจะมีโรงแรมที่สร้างเสร็จแล้วเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นประมาณ 3,700 ห้อง และด้วยเหตุนี้ทางด้าน นายแลงดอน จึงมีความคิดเห็นที่ว่า ปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดของธุรกิจโรงแรมภายในกรุงเทพมหานคร จะยังคงมีลักษณะที่แข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อไปได้นั่นเอง

ที่มา : ผู้จัดการ