ชาวคูคตเตรียมรอรับรถไฟฟ้าได้แล้ว รฟม.อนุมัติลุยเต็มที่

ชาวคูคตเตรียมรอรับรถไฟฟ้าได้แล้ว รฟม.อนุมัติลุยเต็มที่
ชาวคูคตเตรียมรอรับรถไฟฟ้าได้แล้ว รฟม.อนุมัติลุยเต็มที่

           

ชาวคูคตเตรียมรอรับรถไฟฟ้าได้แล้ว รฟม.อนุมัติลุยเต็มที่
ชาวคูคตเตรียมรอรับรถไฟฟ้าได้แล้ว รฟม.อนุมัติลุยเต็มที่

    มีข่าวแจ้งมาจาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ประธานบอร์ด รฟม.โดย พล.อ.ยอดยุทธบุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ ลงมติเห็นชอบให้ดำเนินการเชื่อมเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวด้านเหนือ ช่วง หมอชิต สะพานใหม่ คูคต เป็นที่แน่นอนแล้วโดยไม่ต้องแก้ทีโออาร์เดิม เพราะทีโออาร์เดิมนั้นเปิดกว้างและมีควมเป็นธรรมพร้อมทั้งมีการขายซองประกวดราคาไปแล้วนั้นและตอนนี้มียื่นกลับเข้ามาถึง 31 ราย ซึ่งจะมีการให้ยื่นซองเพิ่มเติมได้อีกในช่วงวันที่ 19 กันยายน 2557 และจะได้คัดเลือกผู้ที่ผ่านการประมูลมาทำการก่อสร้างและดำเนินการ ส่วนเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายนั้น ทางกระทรวงการคลังจะเป็นแม่งานรับดูแล ซึ่งจากมติที่บอร์ด รฟม.เห็นชอบนั้นจะให้เดินรถในแบบ PSC คือ รฟม.จัดหาและเดินรถเองโดยอาจจะมีการตั้งบริษัทลูกหรือจ้างเอกชนเดินรถทั้งนี้หาก รฟม. สามารถดำเนินการเองได้จะส่งผลให้ค่าโดยสารถูกลงส่วนการเดินรถในสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระคณะกรรมการมาตรา 13 ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯมีมติให้ รฟม.เปิดประกวดราคาเพื่อหาบริษัทเอกชนเข้ามาเดินรถแต่บอร์ดฯเห็นว่าการประกวดราคาหากได้เอกชนรายใหม่การเดินรถจะไม่เชื่อมต่อกันจึงได้เสนอขอทบทวนไปยังคณะกรรมการอีกครั้งสำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรงและสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีจะต้องรอ เสนอ ครม.ชุดใหม่และประสานไปยังกระทรวงคมนาคมให้ช่วยเจรจาเพื่อดำเนินการต่อไปโดยเฉพาะสายสีชมพูที่จะต้องเร่งก่อสร้างให้เสร็จเพื่อแก้ปัญหาการจราจรในถนนแจ้งวัฒนะ

ถือได้ว่าข่าวนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนเพราะด้วยการเดินทางที่กำลังจะสะดวกขึ้นในอนาคตข้างหน้าอีกแค่ไม่กี่ปี จะทำให้ทุกมุมเมืองสามารถเชื่อมโยงเข้าถึงกันได้และยังอำนวยความสะดวกกับการทำธุรกิจ และ การกระจายตัวของเมืองให้ออกไปชานเมืองได้ เพื่อลดความแออัดในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพ เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าแหล่งธุรกิจ แหล่งการศึกษานั้นแออัดในพื้นที่บางจุดมากจริงๆ การกระจายตัวยังมีไม่มากเป็นเฉพาะจุดที่มีการพัฒนาทางด้านคมนาคมหรือแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งพักอาศัยใหญ่ๆ เท่านั้นหรือตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบนดินและใต้ดิน แต่ในอนาคตข้างหน้า การเชื่อมต่อการเดินทางไม่ว่าจะทางตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้ ของกรุงเทพและชานเมืองจะถูกโยงเข้าหากัน ทำให้คาดว่าในอนาคตตามชานเมืองจะกลายเป็นแหล่งธุรกิจ แหล่งพักอาศัย แหล่งการศึกษา แหล่งช้อปปิ้ง เพื่อให้ผู้คนที่อาศัยในย่านชานเมืองได้รับความสะดวกมากขึ้น นักลงทุนด้านต่างๆ ก็จะขยายตัวออกไปยังชานเมืองเพิ่มขึ้น หลังจากที่เมื่อก่อนจะมีแค่นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่จะไปอยู่ตามชานเมือง ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นอาคารสำนักงานต่างๆกระจายเต็มพื้นที่ชานเมือง แทนที่จะอยู่แค่ย่านสีสม สาทร สุขุมวิท อย่างปัจจุบัน หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ก็เริ่มจะยึดหัวหาดตามชานเมืองเพิ่มขึ้น ส่วนโครงการอสังหาฯนั้นก็มีตามชานเมืองมาก่อนหน้านี้หลายปีแต่ยังไม่หนาแน่น ซึ่งเมื่อมีการอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าหลายๆสายที่พร้อมจะทำการก่อสร้างและเสร็จในอีก 3-4 ข้างหน้าเชื่อแน่ว่าโครงการใหญ่ๆ จะมีเพิ่มขึ้นตามชานเมืองที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า หรือ มีเส้นทางที่จะเชื่อมต่อมายังสถานีรถไฟฟ้าได้สะดวกขึ้น

ในอนาคตกรุงเทพและชานเมืองทิศต่างๆจะเดินทางถึงกันได้เพียงแค่ในเวลาไม่กี่นาที แต่สิ่งที่อยากจะให้เกิดขึ้นคือ เรื่องของค่าโดยสารที่ต้องยอมรับว่ายังมีการทับซ้อนกันในบางช่วงและดูเหมือนราคาจะสูงทำให้ยังไม่ได้รับความนิยมจากประชานอย่างทั่วถึงเช่นช่วงต่อขยายจากสถานีอ่อนนุช-แบริ่งนั้นคือส่วนที่อยู่ในความดูแลของ กทม.ซึ่งมีการเก็บค่าบริการทับซ้อนกับค่าตั๋วคือ ผู้ที่ใช้ในช่วงต่อขยายนั้นต้องเสียเพิ่ม 10 บาทซึ่งรวมอยู่ในค่าตั๋วที่ซื้อ หรือ ผู้ที่ใช้บัตรเติมต้องมีเงินค่าเที่ยวต่างหากในบัตรเพื่อให้หักนอกเหนือจากเที่ยวที่เติมในตั๋ว ซึ่งหากคิดกันจริงๆแล้วก็เท่ากับว่าค่าเดินทางยังแพงอยู่ อย่างเช่นจากอุดมสุขไปยังเอกมัยนั้นต้องเสียค่าเดินทาง 32 บาทหรือใช้ตั๋วเดือนราคานักเรียนรวมค่าเที่ยวแล้วอยู่ที่ประมาณ 28 บาทหากคิดไปกลับถือว่าเป็นค่าเดินทางที่สูงจึงทำให้หลายๆคนไม่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพราะหากคิดกันเป็นเดือนรับรองว่าค่าเดินทางนั้นเกินหลักพันบาทแน่นอน ซึ่งคนที่มีรายได้น้อย หรือ นักเรียนที่ได้ค่าขนมน้อยก็ไม่สามารถใช้บริการได้ และอีกประการที่อยากให้มีการปรับเปลี่ยนหรือมีผู้เสนอให้บอร์ดพิจารณาคือ ในการซื้อตั๋วเป็นรายเดือนบางเดือนหลายๆคนก็ใช้ไม่หมดแต่เมื่อครบ 30 วันจำนวนเที่ยวที่เหลือกลับใช้ไม่ได้โดนดูดคืนกลับไปหมด ซึ่งไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจึงอยากให้มีการพิจารณาตรงนี้ด้วยคือแม้ว่าจะเติมเที่ยวเป็นเดือนแต่เมื่อครบเดือนแล้วเที่ยวยังเหลือก็น่าจะให้ใช้ต่อได้จนหมด ไม่ใช่ระบบดูดเที่ยวคืนกลับไปซึ่งบางคนนั้นเหลือเป็นสิบเที่ยวก็มี ไหนๆก็จะมีการปฎิรูปกันแล้วก็อยากฝากไว้ด้วยแล้วกันเพื่อฝันจะเป็นจริง