บ้านหลังแรกในชิวีต เวลา5เดือนกับงบ 1.6 ล้าน สวยงามเกินราคา (ภาค2)

แบบบ้าน,แบบบ้าน 2 ชั้น,แบบบ้านสองชั้น
แบบบ้าน,แบบบ้าน 2 ชั้น,แบบบ้านสองชั้น
แบบบ้าน,แบบบ้าน 2 ชั้น,แบบบ้านสองชั้น
แบบบ้าน,แบบบ้าน 2 ชั้น,แบบบ้านสองชั้น

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปต่อกันเลย ส่วนใครยังไม่ได้อ่าน ภาคแรกสามารถกดตรงนี้ค่ะ บ้านหลังแรกในชิวีต เวลา5เดือนกับงบ 1.6 ล้าน สวยงามเกินราคา (ภาค1) มาต่อกันค่ะ

จากเดือนมีนาคมดูยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าใดนัก  ซึ่งทางผมพ่อและแม่ก็เกรงเรื่องบ้านจะเสร็จไม่ทันกำหนด

แต่ในช่วงกลางๆ เดือนเมษายน 2559 ก็ถือว่าบ้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่างค่อนข้างชัดเจนแล้ว

ถือว่าเป็นช่วงเวลา 1 เดือน ที่งานดำเนินไปได้ถือว่าค่อนข้างไวมาก  เริ่มจับเฟี้ยมและใส่วงกบอลูมิเนียมของหน้าต่าง

และช่วงนี้สุขภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งกระเบื้องปูพื้นที่เลือกๆสั่งๆไว้ ก็ทยอยส่งเข้ามาจากร้านวัสดุก่อสร้างแล้ว

เพราะส่วนใหญ่ทางร้านจะรับฝากได้ 1 เดือน ทางผมก็ไปเจรจาผลัดวันแล้วผลัดวันอีก

จนรู้สึกว่าโอเค ของจะเข้าก็ให้เข้าแล้ว เอาไปวางๆไว้ จะได้เป็นการแอบกดดันผู้รับเหมาไปในตัว 5555 ซึ่งผู้รับเหมาแจ้งว่ายังไม่ได้ติดตั้ง

จึงต้องเสี่ยงกองๆไว้บริเวณก่อสร้าง กลัวว่าจะหายเหมือนกัน แต่โชคดีที่บริเวณนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโจรกรรมมากนักครับ

จากนั้นก็จะเริ่มปูกระเบื้องผนังครัวครับ  ช่วงนี้ก็ประมาณสิ้นเดือนเมษาแล้วครับ

ส่วนช่างปูนก็เทพื้นออกไปทำเป็นทางเดิน กว้าง 1 เมตร รอบตัวบ้านครับ เก็บงานเรื่องสีบริเวณช่องลมหน้าจั่วบ้าน

และเป็นช่วงที่ช่างไฟจะเข้ามาร้อยสายไฟ เพราะทีมช่างฝ้าเตรียมจะเข้ามาทำฝ้าช่วงต้นเดือนพฤษภาคมครับ

เป็นช่วงที่ร้อนมากๆ ชนิดว่าไม่ไหวจริงๆ จึงได้ตัดสินใจในช่วงสุดท้ายก่อนตีฝ้า

ว่าจะใส่ฉนวนใยแก้วกันความร้อนบริเวณเหนือฝ้าครับ เป็นงานเพิ่มเติมซึ่งไม่มีอยู่ใน BOQ ครับ

ซึ่งแรกเริ่มคุยกับทางผู้รับเหมาแล้วว่าจะใส่เพิ่มดีหรือไม่ ผู้รับเหมาก็แนะนำในเบื้องต้นว่า แผ่นสะท้อนความร้อนก็โอเคแล้ว

แต่พอได้เข้าหน้างานทุกวัน  รู้สึกว่าบ้านค่อนข้างร้อนครับ บวกกับศึกษาหาข้อมูลแล้วว่าฉนวนใยแก้วน่าจะช่วยเรื่องนี้ได้พอสมควร

จึงตกลงกันและตัดสินใจในนาทีสุดท้ายว่าจะใส่เพิ่มเข้าไปครับ   ก็ได้ไปซื้อฉนวนใยแก้วหนา 6 นิ้วครับ ใช้ราวๆ 30 กว่าถุง

ก็เป็นเงินที่บานเพิ่มมาราวๆ หมื่นกว่าบาท ไม่รวมค่าแรงในการปูฉนวนครับ

ส่วนช่างไฟก็เข้ามาร้อยสายไฟ สายสัญญาณทีวี สายLan (เปลี่ยนจากสายโทรศัพท์ทุกจุดภายในบ้านเป็น Lan ทั้งหมดเพราะคิดว่าไม่น่าจะได้ใช้โทรศัพท์บ้านแล้วครับ) ตรงนี้มีปัญหาติดขัดพอสมควร เพราะเป็นช่างไฟคนละทีมกับที่มาเจาะผนังครับ ไม่แน่ใจว่าทำไมทางผู้รับเหมาถึงเปลี่ยนทีมช่าง และทางช่างไฟชุดแรกก็เจาะผนังผิดตามแปลนไปค่อนข้างหลายจุดครับ  ทีมช่างไฟชุดหลังเลยต้องมาแก้งานกันพอสมควรครับ

กระเบื้องผนังห้องครัวก็ถือว่าเพิ่มงบจาก BOQ ไปพอสมควรครับทั้งในเรื่องของราคากระเบื้องและปริมาณพื้นที่ที่จะปูกระเบื้อง

เพราะทางผู้รับเหมาปูให้ด้านเดียว ส่วนคุณแม่ต้องการปูผนังอีกด้านด้วย  และมีกระเบื้องโมเสค รวมทั้งลายดอกไม้เพิ่มขึ้นมา

ซึ่งราคาจะสูงกว่าที่ผู้รับเหมาได้กำหนดไว้ให้ใน BOQ พอสมควรครับ ก็ต้องเจียดเงินเพิ่ม บานๆ ตามกันไปครับ

คุณแม่ชอบสีเขียว อยากจะปูเป็นสีเขียวทั้งหมด  ส่วนผมเสนอสีขาวไป

ก็เลยตกลงแบ่งๆ พื้นที่กันไป ของคุณแม่ปูด้านนึง ของผมปูอีกด้านนึง

มีทั้งเขียวทั้งขาว เอาดอกไม้มาตัดเส้นตรงกลางสักหน่อย สภาพออกมาก็พอไปวัดไปวาอยู่ครับ

ในส่วนของฝ้าเพดานชั้นบน ก็ปูฉนวนใยแก้ว

รวมทั้งตีฝ้าปิดด้วยแผ่นยิปซัมบอร์ด ปูๆ เจาะๆ ยิงๆ แปปเดียวก็เสร็จครับ ใช้เวลาวันเดียว เร็วมากๆ

หลังจากชั้นบนตีฝ้าปิดเสร็จเรียบร้อย ช่างฝ้าก็ลงไปทำชั้นล่างต่อ ส่วนชั้นบนก็เริ่มลงมือปูกระเบื้องพื้นทันทีทันใดครับ

โดยเริ่มจากโถงกลางชั้นสอง ปูไล่ไปยังห้องต่างๆ ห้องนอนใหญ่ของพ่อแม่เลือกกันเองเป็นกระเบื้องลายไม้ ผิวด้านๆ หน่อย ไม่ลื่นครับ

ของห้องน้องสาวเป็นกระเบื้องมันวาวสีครีมๆ มีลายนิดหน่อยแบบเดียวกับโถงกลางชั้นสอง

ส่วนห้องนอนของผมเป็นกระเบื้องมันวาวสีขาวล้วนครับ

กระเบื้องส่วนที่ขาดไป อาจจะด้วยการคำนวณพื้นที่พลาดหรือเพราะต้องตัดกระเบื้อง ก็สั่งเพิ่มและทยอยเข้ามาส่งเรื่อยๆ ครับ

เป็นช่วงที่มึนงงเหมือนกัน เพราะกระเบื้องแต่ละแบบแต่ละลายซื้อมาจากหลายๆร้าน ต่างร้าน ต่างสาขากันครับ

พอต้องซิ้อเพิ่มก็มีมึนๆงงๆบ้าง ว่าต้องไปสั่งเพิ่มจากที่ร้านไหนหรือสาขาใดครับ

ชั้นบนทั้งหมดใช้เวลาปูราวๆ 3-4 วันครับ แอบช้านิดๆ เพราะช่างปูกระเบื้องคู่สามีภรรยาปูกันเองอยู่สองคน

(เรียกได้ว่าทั้งบ้านของผมปูแค่สองคนนี้แหละครับ)

แต่ฝีมือถือว่าโอเค งานเนื้ยบใช้ได้ครับ  ลองเคาะแล้วแน่นดี  มีเสียงโหลงเหลงบ้างนิดหน่อยๆสองสามแผ่น ถือว่าให้ผ่านไปครับ

ปูกระเบื้องชั้นบนเสร็จแล้วก็ลงมือปูชั้นล่างต่ออีกราวๆ 3-4 วันครับ รวมทั้งก่อเค้าเตอร์ห้องครัว

ส่วนชั้นบนก็ทยอยใส่สุขภัณฑ์ต่างๆ เข้าไปครับ

รวมทั้งช่างอลูมิเนียมก็มาทยอยใส่กระจกหน้าต่างรอบบ้านครับ  ช่างปูนก็ฉาบเรียบบันได

ช่างสีก็เข้ามาจัดการเรื่องสี  เรียกเป็นช่วงที่ช่างเข้าแทบทุกทีมช่าง เดินชนกันไปหมดครับ  555

หลังจากการปูกระเบื้องแล้วเสร็จ ก็เริ่มติดตั้งไฟ ราวบันได และประตูครับ

แต่เรื่องประตูจะมีปัญหาอย่างหนึ่ง ด้วยผมไม่ทราบจริงๆ เห็นลูกบิดสวยๆ ลดราคาบ้าง เลยกะว่าจะซื้อทิ้งไว้

จึงไปซื้อก้านมือจับเปิดประตูแบบ Mortise lock มาไว้ก่อน สำหรับห้องนอน  และลูกบิดห้องน้ำต่างๆ

ตัวลูกบิดไม่มีปัญหาครับ แต่ ก้านมือจับแบบ Mortise lock นี่แหละครับ  ที่ดันไปซื้อก่อนประตูและมีปัญหาใหญ่ครับ

เพราะว่ามือจับแบบนี้ จะต้องใช้กับประตูที่มีความหนามากพอสมควร (มากกว่า 36-40 มิลลิเมตร)  และควรจะเป็นประตูไม้จริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบานรูปฟัก

แต่ประตูห้องนอนผมอยากได้แบบเรียบๆ มีเซาะร่องเล็กๆน้อยๆ ดูออกแนวโมเดิร์นๆหน่อย ซึ่งมักจะเป็นประตูแบบไม้สังเคราะห์หรือประตูไวนิลบ้าง

ตอนซื้อทางพนักงานก็มีบางส่วนบอกว่าใส่ได้ บางส่วนบอกใส่ยากมีโอกาสเสีย บางส่วนบอกใส่ไม่ได้  ทำให้กังวลเรื่องประตูมาก

ยังโชคดีที่ช่างทำประตูให้ความหวังว่าน่าจะทำได้  จนสุดท้ายเสี่ยงซื้อมาครับ โดยเลือกประตูไวนิลที่มีความหนามากหน่อยครับ

ลองใส่ดูก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง แต่ไม่รู้จะคงทนได้ขนาดไหนครับ ดังนั้นใครจะสร้างบ้าน และสนใจประตูแบบ Mortise Lock ควรคำนึงถึงจุดนี้ด้วยนะครับ

ส่วนประตูหน้าบ้าน จริงๆผมอยากได้ประตูสีขาวที่ออกสไตล์ยุโรปๆหน่อย

แต่คุณแม่ดันไปสั่งประตูไม้สักลายหงษ์มังกรมาจากต่างจังหวัด พร้อมวงกบ  โดยที่ผมไม่รู้มาก่อน 55555 ขนมาแบบเซอร์ไพรส์เลย ซึ่งไม่เข้ากับสีบ้านที่ผมเลือกเล๊ยยยย  แต่ก็จำใจต้องยอมครับ เพราะราคาค่อนข้างสูง ก็เป็นว่ายอมๆ ท่านไป

ติดตั้งวงกบไปก่อน แต่ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร เพราะคิดว่าสั่งมาด้วยกันไม่น่าจะมีปัญหา จนช่างทำประตูมาบอกว่า วงกบเล็กกว่าประตู  (วงกบ 160 cm แต่ประตูคู่บานละ 90cm  รวม 180 cm ครับ) ทำให้ใส่ไม่ได้ คุณแม่โทรไปต่อว่าร้านชุดใหญ่ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

สุดท้ายจำต้องแก้ไขเฉพาะหน้า โดยไปซื้อประตูบานคู่มาภายในวันนั้นเลย  ก็คุณแม่เป็นคนเลือกอีกเช่นเดิมครับ  (ไม่ค่อยเข้ากันอยู่ดี แต่ผมแอบว่าดีกว่าหงษ์มังกรแหะ 5555)

อุปกรณ์ไฟจำพวกเต้าปลั๊ก สวิตช์ หลอดไฟ โคมไฟ ซื้อเองทั้งหมด

มีต่างยี่ห้อปนๆ กันไป ไม่ได้ใช้เหมือนกันทั้งบ้าน  เพราะต้องการให้เข้ากับห้องและคำนึงถึงความถนัดและเหมาะสมในการใช้งานจริงครับ

(รวมทั้งราคาครับ ตัวไหน Sale ก็หยิบๆ มา 55555)

ผมก็ได้กำหนดจุดสวิตช์ต่างๆ โดยเขียนเป็นหมายเลขลงบนบรรจุภัณฑ์ของอุปกรณ์

และเขียนเลขระบุดังกล่าวลงไปบนแปลนไฟฟ้าว่าเลขไหนติดตั้งตรงจุดใด

ส่งแปลนให้ทีมช่างไฟ ทำให้ทำงานง่าย แบ่งเบาภาระของช่างไฟครับ ไม่ต้องมานั่งคัดแยกสวิตช์ ถึงเวลาจับใส่ๆ ครับ น่าจะสะดวกดี

ซึ่งหนึ่งทีมช่างไฟยังชมว่าไอเดียดีด้วยครับ อิอิ พอติดตั้งระบบไฟเสร็จวันนั้นก็อยู่ลองดูไฟในช่วงค่ำเลยครับ

14 พ.ค. 2559 วันสุดท้ายของการสร้าง เก็บรายละเอียด  ติดเหล็กดัด (ส่วนเหล็กดัดนี้อยู่นอกเหนือ BOQ อีกแล้ว)

และเตรียมที่จะทำความสะอาดบ้านในอีกวันครับ

ถ่ายภาพความหนาของประตูมาให้ดูดูตรงก้านเปิดประตู Mortise Lock

จะใช้ความหนาของประตูค่อนข้างมาก เหลือพื้นที่ตรงความหนาประตูค่อนข้างบาง  ไม่รู้จะทนหรือไม่

แต่เท่าที่ทดสอบโยกไปมาๆ  ก็ดูโอเคดีครับ

ติดตั้งถังเก็บน้ำขนาด 1000 ลิตรของ พร้อมปั๊มน้ำอัตโนมัติขนาด 350 วัตต์ครับ

เสร็จทันกำหนดพอดีๆ ครับ  15 พ.ค.  เหลือเก็บรายละเอียดนอกตัวบ้าน

อันเป็นข้อนอกเหนือจากในสัญญาและราคาใน BOQ ซึ่งเป็นจุดที่ต้องเพิ่มเงินจากงบไปอีกครับ

เทถนนเข้าบ้าน หลังคาโรงรถ ไฟหัวรั้ว  ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงแต่งเติมและขนย้ายของจากบ้านเดิมมาเข้าบ้านครับ

ก็ขอจบการรีวิวการสร้างบ้านอันยาวนาน 5 เดือนของผมไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาครับผม

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจากคุณ คุณ Luv-Lali-Jung สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากซื้อ ขายบ้าน คอนโด หรือ ทาวน์เฮ้าส์ มือ1 มือ 2 สามารถเข้าดูได้เลยที่ https://www.dotproperty.co.th/