วิเคราะห์ทาวน์โฮมราคาไม่ถึง 2 ล้าน สินค้า rare item ที่ค่อยๆ หายไปจากตลาด

เป็นปรากฎการณ์ที่แสนจะธรรมดาไปซะแล้ว เมื่อพบว่าราคาของที่อยู่อาศัยมักแปรผันตรงตามราคาที่ดิน ทำให้ราคาของที่อยู่อาศัยแนวราบในพื้นที่เมืองและคอนโดมิเนียทใจกลางเมือง เริ่มขยับตัวสูงขึ้นจนแซงหน้าการเติบโตของรายได้โดยเฉลี่ยของประชากรไทย โดยเฉพาะสินค้าทดแทนบ้านเดี่ยวที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเริ่มสร้างครอบครัวอย่างทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ในปัจจุบันแทบจะไม่พบเห็นทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้าน แม้แต่ในพื้นที่ชานเมืองกันแล้ว สวนทางกับความต้องการของเรียลดีมานด์ กลุ่มกำลังซื้อหลักที่โดดเด่นมาแรงในกระแสโควิด ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มากขึ้น แต่ราคาไม่สูงนัก

_pic_1_

เจาะทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้าน สินค้าที่แทบจะหายไปจากตลาด

สำหรับช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมา ผลกระทบจากช่วงของมาตรการ Social Distancing ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับพื้นที่การอยู่อาศัยมากขึ้น นอกจากนั้นยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ทำให้ปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มาก แต่มีราคาไม่สูง ซึ่งสินค้าที่ตอบโจทย์ที่สุดนั้นคือทาวน์โฮม 2 ชั้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าทดแทนบ้านเดี่ยวและไม่ต้องการพักอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มักจะมีพื้นที่ใช้สอยเล็กลง และมีราคาที่ปรับตัวสูงเกินกว่าจะรับไหว

อย่างไรก็ตาม แม้กระแสความต้องการในสินค้าทาวน์โฮม 2 ชั้น จะมาแรง แต่กลับพบว่าแทบจะไม่เห็นทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้าน ในพื้นที่ชานเมืองเลย โดยรายงานผลการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าแม้ตลาดทาวน์โฮมจะเป็นตลาดที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบไม่หนักมากเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทอื่น โดยมียอดขายลดลงเหลือ 12,248 ยูนิต คิดเป็น 39% ของอุปทานที่ขายในตลาดจากเดิมที่มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 40-45%

แต่ขณะเดียวกัน ราคาขายทาวน์โฮมในปัจจุบัน มีราคาปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาของทาวน์โฮมที่อยู่ห่างจากบริเวณรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในระยะไม่เกิน 2 กิโลเมตร มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 4.59 ล้านบาท โดยมักจะมีที่ตั้งที่อยู่ระหว่างรอยต่อของเมืองหรือเมืองรอบนอก ซึ่งเมื่อเทียบกันในด้านราคาแล้ว จะพบว่าราคาของทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียมนั้นมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

_pic_2_

สำหรับระดับราคาทาวน์โฮมที่เปิดขายกันในปัจจุบัน ก็พบว่าแทบจะไม่พบเห็นทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านแล้ว โดยทาวน์โฮมกลุ่มระดับราคาที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุด คือทาวน์โฮมในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนยูนิตประมาณ 21,300 ยูนิต คิดเป็น 66% ของตลาด รองลงมาคือทาวน์โฮมในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวนยูนิตประมาณ 8,340 ยูนิต คิดเป็น 30% ของตลาด ซึ่งเป็นทาวน์โฮมในทำเลที่ยังสามารถเดินทางด้วยถนนเส้นหลักได้อย่างสะดวก แม้จะอยู่ในบริเวณเมืองรอบนอก แต่สำหรับทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านนั้น กลับพบว่ากำลังค่อยๆ หายไปจากตลาด โดยจะพบเห็นในพื้นที่ชานเมืองหรือพื้นที่รอบต่อรอบนอกเมือง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางสูงขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าปัจจัยที่ทำให้ไม่ค่อยพบเห็นทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านเกิดขึ้นในตลาดมากนัก เนื่องจากต้นทุนราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถพัฒนาทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านได้ โดยส่วนใหญ่มักจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตามแม้ทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านจะกลายเป็นสินค้าที่ถูกกลืนหายไปจากตลาดด้วยปัจจัยด้านราคาที่ดิน แต่กลับพบว่าผู้บริโภคก็ยังคงให้ความสนใจทาวน์โฮมอยู่ โดยเฉพาะทาวน์โฮมในกลุ่มที่มีระดับราคา 3-5 ล้านบาท ที่มักจะเป็นทาวน์โฮมในทำเลที่สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวกผ่านถนนเส้นหลักและทางด่วน โดยได้รับความสนใจจากผู้บริโภคด้วยยอดขายประมาณ 45% ซึ่งเป็นยอดขายที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทาวน์โฮมในระดับราคาอื่นๆ เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกในทำเลมากกว่าด้านราคา เนื่องจากทาวน์โฮมระดับราคา 3-5 ล้านบาท มักจะตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญ อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มสำคัญของการเติบโตด้านราคาทาวน์โฮมที่คาดว่าจะมีการขยายเพดานราคาให้กว้างออกไปอีก

_pic_3_

ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการพัฒนาของทำเล เป็นตัวเร่งสำคัญให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้เราอาจจะไม่ได้พบเห็นทาวน์โฮมราคาไม่เกิน 2 ล้านในตลาดอีกแล้ว เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่สามารถพัฒนาได้ สะท้อนว่าการเติบโตของราคาที่อยู่อาศัยในประเทศนั้น มีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องไม่หยุดนิ่งเสมอมา

ที่มา:

https://www.prachachat.net/property/news-515645
https://techsauce.co/pr-news/shedding-the-housing-market-covid-19