เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ต่างประกาศแผนพร้อมลุย และยังคงตั้งเป้าการเติบโตสวนกระแสบรรยากาศเศรษฐกิจที่ยังดูซึมๆ ทรงๆ ต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว
ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรายกลางส่วนใหญ่ยังขอแตะเบรกรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะแม้จะมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เรื้อรังและยังไม่คลี่คลาย ทำให้แบงก์ยังเข้มกับการปล่อยสินเชื่อ สต๊อกที่มีในมือยังขายไม่ได้จำนวนมาก ประกอบกับมองว่าเศรษฐกิจปีนี้ โดยเฉพาะครึ่งปีแรกจะยังไม่ฟื้นตัว ทำให้การลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ยังคงต้องระมัดระวัง และต้องเน้นการระบายสต๊อกที่มีอยู่เป็นหลัก
สิริพงษ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ช่วงต้นปีเป็นจังหวะที่บริษัทมองการระบายสต๊อกคอนโดพร้อมอยู่ที่มีอยู่ในมือราว 200 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ได้ประเดิมจัดแคมเปญ ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคให้เร็วขึ้น ซึ่งแคมเปญดังกล่าวเป็นโปรโมชั่นที่ค่อนข้างแรง ด้วยการนำบางยูนิตมาลดราคาสูงสุดกว่า 30% จึงตั้งเป้ายอดขายไว้สูงถึง 500 ล้านบาท แต่ยอมรับว่าได้ยอดจองในช่วงดังกล่าวเพียง 200 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ แม้แคมเปญแรงประเดิมต้นปีจะยังไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่บริษัทมองว่าการจัดกิจกรรมต่อเนื่องจะช่วยสร้างสีสันให้ตลาด และเชื่อว่าภาพรวมจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยในระยะสั้นบริษัทจะยังคงใช้แคมเปญ ต่อเนื่องไปก่อน บวกกับมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากภาครัฐ ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองเหลือ 0.01% สิ้นสุดวันที่ 29 เม.ย. 2559 นี้ คาดว่าจะเร่งการตัดสินใจในช่วงเวลานี้จนถึงสิ้นเดือน เม.ย.นี้ได้ และหลังจากนี้ยังมีมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อเนื่อง 5 ปี สำหรับอสังหาฯ ที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่สิ้นสุดสิ้นปี 2559 นี้น่าจะกระตุ้นตลาดปีนี้ได้
นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 10-13 มี.ค.นี้ ยังมีงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 34 ซึ่งเป็นงานใหญ่ของวงการอสังหาฯ และเป็นงานที่ผู้บริโภครอคอย คาดว่าจะช่วยให้การตัดสินใจซื้อของคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยดีขึ้น และเป็นจังหวะก่อนที่จะหมดมาตรการอสังหาฯ ในส่วนของค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งบริษัทก็เตรียมโปรโมชั่นไว้อัดรอบใหม่อีก เพื่อให้ยอดขายรวมไตรมาสแรกได้ตามเป้าที่ 1,500 ล้านบาท และถือเป็นเวทีสำคัญในการระบายสต๊อกที่อยู่อาศัยที่มีอยู่
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า บริษัทได้จัดแคมเปญ กระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าเช่นกัน โดยเป็นหนึ่งในแคมเปญใหญ่ช่วงต้นปี มอบส่วนลดสูงสุด 2 แสนบาท จอง 5,000 บาท ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วยให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยตัดสินใจได้เร็วขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 20% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15%
ด้าน กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า ปีนี้ผู้ประกอบการรายกลางต้องระมัดระวังการลงทุนโครงการใหม่ๆ และเน้นทำตลาดกับโครงการที่มีอยู่ให้มากขึ้น พร้อมเร่งทำรอบธุรกิจให้เร็วด้วยการสร้างบ้านให้เร็ว จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5 เดือน จะปรับให้เร็วขึ้น 20-30% เพื่อให้ลูกค้าที่มีความต้องการจริงเข้าชมโครงการและตัดสินใจได้ทันที ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่เบื้องต้นจะมีเพียง 3 โครงการบ้านแนวราบ แต่มีที่ดินพร้อมพัฒนาในมืออีก 4 แปลง เดิมอยู่ในแผนพัฒนาปีนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูสถานการณ์ตลาดว่าจะฟื้นตัวหรือไม่ โดยงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 34 ยังเป็นงานใหญ่ที่ผู้ประกอบการหวังว่าจะกระตุ้นการขายได้ เพราะเป็นช่วงใกล้โค้งท้ายหมดมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% แล้ว
