เจาะวิกฤต รถไฟไฮสปีด ”ทำไมติดปัญหาเวนคืนที่ดิน-ผู้บุกรุกที่ดินงอกรายวัน”

รถไฟไฮสปีด

ปัญหายังคงมาไม่จบสิ้น สำหรับ วิกฤตเวนคืนที่ดินโครงการ รถไฟไฮสปีด เชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ระยะทางรวม220 กม. วงเงิน 224,544 ล้านบาท ที่เวลานี้เจอปัญหาติดหล่มพื้นที่ เวนคืนที่ดิน ที่ในเวลานี้ยังสแกนพื้นที่ที่จะส่งมอบให้ ซี.พี.ไม่แล้วเสร็จ  ส่งผลให้การเซ็นสัญญายังไม่เกิดขึ้น

 

เวนคืนที่ดิน เป็นพิษ รถไฟไฮสปีด ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา

ถึงแม้ว่าเวลานี้ทาง คณะรัฐมนตรี จะอนุมัติให้กลุ่มกิจการร่วมค้า ซี.พี. หรือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และพันธมิตร มีสิทธิสำหรับการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ไปแล้วแต่กับต้องมาติดปัญหา เวนคืนที่ดิน หลังจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เป็นคู่สัญญา ยังสแกนพื้นที่ที่จะส่งมอบให้ ซี.พี.ไม่แล้วเสร็จ  สาเหตุมาจากที่ดินในบริเวณดังกล่าวสะดุดปัญหาใหญ่ในเรื่อง การรื้อย้ายผู้บุกรุก  เนื่องจากปัญหาสั่งสมเป็นหลายสิบปี จากกรณีให้ประชาชนเช่าเบี้ยหัวแตก ทั้งแบบมีและไม่มีสัญญาเช่า ทำให้  ร.ฟ.ท.จำเป็นต้องทำแผนส่งมอบพื้นที่ให้ชัดเจน แบบเจาะลึกลงรายละเอียดด้วยการระบุวัน-เดือน-ปีที่จะส่งมอบแบบในสัญญาอย่างชัดเจน หากเคลียร์ไม่จบทำให้ กลุ่ม ซี.พี. ต้องเลื่อนการเซ็นสัญญาออกไป เพราะหากรีบเซ็นตอนนี้จะได้ไม่คุ้มเสีย และอาจจะทำให้ภาคเอกชน ต้องแบกรับความเสี่ยง เสียทั้งเเงินและเวลา

รถไฟไฮสปีด

 

ผู้บุกรุกที่ดินงอกรายวัน

หลังจากที่ทาง กลุ่มซี.พี. จัดทีมเซอร์เวย์ภาคสนาม ทำให้พบปัญหามากกว่าที่ ร.ฟ.ท.นำข้อมูลมาเสนอ โดยข้อมูลที่ทาง ร.ฟ.ท.นำคือ พื้นที่ติดปัญหา 2,250 ไร่ ทั้งเวนคืน ผู้บุกรุก สัญญาเช่า 300 สัญญา เสาตอม่อโฮปเวลล์ 200 ต้น ที่ต้องทุบทิ้ง และจุดทับซ้อนกับรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ อุโมงค์คลองแห้งช่วงจิตรลดา ซ้อนทับสายสีแดง แต่พอลงสำรวจพื้นที่จริงกับพบว่ามีผู้บุกรุกที่มีจำนวนงอกขึ้นมาใหม่ ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯมี 400  หลังคาเรือน โดยโซนที่กระจุกเยอะสุดจะอยู่ในช่วง พญาไท-หัวลำโพง ที่เกินมา 270 หลัง,  ด้านพื้นที่ต่างจังหวัดมี 600 หลังคาเรือนโดยโซนที่กระจุกเยอะสุดจะอยู่ในช่วง ศรีราชา-พัทยา และยังมีบางพื้นที่เข้าไปสำรวจไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก นั้นก็เพราะว่าติดปัญหาจำเป็นต้องรอ พ.ร.ฎ.เวนคืนประกาศก่อนถึงจะเข้าสำรวจได้  ส่งผลให้ยังมีอีกหลายๆพื้นที่ยังตกสำรวจอยู่ โดยระยะทาง ของโครงการอยู่ที่ 220 กม. มีการคาดการณ์ว่าจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ทั้งหมด10,000 ไร่ แต่เวลานี้ติดปัญหาที่เป็นพื้นที่อุปสรรค อยู่ราวๆ2,000 ไร่ หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนที่ดินในโครงการ

 

พื้นที่ดินที่ ที่โดนเวนคืนทั้งหมด 4 ประเภท

พื้นที่ดินที่ทาง ร.ฟ.ท. จะทำการเวนคืนที่ดินทั้ง 4 ประเภทสำหรับโครงการ รถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” มีดังนี้

1.พื้นที่เวนคืนตาม พ.ร.ฎ.เวนคืน 850 ไร่ ได้แก่  จ.ฉะเชิงเทรา 550 ไร่  โดยค่าเวนคืนที่ทำการประเมินมาได้คือ   3,000 ล้านบาท โดยบริเวณที่ดินจะอยู่บริเวณ พื้นที่เกษตรกรรมห่างสถานีรถไฟฉะเชิงเทราเดิมไปด้านทิศเหนือ 1.5 กม. ไปทาง อ.บางน้ำเปรี้ยว 116 ไร่, สถานีใหม่ 76 ไร่ และศูนย์ซ่อมบำรุง 358 ไร่ รวมเป็น 550 ไร่  ส่วนที่ดินที่เหลือจะอยู่ที่ เวนคืนใกล้สถานีลาดกระบัง โดยค่าเวนคืนที่ทำการประเมินมาได้คือ 350 ล้านบาท  ด้านพื้นที่ทางเข้า-ออกสถานีสุวรรณภูมิค่าเวนคืนที่ทำการประเมินมาได้คือ  12 ล้านและ  บริเวณสถานีอู่ตะเภาโดยค่าเวนคืนที่ทำการประเมินมาได้คือ  130 ล้านบาท

2.พื้นที่บุกรุก  1,000 ไร่ หรือคิดเป็น 10%  โดยที่ดินจะกระจายไปทั่วเส้นทางแต่จะโฟกัสไปที่บริเวณ  พญาไท-หัวลำโพง-ดอนเมือง-พัทยา-ศรีราชา เป็นหลัก เพราะเวลานี้มีผู้บุกรุกที่ดินงอกรายวันจำเป็นต้องรีบจัดการ

3.พื้นที่เช่า 300-400 สัญญา สัดส่วน 80% ที่พร้อมส่งมอบ ได้แก่ ที่ดินสถานีมักกะสันใน จำนวน 140 ไร่  โดยมแผนที่จะส่งมอบให้ก่อน 100 ไร่ อีก 40 ไร่ติดย้ายพวงราง หรือที่ดินสถานีศรีราชาที่เวลานี้ทาง ซี.พี.ต้องรอรื้อย้ายบ้านพักรถไฟ จำนวน 25 ไร่

4.พื้นที่ที่โดนสาธารณูปโภคกีดขวาง อาทิ  โครงสร้างที่ต้องรื้อออกด้วยเช่น โฮปเวลล์  ท่อประปาขนาดใหญ่ ท่อสายส่งไฟฟ้า และท่อน้ำมัน เป็นต้น

โดยเวลานี้จุดที่ต้องรีบแก้ปัญหาเลยคือ ต้องรีบเคลียร์ปัญหาผู้บุกรุกและอาจจะต้องใช้เวลานานถึง3 ปี ถึงจะเคลียร์ได้หมด  โดยล่าสุด บิ๊กตู่ อนุมัติกรอบวงเงิน 200 ล้านบาท ให้ ร.ฟ.ท. ให้รีบจัดการรื้อย้ายผู้บุกรุก เพื่อให้งานก่อสร้างเสร็จทันกำหนดเวลา 5 ปี  นี้ขนาดโครงการยังไม่ได้ฤกษ์ ตอกเสาเข็ม แต่ส่อเค้าลางสารพัดปัญหาเข้าซะแล้วฃทำให้เวลานี้ กลุ่ม ซี.พี.ไม่อยากผลีผลาม หากเดินเกมผิดมีโอกาศเสียมากว่าได้อย่างแน่นอน ฟันธง…

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก