แชร์ Mood board สำหรับคนอยากแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ แต่งยังไงก็ไม่หลุดธีม

จากที่เราได้ทำความรู้จักกับ Mood board ที่ทำขึ้นเพื่อคุมการแต่งห้องไม่ให้หลุดธีมกันไปแล้วหลายคนอาจจะยังไม่เห็นภาพว่าความจริงแล้ว Mood board มีไว้เพื่อช่วยเหลือเราอย่างไร วันนี้ดอทจึงพาทุกคนมาดูตัวอย่างการทำ Mood board สำหรับการแต่งห้องสไตล์ลอฟท์ ซึ่งเป็นสไตล์หนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจน เรามาดูกันดีกว่าว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

ตัวอย่างภาพรวม

living room loft interior. 3d renderingอย่างแรกที่เราต้องทำคือการมองหาสไตล์ลอฟท์ที่เราต้องการออกมาก่อน ดังนั้นเราต้องมาทำความเข้าใจกับความเป็นลอฟท์ที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร

Loft Style มีต้นกำเนิดมาจากช่วงยุค 40s เป็นช่วงที่เมืองมีการขยายตัวจึงมีการย้ายฐานโรงงานจนทำให้มีโรงงานถูกทิ้งร้างมากมาย จนมีคนนำมาทำเป็นที่อยู่อาศัย ดังนั้นลอฟท์จึงเป็นการนำเอาโรงงานเก่ามาดัดแปลง วัสดุที่เรามักจะได้เห็นในสไตล์นี้จึงเป็นอิฐ หิน เหล็ก ไม้ ที่เผยให้เห็นโครงสร้างชัดเจน ไร้การปกปิด ให้อารมณ์ดิบและเท่อย่างอบอุ่นไปด้วยกัน

การตกแต่งสไตล์ลอฟท์ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะไม่ใช่ลอฟท์ 100% มักมีการผสมผสานสไตล์อื่นเข้ามาหรือมีการปรับให้นุ่มนวลมากขึ้นกลายเป็น Contemporary Loft Design หรือลอฟท์ร่วมสมัยที่ควบเอาสไตล์มินิมอลหรือโมเดิร์นเข้ามาด้วย

โทนสีและโทนแสง

Living room loft in industrial style ,3d renderด้วยความที่ดัดแปลงมาจากโรงงานช่วง 40s โทนสีที่สไตล์ลอฟท์ใช้จึงเป็นสีตามวัสดุไม่มีการทาสีหรือดัดแปลงเพิ่มเติมแต่อย่างใด อย่างเช่นหากวัสดุเป็นไม้ สีที่ใช้ก็คือสีน้ำตาลในโทนของไม้ แต่ความน่าสนใจของการแต่งห้องในสไตล์ลอฟท์นี้ไม่ได้มีเพียงสีที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะสไตล์นี้ให้ความสำคัญกับวัสดุเป็นหลัก พื้นผิวของวัสดุจึงได้รับความสำคัญไปด้วย ดังนั้นหากกล่าวถึงโทนสีจึงต้องเป็น สีน้ำตาลที่มีการเรียงสีและสัมผัสอย่างไม้ สีเงินหรือดำที่มีความแวววาวอย่างเหล็ก สีส้มแดงที่มีความด้านฝุ่นอย่างอิฐ เป็นต้น

ในเรื่องของแสง สไตล์ลอฟท์จะใช้แสงจากหลอดไฟแบบย้อนยุคซึ่งจะมองเห็นขดลวดและส่วนใหญ่เป็นสีส้มมากกว่าสีขาว และไม่ทำให้ห้องสว่างทั่วทั้งห้องแต่เน้นการสร้างมิติให้กับบางมุมเท่านั้น ห้องที่ได้จึงดูอบอุ่นและมีเสน่ห์ไปพร้อมกัน

ตัวอย่างรายละเอียดห้อง

Interior beautiful apartmentห้องในสไตล์ลอฟท์นั้นมักต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดในห้องไม่ให้โดดสไตล์กันเกินไปเช่น ประตูไม้ควรเป็นสีไม้ ไม่มีการแกะสลักหรือทำลายอะไรมากมาย เพราะเป็นสไตล์ที่เน้นความดิบเท่ ไม่ประณีต(แม้ในความเป็นจริงจะประณีตมาก แต่ก็ต้องทำให้ดูไม่ออก) กรอบหน้าต่างควรเป็นสีเข้มเช่นสีดำ ที่สำคัญคือการเดินท่อและสายไฟที่จะไม่ซ่อนอยู่ใต้ผนังแต่เอาออกมาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่ง ของเหล่านี้ต้องออกแบบด้วยเช่นกัน รวมทั้ง ก๊อกน้ำ ลูกบิดประตู สวิตช์ไฟและอีกมากมาย

ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์

Table counter Bar with Chairs and Lights bulb over Brick wallเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ลอฟท์มักจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งส่วนตรงนี้เราสามารถเลือกโทนสีได้จากชนิดของไม้ที่นำมาใช้ หากชอบสีเข้มอยากได้ความเท่เป็นหลักก็เลือกไม้ไทยที่มักมีสีเข้มโทนน้ำตาลแดงหรือหากชอบสีอ่อนสามารถเลือกเป็นไม้สัก ไม้ยางพาราหรือจะเป็นไม้นอกอย่างไม้โอ๊คก็น่าสนใจเช่นกันเพราะจะให้ความรู้สึกอ่อนโยนมากขึ้น

หากไม่ชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้ สไตล์ลอฟท์ก็ยังมีประเภทเหล็กให้เลือกอยู่ด้วยแต่ควรระวังเรื่องสี ปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเหล็กหรืออะลูมิเนียมพวกนี้มีสีให้เลือกเยอะมาก หากอยากได้สีอื่นจริงๆ ให้เลือกเป็นสีเอิร์ธโทน ที่ให้ความเป็นธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่สไตล์ลอฟท์มักใช้สีดำ

ยังมีวัสดุอีกมากที่เข้ากับสไตล์ลอฟท์ได้เช่น หนัง หิน แก้วหรือผ้า เป็นต้น

ตัวอย่างของตกแต่ง

Grey living room interiorของตกแต่งบางอย่างสามารถกำหนดสไตล์ห้องได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเสียอีกดังนั้นเราจะละเลยสิ่งของเล็กน้อยเหล่านี้ไปไม่ได้ ซึ่งในสไตล์ลอฟท์นี้หากเราไม่อยากได้ความเป็นไม้เป็นเหล็กเพิ่มแต่อย่างเพิ่มสีสัน ความอ่อนโยนเข้าไปแนะนำให้เลือกต้นไม้เพราะเสน่ห์ของต้นไม้คือสามารถเข้าได้กับทุกสไตล์โดยไม่ทำให้หลุดธีม หรือคุณสามารถแขวนงานศิลปะหรือรูปถ่ายขาวดำก็ทำให้ห้องมีเสน่ห์ขึ้นมาได้เช่นกัน

นี่คือรายละเอียดคร่าวๆ ของMood board สไตล์ลอฟท์ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ แต่แนะนำว่าควรใส่รายละเอียดหรือมุมสำคัญของห้องลงไปด้วยจะช่วยให้ภาพในหัวของคุณสามารถเป็นจริงได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือการมองภาพสุดท้ายที่คุณแต่งห้องเรียบร้อยแล้วจะให้อารมณ์แบบใด หวังว่าทุกคนจะได้ห้องในสไตล์ที่วาง Mood board เอาไว้อย่างที่ต้องการนะครับ