5 วัสดุนี้ทำความสะอาดอย่างไรดี? กลับมาเหมือนใหม่น่าใช้เหมือนเดิม

หากคุณต้องการรักษาเฟอร์นิเจอร์หรือของเครื่องใช้ในบ้านให้เหมือนใหม่อยู่กับคุณไปนานๆ การทำความสะอาดก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นผิวของสิ่งของเหล่านั้นได้เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปทำให้การทำความสะอาดและดูแลรักษาพวกมันต้องมีวิธีที่ต่างกันออกไป

วันนี้ดอทจึงขอนำเสนอวิธีทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรกให้กับสิ่งของเครื่องใช้โดยแยกตามประเภทวัสดุพื้นผิว

วัสดุที่ 1 : กระจกและกระเบื้อง

Beautiful girl cleaning up her house

กระจก กระเบื้องนี้เป็นวัสดุที่มีความมัน เงาและลื่นเรียบ หากเราทำความสะอาดโดยไม่ระวังอาจทำให้เกิดรอยขนแมวที่มีลักษณะเป็นรอยเล็กๆ ทำให้ความมัน เงานั้นลดหายไปจนดูเก่าลงไม่สวยงามเหมือนใหม่อย่างต้องการ

วิธีการทำความสะอาด

ความจริงการทำความสะอาดกระจก กระเบื้องเหล่านี้มีวิธีอยู่มากมายแต่ที่ง่ายและเห็นผลได้ดีคือการใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าเช็ดทำความสะอาด เราอาจจะใส่ขวดสเปรย์เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน หากเป็นคราบหนักให้ผสมน้ำเปล่ากับน้ำส้มสายชูแช่เอาไว้ วิธีนี้สามารถใช้เช็ดทำความสะอาดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประตูตู้เย็น ชั้นวางของในตู้เย็น แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับวัสดุประเภทยาง เพราะอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้

ปัญหาอย่างหนึ่งที่เรามักไม่เลือกใช้น้ำส้มสายชูเป็นเพราะกลิ่นที่ค่อนข้างแรง ใครที่ติดปัญหาตรงนี้สามารถใช้น้ำมันหอมระเหยหยดผสมลงไปหรือเด็ดโรสแมรี่สดมาใส่ลงไปด้วยก็ได้เช่นกัน แต่โดยปกติแล้วกลิ่นของน้ำส้มสายชูจะหายไปเองใน 1-2 ชั่วโมงดังนั้นไม่ต้องกลัวกลิ่นติดบ้านแน่นอน

วัสดุที่ 2 : ยางซิลิโคน

ยางซิลิโคนเป็นวัสดุที่มักใช้ประกอบร่วมกับภาชนะเพราะสามารถกันอากาศหรือน้ำทำให้เก็บของได้นานมากขึ้นกว่าเดิม ยางซิลิโคนเหล่านี้ดูเหมือนจะทนทานและยืดหยุ่นแต่ความจริงแล้วพวกมันก็ต้องได้รับการทำความสะอาดที่ถูกวิธีเพื่ออายุการใช้งานจะได้อยู่กับเราไปนานๆ เช่นกัน

วิธีการทำความสะอาด

ยางซิลิโคนแพ้กรดอย่างน้ำส้มสายชูนี่คือไม่ได้ แต่เราสามารถใช้สิ่งที่หาได้ง่ายกว่านั้นนั่นคือ น้ำสบู่ เพียงแค่ใช้สบู่ผสมกับน้ำ ไม่ต้องเข้มข้นมากนักก็สามารถทำความสะอาดยางซิลิโคนได้โดยไม่ทำให้ยางเสื่อมสภาพแล้ว

วัสดุที่ 3 : โลหะต่างๆ

Cleaning a gas stove with kitchen utensils, household concepts, or hygiene and cleaning.

ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านหลายอย่างของเราทุกวันนี้จะประกอบไปด้วยโลหะประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม สแตนเลส โครเมียม เงิน ทองเหลืองหรือทองแดง ก็จัดอยู่ในประเภทโลหะทั้งสิ้น แต่ละอย่างมีวิธีการทำความสะอาดต่างกันออกไปด้วย

วิธีการทำความสะอาด

อะลูมิเนียมและสแตนเลส: หากมีคราบรอยที่ไม่ฝังแน่นสามารถล้างออกด้วยน้ำยาล้างจานได้เลย แต่หากฝังแน่น เราสามารถนำน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าตั้งไฟแล้วเอาไปต้มในนั้นได้เลย แต่หากยังไม่ออกเราสามารถใช้เบกกิ้งโซดาช่วยอีกแรงด้วยการเทลงบนรอยเปื้อนจากนั้นล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานอีกทีหนึ่ง แต่ต้องระวังไม่ขัดแรงหรือใช้ฟองน้ำที่หยาบเกินไปเพราะอาจทำให้เป็นรอยได้

โครเมียม: เป็นวัสดุที่แข็งแรงมากมักใช้ทำเป็นก็อกน้ำ ฝักบัว สายชำระ ซึ่งเราสามารถใช้น้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดได้เช่นกัน

เงิน ทองเหลืองและทองแดง: คราบที่ไม่มากนักเราสามารถใช้น้ำสบู่ผสมน้ำอุ่นล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้งได้เลย หรืออาจใช้มะนาวหรือมะขามเปียกมาช่วยขัดก็ได้เช่นกัน แต่หากมีร่องหรือลายฉลุเราสามารถใช้ยาสีฟันมาช่วยโดยการทาทิ้งไว้และขัดเบาๆ หลังจากล้างทำความสะอาดแล้วควรเช็ดให้แห้ง

วัสดุที่ 4 : ไม้

woman's hand polishing the door of mahogany kitchen closet

วัสดุดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมสูงนี้นั้นมีรายละเอียดอย่างมากที่เราต้องรู้ เพราะแม้ว่าไม้เก่าจะดูสวยคลาสสิกไปอีกแบบแต่หากเกิดเป็นรอยด่างขึ้นมาก็สามารถทำลายความสวยงามของไม้ได้อย่างง่ายดาย ในครั้งนี้เราจะแบ่งไม้ออกเป็น 2 ประเภทย่อยคือไม้อัดกับไม้แท้

วิธีการทำความสะอาด

ไม้อัดหรือไม้ปิดผิว: สามารถทำความสะอาดโดยใช้น้ำสบู่ผสมเจือจางเช็ด สิ่งที่ควรระวังคือความชื้นเพราะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุชนิดนี้สามารถบวมน้ำเสียรูปได้ง่ายและควรระวังการลากถูอย่างแรงที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้

ไม้แท้: สามารถใช้วิธีเดียวกันคือผ้าฝ้ายหรือผ้าขนนุ่มชุบน้ำสบู่เจือจางบิดหมาด อย่าให้ชุ่มน้ำแล้วทำความสะอาด ที่ต่างกันคือสำหรับไม้แท้แล้ว หากมีคราบหรือรอยฝังสามารถใช้กระดาษทรายขัดออกเบาๆ จบงานด้วยการทาน้ำมันสำหรับไม้ด้วยจะช่วยให้ไม้ดูดีอยู่เสมอได้

วัสดุที่ 5 : พลาสติก

วัสดุทนทานอย่างพลาสติกนั้นมีใช้กันเกือบทุกครัวเรือนต่อให้ไม่ซื้อเพิ่ม ของดั้งเดิมก็แทบไม่บุบไม่พัง แต่กลับยากมากทีเดียวที่จะรักษาให้เหมือนใหม่ได้ตลอดเวลา เพราะหากทำความสะอาดผิดวิธีไปใช้ฟองน้ำหยาบขัดถูเข้าหน่อยก็จะมีรอยขนแมวเป็นรอยขีดข่วนเล็กๆ จนสุดท้ายพลาสติกใสกลายเป็นขาวขุ่นในที่สุด 

วิธีการทำความสะอาด

หากไม่มีคราบติดแน่นมากนักเราสามารถใช้ฟองน้ำนิ่มกับน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ แต่หากมีอะไรแห้งกรังติดอยู่เช่น ข้าวหรือกาว ควรแช่น้ำสบู่เอาไว้ก่อน อย่าขัดโดยเด็ดขาด เพราะการขัดถูจะทำให้พลาสติกเป็นรอยได้ง่าย

แต่หากมีคราบเหลืองติดอยู่เราสามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำแช่ทิ้งไว้ราว 2 ชั่วโมง แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานตามปกติ เมื่อผึ่งจนแห้งแล้วกลิ่นน้ำส้มสายชูจะหายไปเอง

การดูแลรักษาสิ่งของเครื่องใช้ทุกอย่างให้เหมือนใหม่อยู่เสมอนั้นสิ่งสำคัญที่แท้จริงคือการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่ทำมาจากวัสดุชนิดใดก็ตามเมื่อถูกเก็บไว้โดยไม่ดูแลย่อมเปลี่ยนแปลงเป็นเก่าขึ้นได้ไม่ยากเลย ดังนั้นหากไม่อยากให้สิ่งของเครื่องใช้ดูเก่าเร็วต้องหมั่นทำความสะอาดกันสักนิด ประมาณสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ครั้งจะช่วยให้ของเราดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ