ตัวกรอง
5,002 ผลลัพธ์

ประกาศขายคอนโด ในภูเก็ต

Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
1 / 12
฿1,990,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ21 ตรม.คอนโด
เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน เชิงทะเล, ภูเก็ต
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 21 ตรม. อยู่ในทำเล เชิงทะเล, ภูเก็ต ซึ่งคุณสามารถซื้อ คอนโด นี้ได้ที่ร...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
1 / 17
฿2,490,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ27.38 ตรม.คอนโด
วิชิต, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน วิชิต, ภูเก็ต
WR-04034 คอนโด Zcape 3 ราคาเพียง 2,490,000 บาท 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง & ยิม ประเภทห้อง : 1 ห้องนอน ขนาด 2...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
1 / 16
฿2,490,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ24.90 ตรม.คอนโด
วิชิต, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน วิชิต, ภูเก็ต
WR-04031 คอนโดห้องใหม่ The Base Rise ราคาเพียง 2,490,000 บาท 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง & ยิม ประเภทห้อง : St...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
1 / 14
฿3,090,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ33 ตรม.คอนโด
เชิงทะเล, ถลาง, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน เชิงทะเล, ภูเก็ต
WR-04035 ขายคอนโด Zcape 1 Condominium ราคาเพียง 3,090,000 บาท 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง & ยิม ประเภทห้อง : 1...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
1 / 17
฿3,190,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ39 ตรม.คอนโด
วิชิต, เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน วิชิต, ภูเก็ต
WR-04029 คอนโด Zcape 3 ราคาเพียง 3,190,000 บาท 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง & ยิม ประเภทห้อง : 1 ห้องนอน ขนาด 3...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
1 / 16
฿2,290,000
1 ห้องนอน1 ห้องน้ำ30 ตรม.คอนโด
กะทู้, กะทู้, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน กะทู้, ภูเก็ต
WR-04026 ขายคอนโด Dcondo mine ราคาเพียง 2,290,000 บาท 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, สระว่ายน้ำส่วนกลาง & ยิม ประเภทห้อง : 1 bed ขน...
Slider image 1
Slider image 2
Slider image 3
Slider image 4
Slider image 5
Slider image 6
Slider image 7
Slider image 8
Slider image 9
Slider image 10
Slider image 11
Slider image 12
Slider image 13
Slider image 14
Slider image 15
Slider image 16
Slider image 17
Slider image 18
Slider image 19
Slider image 20
1 / 20
฿2,190,000
1 ห้องนอน29.89 ตรม.คอนโด
กะทู้, กะทู้, ภูเก็ต
ขายคอนโด 1 ห้องนอน ใน กะทู้, ภูเก็ต
อสังหาริมทรัพย์นี้เป็น คอนโด สำหรับขาย ขนาด 1 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 29.89 ตรม. อยู่ในทำเล กะทู้, ภูเก็ต ซึ่งคุณสามารถซื้อ คอนโด นี้ได้ที่ร...
แสดงผลลัพธ์ 61 - 90, หน้า 3 จากทั้งหมด 167 หน้า

ขายคอนโดในภูเก็ต: รายงานวิเคราะห์ตลาดและกลยุทธ์การลงทุน 2567-2568

ภาพรวมตลาดคอนโดในภูเก็ต

ภูเก็ตถือเป็นหนึ่งในตลาดคอนโดมิเนียมที่เติบโตโดดเด่นที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการเติบโตทางการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2530-2540 เป็นต้นมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตได้ขยายตัวควบคู่ไปกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก หลังวิกฤติโควิด-19 ตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ตฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 8.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 150% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยและคอนโดสำหรับพักผ่อนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ในช่วงปี 2567 ซึ่งการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเต็มที่ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายใหญ่และรายท้องถิ่นต่างเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่เป็นจำนวนมาก ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่าในครึ่งหลังของปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในภูเก็ตถึงประมาณ 10,600 หน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 80% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่ก็พุ่งสูงกว่า 7,400 หน่วย เพิ่มขึ้นกว่า 72% ในช่วงเวลาเดียวกัน สถิตินี้สะท้อนว่าภูเก็ตกำลังกลายเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ผู้ประกอบการเร่งเปิดโครงการเพื่อรองรับนักลงทุนและผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติที่หลั่งไหลกลับมาอย่างเห็นได้ชัด

ตลาดคอนโดมิเนียมเป็นหัวใจหลักของอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต โดยคิดเป็นสัดส่วนมูลค่ากว่า 90% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในจังหวัด ณ ปี 2567 คอนโดมิเนียมมีหน่วยขายรวมมากกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันหน่วย มูลค่ารวมกว่า 1.26 แสนล้านบาท ในขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบ (บ้านเดี่ยว/วิลล่า) มีสัดส่วนเพียงประมาณ 10% ของมูลค่าตลาด ภูเก็ตจึงเป็นตลาดที่พึ่งพาคอนโดมิเนียมอย่างมาก เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งการซื้อเพื่อพักตากอากาศและเพื่อลงทุนปล่อยเช่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่นิยมซื้อคอนโดมากกว่าบ้านที่มีที่ดินซึ่งมีข้อจำกัดด้านกฎหมาย

แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดคอนโดภูเก็ตมาจากผู้ซื้อชาวต่างชาติ ปัจจุบันต่างชาติถือครองสัดส่วนการซื้อคอนโดในภูเก็ตกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด นักลงทุนนานาชาติจากหลากหลายประเทศทั้งรัสเซีย จีน อังกฤษ ยุโรปตะวันตก สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียต่างมองหาคอนโดในภูเก็ตเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศหรือสินทรัพย์การลงทุน โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ยอดขายคอนโดให้ชาวต่างชาติในภูเก็ตเพิ่มขึ้นถึงกว่า 140% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า การที่ชาวต่างชาติเดินทางกลับเข้าภูเก็ตอย่างคึกคัก (คิดเป็นกว่า 60% ของผู้โดยสารสนามบินภูเก็ตในปีที่ผ่านมา) ตอกย้ำให้เห็นว่าภูเก็ตยังคงเป็นทำเลทองในสายตานักลงทุนต่างชาติ หลังผ่อนคลายมาตรการเดินทางทั่วโลก หลายคนเปลี่ยนจากการมาเที่ยวระยะสั้นเป็นการลงทุนถือครองอสังหาฯ เพื่อพักผ่อนระยะยาว

นอกจากต่างชาติแล้ว กำลังซื้อของผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนไทยรายใหญ่และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองภูเก็ตเป็นโอกาสลงทุนแห่งใหม่ การเติบโตของตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตในปี 2567 เรียกได้ว่า “ร้อนแรงสวนกระแสเศรษฐกิจภาพรวม” เพราะมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์และการเช่ารวมทั้งปีสูงทะลุ 55,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนหน้า ปัจจัยหนุนมาจากความต้องการอสังหาฯ ระดับลักชัวรีทั้งคอนโดและวิลล่าที่เพิ่มสูงจากทั้งคนไทยฐานะดีและชาวต่างชาติกลุ่มมั่งคั่ง โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรปตะวันออกที่เข้ามาซื้อหาอสังหาฯ ระดับบนใกล้ทะเลและธรรมชาติ ในเวลาเดียวกันผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่จากส่วนกลางก็เข้ามาปักหมุดโครงการคอนโดในภูเก็ตมากขึ้น สร้างความคึกคักให้ตลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

จากภาพรวมทั้งหมด “ภูเก็ต” ไม่ได้เป็นเพียงเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอีกต่อไป แต่ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในศูนย์กลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองที่สุดของประเทศไทยและภูมิภาค การเติบโตของตลาดคอนโดภูเก็ตมีแนวโน้มจะดำเนินต่อเนื่องไปพร้อมกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชนที่มีแผนพัฒนา รวมถึงการขยายสนามบินและท่าเรือรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้จะยิ่งส่งเสริมให้ภูเก็ตดึงดูดเม็ดเงินลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มราคาคอนโดและผลตอบแทนการลงทุนตามทำเล

ราคาคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2564-2568 หลังจากชะลอตัวในช่วงโควิด ราคาตลาดโดยรวมกลับมาเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ที่ฟื้นตัวแรง โดยเฉพาะในทำเลยอดนิยมตามแนวชายฝั่งทะเลที่นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติให้ความสนใจสูง ทั้งนี้ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดในภูเก็ตอยู่ที่ราว 4.5-6.0 ล้านบาทต่อยูนิต (ประมาณ 100,000-150,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นอยู่กับทำเลและโครงการ) ถือว่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศรองจากกรุงเทพฯ และพัทยา อย่างไรก็ดีตลาดภูเก็ตมีความหลากหลายของระดับราคา ตั้งแต่คอนโดระดับลักชัวรีราคาหลายสิบล้านบาทริมชายหาด ไปจนถึงคอนโดขนาดเล็กราคาไม่ถึงสองล้านบาทในย่านชุมชนเมือง

เมื่อพิจารณาแนวโน้มราคาตามทำเลสำคัญต่าง ๆ จะพบความแตกต่างที่ชัดเจน:

  • ทำเลชายหาดและแหล่งท่องเที่ยวหลัก (เช่น ป่าตอง กะตะ กะรน สุรินทร์ บางเทา): ราคาคอนโดบริเวณนี้มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและอยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น โดยคอนโดติดชายหาดหรือมีวิวทะเลสวยงามอาจมีราคา มากกว่า 120,000-150,000 บาท/ตร.ม. เลยทีเดียว ทั้งนี้ในช่วงปี 2565-2567 ทำเลบางเทา-ลายันมีราคาที่ดินปรับขึ้นเฉลี่ยถึง 30-40% ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาคอนโดใหม่ในย่านนี้สูงตามไปด้วย การหลั่งไหลเข้ามาของโครงการหรูและผู้ซื้อกลุ่มบนทำให้ทำเลชายหาดยังคงร้อนแรง ด้านย่านป่าตองซึ่งเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวดั้งเดิม ราคาคอนโดมือหนึ่งระดับไฮเอนด์ก็ขยับสูงขึ้นเช่นกัน ในขณะที่คอนโดมือสองหรือโครงการเก่าบางแห่งในป่าตองยังพอหาได้ในราคาปานกลาง (ประมาณ 70,000-100,000 บาท/ตร.ม.) ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับผู้ซื้อที่มองหาของดีราคาคุ้มค่าในทำเลนี้
  • ทำเลใหม่ที่กำลังมาแรง (เช่น ราไวย์ ในหาน ฉลอง): แต่เดิมพื้นที่ตอนใต้ของเกาะอย่างราไวย์-ในหานค่อนข้างเงียบสงบและราคาที่ดินไม่สูงมากนัก แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากระแสความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โครงการคอนโดและวิลล่าหลายแห่งผุดขึ้นตอบรับความต้องการของทั้งนักท่องเที่ยวระยะยาวและชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนัก ราคาคอนโดในโซนราไวย์จึงมีแนวโน้มขยับจากฐานเดิมขึ้นมาอยู่ในระดับ ประมาณ 80,000-100,000 บาท/ตร.ม. สำหรับโครงการใหม่ที่มีมาตรฐานสูง (ส่วนคอนโดรีเซลหรือโครงการเก่าอาจยังมีราคาต่ำกว่านี้) แนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้นในทำเลนี้สะท้อนถึงศักยภาพที่ถูกค้นพบใหม่ และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกตามการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่
  • ทำเลเมืองและชุมชน (ย่านตัวเมืองภูเก็ต กะทู้): คอนโดมิเนียมในตัวเมืองภูเก็ตและพื้นที่ชุมชนที่ไม่ติดทะเล มักมีราคาย่อมเยากว่าแนวชายหาด โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 60,000-90,000 บาท/ตร.ม. หรือราว 2-4 ล้านบาทต่อยูนิต เหมาะกับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เป็นคนท้องถิ่นหรือคนไทยที่ย้ายมาทำงานในภูเก็ต คอนโดกลุ่มนี้แม้จะไม่ได้มีวิวทะเลแต่ได้เปรียบเรื่องความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน (อยู่ใกล้สถานที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า) แนวโน้มราคาในย่านเมืองค่อนข้างทรงตัวไปจนถึงขยับขึ้นเล็กน้อยตามต้นทุนที่ดินและวัสดุก่อสร้าง แต่ยังคงมีความสามารถซื้อได้สำหรับคนทำงานทั่วไป จึงทำให้โครงการคอนโดระดับกลาง-ล่างเหล่านี้มียอดขายดีและระบายสต็อกได้เร็วในช่วงปีที่ผ่านมา

สำหรับผลตอบแทนการลงทุน (Rental Yield) ในตลาดคอนโดภูเก็ตนั้นอยู่ในระดับน่าสนใจเมื่อเทียบกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ยประมาณ 5-8% ต่อปี โดยกลุ่มคอนโดมิเนียมตากอากาศในทำเลยอดนิยมสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย บางโครงการที่บริหารแบบโรงแรมหรืออยู่ใกล้ชายหาดซึ่งนักท่องเที่ยวต้องการสูง สามารถทำผลตอบแทนได้ แตะระดับ 8-10% ต่อปีเลยทีเดียว (โดยสมมติให้มีการปล่อยเช่าระยะสั้นช่วงไฮซีซั่นที่อัตราค่าเช่าสูง) ยกตัวอย่างพื้นที่บริเวณ ลากูน่า บางเทา ซึ่งเป็นทำเลรีสอร์ทครบวงจร ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึงประมาณ 80% ตลอดทั้งปี ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือครองคอนโดปล่อยเช่าในย่านนี้ได้รับกระแสเงินสดสม่ำเสมอและคุ้มค่า

ในทางกลับกัน คอนโดในย่านเมืองหรือทำเลที่พึ่งพากลุ่มผู้เช่าระยะยาว (เช่น พนักงานบริษัทหรือครอบครัวคนไทย) อัตราผลตอบแทนจะอยู่ในระดับ ประมาณ 4-6% ต่อปี ซึ่งแม้จะต่ำกว่าทำเลท่องเที่ยวหลัก แต่ก็มีเสถียรภาพด้านผู้เช่าและความเสี่ยงต่ำกว่า (ผู้เช่ามักอยู่ระยะยาวหลายปี ลดค่าใช้จ่ายในการหาผู้เช่าบ่อยครั้ง) นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังควรพิจารณาความสามารถในการปรับขึ้นค่าเช่าในอนาคต ซึ่งในภูเก็ตมีแนวโน้มสดใสเพราะความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและพักอาศัย

แนวโน้มในอนาคต คาดว่าราคาคอนโดภูเก็ตจะยังทรงตัวถึงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทำเลศักยภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ หรือแหล่งท่องเที่ยวขยายตัว ส่วนผลตอบแทนการปล่อยเช่านั้นมีทิศทางสดใสตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กลับมาเฟื่องฟู อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรติดตามปริมาณอุปทานใหม่ในตลาดแต่ละย่านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากมีคอนโดสร้างเสร็จเข้าสู่ตลาดจำนวนมากพร้อมกัน อาจทำให้อัตราเช่าหรือราคาขายต่อชะลอตัวลงได้ชั่วคราว

ทำเลยอดนิยมสำหรับการซื้อคอนโดในภูเก็ต

ด้วยความที่ภูเก็ตมีภูมิประเทศเป็นเกาะและมีแหล่งท่องเที่ยวกระจายหลายจุด ทำเลที่ตั้งของคอนโดมิเนียมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งมูลค่าและศักยภาพการลงทุน ด้านล่างนี้คือทำเลยอดนิยมในภูเก็ตที่ได้รับความสนใจสูงจากผู้ซื้อและนักลงทุนชาวไทย:

ป่าตอง (Patong)

ป่าตองเป็นทำเลชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูเก็ตมาอย่างยาวนาน พื้นที่ย่านป่าตองมีความเจริญคึกคักตลอดปี โดดเด่นด้วยหาดทรายขาวยาว ร้านค้า แหล่งบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้คอนโดมิเนียมในป่าตองได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งในกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติ คอนโดที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปล่อยเช่านักท่องเที่ยวระยะสั้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการที่พักใกล้แหล่งท่องราตรีและชายหาดป่าตองที่คึกคัก อัตราการเข้าพักและค่าเช่าในป่าตองอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ผู้ลงทุนสามารถคาดหวังผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว (พ.ย.-เม.ย.) ที่อัตราค่าเช่ารายวัน/รายสัปดาห์เพิ่มสูง

ราคาคอนโดในป่าตองมีตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงสูงมาก ขึ้นอยู่กับอายุโครงการและวิวที่ได้รับ คอนโดโครงการเก่าที่อยู่ไม่ไกลจากหาด (สร้างมากว่า 10-15 ปี) อาจหาได้ในราคาต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งนับว่า “จับต้องได้” เมื่อเทียบกับทำเลติดทะเลอื่นๆ ขณะที่โครงการใหม่ระดับลักชัวรีหรือคอนโดบนเนินเขาที่มีวิวทะเลพาโนรามา ราคาขายอาจไต่ระดับขึ้นไปถึง 150,000-200,000 บาท/ตร.ม. เลยทีเดียว จุดเด่นของป่าตองคือเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง มีความต้องการซื้อ-ขายหมุนเวียนดีทั้งจากคนไทยและต่างชาติ อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อควรพิจารณาปัจจัยเรื่องความพลุกพล่านและเสียงรบกวนในบางจุดของป่าตอง รวมถึงการแข่งขันในการปล่อยเช่าที่ค่อนข้างสูง (เนื่องจากมีที่พักและโรงแรมจำนวนมากในบริเวณเดียวกัน) การเลือกทำเลย่อยที่ดี เช่น ด้านเหนือหรือใต้ของหาดที่เงียบสงบกว่าเล็กน้อย หรือเลือกโครงการที่มีจุดขายแตกต่าง จะช่วยให้การลงทุนคอนโดในป่าตองเกิดประสิทธิผลสูงสุด

บางเทา-สุรินทร์ (Bang Tao-Surin)

พื้นที่ชายฝั่งตะวันตกบริเวณ หาดบางเทาและหาดสุรินทร์ ได้กลายมาเป็นทำเลศูนย์กลางการลงทุนแห่งใหม่ของภูเก็ตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บางเทา-สุรินทร์โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ระดับไฮเอนด์และไลฟ์สไตล์หรูระดับโลก ภายในย่านนี้รายล้อมไปด้วยรีสอร์ทและโรงแรม 5 ดาว วิลล่าหรู ร้านอาหารและบีชคลับระดับอินเตอร์ รวมถึงสนามกอล์ฟและโรงเรียนนานาชาติ ทำให้ดึงดูดชาวต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงในบรรยากาศรีสอร์ทอยู่เป็นจำนวนมาก

ตลาดคอนโดมิเนียมในบางเทา-สุรินทร์เติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังยุคโควิด จากข้อมูลล่าสุดพื้นที่นี้มียอดขายคอนโดใหม่สูงสุดในภูเก็ตถึง ประมาณ 3,400 หน่วย คิดเป็นมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านบาทภายในเวลาไม่นาน ทั้งยังมีสต็อกคอนโดเหลือขายในปริมาณสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่น (ราว 4,000+ หน่วยในปี 2567) สะท้อนถึงการหลั่งไหลเข้ามาของโครงการใหม่จำนวนมากเพื่อรองรับดีมานด์ นักลงทุนที่สนใจทำเลนี้ควรชั่งน้ำหนักระหว่างศักยภาพการเติบโตกับความเสี่ยงโอเวอร์ซัพพลาย หากโครงการใหม่ยังเปิดตัวต่อเนื่องโดยไม่มีการวางแผนที่ดี อาจเกิดภาวะอุปทานล้นตลาดได้ อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันคอนโดในบางเทา-สุรินทร์ยังขายได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะโครงการที่มีจุดขายด้านการให้เช่าแบบโรงแรม (มีโปรแกรมการันตีผลตอบแทน) หรือตั้งอยู่ใน โครงการลากูน่าภูเก็ต ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ

ราคาคอนโดในย่านนี้อยู่ในระดับกลาง-สูง คอนโดวิวทะเลหรืออยู่ในรีสอร์ทคอมเพล็กซ์มักมีราคา ประมาณ 120,000-170,000 บาท/ตร.ม. ทั้งนี้บางโครงการสุดหรูติดหาดอาจมีราคาสูงกว่า 200,000 บาท/ตร.ม. ได้เช่นกัน แต่ก็แลกมาด้วยมาตรฐานการก่อสร้างและบริการจัดการระดับพรีเมียม แรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ผู้ซื้อทั้งไทยและต่างชาติหลั่งไหลมาที่บางเทา-สุรินทร์คือ คุณภาพชีวิตและผลตอบแทนการลงทุนที่น่าดึงดูดใจ คอนโดหลายแห่งสามารถปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาวหรือกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักได้ในอัตราสูง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าในบริเวณนี้สูงถึงระดับ 8-10% ต่อปีได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกันมูลค่าสินทรัพย์ก็มีแนวโน้มเติบโตดีตามราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นทุกปี

ราไวย์-ในหาน (Rawai-Nai Harn)

โซนตอนใต้ของภูเก็ตอย่าง ราไวย์และในหาน กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ในอดีตพื้นที่นี้จะเงียบสงบและไม่พลุกพล่านเท่าฝั่งตะวันตก แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นทำเลที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ และนักลงทุนจับตามอง ราไวย์มีจุดเด่นที่บรรยากาศชายทะเลเงียบสงบ มีชุมชนชาวต่างชาติพำนักระยะยาวอยู่มาก (เช่น ชาวรัสเซียและยุโรปที่มาใช้ชีวิตหลังเกษียณหรือทำงานทางไกล) ส่วนในหานมีชายหาดสวยติดอันดับ ที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยที่ชอบความสงบใกล้ธรรมชาติ การเติบโตของวิลล่าและคอนโดมิเนียมในย่านนี้จึงเป็นไปอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีหลัง ๆ

คอนโดในราไวย์-ในหานจำนวนไม่น้อยถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงของผู้ซื้อ มากกว่าการลงทุนหวือหวาเหมือนย่านอื่น คอนโดโลว์ไรส์ขนาดเล็กถึงกลางหลายโครงการเน้นความเป็นส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่น และพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เจ้าของปล่อยเช่ารายเดือนหรือรายปีแก่ชาวต่างชาติที่มาทำงานหรือพักผ่อนระยะยาวในภูเก็ต อัตราค่าเช่าในย่านนี้อยู่ในเกณฑ์ปานกลางค่อนข้างดี เช่น ห้องชุดหนึ่งห้องนอนในราไวย์สามารถปล่อยเช่ารายเดือนให้ชาวต่างชาติได้ประมาณ 15,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับความใกล้ชายหาดและความใหม่ของโครงการ ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาขายที่ยังไม่สูงมาก (ห้องชุดขนาด 30-40 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 2.5-4 ล้านบาท) ทำให้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ในช่วง 5-7% ต่อปีอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งผู้เช่าส่วนใหญ่พักนานหลายเดือนต่อเนื่อง ลดความผันผวนเรื่องผู้เช่าย้ายเข้าออก

ด้วยความที่ราไวย์-ในหานกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ทำให้ยังสามารถพบที่ดินว่างและโครงการใหม่ ๆ ในราคาที่ต่ำกว่าฝั่งตะวันตกได้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าตลาด การขยายตัวของสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้ เช่น ร้านอาหารนานาชาติ แหล่งช็อปปิ้งขนาดย่อม และบริการต่าง ๆ เพื่อชุมชนชาวต่างชาติ กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งสัญญาณว่าทำเลนี้มีศักยภาพเติบโตอีกมากในอนาคต ผู้ซื้อชาวไทยที่ต้องการคอนโดไว้พักผ่อนตากอากาศช่วงวันหยุดก็นิยมเลือกโซนราไวย์-ในหานเช่นกัน เพราะได้บรรยากาศเงียบสงบกว่าโซนท่องเที่ยวหลัก และยังเดินทางไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ต

เมืองภูเก็ต (Phuket Town)

พื้นที่ อำเภอเมืองภูเก็ต และเขตชุมชนเมือง (รวมถึงกะทู้ที่อยู่ติดกัน) เป็นอีกทำเลหนึ่งที่มีความต้องการคอนโดมิเนียมสูงแต่มีลักษณะแตกต่างจากทำเลชายหาด กล่าวคือ คอนโดในย่านเมืองจะเน้นตอบโจทย์ การอยู่อาศัยของคนทำงานและคนท้องถิ่น เป็นหลัก มากกว่าจะเป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับนักท่องเที่ยว ย่านนี้ประกอบด้วยย่านการค้า เขตหน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล ทำให้มีประชากรที่ต้องการที่พักอาศัยระยะยาวอยู่หนาแน่น โครงการคอนโดมิเนียมหลายแห่งในตัวเมืองภูเก็ตจึงพัฒนาในรูปแบบอาคารสูง (High-Rise) หรือกลาง (Mid-Rise) ที่มีจำนวนยูนิตมาก เพื่อให้ได้ราคาต่อยูนิตที่เอื้อมถึงสำหรับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนและครอบครัวคนไทย

ราคาคอนโดในตัวเมืองภูเก็ตอยู่ในระดับที่ถูกกว่าพื้นที่ชายทะเลอย่างชัดเจน ปัจจุบันคอนโดเปิดขายใหม่ในเมืองมีราคาเฉลี่ยประมาณ 2-3 ล้านบาทสำหรับห้องชุดขนาดสตูดิโอหรือ 1 ห้องนอน (~28-35 ตร.ม.) และประมาณ 3-5 ล้านบาทสำหรับห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้น ด้วยระดับราคานี้ทำให้ผู้ซื้อชาวไทยสามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยากนัก อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ยังยินดีปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มผู้ซื้ออยู่อาศัยจริง (บางโครงการมีโปรโมชั่นกู้ได้ 90-100% ของราคาขาย) ส่งผลให้คอนโดในเมืองส่วนใหญ่ขายหมดเร็วหลังเปิดตัว ตัวอย่างโครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมในเขตเมือง ได้แก่ คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยหรือย่านห้างสรรพสินค้า ซึ่งสามารถปล่อยเช่าให้กับนักศึกษา บุคลากรโรงพยาบาล หรือพนักงานบริษัทได้ต่อเนื่อง

สำหรับผลตอบแทนการลงทุนในคอนโดย่านเมืองภูเก็ตนั้น อาจไม่หวือหวาเท่าคอนโดย่านหาดทราย แต่ก็มีความมั่นคง อัตราผลตอบแทนจากการเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อปี โดยผู้เช่าหลักเป็นคนทำงานชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่มาทำงานประจำในภูเก็ตซึ่งต้องการที่พักใกล้แหล่งงาน การขึ้นค่าเช่าในแต่ละปีอาจทำได้ไม่มากนักเนื่องจากข้อจำกัดกำลังซื้อของผู้เช่า แต่ด้านบวกคือมีความเสี่ยงที่จะห้องว่างน้อย เพราะกลุ่มผู้เช่าย่านนี้มีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คอนโดในเมืองยังได้อานิสงส์จากการพัฒนาเมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองน่าอยู่ (Smart City) มีการลงทุนปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองและระบบสาธารณูปโภคใหม่ ๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail) เชื่อมสนามบิน-ในเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างวางแผน หากโครงการเหล่านี้เกิดขึ้นจริง อาจส่งผลบวกต่อมูลค่าคอนโดมิเนียมในย่านเมืองอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

ประเภทคอนโดที่ได้รับความนิยม

ตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ตมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุน จุดขายหรือประเภทของคอนโดที่ได้รับความนิยมในภูเก็ต มีดังนี้:

  • คอนโดวิวทะเล (Sea-View Condo): คอนโดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลหรือชายหาดได้ถือเป็นสินค้าดาวเด่นของภูเก็ต ผู้ซื้อจำนวนมากยอมจ่ายราคาพรีเมียมเพื่อให้ได้ครอบครองห้องชุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือทะเลจากระเบียงส่วนตัว คอนโดวิวทะเลมักตั้งอยู่บนที่ดินเนินเขาหรือริมชายฝั่งที่สูงกว่าระดับถนนเล็กน้อย โครงการเหล่านี้โดยมากจะอยู่ในโซนหาดป่าตอง กะรน กะตะ กมลา สุรินทร์ และบางเทา ราคาขายสูงกว่าคอนโดทั่วไป 20-30% แต่ก็มีมูลค่าคงทนและขายต่อได้ง่ายเนื่องจากความต้องการสูงตลอดเวลา ทั้งนี้ ผู้ซื้อควรตรวจสอบทิศทางวิวและระยะห่างจากสิ่งปลูกสร้างอื่นให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้วิวทะเลที่สวยงามและไม่ถูกบดบังในอนาคต
  • คอนโดใกล้ชายหาด (Beachfront/Beach Proximity Condo): คอนโดที่ตั้งอยู่ติดชายหาดหรือเดินไปชายหาดได้ในไม่กี่นาที เป็นที่ต้องการมากโดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนปล่อยเช่าให้ลูกค้านักท่องเที่ยว การมีชายหาดอยู่หน้าบ้านเป็นจุดขายที่ดึงดูดใจอย่างยิ่ง คอนโดติดชายหาดในภูเก็ตมีไม่มากนักเนื่องจากที่ดินริมหาดส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเป็นโรงแรมมาตั้งแต่อดีต ดังนั้นโครงการที่ได้ทำเลแนบชิดทะเลจริง ๆ มักเป็นโครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี ราคาแพงและมีจำนวนจำกัด คอนโดใกล้ชายหาดประเภทที่ราคาย่อมเยากว่าจะอยู่ในระยะ 200-500 เมตรจากชายหาด ซึ่งยังคงให้ไลฟ์สไตล์ทะเลที่สะดวกสบาย ผู้ซื้อชาวไทยบางส่วนชอบคอนโดลักษณะนี้ไว้เป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัว เพราะสามารถลงเล่นน้ำทะเลหรือทำกิจกรรมริมชายหาดได้ง่าย ขณะเดียวกันก็ปล่อยเช่าเมื่อตนเองไม่ได้ไปพักได้อีกด้วย
  • คอนโดเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า (Investment Condo/Condotel): คอนโดประเภทนี้ออกแบบและบริหารเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าโดยเฉพาะ หลายโครงการจะดำเนินการในรูปแบบ “คอนโดเทล” (Condotel) คือมีการบริหารงานเช่าเหมือนโรงแรม มีเคาน์เตอร์ต้อนรับ บริการแม่บ้าน และระบบจองห้องแบบมืออาชีพ เจ้าของห้องสามารถเข้าร่วมโปรแกรมแบ่งปันรายได้ค่าเช่ากับผู้บริหารโครงการ โครงการลักษณะนี้พบมากในย่านที่นักท่องเที่ยวฮิต เช่น ป่าตอง บางเทา กมลา และโซนใกล้สนามบิน ผู้พัฒนามักโฆษณาการันตีผลตอบแทนช่วงปีแรก ๆ เช่น รับประกันค่าเช่า 6-7% ต่อปีในช่วง 2-5 ปีแรก เพื่อจูงใจนักลงทุน อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อควรศึกษาความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาและเงื่อนไขสัญญาการันตีก่อนลงทุน คอนโดเพื่อการลงทุนเหล่านี้มีข้อดีคือช่วยแบ่งเบาภาระการหาผู้เช่า เจ้าของไม่ต้องจัดการเอง แต่ในระยะยาวผลตอบแทนจริงอาจขึ้นอยู่กับภาวะตลาดท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นการเลือกโครงการที่บริหารโดยแบรนด์โรงแรมชื่อดังหรือมีประวัติอัตราเข้าพักสูงจะช่วยลดความเสี่ยงด้านผลตอบแทนได้

นอกจากประเภทหลัก ๆ ข้างต้น ยังมีคอนโดอีกหลายรูปแบบในภูเก็ต เช่น คอนโดโลว์ไรส์บรรยากาศรีสอร์ท (มีพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำกว้าง เหมือนอยู่ในรีสอร์ทส่วนตัว), คอนโดแบบพูลแอคเซส (ห้องชุดชั้นล่างที่เปิดระเบียงลงสระได้เลย) ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการปล่อยเช่าในหมู่นักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ตลอดจนคอนโดแบรนด์เนมที่พัฒนาโดยเครือโรงแรมหรือดีเวลอปเปอร์รายใหญ่จากกรุงเทพฯ ซึ่งจะดึงดูดผู้ซื้อที่เชื่อมั่นในคุณภาพโครงการและบริการหลังการขาย

พฤติกรรมและกลุ่มเป้าหมายของผู้ซื้อชาวไทย

ผู้ซื้อคอนโดในภูเก็ตที่เป็นชาวไทยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่ม ตามวัตถุประสงค์และระดับกำลังซื้อ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมและความต้องการที่แตกต่างกัน:

  • กลุ่มนักลงทุน/นักเก็งกำไรชาวไทย: กลุ่มนี้มักเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ลงทุนอสังหาฯ หรือมีทุนทรัพย์พอสมควร หลายคนอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใหญ่ และมองว่าภูเก็ตเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับกระจายการลงทุน พวกเขามักมองหาคอนโดที่สามารถปล่อยเช่าได้ง่ายและให้ผลตอบแทนสูง หรือโครงการใหม่ที่คาดว่าราคาเพิ่มขึ้นหลังสร้างเสร็จ (เพื่อขายทำกำไร) พฤติกรรมของนักลงทุนไทยกลุ่มนี้คือจะให้ความสำคัญกับข้อมูลตลาดและแนวโน้มอนาคต พิจารณาสถิติการท่องเที่ยว อัตราการเช่า รวมถึงชื่อเสียงของผู้ประกอบการที่ดำเนินโครงการ หากโครงการใดมีโปรแกรมการันตีค่าเช่าหรือแบรนด์โรงแรมเข้าบริหาร มักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพราะลดความกังวลเรื่องจัดการเอง นักลงทุนไทยบางส่วนอาจซื้อคอนโดหลายยูนิตในโครงการเดียวเพื่อให้เกิด Economy of Scale ในการบริหารปล่อยเช่า หรือเก็บบางยูนิตไว้ขายต่อเมื่อราคาขึ้น
  • กลุ่มคนไทยที่ซื้อเพื่อพักผ่อน/เป็นบ้านหลังที่สอง: กลุ่มนี้มักประกอบด้วยผู้มีรายได้ระดับกลางขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ (เช่น กรุงเทพฯ) และต้องการมีบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตสำหรับใช้เองในวันหยุดยาวหรือฤดูท่องเที่ยว ผู้ซื้อกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับทำเลที่ตัวเองชื่นชอบเป็นพิเศษ เช่น บางคนชอบความสงบของหาดในหาน บางคนชอบความสะดวกและร้านอาหารหลากหลายที่ป่าตอง เป็นต้น ปัจจัยด้านอารมณ์และรสนิยมมีบทบาทในตัดสินใจของกลุ่มนี้ มากกว่าการคำนวณผลตอบแทนทางการเงินเป็นหลัก พวกเขาอาจไม่ได้ปล่อยเช่าคอนโดของตนตลอดเวลา บางรายใช้อยู่เองเป็นหลักและปล่อยเช่าเป็นครั้งคราวเฉพาะช่วงที่ไม่ได้เข้าพัก พฤติกรรมที่น่าสนใจคือกลุ่มนี้มักเลือกซื้อโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บรรยากาศโครงการดี เนื่องจากมองระยะยาวไว้ใช้ชีวิตหลังเกษียณหรือส่งต่อให้ครอบครัว บ่อยครั้งที่ผู้ซื้อกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อหลังจากมาเที่ยวภูเก็ตหลายครั้งแล้วเกิดความผูกพันกับสถานที่
  • กลุ่มคนไทยที่ย้ายมาทำงานและอยู่อาศัยในภูเก็ต: นี่เป็นกลุ่ม end-user ที่ซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยจริงในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยคนทำงานในธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ หรือราชการที่ต้องประจำการในภูเก็ต รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่มองหางานในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีคุณภาพชีวิตดี กลุ่มนี้มักมองหาคอนโดที่ราคาเอื้อมถึงและเดินทางสะดวก เช่น ใกล้ที่ทำงานหรืออยู่ในเมือง พฤติกรรมของผู้ซื้อกลุ่มนี้คล้ายกับผู้ซื้อบ้านทั่วไป คือเปรียบเทียบราคากับขนาดห้องและทำเลอย่างถี่ถ้วน สนใจโปรโมชั่นผ่อนดาวน์-ดอกเบี้ยจากโครงการและธนาคาร ความต้องการของกลุ่มนี้ทำให้คอนโดระดับกลางในตัวเมืองหรือชานเมืองภูเก็ตขายดี ผู้ประกอบการบางรายเปิดตัวคอนโดราคาย่อมเยาสำหรับพนักงานโรงแรมหรือพนักงานสนามบินโดยเฉพาะ เพื่อจับตลาดคนกลุ่มนี้โดยตรง
  • กลุ่มนักลงทุนสถาบัน/ท้องถิ่น: แม้จะมีสัดส่วนไม่มาก แต่ก็เริ่มเห็นการเข้ามาของผู้ลงทุนสถาบันหรือบริษัทท้องถิ่นที่ซื้อคอนโดทั้งโครงการหรือหลายสิบยูนิตเพื่อนำไปทำธุรกิจเช่าอย่างจริงจัง (เช่น บริษัทบริหารอพาร์ตเมนต์/โรงแรมขนาดเล็ก) กลุ่มนี้มักเจรจาซื้อแบบเหมายกชั้นหรือยกตึกในบางโครงการ แล้วบริหารแบบโรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เอง พฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนว่าภูเก็ตกลายเป็นตลาดที่มีความลึก (Deep Market) สามารถรองรับผู้เล่นหลายประเภท อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ซื้อหลักก็ยังคงเป็นรายย่อยบุคคลธรรมดามากกว่า

ในภาพรวม ผู้ซื้อชาวไทยในตลาดคอนโดภูเก็ตยุคนี้มีความเป็นมืออาชีพและหาข้อมูลมากขึ้น เนื่องจากราคาที่สูงขึ้นและตัวเลือกโครงการที่หลากหลาย ผู้ซื้อหลายคนติดตามข่าวสารตลาดจากสื่อออนไลน์ กลุ่มเฟซบุ๊กอสังหาฯ และงานสัมมนาการลงทุนต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ การที่ดีเวลอปเปอร์รายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาลงทุนในภูเก็ตมากขึ้น (เช่น Origin, Sansiri, Ananda เป็นต้น) ก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อชาวไทยกล้าที่จะซื้อมากขึ้น เพราะมั่นใจในแบรนด์และคุณภาพโครงการ ดังนั้นเราจะเห็นการตอบรับที่ดีของโครงการจากแบรนด์ใหญ่ แม้ราคาจะสูงกว่าคู่แข่งท้องถิ่นก็ตาม

กลยุทธ์การซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อปล่อยเช่า

การวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การซื้อเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนหรือการอยู่อาศัยในคอนโดที่ภูเก็ต ด้านล่างนี้เป็นแนวทางแยกตามกรณีการซื้อเพื่ออยู่เองและเพื่อการปล่อยเช่า:

กลยุทธ์สำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง

  1. เลือกทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตระยะยาว: หากวางแผนอยู่เอง ควรเลือกทำเลที่สะดวกต่อความต้องการประจำวันของคุณ เช่น ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียนของบุตรหลาน โรงพยาบาล ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ บางคนอาจชอบอยู่ในเมืองใกล้แหล่งชุมชนเพื่อความสะดวก ขณะที่บางคนยินดีอยู่ห่างเมืองหน่อยเพื่อได้บรรยากาศสงบ ดังนั้นประเมินไลฟ์สไตล์ของตนเองแล้วเลือกโลเกชันที่ใช่
  2. สำรวจสภาพแวดล้อมและชุมชน: ไปชมสถานที่จริงทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อดูบรรยากาศโดยรอบโครงการคอนโดนั้นๆ ว่าปลอดภัย สงบ และน่าอยู่หรือไม่ หากเป็นไปได้ ลองพูดคุยกับผู้อยู่อาศัยหรือคนในพื้นที่เพื่อรับทราบข้อดี-ข้อเสียของทำเลแบบเจาะลึก เช่น ปัญหาน้ำท่วมขัง เสียงรบกวนจากแหล่งบันเทิง หรือการจราจรติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยในระยะยาว
  3. เลือกโครงการและยูนิตที่เหมาะกับการอยู่อาศัยจริง: ในการเลือกซื้ออยู่เอง ควรให้ความสำคัญกับขนาดและการออกแบบห้องชุดเป็นหลัก ห้องที่อยู่สบายควรมีการจัดสรรพื้นที่ลงตัว แสงธรรมชาติเข้าถึง และมีการระบายอากาศที่ดี หากเป็นไปได้ให้เลือกยูนิตที่อยู่ในทิศทางลม รับแดดเช้า (ไม่ร้อนจัดตอนบ่าย) และอยู่ในตำแหน่งที่มีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ควรตรวจสอบคุณภาพวัสดุและการก่อสร้างของโครงการ ห้องตัวอย่างอาจสวยงาม แต่ของจริงควรได้มาตรฐานเดียวกัน ดูรีวิวโครงการจากผู้ซื้อรายอื่นหรือสอบถามคนที่เคยซื้อโครงการของผู้พัฒนาเดียวกันเพื่อประเมินความน่าไว้วางใจ
  4. คำนึงถึงค่าใช้จ่ายระยะยาว: การอยู่อาศัยในคอนโดมีภาระค่าใช้จ่ายส่วนกลางรายเดือน/ปี เช่น ค่าส่วนกลาง, กองทุนสำรอง (Sinking Fund) และค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ผู้ซื้อต้องประเมินว่าตนเองสามารถรับภาระเหล่านี้ไหวหรือไม่ คอนโดบางแห่งค่าส่วนกลางสูงเนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาก (เช่น สระว่ายน้ำหลายสระ ฟิตเนสขนาดใหญ่) หรือมีจำนวนยูนิตน้อยทำให้หารเฉลี่ยต่อยูนิตสูง ถ้าตั้งใจอยู่ระยะยาวต้องมั่นใจว่างบประมาณครอบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างไม่ลำบาก
  5. พิจารณาอนาคตและมูลค่าเพิ่ม: แม้ซื้อเพื่ออยู่เอง แต่การเลือกสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มมูลค่าเพิ่มก็เป็นผลดีในระยะยาว ควรศึกษาทิศทางการพัฒนาพื้นที่รอบโครงการ เช่น มีแผนสร้างห้างใหม่ ถนนใหม่ รถไฟฟ้าหรือไม่ รวมถึงแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ในบริเวณนั้น หากเลือกทำเลที่อนาคตจะได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม คุณอาจได้กำไรจากราคาที่เพิ่มขึ้นและสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นเมื่ออยู่อาศัยไปนาน ๆ

กลยุทธ์สำหรับการซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า

  1. วิเคราะห์กลุ่มผู้เช่าเป้าหมาย: ก่อนซื้อเพื่อปล่อยเช่า ให้กำหนดกลุ่มผู้เช่าที่ต้องการจับ เช่น นักท่องเที่ยวระยะสั้น, ชาวต่างชาติระยะยาว, คนทำงานชาวไทย เป็นต้น แต่ละกลุ่มจะเหมาะกับทำเลและรูปแบบคอนโดต่างกัน หากเน้นนักท่องเที่ยว ก็ควรเลือกคอนโดใกล้ชายหาดหรือแหล่งท่องเที่ยว และตกแต่งให้สวยโดดเด่นพร้อมปล่อยเช่ารายวันได้สะดวก แต่หากเน้นผู้เช่าทำงานประจำ อาจเลือกทำเลใกล้ย่านธุรกิจหรือโรงเรียน แล้วจัดห้องให้เหมาะกับการอยู่อาศัยระยะยาว (มีครัวพร้อม, เครื่องซักผ้า เป็นต้น)
  2. เลือกทำเลที่มีดีมานด์เช่าสูง: ทำเลที่มีความต้องการเช่าอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้อัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ของคุณสูงตามไปด้วย จากสถิติตลาดภูเก็ต ทำเลยอดนิยมสำหรับเช่าระยะสั้นคือย่านป่าตอง กะรน กะตะ บางเทา สุรินทร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวหาเช่าคอนโดพักเองแทนโรงแรมมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเช่าระยะยาวทำเลอย่างตัวเมืองภูเก็ต ฉลอง ราไวย์ เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติทำงานระยะยาวและผู้ประกอบการท้องถิ่น การซื้อคอนโดในทำเลที่มีผู้เช่าหนาแน่นจะลดความเสี่ยงห้องว่างและช่วยให้ทำราคาเช่าได้ดี
  3. ศึกษาผลตอบแทนและค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด: คำนวณอัตราผลตอบแทนปล่อยเช่า (Rental yield) โดยประมาณจากราคาเช่าตลาดในบริเวณนั้น ๆ เทียบกับมูลค่าคอนโดที่จะซื้อ อย่าลืมรวมค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการปล่อยเช่า เช่น ค่าส่วนกลางรายปี, ค่านายหน้าหากจ้างเอเจนต์ปล่อยเช่า, ค่าบำรุงรักษาซ่อมแซมระหว่างมีผู้เช่า, ภาษีเงินได้จากค่าเช่า ฯลฯ เมื่อนำมาหักลบแล้วจึงจะได้ ผลตอบแทนสุทธิ ที่แท้จริง หากโครงการใดมีการการันตีผลตอบแทน ให้พิจารณาว่าเป็นอัตราผลตอบแทน “สุทธิ” หรือ “ขั้นต้น” (บางแห่งโฆษณา 7% แต่ยังไม่หักค่าส่วนกลางและค่ากองทุน) และเงื่อนไขที่มากับการการันตีว่าผู้เช่าสามารถเข้าพักเองได้ช่วงไหนหรือไม่
  4. กระจายความเสี่ยงด้วยการเลือกโครงการที่มีบริการจัดการเช่ามืออาชีพ: หากคุณไม่ได้อยู่ภูเก็ตตลอด การบริหารการปล่อยเช่าเองอาจยุ่งยาก การเลือกซื้อคอนโดในโครงการที่มีผู้บริหารงานเช่ามืออาชีพ (เช่น มีทีม Rental Management หรือเป็นคอนโดเทล) จะช่วยลดภาระให้คุณ แม้อาจต้องแบ่งรายได้ค่าเช่าให้ผู้บริหารส่วนหนึ่ง แต่คุณก็มั่นใจได้ว่าห้องจะถูกดูแลและทำการตลาดหาผู้เช่าให้อยู่เสมอ ทั้งนี้คุณควรตรวจสอบประวัติการบริหารของทีมดังกล่าวในโครงการอื่นๆ ด้วยว่าได้ผลดีเพียงใด
  5. ติดตามภาวะตลาดและปรับกลยุทธ์ราคา: ตลาดเช่าภูเก็ตมีฤดูกาลชัดเจน ช่วงไฮซีซั่น (ปลายปีถึงต้นปี) ค่าเช่าจะสูงและหาผู้เช่าง่ายกว่าช่วงโลว์ซีซั่น ผู้ลงทุนควรกำหนด กลยุทธ์ราคาเช่าที่ยืดหยุ่น เช่น ตั้งค่าเช่าสูงขึ้นในช่วง 4-5 เดือนไฮซีซั่นเพื่อชดเชยช่วงโลว์ซีซั่นที่อาจลดราคาเพื่อดึงดูดผู้เช่า นอกจากนี้ควรพิจารณาช่องทางการปล่อยเช่าหลากหลาย ทั้งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Airbnb, Booking.com) และเอเจนต์ท้องถิ่นเพื่อเข้าถึงผู้เช้าทุกกลุ่ม การสื่อสารหลายภาษา (ไทย อังกฤษ จีน รัสเซีย) ก็เป็นจุดสำคัญในตลาดนานาชาติอย่างภูเก็ต ซึ่งหากจัดการได้ดีก็จะเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่าเต็มอัตราตลอดปี

กฎหมายและข้อควรรู้เกี่ยวกับการถือครองคอนโดสำหรับคนไทย

การซื้อและถือครองคอนโดมิเนียมในภูเก็ตสำหรับผู้ซื้อสัญชาติไทยนั้นค่อนข้างสะดวกและมีข้อจำกัดน้อยกว่าชาวต่างชาติ แต่ก็มีประเด็นทางกฎหมายและข้อควรรู้หลายอย่างที่ผู้ซื้อควรทราบ:

  • สิทธิในการถือครองกรรมสิทธิ์ของคนไทย: คนไทยสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดคอนโดมิเนียมได้เต็ม 100% อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสัญชาติหรือสัดส่วน (ต่างจากชาวต่างชาติที่กฎหมายกำหนดให้ถือครองได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายรวมห้องชุดในโครงการนั้น ๆ) ดังนั้นผู้ซื้อชาวไทยจึงมีอิสระในการเลือกซื้อห้องชุดใดก็ได้ที่ต้องการ ทั้งชั้นสูง ชั้นล่าง วิวทะเล วิวเมือง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโควต้าชาวต่างชาติในโครงการ
  • ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์: การซื้อขายคอนโดจะสมบูรณ์เมื่อมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ผู้ซื้อควรเตรียมค่าใช้จ่ายในการโอน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมิน (โดยทั่วไปผู้ซื้อผู้ขายมักรับผิดชอบฝ่ายละครึ่ง แต่สามารถเจรจาตกลงกันได้), อากรแสตมป์ 0.5% หรือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (อย่างใดอย่างหนึ่ง ขึ้นกับกรณีการถือครองและระยะเวลาถือครองของผู้ขาย) ในฐานะผู้ซื้อชาวไทย ไม่มีภาระภาษีเพิ่มเติมอื่น ๆ ในวันโอน ส่วนผู้ขายจะมีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับผู้ซื้อโดยตรง การเตรียมการโอนควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องชุดที่ซื้อได้ชำระค่าส่วนกลางและค่าใช้จ่ายส่วนอื่นค้างจนครบถ้วนก่อนโอน เพื่อป้องกันปัญหาภาระผูกพันติดมาภายหลัง
  • นิติบุคคลอาคารชุดและกฎระเบียบ: เมื่อซื้อคอนโด ผู้ซื้อต้องตระหนักว่าได้เข้ามาอยู่ภายใต้ชุมชนของอาคารชุด ซึ่งมีกฎระเบียบส่วนกลางที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม กฎเหล่านี้ครอบคลุมเรื่องการใช้ทรัพย์สินส่วนกลาง (เช่น เวลาเปิดปิดสระว่ายน้ำ ฟิตเนส), การจอดรถ, การเลี้ยงสัตว์, การต่อเติมหรือปรับปรุงห้องชุด, และมารยาทในการอยู่อาศัยร่วมกัน ผู้ซื้อควรอ่านข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดที่แนบมากับสัญญาจะซื้อจะขายอย่างละเอียด คณะกรรมการนิติบุคคลและผู้จัดการนิติบุคคล มีหน้าที่ดูแลบริหารอาคารชุด และจัดประชุมใหญ่เจ้าของร่วมอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อรายงานงบการเงินและเรื่องสำคัญต่าง ๆ หากเป็นไปได้ ควรเข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบข้อมูลและใช้สิทธิลงคะแนนในฐานะเจ้าของร่วมด้วย
  • ค่าส่วนกลางและกองทุนสำรอง: เจ้าของห้องชุดทุกคนมีหน้าที่ต้องชำระค่าส่วนกลางรายเดือน/รายปีให้กับนิติบุคคลฯ เพื่อนำไปดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟต์ ระบบรักษาความปลอดภัย ความสะอาด ฯลฯ อัตราค่าส่วนกลางจะแตกต่างไปในแต่ละโครงการ คิดตามขนาดพื้นที่ห้องชุด (บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน) ซึ่งกำหนดไว้ตั้งแต่ตอนจดทะเบียนอาคารชุด นอกจากนี้ตอนรับโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อจะถูกเรียกเก็บ เงินกองทุนสำรอง (Sinking Fund) ซึ่งเป็นเงินกองกลางสำหรับซ่อมแซมใหญ่ในอนาคต (เช่น ทาสีอาคารใหม่ เปลี่ยนลิฟต์เมื่อหมดอายุ) เงินกองทุนนี้จ่ายครั้งเดียวตอนซื้อและไม่เรียกเก็บเพิ่มจนกว่ามติที่ประชุมใหญ่จะให้เรียกเก็บเพิ่ม ผู้ซื้อควรวางแผนการเงินเพื่อชำระค่าเหล่านี้ให้ตรงเวลา เพราะหากค้างชำระ นิติบุคคลมีสิทธิดำเนินคดีและคิดเบี้ยปรับตามกฎหมายได้
  • การปล่อยเช่าและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: สำหรับคนไทยที่ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า ต้องพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องเช่นกัน การปล่อยเช่าระยะยาว (ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป) สามารถทำได้โดยเสรี เพียงแต่ผู้ให้เช่าควรยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากค่าเช่าที่ได้รับ (เจ้าของห้องชุดสามารถหักค่าใช้จ่ายเหมา 30% ก่อนคำนวณภาษีได้) ส่วน การปล่อยเช่าระยะสั้น (รายวัน/รายสัปดาห์) มีข้อจำกัดตาม พระราชบัญญัติโรงแรม ซึ่งระบุว่าการให้เช่าที่พักอาศัยช่วงสั้น (ต่ำกว่า 30 วัน) โดยไม่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แม้การปล่อยเช่าระยะสั้นบนแพลตฟอร์มอย่าง Airbnb จะได้รับความนิยมในภูเก็ต แต่ก็มีความเสี่ยงถูกหน่วยงานรัฐตรวจสอบและปรับได้ ผู้ซื้อควรตรวจสอบนโยบายของนิติบุคคลอาคารชุดด้วยว่ามีการห้ามปล่อยเช่ารายวันหรือไม่ (บางโครงการเคร่งครัดเรื่องนี้ตามเสียงส่วนใหญ่ของผู้อยู่อาศัย) หากต้องการทำธุรกิจลักษณะนี้จริง ๆ อาจพิจารณาซื้อคอนโดในโครงการที่โปรโมตว่าเป็นคอนโดเทลและสนับสนุนการเช่าระยะสั้นอย่างเปิดเผย เพื่อความสบายใจในระยะยาว
  • การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย: ข้อได้เปรียบของผู้ซื้อชาวไทยคือสามารถใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารในประเทศเพื่อผ่อนซื้อคอนโดได้ ปัจจุบันธนาคารหลายแห่งแข่งขันปล่อยสินเชื่อบ้าน/คอนโด อัตราดอกเบี้ยสำหรับปีแรก ๆ ต่ำและสามารถกู้วงเงินสูงหากมีประวัติการเงินดี ผู้ซื้อควรเปรียบเทียบเงื่อนไขสินเชื่อจากหลายธนาคาร และคำนวณความสามารถผ่อนชำระของตัวเองให้เหมาะสม กรณีซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ควรระมัดระวังการกู้หลายแห่งหรือกู้เกินกำลัง เพราะแม้อัตราดอกเบี้ยช่วงแรกจะต่ำ แต่ในระยะยาวอาจปรับสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบกระแสเงินสดได้ การลงทุนที่ดีควรใช้เงินเย็นหรือเงินส่วนที่รับภาระไหวโดยไม่ก่อหนี้เกินตัว
  • กรณีผู้ซื้อไทยสมรสกับชาวต่างชาติ: หากผู้ซื้อเป็นคนไทยที่สมรสกับชาวต่างชาติ มีประเด็นทางกฎหมายเพิ่มเติมที่ควรทราบเล็กน้อย กล่าวคือ ในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือห้องชุด คู่สมรสชาวต่างชาติจะต้องลงนามยินยอมว่าเงินที่ใช้ซื้อทรัพย์สินนี้เป็นสินส่วนตัวของคู่สมรสคนไทยแต่ฝ่ายเดียว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินของชาวต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อยืนยันว่าทรัพย์สินดังกล่าวยังถือเป็นของคนไทย 100% ไม่ตกอยู่ในครอบครองของชาวต่างชาติ การจัดเตรียมเอกสารและคำให้การในกรณีนี้ควรปรึกษาสำนักงานที่ดินหรือทนายความเพื่อให้ถูกต้องตามขั้นตอน

โดยสรุป การถือครองคอนโดสำหรับคนไทยนั้นมีความยืดหยุ่นสูง แต่ผู้ซื้อก็ควรศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้รอบด้านเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของตนเอง ทั้งในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์และเจ้าของร่วมในอาคารชุด รวมถึงปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนที่ราบรื่นไม่มีปัญหาภายหลัง

ความเสี่ยงและปัจจัยที่ต้องวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจลงทุน

แม้ว่าการลงทุนซื้อคอนโดในภูเก็ตจะมีศักยภาพให้ผลตอบแทนดี แต่ก็มีความเสี่ยงและปัจจัยหลายประการที่ผู้ลงทุนควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ ดังนี้:

  • ความเสี่ยงด้านอุปทานล้นตลาด (Oversupply): จากข้อมูลช่วงปี 2566-2568 พบว่าภูเก็ตมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดใหม่จำนวนมากในเวลาอันสั้น ทำให้มีหน่วยขายเหลือค้างสต็อกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในโซนที่นิยมอย่างบางเทา-สุรินทร์ที่เริ่มมีสัญญาณว่าซัพพลายอาจจะแซงหน้าอุปสงค์ หากผู้พัฒนายังคงเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องโดยไม่มีการชะลอ ผู้ลงทุนจึงควรตรวจสอบปริมาณคอนโดที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและใกล้แล้วเสร็จในทำเลที่สนใจ หากมีจำนวนมาก อาจส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาสูงขึ้นและใช้เวลานานกว่าจะปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ กลยุทธ์เพื่อบรรเทาความเสี่ยงนี้ คือเลือกโครงการที่มีความแตกต่าง หรือมีจุดขายเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกับคู่แข่ง รวมถึงประเมินแนวโน้มดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่ามีมากเพียงพอรองรับซัพพลายใหม่หรือไม่
  • ความผันผวนของตลาดท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ: ภูเก็ตพึ่งพาภาคท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นภาวะเศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือโรคระบาดระดับโลกสามารถส่งผลกระทบอย่างฉับพลันต่อความต้องการที่พักในภูเก็ต เหตุการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตสามารถชะงักตัวลงได้ทันทีเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ผู้ลงทุนจึงควรเตรียม แผนรองรับกรณีเลวร้าย เช่น มีเงินสำรองเพียงพอสำหรับผ่อนชำระเงินกู้ในช่วงที่ไม่มีผู้เช่า หรือสามารถปรับกลยุทธ์ไปจับตลาดผู้เช่ากลุ่มอื่นแทน (เช่น คนไทยที่ย้ายถิ่นฐานหนีเมืองใหญ่ มาอยู่ภูเก็ตช่วง WFH) นอกจากนี้ การกระจายการลงทุนไปสินทรัพย์อื่นบ้างก็ช่วยลดความเสี่ยงการพึ่งพาภูเก็ตเพียงที่เดียว
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการขายต่อ: อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่สินทรัพย์ที่ขายออกได้ง่ายในเวลาอันสั้น หากในอนาคตผู้ลงทุนต้องการขายคอนโด อาจต้องใช้เวลาหาผู้ซื้อนานหลายเดือนถึงเป็นปี ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดขณะนั้น ความเสี่ยงนี้จะยิ่งสูงหากตลาดอยู่ในช่วงชะลอตัวหรือมีซัพพลายมือสองจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรเตรียมใจถือครองทรัพย์สินในระยะกลาง-ยาว และไม่ลงทุนด้วยเงินที่จะจำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น การเลือกโครงการที่มีชื่อเสียง ทำเลดี และมี กลุ่มลูกค้ารีเซลกว้าง (เช่น ขายได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ) จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องเมื่อต้องการขายต่อ เพราะดึงดูดผู้ซื้อได้หลากหลายกว่า
  • ความเสี่ยงด้านกฎหมายและนโยบายภาครัฐ: แม้ว่ากฎหมายเกี่ยวกับการถือครองคอนโดของคนไทยจะไม่ซับซ้อน แต่หากผู้ลงทุนจะปล่อยเช่าระยะสั้นก็ควรตระหนักถึงความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐ ในอนาคตภาครัฐอาจเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายโรงแรมกับการเช่าผ่าน Airbnb มากขึ้น หรือออกกฎเกณฑ์ควบคุมคอนโดมิเนียมเพื่อการท่องเที่ยว เช่น เก็บภาษีธุรกิจที่สูงขึ้น เป็นต้น ขณะเดียวกัน มาตรการภาษีและการเงิน ก็ส่งผลต่อตลาด เช่น การสิ้นสุดมาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง, การปรับเพิ่มภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, หรือการควบคุมสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ต้นทุนการถือครองสูงขึ้นหรือดีมานด์ชะลอลงชั่วคราว ผู้ลงทุนควรติดตามข่าวสารภาครัฐและเตรียมพร้อมปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
  • ความเสี่ยงจากผู้ประกอบการและคุณภาพโครงการ: ในช่วงที่ตลาดบูม อาจมีผู้พัฒนารายเล็กหรือรายใหม่เข้ามาเปิดตัวโครงการจำนวนมาก ความเสี่ยงคือบางรายอาจขาดประสบการณ์หรือเงินทุนที่แข็งแกร่ง ทำให้โครงการล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามที่สัญญาไว้ ผู้ลงทุนควรเลือกซื้อโครงการจากผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ มีผลงานในภูเก็ตหรือพื้นที่อื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ยิ่งหากโครงการนั้นมีการขายให้ชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ผู้ซื้อคนไทยควรตรวจสอบว่าโครงการได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขกฎหมาย (เช่น ยอดจองต่างชาติไม่เกิน 49%) และมีการโอนกรรมสิทธิ์จริง นอกจากนี้ ควรพิจารณาคุณภาพงานก่อสร้างและวัสดุของโครงการ เนื่องจากสภาพอากาศริมทะเลของภูเก็ตมีความเค็มและชื้น สูง หากโครงสร้างและวัสดุไม่ได้มาตรฐาน อาคารอาจเสื่อมสภาพเร็ว ส่งผลให้ต้องซ่อมบำรุงบ่อยและค่าดูแลรักษาสูงกว่าที่คาดไว้
  • ปัจจัยด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: ภูเก็ตเคยประสบเหตุการณ์สึนามิในปี 2547 และมีความเสี่ยงจากพายุหรือฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ แม้โอกาสเกิดภัยใหญ่จะน้อยและปัจจุบันมีระบบเตือนภัยที่ดีขึ้น แต่ผู้ลงทุนควรพิจารณาความสูงจากระดับน้ำทะเลและระบบระบายน้ำของโครงการด้วย หากคอนโดตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง ควรสอบถามถึงมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉินของอาคาร (เช่น เส้นทางหนีภัย, ความแข็งแรงของโครงสร้าง) การมี ประกันภัยที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติ เป็นอีกสิ่งที่แนะนำสำหรับเจ้าของทรัพย์สินในจังหวัดชายทะเลเช่นภูเก็ต
  • ปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานและชุมชน: ความพร้อมของสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา อินเทอร์เน็ต รวมถึงความสงบเรียบร้อยของชุมชนโดยรอบ ล้วนส่งผลต่อความน่าอยู่และค่าของคอนโด หากโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ถนนทางเข้ายังเล็กหรือชำรุด หรือมีปัญหาขยะและมลพิษใกล้เคียง อาจสร้างความลำบากในการอยู่อาศัยและลดความน่าสนใจในการปล่อยเช่า/ขายต่อ ดังนั้นควรประเมินภาพรวมของพื้นที่รอบนอกโครงการประกอบกันไปด้วย โครงการที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด หรือโรงพยาบาล มักได้เปรียบในสายตาผู้ซื้อและผู้เช่า เพราะเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสะดวก

บทสรุป: การลงทุนในคอนโดภูเก็ตนั้นมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีทั้งในรูปกระแสเงินสดจากค่าเช่าและการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรเข้าถึงข้อมูลอย่างรอบด้าน ประเมินความเสี่ยงทุกด้านอย่างเป็นระบบ และวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้า การเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตนเอง พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ตลาดและปรับกลยุทธ์อย่างยืดหยุ่น จะทำให้การลงทุนคอนโดในภูเก็ตประสบความสำเร็จและให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระยะยาว

Loading...
สมัครรับอีเมลอัพเดทข่าว