รัฐเปิด “คลินิกแก้หนี้” ปลดหนี้บัตรเครดิต 1 มิ.ย. นี้… ช่วยปลดหนี้สูงสุด 2 ล้าน

คลินิกแก้หนี้, ช่วยปลดหนี้, โครงการคลินิกแก้หนี้, ปลดหนี้ บัตรเครดิต, อยากปลดหนี้, เป็นหนี้บัตรเครดิต, วิธีปลดหนี้, วิธีปลดหนี้ บัตรเครดิต
คลินิกแก้หนี้, ช่วยปลดหนี้, โครงการคลินิกแก้หนี้, ปลดหนี้ บัตรเครดิต, อยากปลดหนี้, เป็นหนี้บัตรเครดิต, วิธีปลดหนี้, วิธีปลดหนี้ บัตรเครดิต
คลินิกแก้หนี้, ช่วยปลดหนี้, โครงการคลินิกแก้หนี้, ปลดหนี้บัตรเครดิต, อยากปลดหนี้, เป็นหนี้บัตรเครดิต, วิธีปลดหนี้, วิธีปลดหนี้ บัตรเครดิต
คลินิกแก้หนี้, ช่วยปลดหนี้, โครงการคลินิกแก้หนี้, ปลดหนี้บัตรเครดิต, อยากปลดหนี้, เป็นหนี้บัตรเครดิต, วิธีปลดหนี้, วิธีปลดหนี้ บัตรเครดิต

ใครที่กำลังเป็นหนี้หัวบาน หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต นี่เป็นหนทางที่ทำให้คุณสามารถมีชีวิตรอด และได้ต่อลมหายใจอีกครั้ง เพราะรัฐบาลกำลังมีโครงการใหม่ที่สนับสนุนการ ปลดหนี้บัตรเครดิต ด้วย “คลีนิคแก้หนี้” หากคุณสนใจตามมาดูรายละเอียดได้เลย

คลินิกแก้หนี้ หรือ “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน” เป็นนโยบายของภาครัฐที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนรายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งให้มีโอกาสปลดหนี้

โดยมีบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM เป็นตัวกลางในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เหมือนกับ One Stop Service เรียกได้ว่า “หนี้บัตรทบ จบที่เดียว”

เริ่มเมื่อไร? ธนาคารแห่งประเทศไทย จับมือกับสมาคมธนาคารทั้งไทยและต่างชาติ เปิดตัวคลินิกแก้หนี้เป็นครั้งแรก เริ่ม 1 มิถุนายน นี้

คุณสมบัติของลูกหนี้ที่จะเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

– ต้องเป็นบุคคลที่มีรายได้ประจำ
– ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี (ต้องไม่เกินตลอดอายุที่อยู่ในโครงการ)
– มีหนี้รวมห้ามเกิน 2,000,000 บาท
– มีหนี้กับธนาคารมากกว่า 2 แห่งใน 17 ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ
– จะต้องเสียดอกเบี้ยตั้งแต่ 4% – 7% ต่อปีเท่านั้น
– มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ค้างชำระเกิน 3 เดือน กับ 2 ธนาคารขึ้นไป และไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ มีธนาคารที่เข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ ทั้งหมด 17 ธนาคาร ประกอบด้วย

– ธนาคารกรุงเทพ
– ธนาคารไทยพาณิชย์
– ธนาคารกสิกรไทย
– ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
– ธนาคารกรุงไทย
– ธนาคารทหารไทย
– ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
– ธนาคารไอซีบีซี
– ธนาคารเกียรตินาคิน
– ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์
– ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย)
– ธนาคารธนชาต
– ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย
– ธนาคารทิสโก้
– ธนาคารยูโอบี
– ซิตี้แบงก์
– แบงก์ออฟไชน่า

เงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

– ลูกหนี้ต้องไม่ก่อหนี้ใหม่เพิ่มในระยะเวลา 5 ปี
– พร้อมเรียนรู้การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี
– เสียดอกเบี้ยเฉลี่ย 4-7% ต่อปี (ตามช่วงรายได้) ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี

อัตราดอกเบี้ยการผ่อนชำระตามช่วงรายได้

– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 4%
– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000–50,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 5%
– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 50,000–100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 6%
– ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 7%

ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับ ถ้าเข้าร่วมโครงการนี้ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ คือ

– ไม่ถูกทวงถามหนี้จากเจ้าหนี้หลายราย
– ลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน เพราะชำระเฉพาะเงินต้นค้างชำระ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราผ่อนปรนไม่เกิน 7% ตามช่วงรายได้ ระยะเวลาผ่อนชำระได้ไม่เกิน 10 ปี
– เป็นการรวมหนี้ และผ่อนชำระในที่เดียว
– รู้จักวางแผนทางการเงินที่ดี

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการที่ www.คลินิกแก้หนี้.com, www.debtclinicbysam.com
และ 02-610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.
ใครมีหนี้อยู่ ก็มาเข้าคลีนิครักษาโรคกันด่วนๆเลยนะคะ จะได้หายจากการเป็นหนี้สักที

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย

ต้องการซื้อ-เช่ !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน ทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการ คลิ๊กที่นี่

ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงประกาศเลย