อสังหาฯโตในเมืองท่องเที่ยวได้จริงหรือ…?


บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ชี้ทัวร์จีน, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เข้าเที่ยวช่วงสงกรานต์กว่า 80-90% ถึงแม้ว่าทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะกล่าวว่า ตลาดยุโรปและรัสเซียจะซบเซา แต่ก็มีตลาดจีนและตลาดอาเซียน อย่าง มาเลเซียและอินโดนีเซียเข้ามาทดแทน ทำให้สัดส่วนนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหลัก เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ หรือว่าพัทยา รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวถึง 80-90 %

           จากสัดส่วนและแนวโน้มของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยตามเมืองท่องเที่ยวนั้นก็ทำให้โครงการบ้านต่างๆพากันแพลนเปิดตัวกันอย่างคึกคัก เนื่องจากทำเลเมืองท่องเที่ยวไม่ได้เป็นตลาดสำหรับนักลงทุนเพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นตลาดเพื่อผู้อยู่อาศัยจริง ทั้งบ้านพักตากอากาศหรือว่าคอนโดมิเนียมทำเลชายทะเล หรือทำเลกลางเมืองท่องเที่ยวเดินทางสะดวกจากกรุงเทพมหานคร เพื่อพักอยู่อาศัยในช่วงหยุดยาวหรือลองวีคเอน

           โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดอสังหาฯในเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต, หัวหิน, สมุย, เชียงใหม่, พัทยา, ชะอำ หรือว่าหัวหินที่มีทั้งระบบการคมนาคมที่สะดวก สาธารณูปโภคที่เข้ถึง รวมถึงเป็นเมืองวัฒนธรรมที่ยักท่องเที่ยวสามารถจับต้องได้ ก็กลายเป็นตลาดบ้านหลังที่ 2 ของกลุ่มนักท่องเที่ยวเมืองกรุงและชาวต่างชาติไปแล้ว

           นอกจากตลาดบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยแล้ว สำหรับตลาดผู้ลงทุนเองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเนื่องจาก บรรดากลุ่มผู้ลงทุนมองเห็นโอกาสในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เมืองท่องเที่ยวในระยะยาว โดยมีแนวคิดการพัฒนาให้เป็นคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือพัฒนาเพื่อทำโรงแรมหรือห้องเช่า ดังนั้นจากแนวโน้มดังกล่าว จึงทำให้เราสามารถมองเห็นภาพว่า ธุรกิจอสังหาฯ สามารถเติบโตในเมืองท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาแนวโน้มของกระแสอสังหาฯและเมืองท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องเพื่อความคุ้มค่าอย่างที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตจะเป็นอย่างไร เราไม่สามารถทราบได้เลย…