เทคนิคการตรวจรับบ้าน ตอนที่ 3 (จบ)

มาถึงตอนสุดท้ายของบทความแนะนำการตรวจรับบ้าน จากสองตอนที่ผ่านมานำเสนอในจุดหลักๆ ไปแล้ว และอีกจุดที่ไม่ควรมองข้ามคือ ผนังบ้าน ซึ่งหากมองผิวเผินส่วนใหญ่มักดูความเรียบร้อยของ สี หรือ หากปูกระเบื้อง หรือติดวอลล์เปเปอร์ ก็จะดูแค่ความเรียบร้อย การฉาบเรียบสนิททั่วหรือไม่ การติดวัสดุผนังต่างๆ แน่นหนาแค่ไหน แต่อีกวิธีที่แนะนำคือ ให้เอาหน้าแนบกับกำแพงแล้วมองตามแนวกำแพงว่าเรียบเสมอกันไหม ได้ฉากขนานไปกับพื้นหรือไม่ รอยร้าวรอยแตกต่างๆ สามารถใช้ไฟฉายข่วงส่องเพราะบางรอยอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซอมมุมต่างๆมีขี้ปูนเกาะอยู่หรือเปล่า และ ไม่ควรมีร่อง รู เสา หรือ คาน ต้องเรียบสนิทไม่มีรอยร้าวต่างๆ แล้วใช้เหรียญสิบเคาะดูตามผนังว่าเสียงหนักแน่น หรือ เสียงโปร่งหากติดกระเบื้องที่ผนัง แสดงว่าใส่ปูนไม่เต็ม หากมีการติดบัวหัวเสาก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่าแน่นหนา ติดได้เรียบร้อยหรือเปล่าด้วย

เพดานต้องสังเกตว่ามีรอยหรือคราบน้ำที่หยดมาจากหลังคาด้วยหรือเปล่า หากใช้ฝ้าแขวนการยึดติดต่างๆแน่นหนาเรียบร้อยดีไหม หากเป็นการฉาบก็ต้องดูว่าเรียบสนิททั่วทั้งเพดาน การติดบัว หรือ เล่นระดับต่างๆ ฉากมุมสวยงามเรียบร้อยดีหรือไม่ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆที่ติดบนเพดานติดได้เรียบร้อยหนาแน่น และ แสงไฟส่องสว่างตามที่ต้องการ หลังคาเป็นอะไรที่ตรวจสอบยากสักนิด เพราะบางครั้งอาจต้องรอให้ฝนตกถึงจะทราบว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ซึ่งในจุดนี้นั้นบางโครงการก็จะมีการรับประกันให้ ส่วนการตรวจสอบที่ทำได้คือ การดูตามชายคาว่ากระเบื้องต่างๆวางได้แน่นสนิทปิดรอบชายคาครบรอบ้าน ไม่มีรอยร้าวของกระเบื้อง รางน้ำติดตั้งแน่นหนา ความลาดเอียงได้ระดับเพื่อเวลาระบายน้ำจะไม่มีปัญหา รอบๆบ้านตรวจสอบทั้งตัวบ้าน รั้วต่างๆ ต้องไม่มีร่องรอยทรุด หรือร้าว เสารั้วแน่นหนา รั้วไม่มีสนิมมีความแข็งแรงทนทาน

นอกจากนี้การขอใบรับประกัน แบบแปลน เป็นอีกเรื่องต้องให้ความสำคัญ และ ต้องถ่ายรูปทุกจุดที่ตรวจ รายละเอียดต่างๆที่มีปัญหาต้องจดให้ครบ และ เก็บไว้เอง พร้อม ส่งให้ทางโครงการทำการแก้ไข และ เข้าตรวจสอบเมื่อแก้ไขเสร็จ และ สิ่งสำคัญคือ ไม่รับโอน หรือ เซ็นต์รับว่าบ้านเรียบร้อย หากยังไม่ได้มีการปรับปรุง ไม่ว่าพนักงานจะอ้างเหตุผลต่าง ๆ เช่น “ เซ็นต์รับไปก่อนจะได้โอนไวขึ้น หรือ เอกสารยื่นกู้ผ่านไว แล้วเรื่องแก้ไขโครงการทำให้แน่นอน “ ซึ่งไม่ว่าเหตุใดก็ตามไม่ควรเซ็นต์อย่างยิ่ง เพราะบ้านของเรา เราก็ต้องตรวจสอบให้ดี และ ต้องการให้บ้านออกมาดีที่สุด ไม่มีปัญหา หรือ มีปัญหาน้อยที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกโครงการก็มีส่วนสำคัญ อย่าเห็นแค่ราคาถูก ควรมองถึงชื่อเสียงโครงการ การรับประกัน หรือ การบริการหลังการขาย คุณภาพของโครงการทีผ่านมาด้วย เพื่อที่จะไม่ต้องมาเสียดายหรือเสียความรู้สึกในภายหลังว่าไม่น่าซื้อบ้านโครงการนี้เลย