เมืองท่องเที่ยวแบบนี้…ลงทุนอะไรดีน้า

ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต้องการจะมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างสวยงามมากมาย ทั้งสไตล์แบบทันสมัยและแบบดั้งเดิม…. แน่นอนค่ะว่าหลายๆคนคงพอจะมองเห็นช่องทางการลงทุนบ้างแล้วจากข้อได้เปรียบนี้ …. ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท หรือสิ่งที่ Dot Property กำลังจะพูดถึงในวันนี้ นั่นก็คือ….โฮมสเตย์ ค่ะ

           แต่ก่อนที่จะไปต่อกันถึงการลงทุนในกิจการโฮมสเตย์นั้น เราไปทำความรู้จักกับคำว่าโฮมสเตย์กันก่อนดีกว่าค่ะ ซึ่งกรมการท่องเที่ยวได้ให้คำอธิบายไว้ว่า คือที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบท คือบ้านพักที่อยู่ในชุมชนชนบทที่มีประชาชนเป็นเจ้าของบ้าน และประชาชน หรือสมาชิกในครัวเรือนอาศัยอยู่ประจำ โดยนักท่องเที่ยวเข้าพักร่วมกับเจ้าของบ้านได้และสมาชิกในบ้านมีความยินดีและเต็มใจที่จะรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งถ่ายทอดประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นแก่นักท่องเที่ยว และพานักท่องเที่ยวเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ

           เอาล่ะค่ะ หลังจากที่ทราบความหมายกันไปแล้ว มาดูกันว่าถ้าเราจะลงทุนกับโฮมสเตย์นั้น ต้องพิจารณาอะไรบ้างในเบื้องต้น ?

  • • ชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ มีวัฒนธรรมโดดเด่น สามารถเป็นจุดขายได้
  • • สามารถมีกิจกรรมภายในชุมชน ที่ดึงดูดนักท่องที่ยว เช่น ปีนเขา ล่องเรือ เดินป่า ดำน้ำ ดูปะการัง ฯลฯ
  • • การคมนาคมอาจจะไม่ต้องถึงกับสะดวกขนาดมีสนามบินหน้าหมู่บ้าน แต่ก็ต้องไม่เดินทางได้ลำบากเกินไปนัก
  • • สาธารณูปโภคพื้นฐาน … ถึงแม้ว่าโฮมสเตย์จะไม่ได้สะดวกสบายมีแอร์เย็นฉ่ำ แต่เรื่องไฟฟ้า น้ำประปา ที่เป็นเรื่องพื้นฐาน ก็ไม่ควรขาดค่ะ

           ก็จริงอยู่ที่โฮมสเตย์นั้นอาจไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมเท่าไหร่นักสำหรับห้องพัก เพราะสามารถแบ่งเอาห้องต่างๆในบ้านมาดัดแปลงเป็นห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวได้เลย แต่ก็ใช่ว่าผู้ประกอบการควรจะละเลยเรื่องของความสวยงาม ห้องพักก็ควรมีการตกแต่งให้สวยงามเข้ากับบรรยากาศ สะอาด มีพื้นที่ใช้สอยได้สะดวก และที่สำคัญคือความปลอดภัย

           อย่างไรก็ดี การประกอบธุรกิจโฮมสเตย์ก็มีความเสี่ยงที่เงียบเหงาในบางช่วง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ฤดูกาล เทศกาล ไปจนถึงเสถียรภาพทางการเมือง ดังนั้นหากใครจะลงทุนโฮมสเตย์เป็นอาชีพหลักไปเลยนั้นคงไม่ดีแน่ๆ แนะนำว่าทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ที่นอกเหนือจากอาชีพหลักที่ทำอยู่เดิมน่าจะเหมาะกว่าค่ะ

ที่มา : theuncletravel.blogspot , กรมการท่องเที่ยว