โครงการ “บ้านดีมีดาวน์”

บ้านดีมีดาวน์

“บ้าน” ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต ความต้องการที่จะมีบ้านเป็นของตัวนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในความคิด และเป็นความฝันของแทบทุกคน แต่การที่จะซื้อบ้านซักหลังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าเมื่อเลือกบ้านที่มีคุณภาพในทำเลที่ตั้งซึ่งสอดคล้องกับการใช้ชีวิตของเราได้แล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปคือการทำธุรกรรมต่างๆ เพื่อให้ได้บ้านหลังนั้นมาครอบครอง โดยภาระทางการเงินที่จะมาเป็นอันดับแรกคือการวางเงินดาวน์ หรือการผ่อนดาวน์บ้าน ซึ่งส่วนมากแล้วนั้นแหล่งเงินทุนที่คนส่วนมากนำมาซื้อบ้านจะเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ นั่นเอง

ซึ่งการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อนำมาซื้อบ้านนั้นเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และการก็เงินเพื่อมาซื้อบ้านนั้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในครอบครัวพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ทางภาครัฐบาล โดยกระทรวงการคลังได้เล็งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จึงประกาศนโยบายในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในชื่อโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการช่วยเหลือด้านการเงิน โดยทางภาครัฐจะช่วยสนับสนุนเงินในรูปแบบของ Cash back เพื่อลดภาระของการผ่อนดาวน์บ้านเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาทต่อราย โดยจะจ่ายเงินผ่านทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
10141845_l              ซึ่งการยื่นขอรับเงินช่วยเหลือจากโครงการบ้านดีมีดาวน์ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ไปลงทะเบียนที่ www.บ้านดีมีดาวน์.com  ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม 2562 – 31 มีนาคม 2563 เวลา 08.00- 18.00 ของทุกวัน โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 500,000 รายเท่านั้น ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” นั้นมีดังนี้

  • มีสัญชาติไทย
  • ต้องเสียภาษีเงินได้อย่างถูกต้อง คือต้องมีข้อมูลในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร
  • รายรับไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปีในปีภาษี 2561
  • ต้องได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และจดจำนอง และทำนิติกรรมต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563
  • ต้องเป็นการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่สร้างแล้วเสร็จแล้วจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมาย
  • ต้องเป็นการยื่นกู้ใหม่ ไม่ใช่เป็นการกู้เพื่อ Refinance
  • ไม่เป็นบ้านมือสอง หรือบ้านที่รอขายของกรมบังคับคดี
  • ต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผู้กับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพราะทางภาครัฐจะโอนเงินสนับสนุนผ่านช่องทางนี้เท่านั้น
  • บัตรประชาชน 1 ใบสามารถใช้ได้ 1 สิทธิ์เท่านั้น

เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วยในการยื่นขอรับสิทธิทางโครงการก็จะพิจารณาไปตามหลักเกณฑ์ และจะส่ง SMS/E-Mail เพื่อแจ้งผลการตรวจสอบ เมื่อผ่านการตรวจสอบทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็จะโอนเงิน 50,000 บาทเข้าบัญชีพร้อมเพย์ตามเลขประจำตัวบัตรประชาชน และเงินที่ได้รับจากโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ถือเป็นเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย

          ส่วนสถาบันทางการเงินต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” มีทั้งสิ้น 17 แห่ง นั่นหมายความว่าถ้าประชาชนต้องการได้รับการสนับสนุนจากโครงการนี้ต้องยื่นกู้เพื่อซื้อบ้านจากสถาบันทางการเงินที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการได้แก่
  1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  5. ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
  6. ธนาคารซีไอเอ็มบี(ไทย) จำกัด (มหาชน)
  7. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
  8. ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
  9. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  10. ธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน)
  11. ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
  12. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
  13. ธนาคารไอซีบีซี(ไทย) จำกัด (มหาชน)
  14. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
  15. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  16. ธนาคารออมสิน
  17. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

บ้านดีมีดาวน์              โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” นั้นสามารถสรุปได้ว่าเป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนที่ยื่นกู้ซื้อบ้านผ่านแล้วกับสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการ และมีคุณสมบัติครบถ้วน โดยจะช่วยเหลือโดยการจ่ายเงินคืนให้ 50,000 บาทต่อรายนั่นเอง ซึ่งทาง ธอส.ได้รับเงินจากกระทรวงการคลังมาแล้วเป็นจำนวน 5,000 ล้านบาทเพื่อจ่ายให้กับผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านหลักเกณฑ์การอนุมัติ 100,000 รายแรก และโครงการนี้นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองแล้วยังเป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของภาคอสังหาฯ อีกด้วย เพราะว่าถ้าประชาชนมีความมั่นใจในการซื้อบ้านมากขึ้น เนื่องจากได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ ก็จะทำให้เศรษฐกิจของภาคอสังหาฯ นั้นดีขึ้นตามไปด้วย จะมีการปล่อยบ้าน หรือคอนโดฯ ที่ค้างอยู่ในตลาดได้มากขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center โทร. 0-2111-1144

อ้างอิง :
https://www.baandeemeedao.com/
https://www.ghbank.co.th/news/detail/public-relations/press-baan-dee-mee-dao