ปรับอากาศห้องเองง่ายๆด้วย “น้ำหอมเหลือใช้”

หลายๆคนคงมีน้ำหอมที่ใช้แล้วเหลืออยู่นิดหน่อย หรือน้ำหอมบางขวดที่มีอยู่ก็มีปริมาณเยอะจนเกินไป แต่จะให้ทิ้งไปก็เสียดายแย่ใช่ไหมล่ะคะ วันนี้เราจะมานำเสนอไอเดียการนำน้ำหอมที่เหลือใช้เหล่านี้มาทำใหม่ให้เป็นน้ำหอมปรับอากาศในห้องกันค่ะ

ช่วงชีวิตของน้ำหอมนั้นสั้นกว่าที่เราคิดไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

น้ำหอมนั้นจะมีอายุการใช้งานต่างกันมากน้อยขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา จึงทำให้ไม่อาจกำหนดระยะเวลาใช้งานที่แน่นอนได้ อย่างไรก็ตาม “ช่วงชีวิตของน้ำหอม” ที่อาจเก็บรักษาได้ โดยสามารถรักษาความสมดุลได้อย่างเพอร์เฟค ก็คือ “หลังเปิดใช้ 1 เดือน”

ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่าเมื่อเลยช่วงเวลานั้นแล้วจะใช้น้ำหอมนั้นไม่ได้นะค่ะ เพียงแต่ว่า เมื่อเราเปิดใช้ เอทานอลในน้ำหอมก็จะระเหยไปเรื่อยๆ จนทำให้น้ำหอมมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย จนอาจทำให้สีของน้ำหอมเปลี่ยนไป เมื่อนำมาใช้กับผิวหนัง โดยตรงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ

ความแตกต่างของน้ำหอม และน้ำหอมปรับอากาศในห้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เนื่องจากน้ำหอมเป็นสิ่งที่นำมาใช้กับผิวหนังของคนเรา จึงถูกจัดอยู่ในจำพวกของ “เครื่องสำอาง” ทำให้ต้องใช้ส่วนผสมที่ถูกกฎหมายที่ควบคุมเรื่องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง แต่ว่าน้ำหอมปรับอากาศในห้องมักถูกจัดอยู่ในประเภท “ของใช้เบ็ดเตล็ด” ส่วนผสมของน้ำหอมที่ใช้ในห้องจึงไม่มีกฎหมายควบคุม น้ำหอมปรับอากาศในห้องจึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นน้ำหอมที่ใช้กับผิวหนังของเราได้ แต่น้ำหอมเอามาทำเป็นน้ำหอมปรับอากาศในห้องได้ ไม่มีปัญหาค่ะ

สนุกกับการทำน้ำหอมปรับอากาศในห้องจากน้ำหอมที่เหลือกันเถอะ

น้ำหอมก้านไม้ : วิธีการทำน้ำหอมก้านไม้นั้นง่ายมากเลยค่ะ เพียงแค่หาก้านไม้หอมหลายๆก้านมาใส่ในขวดที่ใส่น้ำหอมที่เหลือ เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย ก้านไม้หอมจะช่วยดูด และกระจายน้ำหอมให้หอมฟุ้งไปทั่วห้องเลยค่ะ

กรณีที่กลิ่นของน้ำหอมอ่อนมาก ให้เสียบคอตตอนบัดแทนก้านไม้หอมค่ะ

ดอกไม้หอม : ดอกไม้หอม ก็คือ สิ่งกระจายความหอมที่มาในรูปของดอกไม้ ซึ่งทำจากเปลือกของไม้บัลซาร์ ด้วยความที่สามารถย้อมกลิ่นหอมได้ง่าย และดูสวยงามน่ารัก ทำให้เป็นของตกแต่งบ้านที่เป็นที่นิยม ในฐานะที่เป็นน้ำหอมปรับอาการในห้องค่ะ

วิธีทำก็แสนง่ายค่ะ แค่ฉีดน้ำหอมไปที่ตัวดอกไม้แค่นั้น ก็ใช้ได้แล้ว

เม็ดเจลหอมปรับอากาศ : เม็ดเจลหอมปรับอากาศที่ไม่มีกลิ่น สามารถหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ เมื่อซื้อมาแล้วก็จัดการใส่ไว้ในขวด หรือภาชนะที่ต้องการจัดเก็บ จากนั้นฉีดน้ำหอมใส่เข้าไป เท่านี้ก็ได้น้ำหอมปรับอากาศในห้องแล้วล่ะค่ะ ลองหาซื้อสีสวยๆมาใส่ดู หรือว่า จะตกแต่งด้วยดอกไม้หอมก็ดูน่ารัก ทำให้ห้องดูสดใสค่ะ

บุหงา : ถ้าหากว่าที่บ้านมีบุหงาที่กลิ่นจางไปหมดแล้ว อย่าเพิ่งเอาไปทิ้งค่ะ แค่ฉีดน้ำหอมลงไปเท่านั้น บุหงาที่หมดกลิ่น ก็กลับมาส่งกลิ่นหอมไปทั่วบ้านอีกครั้งแล้วค่ะ แนะนำให้นำไปวางที่โถงทางเข้าบ้าน พอเดินเข้าบ้านปุ๊บก็รู้สึกสดชื่นด้วยน้ำหอมกลิ่นโปรดของคุณทันทีเลยค่ะ

ที่ปรับอากาศภายในรถ : เอาแผ่นไม้บางๆ หรือผ้าสักหลาดที่ตัดเป็นรูปโมทีฟแบบที่ตัวเองชอบ ไปแช่ไว้ในน้ำหอม จากแผ่นไม้ หรือผ้าสักหลาดธรรมดาๆ แปลงโฉมไปเป็นที่ปรับอากาศในรถแล้วค่ะ

เนื่องจากในรถมีพื้นที่แคบ เมื่อเทียบกับบ้าน จึงทำให้ได้กลิ่นแรงกว่า จึงควรลองทำโดยใช้น้ำหอมจากปริมาณน้อยๆก่อนจะดีกว่านะคะ

สเปรย์ปรับอากาศ : นำน้ำหอม ปริมาณนิดหน่อย ใส่ลงในน้ำสเปรย์ที่ผสมตามอัตราส่วนเอทานอลบริสุทธิ์ 4 ส่วน ต่อ น้ำบริสุทธิ์ 6 ส่วน ก็จะได้สเปรย์ปรับอากาศในห้องแล้วค่ะ นอกจากจะดับกลิ่นแล้วยังขจัดเชื้อแบคทีเรียด้วยค่ะ

ถุงใส่เครื่องหอม

เพียงแค่นำผ้ามาห่อสำลีที่นำไปจุ่มน้ำหอมมาแล้วเท่านี้ ถุงใส่เครื่องหอมทำมือก็เป็นอันใช้การได้แล้ว หรือจะให้เก๋อย่างในรูป ไม่ใช้ถุงผ้า แต่เปลี่ยนเป็นกระดาษฟิลเตอร์กาแฟก็เป็นไอเดียที่ดี นำไปวางไว้ในชั้นเก็บของ หรือตู้เสื้อผ้า พอเปิดตู้ออกมากลิ่นก็จะหอมฟุ้ง ชื่นใจค่ะ เสื้อผ้า หรือของที่อยู่ในตู้ก็จะหอมด้วยค่ะ

เคล็ดลับ
เคล็ดลับของการทำน้ำหอมปรับอากาศในบ้าน ก็คือ เราต้องระวังไม่ใส่น้ำหอมมากจนเกินไปค่ะ เอาแค่มีกลิ่นหอมพอดีๆก็พอค่ะ

ที่มา: iemo