แชร์ Mood board สำหรับคนอยากแต่งห้องสไตล์เรโทร แต่งอย่างไรไม่ให้หลุดธีม

หลายคนอาจมองว่าการแต่งห้องเป็นเรื่องง่ายแต่ความจริงแล้วแต่งให้ออกมาสวยอย่างที่เราต้องการอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด ยิ่งเป็นแต่งห้องในสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนยิ่งยากที่จะทำให้ออกมาสวยอย่างที่เราคิดเอาไว้ 

วันนี้ดอทจึงนำตัวอย่างไกด์ไลน์ของ Mood board สำหรับการแต่งห้องสไตล์เรโทร ซึ่งเป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน สีสันฉูดฉาดสนุกสนาน เล่นทั้งรูปทรงและสีสันแบบนี้หากแต่งไม่ชัดพอจะทำให้ดูรกตาและเละเทะได้ง่ายมาก ใครที่ต้องการจะแต่งแนวนี้ควรมีภาพที่ชัดที่สุดอย่าง Mood board ออกมาก่อนเพื่อให้เราได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ

ตัวอย่างภาพรวม

retro interior

มาทำความรู้จักกับสไตล์เรโทรกันก่อนเพราะสไตล์เรโทรเป็นสไตล์ที่ย้อนยุคที่กลับไปช่วงปี 1950-1980 กลิ่นอายที่ได้จึงเป็นความเก่าแบบคลาสสิกที่มีสีสันและรูปทรงชัดเจน หากนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของคำว่า ‘เรโทร’ แล้ว เรามักจะได้เป็นความสนุกสนานอย่างดิสโก้ เพลงแด๊นซ์ เป็นต้น

การแต่งห้องสไตล์เรโทรอาจจะให้ความรู้สึกสนุกสนานแต่ก้ต้องเป็นความสนุกสนานอย่างคลาสสิก ซึ่งสามารถเสริมเอาสไตล์อื่นเข้ามาช่วยลดความสนุกลง เติมความสงบเข้าไปมากขึ้นโดยไม่ลดความคลาสสิกหรืออารมณ์ของความเรโทรออกไป

โทนสีและโทนแสง

153010969_m

เรื่องของโทนสีในการแต่งห้องสไตล์เรโทรนั้นมักเป็นสีที่ให้เนื้อสีเข้ม บางครั้งจะใช้เป็นสีแนวเอิร์ธโทนที่ออกเข้มเข้ามาช่วยเพื่อลดความสดลงบ้าง หรือบางครั้งก็ใช้สีที่อ่อนลงมาเป็นคู่สีเพื่อลดความสดลง แต่ตรงนี้สำหรับใครที่ต้องการอารมณ์ห้องแบบสนุกสนานอาจจะต้องระวังเรื่องการใช้สีอ่อนมากเกินไปจนทำให้ได้อารมณ์อบอุ่นหรือสงบเข้ามาแทน

มาถึงเรื่องของแสง โทนแสงของสไตล์เรโทรมักจะไม่ใช้แสงสีขาวแต่เป็นแสงที่มีสีสันอย่างสีส้ม เหลือง หรือเป็นสีนีออน เรื่องนี้ให้เรานึกถึงป้ายดิสโก้ ผับ อะไรประมาณนั้น มักจะไม่สว่างมากนัก

ตัวอย่างโครงสร้างห้อง

modern living room

เรื่องของโครงสร้างอย่างบานประตู กรอบหน้าต่าง หรือก๊อกน้ำ ราวจับ ของสไตล์เรโทรนั้นให้เราจำแค่ว่ามันต้องเป็นทรงของเรขาคณิต อาจจะไม่ได้กลมๆ เหลี่ยมๆ เท่านั้นแต่ก็เห็นเป็นรูปทรงอย่างชัดเจนเช่น ทรงของนาฬิกาทราย ทรงกลมที่มีเหลี่ยมมุมของสี่เหลี่ยม เป็นต้น เรียกว่าเป็นรูปทรงที่เกิดจากการผสมกันของเรขาคณิตก็ว่าได้ 

สำหรับใครที่คิดเอาไว้ว่าจะไม่เปลี่ยนเรื่องของโครงสร้าง สำหรับสไตล์นี้สามารถทำได้เพราะโครงสร้างส่วนใหญ่ของที่อยู่อาศัยมักเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งก็คือเรขาคณิตอยู่แล้ว เพียงแค่เพิ่มสีสันเข้าไปก็ใช้ได้ แต่ขอแนะนำให้เลี่ยงวัสดุจำพวกสแตนเลส อะลูมิเนียมที่ให้สีเงินวาวแบบขุ่นเพราะมันไม่ใช่เรโทร แต่ถ้าเป็นสีเงินเงานับว่าใช้ได้ครับ

ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์

แม้เราจะบอกว่าการแต่งห้องสไตล์เรโทรใช้แบบเรขาคณิตมาประกอบเป็นหลักแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นเข้ามาใช้ร่วมได้ โดยเฉพาะหากของใหญ่เกินไปอาจจะทำให้กระทบกับภาพรวมของสไตล์ห้องได้นะครับ 

เฟอร์นิเจอร์ของสไตล์เรโทรจะมีมุมโค้งมนแต่เป็นทรงของสี่เหลี่ยมผืนผ้าบ้าง จตุรัสบ้าง คางหมูบ้าง หากใครที่มีเฟอร์นิเจอร์ที่มีเหลี่ยมมุมแต่อยากให้ห้องดูเป็นเรโทรแล้วอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นการใช้ของตกแต่งที่มีลวดลายเข้ามาเพิ่มแทน หรือใช้ของเป็นทรงกลม ให้ภาพรวมของห้องไม่มีเหลี่ยมมุมมากเกินไปก็ช่วยได้ครับ 

ตัวอย่างของตกแต่ง

เรื่องของของตกแต่งสไตล์เรโทรจะให้ความสำคัญอยู่ที่สี ลายและรูปทรงเช่นเดียวกัน สำหรับห้องที่มีการเปลี่ยนโครงสร้างหรือเฟอร์นิเจอร์เป็นสไตล์เรโทรอยู่แล้วของตกแต่งอาจจะไม่ต้องแสดงเอกลักษณ์มากนักแต่หากใครที่ไม่ได้เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์แต่อยากให้ห้องดูสนุกสนานขึ้น สไตล์นี้เราใช้ของตกแต่งเข้ามาช่วยได้

ของตกแต่งที่ช่วยแสดงเอกลักษณ์ของสไตล์เรโทรได้ดีคือของสไตล์ย้อนยุคที่มีสีสัน หรือจะใช้เป็นผ้าคลุมที่มีลายเป็นเรขาคณิตแนวสีสันของเรโทรอย่างม่วง เหลือง ส้ม น้ำเงิน เขียว มีขาวเล็กน้อย แต่อย่าลืมว่าเนื้อสีต้องสด ดูแล้วสดใส สนุกสนานก็ใช้ได้ครับ

นี่เป็นรายละเอียดแบบไกด์ไลน์ที่เราแนะนำสำหรับสไตล์เรโทร หลายคนอาจจะไม่อยากจะตกแต่งแบบเรโทรจ๋าเกินไปก็แนะนำว่าควรนำไปผสมกับสไตล์อื่นเช่น มินิมอล หรือเปลี่ยนการใช้สีที่ฉูดฉาดเพียงอย่างเดียวเป็นการนำเอาสีอ่อนเข้าไปผสมบ้างก็จะได้สไตล์ที่สวยไปอีกแบบ ลองทำ Mood board สไตล์เรโทรของคุณออกมาก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะได้ห้องสวยกว่าที่คุณคิดภาพเอาไว้ในหัวก็ได้นะครับ