คอนโดหรู ตอบรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ใจกลางทองหล่อ-เอกมัย พัฒนาโดย SANKYO HOME (THAILAND) ร่วมกับ KEIHAN REAL ESTATE บริษัทอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น ด้วยสไตล์การตกแต่งบ้านแบบญี่ปุ่น “Luxury Modern Japanese” โดยมีแนวคิดหลักสำคัญคือ “การให้ความสำคัญกับช่วงเวลาในแต่ละฤดูกาล” แบ่งเป็น 3 ฤดูกาล ได้แก่ Autumn Season (ฤดูใบไม้ร่วง), Winter Season (ฤดูหนาว), Spring Season (ฤดูใบไม้ผลิ) โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5.94 ล้านบาทที่ตั้งโครงการซอยเอกมัย 12 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯรายละเอียดโครงการโครงการเดอะ ไฟน์ แบงค็อก ทองหล่อ-เอกมัย มีแผนการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 บนเนื้อที่โครงการทั้งหมด 1-1-5 ไร่ (505 ตารางวา) เป็นอาคาร High rise สูง 31 ชั้น มีจำนวนห้องพักอาศัย 220 ยูนิต ให้ความเป็นส่วนตัวเพียงชั้นละ 12 ยูนิตเท่านั้น และมีพื้นที่จอดรถแบบ Auto Parking สามารถจอดรถได้ถึง 154 คัน (70%) ยังไม่รวมพื้นที่จอดรอบอาคาร นอกจากนี้ ทางโครงการได้คัดสรรวัสดุ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในห้องจากแบรนด์คุณภาพชั้นนำ ที่คำนึงถึงการใช้งาน และตอบสนองลูกบ้านเป็นหลัก พร้อม Feature พิเศษภายในห้องพัก ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะ ตกแต่งพร้อมอยู่อาศัย โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ Buint-in ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ตู้เสื้อผ้า, ตู้เก็บของ, โต๊ะทำงาน และชั้นวางหนังสือ จากแบรนด์ STARMARK ชุดเครื่องครัว ซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควันไฟฟ้า และเตาอบ จากแบรนด์ Teka Thailand ชุดสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือ, ก๊อก, โถส้วมระบบอัตโนมัติ, Rain Shower Set, Shower Tub Set จากแบรนด์ TOTO Thailand ในส่วนของพื้นห้อง จะใช้กระเบื้องลามิเนตลายไม้ 12 มิลลิเมตร พื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ และเคาน์เตอร์ครัว ตกแต่งด้วยไม้ลามิเนต และหินสังเคราะห์ ส่วนระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ทำความสะอาดง่าย พื้นที่ในห้องจัดสรรเนื้อที่ในการใช้สอยได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับศักยภาพของทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจ เดินทางสะดวกด้วยสถานี BTS เอกมัย และใกล้ทางด่วน 2 สาย คือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ ทางด่วนเฉลิมมหานครจุดเด่นของโครงการทางโครงการการได้นำนวัตกรรมการออกแบบบ้านแบบสไตล์ญี่ปุ่น ตัวอาคารใช้โทนสีขาวและสีไม้ เพื่อเพิ่มความอบอุ่น ตามคอนเซ็ปต์ “Luxury Modern Japanese” ออกแบบ และจัดวางพื้นที่ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด เก็บรายละเอียดการออกแบบที่ดีที่สุด มีความเรียบง่ายหรูหรา และทันสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง การออกแบบจึงเน้นความเป็นส่วนตัว อยากให้ผู้อยู่อาศัยได้รับการพักผ่อนอย่างสงบ เรียบง่าย และไม่อึดอัด ท่ามกลางใจกลางเมืองที่ดูวุ่นวาย แต่ก็ยังสามารถสัมผัส ไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตดี ๆ ที่มีร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งที่มีความคึกคักตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ทางโครงการได้นำวัตนกรรมการจัดการธุรกรรม การสั่งซื้อของผ่านแอปพลิเคชันโปรแกรม Nasket ที่จะทำให้การใช้ชีวิตในเมืองง่ายขึ้น มีระบบสั่งการ 6 แบบด้วยกัน ได้แก่ Grocery, Home service, Food Ordering, Bill Payment, Video door Bell และ Massage Broadcasting สิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงการได้แบ่งโซนอำนวยความสะดวกเป็น 4 โซน ด้วยกัน ได้แก่- Fine Lounge ประกอบไปด้วย Lobby, Co-working Room, Private Meeting Room, ระบบกล้องวงจรปิด และ Mail Room- Fine Greenery ประกอบไปด้วย Spring Garden, สวนชั้น 23 และสวนชั้น 27- Fine Retreat ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ, สระน้ำร้อน, Pool Bar, Sauna Room และ The Edge Viewpoint- Fine Sky ประกอบไปด้วย Wine Lounge, ห้องสำหรับเด็ก, ห้องคาราโอเกะ, ฟิตเนส, พื้นที่ส่วนพัตกอล์ฟ(สนามกอล์ฟขนาดเล็ก) และ Sky Seatขนาดห้องการจัดพื้นที่ห้องชุด ได้เน้นการออกแบบพื้นที่ ที่เน้นการใช้งานได้จริง แยกเป็นสัดส่วนระหว่างพื้นที่พักผ่อน และพื้นที่ใช้งาน มีความโปร่งโล่ง ที่มีความสูงถึง 2.80 เมตร และมี Foyer ตรงทางเข้า ที่ลดระดับของพื้นให้ต่ำลง เพื่อป้องกันฝุ่น รวมถึงช่องเปิดในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างห้องน้ำที่สามารถให้แสงสว่างเข้าไปได้ ทำให้ห้องดูกว้างและสว่างขึ้น ซึ่งทางโครงการมีห้องให้เลือกดังต่อไปนี้- 1 ห้องนอน ขนาด 34-35 ตร.ม.- 2 ห้องนอน ขนาด 50-56 ตร.ม.- Penthouse ขนาด 76-92 ตร.ม.
หมายเลขโทรศัพท์: