เจาะลึก สถานการณ์ตลาด ที่อยู่อาศัย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ช่วงกลาง ปี 2561

ที่อยู่อาศัย

หลังจากครั้งที่แล้ว เราได้นำเสนอสถานการณ์ตลาด ที่อยู่อาศัย ในประเทศไทยทั้ง 71 จังหวัด วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งโดยเราจะไปเจาะลึก สถาน์การณตลาด ที่อยู่อาศัย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล กันบ้างว่าเป็นอย่างไร โดยข้อมูลทั้งหมดมาจากทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ได้นำภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มาแสดงในครั้งนี้

โดยในไตรมาส 1 ปี 2561 ปรับตัวดีขึ้นทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีของอสังหาริมทรัพย์ในปี2561 ในด้านประเภทที่อยู่อาศัย ตลาดทาวน์เฮ้าส์และอาคารชุดยังขยายตัวดีจากปี 2560 โดยสะท้อนจากโครงการสํารวจที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขาย และโครงการเปิดตัวใหม่ที่เปิดขายบ้านจัดสรรในประเภททาวน์เฮ้าส์และอาคารชุดในสัดส่วนมากที่สุดจากหน่วยที่เปิดขายทั้งหมดในมุมมองของผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่นที่ดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และเพิ่มการลงทุนโดยการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์ด้านอุปทาน ที่อยู่อาศัย

ที่อยู่อาศัย

อุปทานที่อยู่อาศัยเหลือขาย ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ณ สิ้นปี 2560ผลการสํารวจภาคสนามโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายล่าสุด ณ สิ้นปี 2560 นับเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด ที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ํากว่า 6 หน่วยต่อโครงการ พบว่า มีจํานวนโครงการที่อยู่ระหว่างขายทั้งหมด 1,584 โครงการ มีจํานวนหน่วยในผังรวม 458,943 หน่วย และมูลค่าโครงการรวม1,764,603 ล้านบาท ในจํานวนนี้เป็นอุปทานเหลือขาย จํานวน 142,860 หน่วย มูลค่ารวม 549,807 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร มีจํานวน 1,135 โครงการ มีจํานวนหน่วยในผังรวม 212,997 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 916,112 ล้านบาท และมีหน่วยเหลือขาย จํานวน 80,449 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.3 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด มูลค่าเหลือขายรวม 340,302 ล้านบาท ส่วนโครงการอาคารชุด มีจํานวน 449 โครงการมีจํานวนหน่วยในผังรวม 245,946 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 848,491 ล้านบาท และมีหน่วยเหลือขาย จํานวน62,441 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.7 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด มูลค่าเหลือขายรวม 209,504 ล้านบาท

ในด้านประเภทและราคาขายโครงการบ้านจัดสรร พบว่า ณ สิ้นปี 2560 ทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วนเหลือขายมากที่สุด ร้อยละ 53.6 โดยส่วนใหญ่เหลือขายในระดับราคา 2.01- 3.00 ล้านบาท รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวเหลือขายร้อยละ 31.5 โดยส่วนใหญ่เหลือขายอยู่ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท บ้านแฝดเหลือขายร้อยละ10.3 โดยเหลือขายในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด อาคารพาณิชย์พักอาศัยเหลือขายร้อยละ 4.3 โดยเหลือขายในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด และที่ดินเปล่าเหลือขายร้อยละ 0.2 โดยเหลือขายในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด ตามลําดับ

 

ทําเลของโครงการบ้านจัดสรรที่เหลือขาย มากที่สุด 5 อันดับแรก ณ สิ้นปี 2560 ได้แก่

1) ลําลูกกา-คลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ

2) จังหวัดสมุทรปราการ

3) บางกรวย–บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย ซึ่งเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เปิดให้บริการแล้ว

4) สมุทรสาคร

5) มีนบุรี-หนองจอก-คลองสามวา-ลาดกระบัง

โดยทั้ง 5 ทําเลนี้เหลือขายเป็นประเภททาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 2.01 -3.00 ล้านบาทในสัดส่วนมากที่สุด ยกเว้นทําเลสมุทรปราการ เหลือขายประเภททาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 1.51 – 2.00 ล้านบาทในสัดส่วนมากที่สุด

ที่อยู่อาศัย

ในด้านประเภทและราคาขายของโครงการอาคารชุด พบว่า ณ สิ้นปี 2560 ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนเหลือขายมากที่สุดร้อยละ 66.2 โดยส่วนใหญ่เหลือขายในระดับราคา 2.01- 3.00 ล้านบาท รองลงมาเป็นห้องชุดแบบสตูดิโอ เหลือขายร้อยละ 22.1 ซึ่งส่วนใหญ่เหลือขายในระดับราคา 1.01 – 1.50 ล้านบาทมากที่สุด

ส่วนประเภทห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน มีสัดส่วนเหลือขายร้อยละ 10.7 ซึ่งส่วนใหญ่เหลือขายในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาทมากที่สุด และห้องชุดแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไปเหลือขายร้อยละ 0.9 ซึ่งส่วนใหญ่เหลือขายในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปมากที่สุด

ที่อยู่อาศัย

ทําเลของโครงการอาคารชุดที่เหลือขาย มากที่สุด 5 อันดับแรก ณ สิ้นปี 2560 ได้แก่

1) จังหวัดนนทบุรี

2) ธนบุรีตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตากสิน-บางหว้าที่เปิดให้บริการแล้ว

3) จังหวัดสมุทรปราการ

4) ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง

5) จังหวัดปทุมธานี

โดยทําเลจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดสมุทรปราการ เหลือ ขายเป็นประเภท 1 ห้องนอน ในระดับราคา 2.01 -3.00 ล้านบาทในสัดส่วนมากที่สุด ส่วนทําเลธนบุรีและห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง เหลือขายเป็นประเภท 1 ห้องนอน ในระดับราคาที่สูงกว่าทําเลอื่น คือ ระดับราคา 3.01 –5.00 ล้านบาทในสัดส่วนมากที่สุด และทําเลจังหวัดปทุมธานีเหลือขายประเภทสตูดิโอ ในระดับราคาน้อยกว่า 1ล้านบาทมากที่สุด

 

โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

ที่อยู่อาศัย

โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 มีจํานวนประมาณ 90 โครงการ มีหน่วยในผังรวม 24,619 หน่วย และมีมูลค่าโครงการรวม 106,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจํานวนโครงการ จําหนวนหน่วยและมูลค่าโครงการ โดยจํานวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 จํานวนหน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 และมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 โดยมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยประมาณ 4.3 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 3.9 ล้านบาท

เมื่อพิจารณาประเภทโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ พบว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 โครงการบ้านจัดสรรมีการเปิดขายใหม่จํานวนประมาณ 54 โครงการ 8,762 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 41,636 ล้านบาทซึ่งมีจํานวนหน่วยลดลงร้อยละ 17.3

แต่มีมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี2560 ส่วนโครงการอาคารชุดมีการเปิดขายใหม่จํานวน 36 โครงการ 15,857 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 65,333ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ทั้งจํานวนโครงการ จํานวนหน่วยและมูลค่าโครงการ ร้อยละ16.1 17.4 และร้อยละ 16.9 ตามลําดับ

ในด้านประเภทและราคาขายโครงการบ้านจัดสรร ในไตรมาส 1 ปี 2561 พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 65.5 เป็นทาวน์เฮ้าส์และส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับราคา 2.01- 3.00 ล้านบาท รองลงมาร้อยละ 27.4 เป็นบ้านเดี่ยว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท สําหรับบ้านแฝดเปิดขายร้อยละ 4.6 ซึ่งส่วนใหญ่เปิดขายในระดับราคา 5.00-7.50 ล้านบาท ส่วนอาคารพาณิชย์พักอาศัยเปิดขายใหม่ร้อยละ 2.5 โดยเปิดขายในระดับ ราคา 7.51-10.00 ล้านบาทมากที่สุด

ในด้านประเภทและราคาขายของโครงการอาคารชุดที่เปิดขายใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2561 เป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนมีมากที่สุดร้อยละ 82.7 ซึ่งส่วนใหญ่เปิดขายในระดับราคา 2.01- 3.00 ล้านบาท รองลงมาเป็น ประเภทห้องชุดแบบ 2 ห้องนอนร้อยละ 12.1 ซึ่งส่วนใหญ่เปิดขายในระดับราคา 7.50 -10.00 ล้านบาทมากที่สุด

ส่วนห้องชุดประเภทสตูดิโอมีสัดส่วนร้อยละ 4.8 ซึ่งส่วนใหญ่เปิดขายในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาทมากที่สุด สําหรับห้องชุดแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไปเปิดขายใหม่เพียงร้อยละ 0.4 ซึ่งส่วนใหญ่เปิดขายในระดับราคามากกว่า 10ล้านบาทในสัดส่วนมากที่สุด

ที่อยู่อาศัย

ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดขายจํานวน 49 โครงการ15,369 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.4 ของจํานวนหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ทั้งหมด ลดลงร้อยละ18.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ซึ่งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เปิดขายจํานวน 50โครงการ 18,754 หน่วย

 

ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล

ที่อยู่อาศัย

ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2561 มีจํานวน 33,245 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีจํานวน 23,744 หน่วย และเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2560 ซึ่งมี จํานวน 29,477 หน่วย

ที่อยู่อาศัย

ประเภทที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จในไตรมาส  1 ปี 2561 เป็นห้องชุดมากที่สุดมีจํานวน 20,453 หน่วยคิดเป็นร้อยละ 61.5 ของหน่วยที่ อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวมีจํานวน8,103 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 24.4 ทาวน์เฮ้าส์มีจํานวน 3,125 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 9.4 อาคารพาณิชย์พักอาศัยมีจํานวน 1,163 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 3.5 และบ้านแฝดมีจํานวน 401 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 1.2 ตามลําดับ

เอาละคะวันนี้เราได้รับความรู้เกี่ยวกับ สถานการณ์ตลาดที่ อยู่อาศัยกรุงเทพฯ-ปริมณฑล  ปี 2561 ไปพอสมควรแล้วนะคะเดี๋ยววันพรู่งนี้เรามาดูกันต่อเกี่ยวกับด้าน   ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล  รวมไปถึง  สถานการณ์ด้านราคาที่อยู่อาศัย ในปี2561กันว่าจะเป็นอย่างไร ในครั้งต่อไปคะ

*ข้อมูลสถิติข้อเขียนใด ๆ ที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้รับมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือจากการประมวลผลที่เชื่อถือได้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ตรวจสอบจนมั่นใจในระดับหนึ่งแล้ว แต่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องหรือความเป็นจริง และไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใดๆ จากการใช้ข้อมูล ผู้นําข้อมูลไปใช้พึงใช้วิจารณญาณ และตรวจสอบตามความเหมาะสม

 

ที่มา ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เราหามาเสริฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก …