เช่าอยู่ หรือซื้อขาด: คำถามตอบยากสำหรับผู้อยู่อาศัย? (ตอนที่ 2)

ในบทความตอนที่แล้ว เราแจกแจงถึงข้อดีข้อเสียของการเช่าอยู่อสังหาริมทรัพย์กันไปบ้างแล้ว และในบทความตอนที่ 2 นี้ เราจะมากล่าวถึงมุมมองอีกด้าน ของการซื้อขาดอสังหาริมทรัพย์ถาวรกันในรายละเอียดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

//ซื้อขาด (Owning) มีข้อดีคือ…

-กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ซื้อ: รายได้และเงินดาวน์ที่ลงให้กับอสังหาริมทรัพย์หนึ่งๆ ถือได้ว่าเป็นกรรมสิทธิ์ขาดของผู้ซื้อ รวมถึงเป็นการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสม เพราะมูลค่าของสินทรัพย์เหล่านี้ จะเพิ่มสูงขึ้นตามระยะเวลาจนสามารถคืนทุนให้กับเงินกู้หรือสินเชื่อในเบื้องต้น แม้ว่าการลงทุนในช่วงแรกนั้นจะ ‘แพง’ ไปสักนิดก็ตามwww.robcampbellrealty.com

www.trendhunter.com-ลดหย่อนภาษี: ตามกฏหมายภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ผู้ซื้อขาดอสังหาริมทรัพย์ (ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว หรือคอนโดมิเนียม) สามารถลดหย่อนภาษาได้ 10% จากมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ เฉลี่ยติดต่อกันนานห้าปี เช่น ถ้าคุณซื้อสินทรัพย์มาในราคา 5 ล้านบาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 5 แสนบาท ห้าปี ตกเฉลี่ยปีละ 1 แสนบาท ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ผู้ซื้อ จะต้องอยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ ติดต่อกันโดยไม่ปล่อยเช่าหรือขายออกไป แต่ถ้าลงว่าคุณตัดสินใจซื้อขาดแล้ว ก็คงจะไม่ไปอยู่ที่ไหนอีก หรือไม่จริง?

-กำหนดแนวทางตกแต่ง ต่อเติม และซ่อมแซมได้โดยอิสระ: ข้อดีหนึ่งของการซื้อขาดอสังหาริมทรัพย์นั้นคือ ความเปิดกว้างอิสระสำหรับการตกแต่ง ต่อเติม และซ่อมแซมได้โดยอิสระ จะเพิ่มเติมส่วนไหน จะซ่อมแซมมากน้อยเพียงใด หรือจะตกแต่งยกเครื่องใหม่ก็ยังไหว ทั้งหมดอยู่ที่คุณเลือก (และแน่นอน…งบประมาณที่คุณมี)www.taxrates.com

เช่นนั้นแล้ว การซื้อขาดอสังหาริมทรัพย์ดีกว่าเช่าอยู่? ต้องไม่ลืมความจริงที่ว่า การซื้อขาด คือการผูกพันคุณกับภาระค่าใช้จ่ายที่มาแน่นอนในแต่ละเดือน เป็นระยะเวลาหลายสิบปี ยังไม่นับรวมค่าเสื่อมสภาพ ค่าตกแต่ง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี ที่อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ยังไม่แน่นอนในชีวิตและรายได้มากนัก

แต่ไม่ว่าจะเช่าอยู่ หรือซื้อขาด การตัดสินใจใดๆ ในขั้นสุดท้าย ก็ขึ้นกับคุณ ที่จะเข้าใจในความจำเป็นใดๆ เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ได้ดีที่สุด พิจารณาให้เหมาะสม แล้วการตัดสินใจเหล่านี้ จะไม่ใช่เรื่องยากแบบคอขาดบาดตายอีกต่อไป สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนแรก คลิ๊กเลย