ไอเดีย ดับร้อนบ้าน ตอนซัมเมอร์

สำหรับหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงรุนแรงแซงทุกโค้ง เฉียด 40 องศา ขนาดนี้ หลายๆคนคงกระสับกระส่ายอยู่บ้านไม่ค่อยติด เพราะมันร้อนอบอ้าวเหลือเกิ๊นนน ครั้นจะเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำปอด ก็กลัวว่าบิลค่าไฟมาแล้วจะเป็นลมไปซะก่อน …. จะออกไปเดินเที่ยวข้างนอกก็คงต้องขอบาย เพราะนอกจากจากอุณหภูมิจะสูงปรี๊ดทำลายสุขภาพจิตแล้วยังทำลายสุขภาพผิวให้กระด้างด่างดำอีกด้วยล่ะค่ะ ….แล้วจะรับมือกับหน้าร้อนนี้ยังไงล่ะเนี่ย…. วันนี้ Home Idea by Dot Property จึงขออาสาไปหาไอเดียการแต่งบ้าน ให้เหมาะกับซัมเมอร์มาฝากทุกๆคนเองค่ะ …. เอ้า เริ่มเล้ย!!

หน้าต่างและผ้าม่าน

           ถ้าคิดว่าคุณจะรู้สึกเย็นจากการปิดหน้าต่างมิดชิดเพื่อลดความร้อนจากแสงแดดนอนกบ้านล่ะก็… คุณคิดผิดแล้วค่ะ หน้านี้ยิ่งปิด…ก็ยิ่งอบ…ก็ยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ ดังนั้นคุณควรจะเปิดหน้าต่างค่ะ แม้ว่าแสงแดดจะเข้ามาก็จริงแต่เราสามารถหาผ้าม่านที่กัน UV และกันความร้อนมาเป็นตัวช่วยได้ค่ะ หรือถ้าไม่ได้มีแสงแดดส่องเข้ามาจนร้อนเกินไป ใช้ผ้าม่านที่เป็นคอตตอนก็ได้ค่ะ เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศโปร่งสบายแล้วยังช่วงปรับระดับความสว่างของแสงให้สมดุลกับตาเราได้ด้วยค่ะ

ผนังบ้าน

           ผนังถือเป็นส่วนที่มีเนื้อที่เกือบจะมากที่สุดของบ้าน ดังนั้นแค่เปลี่ยนสีผนังบ้านก็ช่วยลดความรู้สึกร้อนรุ่มของคุณลงได้เยอะแล้วล่ะค่ะ แต่จะให้มานั่งเปลี่ยนสีผนังบ้านตอนนี้ก็คงจะลำบากไปใช่มั๊ยคะ ดังนั้นทริคง่ายๆคือของตกแต่งฝาผนัง เช่น กรอบรูป นาฬิกาแขวนผนัง ที่มีโทนสีอ่อน และลักษณะไม่หนาและเทอะทะจนเกินไป เพื่อให้ความรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด หรือง่ายกว่านั้นคือล้างรูปวิวทะเล ภูเขา หรือสถานที่สวยๆ ที่คุณและคนพิเศษไปเที่ยวกันมาเมื่อปลายปีที่แล้ว มาแปะประดับฝาผนังก็เก๋ไปอีกแบบ หรือถ้าใครอยากอวดฝีมือทางศิลปะล่ะก็จัดการเพนท์ผนังบ้านซะใหม่ให้สดใสเข้ากับซัมเมอร์ได้เล้ย

ของตกแต่งบ้าน

           เพราะว่าหน้านี้คุณอาจจะหงุดหงิดกันง่ายเป็นพิเศษ ดังนั้นหากของที่นำมาตกแต่งบ้านดันมีสีสันฉูดฉาด กระชากอารมณ์อีกก็เกรงว่าอาจจะต้องนั่งอารมณ์บูดไปทั้งวัน หน้าร้อนแบบนี้เราจึงแนะนำว่าของตกแต่งบ้านนั้นควรเป็นของที่มองเห็นแล้วจะทำให้สดชื่น อารมณ์แจ่มใส เช่น หาต้นไม้หรือดอกไม้เล็กๆ ใส่แก้ว หรือแจกันตั้งไว้ตามมุมต่างๆของบ้าน หรืออาจจะลองเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูเตียงชุดใหม่ให้ให้สีสันสดใสต้อนรับหน้าร้อน ก็จะทำให้บ้านคุณไม่น่าเบื่อเกินไปแล้วค่ะ

ที่มา : thebudgetdecorator