ทำไมเงินเดือน 30,000 บาท แต่ยังกู้บ้านไม่ผ่านมันเพราะอะไรกัน…….

วันนี้เรามีเรื่องราวจากประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับการ กู้บ้านไม่ผ่าน ทั้งที่มีเงินเดือนที่ ไม่ได้ก็ไม่ได้น้อย บวกกับราคาบ้านที่ยื่นเรื่อง กู้ไปก็บ้านมือสองราคา 2,000,000  บาทเท่านั้น โดยเรื่องราวในครั้งนี้เป็นของคุณ  สมาชิกหมายเลข 4448869 สมาชิกจากเว็บไซต์ pantip.com ส่วนรายละเอียดเรื่องราว จะเป็นอย่างไรนั้นและสาเหตุและแนวทางนี้จะจบลงเช่นไรนั้น แต่ก่อนจะไปทราบถึงปัญหาท่านไหนที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ที่สนใจอย่างมีบ้าน สามารถศึกษาแนวทางจากบทความนี้ก่อนได้เลยค่ะ เงินเดือนเริ่มต้น อยากได้บ้านราคาเกิน 3 ล้านต้องทำไงดี

อ

ประสบการณ์ กู้บ้านไม่ผ่าน เพราะอะไร???? (สอบถามและขอคำแนะนำ) By   สมาชิกหมายเลข 4448869

ตามหัวข้อกระทู้เลยครับผม “กู้บ้านไม่ผ่าน” เลยจะรบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ แชร์ประสบการณ์และขอคำแนะนำในเคสของผมหน่อยครับ

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเลย เพราะอยากได้คำปรึกษา ผิดพลาดหรือขาดตกยังไงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ และขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้คำปรึกษานะครับ

โปรไฟล์ส่วนตัวนะครับ

  • ผมเป็นพนักงานประจำอยู่ ในกรุงเทพ ตอนนี้อายุ 24 ปีครับ (เรียนจบมาก็ทำงานที่นี่เลย)
  • เงินเดือน 30,000+ค่ารถค่าอาหาร ก็ 31,000 โดยประมาณ หลังหักประกันสังคม+ภาษี คงเหลือ 30,000 พอดิบพอดี
  • ที่ทำงานให้เปิดบัญชีของ ธ.สีม่วง และจ่ายเงินเดือนเป็นเช็คให้ไปเข้าบัญชีเองทุกเดือน
  • อายุงาน ณ. ปัจจุบันประมาณ 1 ปี 9 เดือนครับ
  • มีสลิปเงินเดือน + รับรองเงินเดือน + 50ทวิ + เอกสารจ่ายภาษี ภ.ง.ด.91 (ปี 2560)
  • บ้านที่จะซื้อมือสองราคา 2,000,000 ครับ
  • เคยประเมินราคาบ้านหลังนี้กับ ธ.สีม่วงไว้แล้วเมื่อปีก่อน ประเมินคร่าวๆ เพราะได้ข่าวมาว่าเข้าของบ้านจะขายตั้งแต่ปีก่อน ธ.สีม่วง ให้ 3 ล้านบาท
  • มีเงินเก็บส่วนตัวอยู่ประมาณ 6 แสนนิดๆ
  • ทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ เจ้าของบ้านให้เวลา 3 เดือน (สิ้นสุดพฤษภาคมนี้)
  • อยากได้บ้านหลังนี้มาก เนื่องจากเช่าอยู่แต่เดิมแล้ว เจ้าของบ้านอยากขายใช้เงิน เราก็ผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้กับเพื่อนบ้าน อีกอย่างบ้านญาติอยู่ใกล้ๆกัน

 

  1. ธนาคารแรกที่ยื่นกู้คือ ซีIMบี

ยื่นเอกสารไปประมาณ 1 สัปดาห์ ทราบผลว่าไม่อนุมัติ เนื่องจาก ไม่มีข้อมูลเครดิตบูโรเลยสักอย่าง ขาวสะอาดไปเอกสารที่ใช้ยื่นก็น้อยนิด ขอเอกสารแค่ เอกสารส่วนตัวและเอกสารรายได้ 50ทวิ หรือ ภ.ง.ด. 91ก็ไม่ใช้ เรายังสงสัยทำไมกู้บ้านหลังนึงใช้เอกสารพิจารณาน้อยจัง

**พอผ่าน ธ.แรกไปทราบว่าเครดิตมีผลต่อการพิจารณาจึงพักเรื่องกู้บ้านไว้และรีบสมัครบัตรเครดิตของ ธ.สีม่วงที่เดินบัญชีอยู่

ใช้เอกสารส่วนตัวและเอกสารแสดงรายได้ ที่กล่าวมาข้างบน (ใช้เอกสารเยอะมาก)
สรุปบัตรเครดิตผ่าน ดีใจมากกกกก เพราะหลังจากอกหักเรื่องกู้บ้านมา เลยรู้สึกว่ามีแสงสว่างเพิ่มขึ้นทีละนิด ๆ

 

  1. เริ่มกู้ธนาคารที่สองหลังจากได้บัตรเครดิต (แต่ใช้ได้ไม่ถึงเดือน) เป็น ธ.กรุงThai

อันนี้เพื่อนแนะนำมาเพราะเพื่อนกู้บ้านเหมือนกันและผ่านเรียบร้อยแล้ว เพื่อนคุณสมบัติเหมือนเราเลยแถมเงินเดือนน้อยกว่าด้วย และทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า เครดิตไม่เกี่ยว ยิ่งขาวสิยิ่งดี จะได้มีวงเงินเหลือ มีความสามารถในการชำระหนี้เยอะขึ้น เราเลยตัดสินใจยื่นกู้

  • ส่งเอกสารไปครบถ้วน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561
  • เจ้าหน้าที่โทรหาฝ่ายบุคคลและโทรหาตัวผมเอง วันที่ 21 มีนาคม 2561 ช่วงบ่าย
  • เจ้าหน้าที่ประเมินโทรมานัดประเมินบ้าน วันที่  22 มีนาคม 2561
  • เจ้าหน้าที่ประเมินไม่ผ่าน เนื่องจากหาหลักหินไม่เจอ เจอแค่หลักเดียว ขอกลับไปปรึกษาหัวหน้าก่อน
  • เจ้าหน้าที่มาประเมินใหม่ ถ่ายรูปบ้าน เดินวนดู แล้วกลับ
  • สาขาโทรมาแจ้งว่ายอดประเมินมาแล้ว อยู่ที่ 1,700,000 บาท (ซึ่งให้ราคาต่ำกว่า ธ.ม่วง เกือบเท่าตัว)
  • สาขาโทรมาแจ้งอีกว่ายอดขึ้นคร่าวๆ ในระบบ ออกแล้วที่ 1,500,000 + 100,000 = 1,600,000 ผ่อนจ่ายเดือนละหมื่นต้นๆ ให้รอแจ้งอย่างเป็นทางการอีกที

วันที่เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งยอด เรานี้ดีใจมาก เตรียมของแก้บนไว้เลย เพราะบนไว้หลายที่มาก 5555555

****ถึงกับร้องไห้ เหมือนพายเรือไปจะถึงฝั่ง เห็นฝั่งอยู่ข้างหน้า แต่น้ำมันดันเข้าเรือ แล้วเรือก็ล่มลง ****

ธ. โทรมาบอกว่าไม่อนุมัติ เนื่องจากอายุเราน้อยเกินไป + ไม่มีข้อมูลเครดิต รายได้กับวงเงินกู้ผ่านหมดไม่มีอะไรติดขัดเลยสักอย่าง เจ้าหน้าที่ก็เสียงนิ่งๆ เค้าคงเสียใจไปด้วยมั้ง 5555 เพราะเค้าก็ดันเราเต็มที่ ตามเรื่องให้ตลอด ถือว่ารวดเร็วมากเลยทีเดียว

นั่งนิ่งๆก็คงทำอะไรไม่ได้เลยเดินหน้าต่อ

สำหรับข้อมูลเครดิตของเรา หลังจากที่ได้บัตรเครดิตของ ธ.ม่วง มาเราก็ให้หักค่าน้ำ+ค่าไฟผ่านบัตรเลย และมีรูดใช้นิดหน่อย ยอดรวมชำระประมาณ 2,000 กว่าบาทสำหรับยอดเดือนแรก

สำหรับเดือนแรก จะหัก 6 เมษายน (เราให้หักผ่านบัญชีเลย) พนักงาน ธ. กรุงThai เลยแนะนำว่า 6 เมษา หักยอดแรก 6 พฤษภาหักยอด 2 ข้อมูลเครดิตอาจจะขึ้นเครดิตดี 2 เดือน แล้วลองยื่นใหม่อีกรอบ เพราะพนักงานบอกว่า ฝ่ายพิจารณาแจ้งว่า ขอข้อมูลเครดิตีกนิดนึงน่าจะได้แล้ว + อายุเราน้อยไป เราอายุ 24 จะกู้เงิน 2 ล้าน มันง่ายไปไหม

ซึ่งเราก็งง มาก เพราะเงื่อนไขก็บอกเองว่า อายุ 20 ปีขึ้นไป สุดท้ายก็มาจบด้วยเหตุผลเรื่อง อายุน้อย+ไม่มีเครดิต

สำหรับตอนนี้เริ่ม ไปขอเอกสารและคำปรึกษาจาก ธ. ต่างๆ ได้ผลดังนี้

 

  1. ธ.ม่วง ที่เราเดินบัญชีอยู่ แนะนำว่า ถ้าจะดีที่สุดให้รอชำระบัตรครบสัก 3 รอบบิลก่อนแล้วยื่น ซึ่งไม่ทันแน่ๆ เพราะเวลามีจำกัด เลยสรุปว่า ชำระได้ 2 รอบบิลจะลองยื่นเลย
  1. ธ.ธอสอ แนะนำว่าให้กู้ร่วมกับแม่ เพราะเราไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีจากระบบอัตโนมัติ ธ. จะไม่คิดรายได้ให้ ธ. จะอ้างอิงจากประกันสังคมที่ถูกหัก คือ หัก 750 = มีรายได้แค่ 15,000 (อันนี้ไม่ทราบข้อเท็จจริง) สำหรับแม่ก็ไม่ได้รับเงินเดือนผ่านระบบอัตโนมัติเหมือนกัน ดังนั้นจะมีเงินเดือนตามเกณฑ์พิจารณาของ ธ. คนละ 15,000 กู้ร่วม 2 คนน่าจะพอได้ และแจ้งว่าเรื่องมีหรือไม่มีบัตรเครดิตไม่มีผล
  1. ธ.ทีเอ็มB แนะนำว่า อาจจะยากหน่อยเพราะไม่ได้รับเงินจากระบบอัตโนมัติ แต่ให้ลองยื่นดูก่อนได้เพราะมีหลักฐานการจ่ายเงินและ 50ทวิ ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ (อีกอย่างเพราะฟรีค่าประเมิน เจ้าหน้าที่เลยให้เลย)
  1. ธ.ธนchat แนะนำว่า ยื่นเอกสารได้เลย เงื่อนไขของ ธ. จะดูเน้นพิจารณาเครดิตที่เสียเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่มีเครดิตและเครดิตดีจะได้คะแนนเท่าๆกัน

 

***********************************************************************************************

สำหรับผมตอนนี้ งง งวย ไปหมด จะเดินทางไหนดี คิดไม่ออก จะยื่นเลยไหม หรือต้องรอเครดิตดีก่อน ตัดสินใจไม่ถูกในเวลาอันจำกัด

ที่ว่ากันว่า ถ้าไม่มีบัตรเครดิตจะยื่นกู้บ้านยาก เห็นจะจริงอย่างคำเขาว่ากัน

 

คำแนะนำ การกู้บ้านไม่ผ่าน เพราะอะไร

กู้บ้านไม่ผ่าน

โดยก่อนอื่นเลยถ้าลองสันนิษฐานดู ที่กู้ไม่ผ่านอาจจะ เกิดจากตัว  อายุผู้กู้น้อยไป และ บริษัทที่ทำงานอาจจะไม่ได้ใหญ่และมีชื่อเสียง ทำให้ธนาคารผู้ปล่องกู้เกิดความไม่มั่นใจว่าบริษัทมีความมั่นคงพอที่จะปล่อยกู้หรือไม่ เพราะปกติ ธนาคารสมัยนี้มักจะใช้ โปรแกรม ช่วยในการประเมินเครดิตและความเสี่ยง ว่าผู้กู้จะสามารถรผ่อนจ่ายจนครบสัญญาหรือไม่ และปัจจุบันมีเสี่ยงโดยรวมสูงขึ้นมากน้อยขนาดไหน

นอกจากนี้จากที่อ่านมา เรื่องการจ่ายเงินของบริษัทที่เจ้าของกระทู้ได้ทำงานนั้นมีการจ่ายเงินเดือนแบบการจ่ายเช็ค  แทนที่จะจ่ายแบบ  Payroll เพื่อตัดเข้าบัญชีอัตโนมัติแบบที่บริษัททั่วๆไปทำ ธนาคารที่ปล่อยกู้อาจจะมองว่าบริษัทที่จะของกระทู้ทำอาจจะ สร้าง statement ขึ้นมาเองได้ ยิ่งบริษัทเล็กด้วยแล้วนั้นธนาคารก็จะยิ่งมองมา มีความเสี่ยงในการปล่อยกู้มากกว่าเดิม

เพราะเงินเดือนไม่ได้ผ่านระบบธนาคาร ธนาคารก็จะตรวจสอบเราที่จากระบบประกันสังคมแทน  โดยเจ้าของมีเงินเดือน 30,000 บาท ซึ่งพอมาดูที่รายได้จากประกันสังคมจะทำให้มีรายได้แค่15,000บาท (นี้คือรายได้สูงสุดจากทางประกันสังคม) ทำให้โอกาศในการกู้ผ่านยิ่งน้อยมากๆนั้นเองค่ะ  ส่วนเรื่องตัวผู้กู้อายุน้อยนั้นมีผลเพราะอะไร โดยปกติธนาคารส่วนใหญ่จะมองอายุกับอายุงานเป็นหลักและยิ่งบวกกับประวัติการขอเครดิตต่างที่ยังไม่มี ยิ่งทำให้เวลาธนาคารลองนำไป คำนวนผ่านsoftwareดูอาจจะไม่ผ่านนั้นเองค่ะ ส่วนเงินเก็บทำไม่จึงไม่มีผล นั้นก็เพราะว่าเงินสดสามารถถอนออกมาได้ตลอดเวลา ธนาคารมองว่าไม่สามารถมาการันต์ตีได้ตลอดสัญญา นั้นเองค่ะ

 

 

วิธีแก้ปัญหา

กู้บ้านไม่ผ่าน

  • ดาวน์บ้านเกิน20%ของราคาบ้าน  เพราะโดยปกติสถาบันการเงินมักให้เราดาวน์ประมาณ 20% ของมูลค่าบ้าน และจะปล่อยสินเชื่อให้เราประมาณ 80% ดังนั้น หากอยากจะให้ธนาคารอนุมัติปล่อยกู้ อย่างน้อยเราก็ต้องมีเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 8แสน จากมูลค่าบ้าน 2ล้านบาทก็อาจจะช่วยให้ธนาคารอนุมัติปล่อยกู้ได้ค่ะ
  • หาหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม กรณีที่อยากได้วงเงินเพิ่มมากกว่าที่ธนาคารอนุมัติ แนะนำว่าให้หาหลักทรัพย์ประเภทอสังหาฯอย่างอื่นมาค้ำประกันเพิ่ม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้กับธนาคาร เมื่อนำอสังหาฯมาค้ำประกันเพิ่มแล้ว จะทำให้เราได้วงเงินเพิ่มจากเดิม 95% เป็น กว่า 100% เลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความน่าสนใจของหลักทรัพย์ค้ำประกัน
  • หาผู้กู้ร่วม ผู้กู้ร่วมในที่นี่ หมายถึงใครก็ได้ที่เจ้าของกระทู้รู้จักมั่นใจ และไม่จำเป็นต้องมีเงินเดือนสูง เคล็ดลับก็คือ รวบรวมผู้กู้แล้วยื่นเอกสารทางการเงินโดยยึดเอาคนที่มีเงินเดือนสูงที่สุดเป็นหลัก พอทำแบบนี้แล้ว ก็จะได้วงเงินกู้ที่สูงขึ้นกว่าเดิมค่ะ
  • กู้แบบ Peer-to-Peer Lending หรือ P2PL นั้น ก็คือการให้กู้ยืม และคิดอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปนั้นคือ P2PL จะไม่ได้ถูกดำเนินการโดยธนาคาร ไม่มีหน้าร้าน แต่จะทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อประสาน ‘ผู้กู้’ และ ‘ผู้ให้ยืม’ ในเงื่อนไขอันเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายได้มาเจอกัน โดยมีระบบออนไลน์และ Social Network ทำหน้าที่ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ประวัติทางการเงิน และจุดประสงค์ของการกู้ยืมได้อย่างทั่วถึง
  • ทำบัตรเครดิต, บัตรเครดิต, ยื่นกู้อื่นๆ ถ้าหากว่าเจ้าของกระทู้มีบัตรเครดิตของธนาคารนั้นๆ หรือถ้าหากว่าคุณทำประกันชีวิตกับธนาคารนั้นๆมาก่อน  การตอบรับอนุมัติการกู้เงินของคุณก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่นมากขึ้น เนื่องจากเครดิตที่เจ้าของกระทู้มีจะทำให้ธนาคารไว้วางใจในความพร้อมของการผ่อนชำระเงินกู้ให้กับธนาคารได้ระดับหนึ่งนั่นเองค่ะ

โดยสรุปสาเหตุโดยรวมที่ธนาคารไม่ปล่อยกู้คือ 1.ตัวผู้กู้ดูมีความไม่มั่นคงในอนาคต 2.ขนาดบริษัทที่ทำงาน อาจจะไม่มีความน่าเชื่อถือ  3.ประวัติเครดิตที่น้อยเกินไป  4.ประวัติอายุงานรวมอายุตัวผู้กู้ 5.เงินเก็บในบัญชีไม่มีผลในการช่วยให้อนุมัตินอกจากจะเอาเงินก่อนนั้นมาดาวน์บ้าน    6..ความเสี่ยงในการเดิน statement เองทั้งทางตัวผู้กู้ และ ตัวบริษัทที่อาจจะปล่อมstatementได้

 

ขอขอบคุณเรื่องราวจาก สมาชิกหมายเลข 4448869

ผ่อนบ้านอย่า ผ่อนบ้าน หรือคอนโดกับเจ้าของโดยตรงโดยไม่ผ่านธนาคาร!!

 

ที่ดินบางบัวทอง

กรมบังคับคดีจัดให้ ปลดล็อค กรณี ที่ดินบางบัวทอง ของ จ๊ะ อาร์สยาม

 

 

 

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก