8 สิ่งมงคลเสริมฮวงจุ้ยรับปี 2563 ที่ต้องมีติดบ้าน

เสริมฮวงจุ้ย

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน กลับมาเจอกับบทความดีๆอีกครั้งและสำหรับเรื่องราวในวันนี้ จะเป็น สิ่งมงคล 8 อย่าง เสริมฮวงจุ้ย รับปี 2563 ที่ต้องมีติดบ้านที่มีความเชื่อกันว่า มีคุณทางด้านการเรียกเงินทองทรัพย์สินและเพิ่มการความสุขภายในบ้าน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ

เสริมฮวงจุ้ย

สิ่งมงคลเสริม ฮวงจุ้ย รับปี 2563 ที่ต้องมีติดบ้าน 8 อย่าง

เสริมฮวงจุ้ย

1.ไผ่กวนอิม เพิ่มความสงบและความเฉลียวฉลาดมาสู่คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน

 เป็นพันธุ์ไม้อีกชนิดที่ซื้อหาได้ง่าย ขนาดไม่ใหญ่เทอะทะ ดูแลง่าย(แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งไว้เฉยๆได้นะครับ) และมีชื่อที่เป็นมงคล จึงทำให้มันเป็นที่นิยมอย่างมากในการนำมาตกแต่งและเสริมฮวงจุ้ยทั้งในบ้านและที่ทำงาน โดยในทาง ฮวงจุ้ย นั้น ไผ่กวนอิมช่วยดึงดูดความสงบและความเฉลียวฉลาดมาสู่คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน อีกทั้งยังช่วยเปิดจิตวิญญาณภายในให้มีความยืดหยุ่นเป็นอิสระ ทำให้พลังชี่สามารถไหลผ่านเข้าไปบำรุงรักษาในร่างกายได้อย่างง่ายดายนอกจากนี้นะครับ ต้นไผ่กวนอิมเนี่ย ยังสามารถใช้จัดให้ครบทุกธาตุได้ด้วย โดยใช้แค่ต้นไม้ต้นเดียวด้วยนะเออ ตามนี้เลย

ธาตุไม้ : อันนี้ถือเป็นธาตุพื้นฐานของต้นไม้ทุกชนิดอยู่แล้วครับ

ธาตุดิน : อันนี้ก็ได้แก่พวกดินหรือหินที่เราวางไว้ในกระถางชัดเจน ตรงตัว

ธาตุน้ำ : ต้นไม้จะอยู่ไม่ได้ถ้าหากขาดน้ำ ดังนั้น เราจึงคอยให้น้ำตลอด ถือเป็นการใส่ธาตุน้ำลงไปร่วมด้วย

ธาตุไฟ : ไฟในที่นี้ ไม่จำเป็นต้องจุดไฟเผาจริงๆครับ เพียงแต่เราหาตัวแทนของธาตุไฟมาใส่ โดยตัวแทนในที่นี้คือริบบิ้นสีแดงครับ เองมาผูกรอบๆต้นได้เลย

ธาตุทอง : ธาตุนี้เราสามารถสื่อด้วยการเลือกใช้กระถางที่ทำจากเซรามิคหรือแก้วก็ได้ครับ หรืออาจจะใช้เหรียญจีนโบราณมาตกแต่งลงในกระถางด้วยก็ได้เช่นกัน

เสริมฮวงจุ้ย

จำนวนต้นไผ่กันบ้างครับ  โดยจำนวนที่แตกต่างกัน ย่อมส่งเสริมในเรื่องที่ต่างกันออกไปด้วยตามนี้เลย

2 ต้น : ส่งเสริมเรื่องความรักและชีวิตคู่

3 ต้น : ความสุข

5 ต้น : สุขภาพ

8 ต้น : เงินทองและความมั่งคั่ง

9 ต้น : โชคลาภ

หลังจากรู้วิธีจัดแบบให้ครบ 5 ธาตุ รวมไปถึงจำนวนที่ต้องใช้ในแต่ละเรื่องแล้ว ต่อมาก็คือตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดวางครับ ถึงแม้ว่าต้นไผ่กวนอิมนั้นจะสามารถส่งเสริมได้ทุกเรื่องด้วยการเลือกจำนวนต้นแล้ว แต่ถ้าจะพูดถึงการเสริมฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดแล้วเนี่ย จะถูกใช้ในเรื่องของการเงินความมั่งคั่ง รวมไปถึงสุขภาพและครอบครัวครับ โดยเรื่องของการเงินและความมั่งคั่งจะอยู่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของปากัว ส่วนเรื่องของสุขภาพกับครอบครัวจะอยู่ที่ทิศตะวันออกของปากัวครับ

ทิศจากปากัวคืออะไรอ่านเพิ่มเติมได้ที่ มือใหม่หัดอ่านทิศจากปากัว” 

2.“สิงห์คู่ทวารบาลแห่งอำนาจและความเจริญรุ่งเรือง

เสริมฮวงจุ้ย

ในศาสตร์ของ ฮวงจุ้ย สัตว์ที่นิยมนำมาใช้เป็นตัวแทนแห่งการปกปักษ์รักษาสถานที่รวมไปถึงกำจัดสิ่งชั่วร้ายด้วยแล้ว “สิงโต” นี่เรียกได้ว่าเป็นอันดับ 1 เลยครับ เพราะด้วยคุณลักษณะที่แข็งแรง ฉลาด ดุร้าย และมีสัญชาตญาณของผู้ล่าอยู่อย่างเต็มเปี่ยม หากใครเคยไปตามอาคารใหญ่ๆ(บางอาคาร) วัดจีน วัดไทย(บางแห่ง) จะเห็นว่ามีสิงโตยืนขนาบข้างซ้ายขวาหน้าประตูทางเข้า วันนี้เราจะมาทำความรู้จักถึงที่มา รวมไปถึงการนำไปใช้ในฮวงจุ้ยว่าต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกัน

ลักษณะของสิงห์คู่และการนำมาใช้ในฮวงจุ้ย

เสริมฮวงจุ้ย

โดยทั่วไป สิงห์คู่มักจะถูกแกะสลักจากหินอ่อนหรือถูกหล่อขึ้นมาจากทองเหลืองไม่ก็เหล็กครับ แต่ในสมัยก่อน ค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูงมากและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการสร้าง ทำให้สิงห์คู่มักจะถูกใช้ในหมู่เฉพาะคนรวยหรือคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงทำให้รูปปั้นสิงห์คู่กลายเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงฐานะทางการเงินของบ้านหลังนั้นไปโดยปริยาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น กระบวนการผลิตก็ง่ายมากขึ้น สามารถผลิตสิงห์คู่ได้เป็นจำนวนมากด้วยวัสดุจากคอนกรีตและเรซิ่น ทำให้คนทั่วไปเริ่มสามารถซื้อหาไว้ที่บ้านได้ และไม่จำกัดเฉพาะในหมู่คนรวยอีกต่อไป

เสริมฮวงจุ้ย

นอกจากนี้ หากต้องการนำรูปปั้นสิงโตมาใช้แล้ว เราจำเป็นที่จะต้องนำมาตั้งเป็นคู่เท่านั้น เพราะทั้ง 2 ตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึง หยิน (ตัวเมีย) กับ หยาง (ตัวผู้) โดยสิงโตตัวผู้นั้น เท้าหน้าข้างขวาจะเหยียบลูกบอลผ้าเอาไว้ ส่วนตัวเมียจะมีลักษณะคล้ายกัน ต่างกันตรงที่เท้าซ้ายข้างหน้าจะตะปบลูกสิงโตเอาไว้ ซึ่งเปรียบเมือนกับว่า สิงโตตัวเมียทำหน้าที่ปกป้องคนภายในบ้าน ส่วนสิงโตตัวผู้ทำหน้าที่ปกป้องตัวอาคารครับ ส่วนตำแหน่งการวางสิงห์คู่ จะวางไว้ที่ข้างนอกบริเวณหน้าประตูและหันหน้าออกจากตัวอาคารราวกับเฝ้าสถานที่แห่งนั้นเอาไว้ โดยที่สิงโตตัวผู้จะอยู่ทางด้านขวา(เมื่อมองมุมหันหน้าออกจากอาคาร) ส่วนตัวเมียจะอยู่ทางด้านซ้ายครับ

3.ปี่เซียะเรียกทรัพย์ มั่งมี ร่ำรวยเงินทองและช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

เสริมฮวงจุ้ย

ปี่เซียะ เป็นวัตถุมงคลยอดนิยม ที่มีการนำมาบูชา เพื่อให้ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย เรียกทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา และกักเก็บทรัพย์นั้นไม่ให้รั่วไหลออกไปไหนได้ ชาวจีนโบราณเชื่อกันว่า ปี่เซียะเป็นสัตว์ประหลาดที่รวมลักษณะของสัตว์มงคลทั้ง 5 ชนิดไว้ด้วยกัน ได้แก่ มังกร พญาราชสีห์หรือสิงโต อินทรี กวาง และแมว

โดยตามตำนานเล่าว่า ปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 (เทพแห่งโชคลาภ) ของพญามังกรสวรรค์ มีชื่อเรียกด้วยกันหลายชื่อไม่ว่าจะเป็นเทียนลก (กวางสวรรค์)” เป็นชื่อเดิม ส่วนจีนกวางตุ้งจะเรียกว่าเผ่เย้าและคนจีนแต้จิ๋วจะเรียกว่าผีซิว

ลักษณะปี่เซียะดี

1. อ้าปากรับทรัพย์
2.
หางยาวกวักโชคลาภ
3.
ยกหัวข่มให้คู่แข่งเกรงขาม
4.
ฝ่าเท้าตะปบเงิน
5.
ก้าวขา
6.
ลิ้นยาวตวัดเงินทอง
7.
อกใหญ่ผายผึ่ง ดูองอาจและน่าเกรงขาม
8.
ไม่มีรูทวาร เพื่อกักเก็บทรัพย์สินไม่ให้รั่วไหล

วิธีวางปี่เซียะให้ถูกต้อง

เสริมฮวงจุ้ย

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งของมงคล ที่ช่วยเสริมฮวงจุ้ยในบ้านให้สมบูรณ์แบบและเฮง ๆ มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งของปี่เซียะจึงเป็นเรื่องสำคัญ ควรวางปี่เซียะไว้ให้เห็นเด่นชัด ไม่ตั้งอยู่ในที่อับหรือที่ต่ำ อย่างห้องเก็บของ ห้องน้ำ และไม่วางไว้ใกล้วัตถุมงคลชนิดอื่น ๆ เป็นต้น ทิศที่เหมาะสมที่จะวางปี่เซียะก็คือ ทิศตะวันออก หากจะนำมาวางไว้ในบ้านควรจะวางปี่เซียะให้เป็นคู่ตัวผู้ตัวเมีย โดยหันหน้าออกไปทางประตูหน้าบ้านหรือหน้าร้าน วางให้ก้นชนกัน ซึ่งปี่เซียะตัวเมียจะก้าวเท้าขวาก็ให้วางทางด้านขวา และปี่เซียตัวผู้จะก้าวเท้าซ้ายก็ให้วางทางด้านซ้าย

แต่ถ้าอยากเสริมในเรื่องของการป้องกันและปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและเรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมาแบบไม่มีรั่วไหล แนะนำให้วางไว้บนโต๊ะทำงาน โต๊ะเก็บเงิน ตู้เซฟ ห้องรับแขก หรือตำแหน่งสำคัญ ๆ ในบ้าน ถ้าอยากให้ปี่เซียะช่วยปกป้องคุ้มครองเวลาเดินทางออกไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ควรจะวางปี่เซียะให้หันหน้าออกไปทางประตูหลักของบ้านหรือวางไว้ในรถ ก็จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและอันตรายต่าง ๆ ได้

หากนำไปปี่เซียะไปวางโต๊ะทำงานในบ้าน ควรวางให้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก็จะช่วยเพิ่มพูลอำนาจบารมี การบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ก็เป็นไปอย่างราบรื่น ง่ายดาย และลงตัว นอกจากนี้ยังนำพาโชคลาภมาให้และยังช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้อีกด้วย

วิธีบูชาปี่เซียะ

เสริมฮวงจุ้ย

ก่อนจะนำปี่เซียะเข้าบ้าน ให้จุดธูปเทียนบอกกล่าวสิ่งศักสิทธิ์ในบ้าน อย่าง พระ เทพเจ้า และเจ้าที่ให้เรียบร้อยซะก่อน โดยกล่าวว่า จะขอนำปี่เซียะเข้ามาในบ้านเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป นำโชคลาภและเงินทองให้เข้ามาให้กับเรา จากนั้นก็ทำการเปิดตาปี่เซียะ ด้วยการนำไปแช่ในน้ำเย็นและน้ำร้อนในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อปรับให้หยินหยางอยู่ในภาวะสมดุล แช่ไว้ 2 วัน ที่สำคัญระหว่างนี้จะต้องหมั่นมองหน้าปี่เซี่ยะเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดงตนว่าเราเป็นเจ้าของ เมื่อครบกำหนดแล้วให้นำขึ้นจากน้ำแล้วใช้ผ้าขนหนูสีขาว ผืนสะอาด ๆ หรือผืนใหม่มาซับน้ำ พร้อมกับบอกกล่าวในทำนองที่ว่า เราเป็นเจ้าของแล้ว ช่วยเรียกทรัพย์สินเงินทองให้เราด้วย และอย่าลืมลูบหัว ลูบหลังบ่อย ๆ เพื่อให้ช่วยในเรื่องของสติปัญญาและกวักทรัพย์ให้เข้ามาหาให้มากขึ้น

ขั้นตอนการบูชาปี่เซียะก็ไม่ยากเพียงแค่จัดหาภาชนะใส่น้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ และหมั่นเปลี่ยนน้ำทุกวัน นอกจากนี้ควรถวายของบูชา อย่าง ขนมจันอับหรือโหงวเส็กทึ้งแต่เหลียง (ขนม 5 สี แทนเบญจธาตุ) และผลไม้มงคล อย่างเช่น ส้ม กล้วย ลูกท้อ ทับทิม องุ่น และสัปปะรด

และก่อนจะท่องคาถาบูชาปี่เซียะที่หมายถึงคุณลักษณะเศรษฐีนั้น ให้ท่องนะโม 3 จบ แล้วค่อยสวดคาถาที่ว่าอุ อา กะ สะ หรือ อุ อา กะ สะ ปี่เซียะ อานุภาโว เมตตาจิต ประสิทธิเมก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการบูชาปี่เซียะ

สำหรับการบูชาปี่เซียะแบบพกพา สามารถทำได้ 2 วิธีคือ วางไว้ในรถ 1 ตัว สำหรับคนที่เดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ หรือจะห้อยไว้ที่คอ โดยมีข้อแม้ว่าสร้อยปี่เซียะต้องเป็นสร้อยคนละเส้นกับสร้อยพระและห้อยให้อยู่ต่ำกว่าสร้อยพระ ที่สำคัญปี่เซียะต้องสัมผัสกับร่างกายของเจ้าของอยู่ตลอดเวลา

วิธีขอพรปี่เซียะให้สิ่งที่กำลังจะทำหรือทำอยู่ประสบความสำเร็จ ให้ยกมือไหว้และอธิษฐานขอพร ตามด้วยประโยคที่ว่าลูกขออัญเชิญปี่เซียะมาช่วย ลูกจะไป…(สิ่งที่จะไปทำ)…”

ข้อควรระวังในการบูชา

1. ห้ามลูบปากปี่เซียะ เพราะจะทำให้ทรัพย์รั่วไหล
2.
ห้ามยกปี่เซียะให้ผู้อื่นไปบูชา หากเราบูชาแล้ว เพราะเป็นวัตถุมงคลเฉพาะบุคคล
3.
ห้ามให้ผู้อื่นมาลูบปี่เซียะของเราเด็ดขาด
4.
ห้ามพกปี่เซียะไปงานอวมงคล

ราคาปี่เซียะ

ราคาบูชาปี่เซียะมีหลากหลายราคาด้วยกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบและลักษณะที่จะนำมาบูชา อย่าง ขนาดเล็กใช้ห้อยโทรศัพท์มือถือ ทำจี้สร้อยห้อยคอ หรือทำเป็นกำไล เริ่มต้นที่ 100-400 บาทขึ้นไป แต่ถ้าเป็นรูปแกะสลักที่วางในบ้านเรือนราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000-6,000 บาทขึ้นไป

4 เสริมฮวงจุ้ยบ้าน ด้วยสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จม้า

เสริมฮวงจุ้ย

ม้า” เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่คนนิยมต่างมาใช้ตกแต่งภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย, รูปวาด หรือรูปปั้นแกะสลัก ด้วยลักษณะท่าทางอันสง่างาม มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้มันเป็นสัตว์ที่มีค่ามากนับตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ ในทางฮวงจุ้ยก็เช่นกันครับ ม้าถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ, ความมีชื่อเสียง, อิสรภาพ และความรวดเร็วว่องไว แต่การจะใช้สิ่งของหรือภาพตัวแทนของม้าเข้ามาช่วย เสริมฮวงจุ้ยบ้าน หรือฮวงจุ้ยที่ทำงานได้นั้น เราจำเป็นต้องรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดเพื่อให้ฮวงจุ้ยของม้าช่วงส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปกติแล้วเนี่ย เราสามารถนำรูปสัญลักษณ์ม้าวางไว้ตรงไหนก็ได้ตามที่ใจเราต้องการ  แต่ถ้าเข้าขั้นลึกลงไปอีก เราจะทำการเช็คจากปากัว ซึ่งเป็นแผนผังที่แสดงพลังงานและธาตุในทิศทางต่างๆ เพื่อจะได้ดูว่าทิศไหนมีพลังของธาตุอะไร? เหมาะสมหรือหักล้างกันหรือไม่?  ทำให้เราสามารถสร้างพลังงานฮวงจุ้ยขึ้นมาส่งเสริมได้อย่างเต็มที่

แต่ถ้าใครไม่สะดวกหรือยังเป็นมือใหม่เข้ามาเก็บข้อมูล เราก็ได้รวบรวม 3 จุดเด่นๆสำหรับการนำรูปสัญลักษณ์หรือภาพวาดที่เกี่ยวกับม้ามาใช้ส่งเสริมฮวงจุ้ยกันครับ เริ่มจาก

  1. ทิศใต้ของตัวบ้านหรือที่ทำงานทิศนี้ถือว่าเป็นทิศที่ดีที่สุดสำหรับการนำรปสัญลักษณ์ของม้ามาใช้ เพราะทิศใต้มีลักษณะของธาตุไฟ ซึ่งม้าส่งเสริมได้ดีที่สุด
  2. ทิศเหนือของตัวบ้านหรือที่ทำงานทิศนี้เป็นทิศรองลงมาในการนำรูปสัญลักษณ์ของม้ามาใช้
  3. สำหรับคนที่เกิดปีนักษัตรจีนมะเมีย เราสามารถนำรูปสัญลักษณ์ไปตั้งไว้ที่ทิศนำโชคประจำตัวได้เลยครับ แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าเลขนำโชคประจำตัวหาได้จากไหน สามารถดูได้ที่บทความด้านล่างนี้เลยครับ                          

ด้วยความที่ม้ามีลักษณะของธาตุไฟ เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องการวางตำแหน่ง รวมไปถึงจุดที่จะใช้ม้ามาสร้างพลังงานส่งเสริมด้วย ยกตัวอย่างเช่น การนำรูปของฝูงของม้าหลายตัวที่กำลังวิ่งมาไว้ในพื้นที่ของธาตุไม้(ทิศตะวันออกกับทิศตะวันออกเฉียงใต้) หรือธาตุทอง (ทิศตะวันตกกับทิศทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) ครับ

5.Citrine อัญมณีแห่งความมั่งคั่ง

เสริมฮวงจุ้ย

Citrine จัดเป็นอัญมณีจำพวกหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับ Amethyst มากๆ ในด้านความเชื่อ ผู้คนเชื่อกันว่า Citrine มีพลังงานของแสงอาทิตย์สะสมอยู่ภายใน ทำให้แร่ตัวนี้มีผู้คนนิยมนำไปใช้ในการรักษาและกระตุ้นพลังจักระมณีปุระในร่างกาย ซึ่งจุดจักระนี้เป็นจุดศูนย์กลางของการหยั่งรู้ ทางด้านจิตใจอัญมณีตัวนี้จะช่วยเหลือในด้านการสร้างความมั่นใจ, การสร้างพลังด้านบวก และช่วยกระตุ้นพลังงานภายในและภายนอกร่างกายให้หมุนเวียนได้ดีขึ้น ส่วนทางด้านกายภาพ มีความเชื่อกันว่า ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งคงทนให้ร่างกายสามารถออกกำลังกายได้เป็นเวลานาน

เสริมฮวงจุ้ย

วิธีใช้ Citrine ก็เหมือนกับของชิ้นอื่นๆ คือการนำมาตกแต่งไว้ตรงจุดนั้น ซึ่งในกรณีนี้ เราจะใช้เพื่อดึงดูดทรัพย์เข้าบ้าน ให้เรานำ Citrine ไปวางไว้ตรงบริเวณจุดการเงินภายในบ้าน โดยที่เราสามารถเลือกรูปแบบได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบแร่ดิบๆ (แต่แพงโฮกกก) หรือผ่านการเจียระไนแปรสภาพเป็นรูปแบบต่างๆ อย่าง ปี่เซี๊ยะ, เหรียญโบราณ, ต้นไม้ รวมไปถึงสัตว์อื่นๆในเทพนิยายจีนแต่ถ้าใครอยากได้แบบติดตัวไว้ตลอดเวลาก็ได้เช่นกัน เพราะนอกจากเอาไว้เรียกทรัพย์ให้เข้าตัวแล้ว ยังช่วยในเรื่องการกระตุ้นจุดจักระภายในร่างกายอีกด้วย แถมยังเสริมสร้างความมั่นใจการสร้างความคิดด้านบวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องพบปะผู้คนเยอะๆหรือติดต่องานสำคัญกับลูกค้า โดยที่เดี๋ยวนี้มีเครื่องประดับหลากหลายรูปแบบให้เลือกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แหวน, จี้สร้อยคอ, กำไล เป็นต้น ส่วนราคาก็แล้วแต่ความปราณีตสวยงามรวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆภายในเครื่องประดับนั้นด้วย

6.หยก อัญมณีแห่งความแข็งแกร่งและความสงบ

เสริมฮวงจุ้ย

หยกเป็น 1 ในอัญมณีที่มีความนิยมและแพร่หลายไปทั่วโลก ด้วยรูปลักษณ์และสี ทำให้มนุษย์เลือกมันมาใช้ตกแต่งเจียระไนนำมาเป็นเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็น แหวน, สร้อยลูกปัด และ สร้อยคอ เป็นต้น และนอกจากนี้ ในทางศาสตร์ของฮวงจุ้ยเองก็นิยมใช้หยกมาเป็นเครื่องมือในการสร้างและรักษาพลังงานชี่ด้วยเช่นกัน

หยกกับฮวงจุ้ย

ในทางฮวงจุ้ย หยกได้ถูกนำมาใช้นานนับหลายศตวรรษ เนื่องด้วยคุณสมบัติในด้านการสร้างความสมดุลและความสงบเยือกเย็น อีกทั้งยังนิยมนำมาใช้ป็นเครื่องรางในการปกป้องอันตรายและการนำโชคอีกด้วย เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติที่หลากหลายมาก จะพกติดตัวก็ได้ หรือจะใช้ประดับบ้านเสริมฮวงจุ้ยก็ดีไม่ใช่น้อย แต่ด้วยความที่หยกในธรรมชาตินั้นมีหลากสีมากมาย ทั้งสีเขียว, สีม่วง, สีแดง, สีเหลือง, สีขาว และสีดำ ดังนั้น ถ้าหากเราเข้าใจถึงความหมายของแต่ละสีในฮวงจุ้ยแล้ว การเลือกหยกนำมาใช้ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เสริมฮวงจุ้ย

หยกเป็นอัญมณี ถือกำเนิดมาจากพื้นพิภพ ดังนั้นธาตุประจำก็คือธาตุดินครับ โดยตำแหน่งที่เหมาะในการใช้หยกเป็นตัวเสริมนั้น สามารถใช้ได้ทุกทิศในปากัวเลยครับ  เว้นแต่ ทิศเหนือ (ธาตุน้ำ) กับ ทิศใต้ (ธาตุไฟ) ที่ต้องใช้หยกในการเสริมฮวงจุ้ยอย่างระมัดระวัง

ปัจจุบันนี้ มีทั้งหยกแบบตามธรรมชาติกับแบบที่ผ่านการเจียระไนเป็นรูปร่างต่างๆมาให้ได้เลือกสรรกันมากมาย แต่การจะเลือกว่าจะใช้หยกรูปร่างแบบไหนนั้น เราจำเป็นต้องรู้เป้าหมายก่อนครับว่า เราต้องการส่งเสริมในเรื่องอะไร? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการใช้ในเรื่องของความรักหยกรูปเป็ดแมนดารินคู่ดูจะเป็นคำตอบที่เหมาะที่สุด เพราะเป็ดแมนดารินในทางฮวงจุ้ยเหมาะแก่การเสริมในเรื่องของความรัก ส่วนทิศที่เหมาะจะวางนั้นคือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศของความรักและชีวิตคู่หรือถ้าหากต้องการเสริมในเรื่องของการเงิน ต้องปี่เซี๊ยะที่ทำจากหยกเลยครับ เพราะด้วยคุณสมบัติที่กินอย่างเดียวไม่มีถ่าย ทำให้ปี่เซี๊ยะเป็นเครื่องรางยอดนิยมในการเรียกทรัพย์ ส่วนทิศที่เหมาะในการวางเสริมเรื่องเงินคือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ครับ

7.โมบายกระดิ่ง เสริมฮวงจุ้ย

เสริมฮวงจุ้ย

โมบายกระดิ่งลมเป็นสิ่งของที่คนทั่วไปนิยมนำมาใช้ในการจัดฮวงจุ้ย ด้วยความที่มีขนาดเล็ก สวยงาม และมีเสียงไพเราะยามต้องลม ทำให้หลายคนเลือกที่จะนำสิ่งนี้มาตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีประโยชน์ในเรื่องขจัดพลังงานลบที่พุ่งเข้ามายังบ้านได้อีกด้วย แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ก็มีโมบายกระดิ่งลมหลากหลายรูปแบบมากมาย ทั้งที่ทำจากโลหะ แก้ว ไม้ ดินเผา หรือจากวัสดุธรรมชาติอย่าง เปลือกหอย เป็นต้น

เคล็ดง่ายๆในการเลือกโมบายกระดิ่งลมเสริมฮวงจุ้ย

เสริมฮวงจุ้ย

1. วัสดุ ด้วยความที่ทิศทางแต่ละทิศนั้นมีธาตุประจำไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งแรกที่จะดูก่อนก็คือวัสดุที่ใช้ทำโมบายกระดิ่งลม ซึ่งวัสดุของโมบายนั้นจะต้องไม่เป็นธาตุที่พิฆาตกับธาตุประจำทิศนั้น ยกตัวอย่างเช่น โมบายกระดิ่งลมที่ทำจากโลหะสามารถนำมาติดไว้ที่ทิศตะวันตก, ตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศเหนือ ทิศที่ไม่เหมาะสำหรับโมบายโลหะคือทิศตะวันออก(ธาตุไม้) ส่วนโมบายที่ทำจากไม้หรือไม้ไผ่เหมาะสำหรับทิศตะวันออก, ตะวันออกเฉียงใต้ และทิศใต้ ทิศที่ไม่เหมาะสำหรับโมบายไม้คือทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ธาตุดิน)

2. สัญลักษณ์ โมบายกระดิ่งลมในปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่เป็นทรงหลอดยาวๆธรรมดาเพียงอย่างเดียว แต่มีการปรับเปลี่ยน ใส่รูปต่างๆเข้าไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นรูปสัตว์ในเทพนิยาย รูปอื่นๆ หรือเป็นตัวหนังสือก็มี ซึ่งการเลือกสัญลักษณ์ก็จะดูที่ทิศอีกเช่นกัน เพราะแต่ละทิศนั้นก็เสริมในเรื่องต่างกันไป อย่างเช่น ถ้าเรามีโมบายรูปหัวใจที่ทำจากดินเผา ก็เหมาะที่จะนำไปติดไว้ที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ส่งเสริมเรื่องความรักและชีวิตคู่ หรือโมบายที่เป็นรูปพระพุทธรูป ก็เหมาะสำหรับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ส่งเสริมเรื่องการเติบโตทางจิตวิญญาณ สมาธิ เป็นต้น

3. จำนวนกระดิ่ง เมื่อเลือกโมบายมาแล้ว สิ่งที่ต้องมองอีกอย่างก็คือ จำนวนกระดิ่งหรือแท่งเหล็กที่อยู่ในโมบาย โดยจำนวนกระดิ่งที่นิยมกันมากที่สุดคือ 6 อันกับ 8 อัน ซึ่งเหมาะกับการส่งเสริมฮวงจุ้ยมากที่สุด ส่วนกระดิ่ง 5 อันนั้นเหมาะสำหรับการต้านพลังงานลบหรือสิ่งชั่วร้ายที่พุ่งเข้ามายังบ้านเห็นมั้ยครับ การเลือกโมบายกระดิ่งลมนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ขอแค่จำหลักการเลือก 3 ข้อนี้ไว้ นอกจากจะช่วยตกแต่งบ้านให้สวย ดูสงบร่มรื่นแล้ว ยังทำให้ฮวงจุ้ยในบ้านเราดีขึ้นได้อีกด้วย ยิงนัดเดียวได้นก 2 ตัว คุ้มซะยิ่งคุ้ม

8.คางคก 3 ขา เครื่องรางเรียกทรัพย์ชั้นยอด

เสริมฮวงจุ้ย

คางคก 3 ขา มีชื่อในภาษาจีนว่า จินฉ๋าน (ภาษาจีน:金蟾 คำอ่าน: jīn chán) แปลเป็นไทยได้ว่า คางคกทองคำ แต่ตามจริงแล้ว คางคกนี้มีชื่อเรียกอีกมากมายเช่น คางคก 3 ขา, คางคกคาบเหรียญ, คางคกเรียกทรัพย์ เป็นต้น มีลักษณะภายนอกคือ ดวงตาสีแดง มีขาทั้งหมด 3 ขาคือด้านซ้ายกับขวาอย่างละข้างและด้านหลังอีก 1 ข้าง ปากคาบเหรียญ บางครั้งอาจจะยืนบนกองเงินทอง หรือบนหลังเต่า หลังมังกรก็ได้ ตามตำนานความเชื่อกล่าวไว้ว่า ในช่วงพระจันทร์เต็มดวง เจ้าคางคก 3 ขานี้จะปรากฏตัวหรือไปโผล่แถวบ้านหรือแถวที่ทำงานที่กำลังจะได้รับข่าวดี

วิธีการตั้งบูชาคางคก 3 ขา

เสริมฮวงจุ้ย

ส่วนใหญ่จะนิยมตั้งตรงจุดที่มีเงินหมุนเวียนตลอด อย่างเช่น ลิ้นชักเก็บเงิน หรือโต๊ะทำงานในบ้าน โดยหัวนั้นจะตั้งหันเข้ามาหาเรา เหมือนกับว่าให้คางคกนั้นคอยเรียกเงินทองให้เราตลอดเวลานั่นเอง

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่กำลังต้องการ ของมงคลเพื่อหามาประดับบ้านรับปี 2563 นะครับแล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อไปครับ

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2563 ตลอดทั้งปี ฤกษ์ดี วันมงคลดูได้ที่นี่เลย

สนใจข้อมูลข่าวสารเด่นๆ คอนเทนท์ร้อน ที่เรานำมาเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านในทุกๆวันจาก Dotproperty คลิ๊ก