7 สิ่งที่ “ห้ามลืม” เมื่อย้ายบ้าน!!
เคยย้ายบ้านกันบ้างมั้ยคะ...?
ใครที่เคยมีประสบการณ์ย้ายบ้าน ก็คงจะรู้ดีว่า ความวุ่นวาย สะกดยังไง!!
ไม่รู้ว่าจะเริ่มเก็บจากที่ไหนก่อนดี อันนั้นก็จะเอา อันนี้ก็จะย้าย เลือกทิ้ง เลือกเก็บกันแทบไม่ถูกกันเลยทีเดียว วันนี้เราก็เลยมีเทคนิคที่ช่วยให้การเก็บของย้ายบ้านของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นค่ะ
ว่าแล้วก็...มาเริ่มย้ายบ้านกัน !!!
1. อุปกรณ์ทำความสะอาดและรองเท้าลำลอง
แน่นอนว่าสิ่งนี้คือสิ่งสำคัญไม่แพ้ของมีค่าหลายสิ่งเลยทีเดียว เพราะว่า หากบ้านของคุณปราศจากความสะอาดแล้วล่ะก็ สุขภาพของคุณก็จะแย่ไปด้วยค่ะ อ้อ..ผ้าปิดปาก อย่าลืมด้วยนะคะ
2. ลิสต์ของสำคัญ
จด จด จดและจด รายการต่างๆที่คุณจะต้องไม่ลืมนำไปด้วยค่ะ เพราะว่าเมื่อความวุ่นวายเข้าครอบงำตัวคุณแล้ว อะไรๆก็ลืมได้...จริงมั้ยล่ะคะ
3. เบอร์โทรศัพท์และรหัสข้อมูลสำคัญ
ยุคสมัยที่อะไรๆก็สะดวกสบาย แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ต้องจำเองซะแล้ว...
เตรียมพร้อมรอบด้าน…ขายบ้านได้แน่นอน
ทันทีที่ตัดสินใจขายบ้านสถานะของเจ้าของบ้านจะเปลี่ยนมาเป็นพ่อค้าหรือแม่ค้าที่ต้องการให้บ้านซึ่งก็คือสินค้าในมือนั้นขายให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยความที่บ้านนั้นเป็นสินค้าที่ราคาค่อนข้างสูง และนับเป็นการตัดสินใจที่อาจมีผลไปตลอดชีวิตสำหรับบางคน ผู้ขายที่จะประสบความสำเร็จขายบ้านราคาดีต้องเตรียมพร้อมทั้งผู้ขายและบ้านในเวลาเดียวกัน
โดยหากบ้านติดภาระหนี้สินใดควรเริ่มติดต่อสถาบันการเงินเพื่อไถ่ถอนให้เรียบร้อย
ที่สำคัญผู้ขายจะต้องหาข้อมูลต่างๆสำหรับผู้ซื้อ ไม่ใช่แค่หาข้อมูลสำหรับตนเอง เพราะการที่ผู้ขายมีข้อมูลครบถ้วนก็สามารถอธิบายให้ผู้ซื้อเข้าใจถึงตอนต่างๆได้อย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ และสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้เพราะผู้ซื้อจะเห็นภาพรวมทั้งหมดและจะนำมาซึ่งความไว้ใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือควรมีเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกสารจากผู้เชี่ยวชาญประกอบการอธิบายด้วย
อีกสิ่งที่สำคัญคือเรื่องของการขอสินเชื่อ ที่ผู้ค้าจำเป็นต้องทราบอย่างละเอียดเพื่อที่จะให้คำแนะนำผู้ซื้อได้ ข้อมูลจำพวก เงินดาวน์ควรมีเท่าไหร่ ระยะเวลา ค่าใช้จ่ายการขอสินชื่อ ผู้ขายก็ควรศึกษาเพื่อให้คำตอบกับผู้ซื้อ การได้รับคำแนะนำที่ครบถ้วนแคล่วคล่องนั้นเกื้อหนุนให้การตัดสินใจเป็นไปได้ดีมากขึ้น
นอกจากนี้ผู้ขายควรกำหนดเงื่อนไขต่างๆให้จัดเจน เช่น ใครจ่ายค่าโอน ระยะสัญญา มัดจำอย่างไร และเงื่อนไขต่างๆต้องระบุเป็นลายลักษณ์อักษรลงในสัญญา
และข้อสุดท้ายผู้ขายต้องจัดเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อมแต่เนิ่น ไม่ใช่รีบหาเอาเมื่อมีผู้ซื้อติดต่อมา การมีสัญญา ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้านที่ครบถ้วนจะทำให้ดูเป็นหลักเป็นฐานที่น่าเชื่อถือและทำให้การซื้อขายไม่สะดุด
ขายบ้านทำเลดี…มีชัยไปกว่าครึ่ง
แม้ว่าบ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นจะมีหลากหลายรูปแบบ ชนิด ประเภท ทว่ารากฐานสำคัญที่กำหนดทิศทางของมูลค่าบ้านก็คือ ‘ทำเล’ ที่ตั้ง
เพราะทำเลเกี่ยวข้องกับความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทำเลที่ดีอาจหมายถึงการตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญ และสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภค เช่น ระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่อย่างรถไฟฟ้า ซึ่งมีส่วนในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ยิ่งหากเต็มไปด้วยสาธารณูปโภคย่อมมีโอกาสเรียกราคาได้ดีกว่า
การจะรู้ว่าทำเลของบ้านเราดีหรือไม่ต้องสังเกตรายละเอียดทำเลทำรายได้ต่อไปนี้
1. ย่านกลางเมือง
ละแวกที่ดีกลางเมืองคือละแวกที่อยู่ของชาวต่างชาติ เพราะพวกเขานิยมอยู่อาศัยแบบเกาะกลุ่มใกล้กันและมีสังคมของตนเอง เช่น ย่านคนญี่ปุ่น เกาหลี นิยมอาศัยแถวสุขุมวิท 21 ถึงช่วงทองหล่อ เป็นต้น หากท่านมีห้องชุดแถบนั้น นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะขายได้ในราคาดี
2. ย่านที่คนต้องการความสะดวกในการเดินทาง
ทำเลใกล้เคียงรถไฟฟ้าใต้ดินบนดินนับเป็นทำเลทอง...
กู้ซื้อบ้านต้องรู้…ธนาคารพิจารณาด้วยเกณฑ์ใด
หลังจากตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าต้องการจะมีบ้าน หรือที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ก็ถึงเวลาที่คุณต้องทำความเข้าใจกับเรื่องของสินเชื่อ เพื่อให้ได้สินเชื่อซื้อบ้านที่ตรงตามความต้องการ
...หลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารเน้นไปที่การพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้เป็นหลัก
วงเงิน
เริ่มจากดูว่าผู้กู้นั้นกู้เดี่ยวหรือกู้ร่วม ดูความสามารถในการชำระหนี้มีขนาดไหนโดยพิจารณารายได้ โดยปกติวงเงินสูงสุดของสินเชื่อจะอนุมัติอยู่ 40-50 เท่าของรายได้ผู้กู้ทั้งสอง(กู้สองคนได้มากกว่าคนเดียว) อย่างไรก็ตามลักษณะและความมั่นคงของรายได้ก็จะนำมาพิจารณา เช่น งานข้าราชการจะได้โอกาสวงเงินกู้มากกว่า พนักงานบริษัท และจะอนุมัติได้ง่ายกว่า
กรณีที่ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท เครดิตของคุณจะเข้มแข็งหากบริษัทที่ทำงานอยู่มีพนักงาน 10 คนขึ้นไปและดำเนินงานมากกว่า 2 ปี ซึ่งอาจจะได้รับอนุมัติเงินกู้สูงถึง 30 เท่าของรายได้ต่อเดือนหรือค่าจ้าง หรือเพิ่มวงเงินอีกไม่เกิน 15 เท่าของโบนัสและค่าคอมมิชชันเฉลี่ยต่อเดือน
กรณีผู้ประกอบอาชีพอิสระ...
วิธีเตรียมพร้อม…ขายบ้านให้ได้ในเร็ววัน
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วยความหลากหลายให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เลือกซื้อหา หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการขายอสังหาฯในมือได้ในเวลารวดเร็ว เรามีวิธีดีๆมานำเสนอ
แตกต่างจากคนอื่น
หากบ้านที่จะขายเหมือนรายอื่นๆ ก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะเลือกซื้อกับคนอื่น จงสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในสินค้าที่คุณจะขาย หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นการสร้างจุดขายให้กับสินค้าของคุณนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านด้วยการปรับปรุงให้น่าอยู่ในจุดต่างๆ โดยเฉพาะห้องน้ำที่ต้องดูดีและสะอาด โดยผลสำรวจจากคนส่วนมาก จะถอยทันทีถ้าห้องน้ำในบ้านสภาพไม่โอเค พยายามหาจุดขายมาชูให้บ้านน่าสนใจ เช่น แถมครื่องใช้ไฟฟ้า หรือทำเลดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้บ้านเข้าตาผู้ซื้อ
โล่งสะอาดมักได้เปรียบ
นี่เป็นคำตอบว่าทำไมเวลาเห็นบ้านตัวอย่างในโครงการถึงทำให้ผู้คนรู้สึกอยากซื้อ เพราะบ้านตัวอย่างตกแต่งให้สวย แต่จุดที่สำคัญคือความโล่ง เพราะมันจะทำให้บ้านดูกว้าง น่าอยู่ บ้านของคุณจึงต้องได้รับการทำความสะอาดให้เอี่ยมอ่อง อะไรไม่จะเป็นทิ้งให้หมด วันที่นัดหมายดูบ้านควรเปิดหน้าต่างให้บ้านไม่อุดอู้ แสงธรรมชาติจะช่วยบ้านให้ดูกว้างได้เป็นอย่างดี
เจรจาอย่างมีไมตรี
แม้ว่าราคาจะเป็นสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจทว่าการเจรจาด้วยความเป็นมิตรและจริงใจจะช่วยให้ผู้ซื้อให้คะแนนคุณได้มาก บางครั้งอาจเป็นฝ่ายออกค่าโอนให้...
มารู้จัก…กองทุนรวมอสังหาฯกันเถอะ!!
กองทุนอสังหาฯ หมายถึง กองทุนที่จัดตั้งโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ในลักษณะการแบ่งกองทุนเป็นหน่วยย่อยๆ เพื่อเปิดขายให้กับนักลงทุนรายย่อยทั่วไป ซึ่งทางบริษัทก็จะรวบรวมเงินเพื่อไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ และเมื่อได้กำไรก็จะนำมาแบ่งคืนกลับให้กับผู้ลงทุนรายย่อยนั่นเอง
กองทุนนี้เหมาะกับใคร...?
เหมาะกับผู้เริ่มลงทุนที่อยากจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แต่ยังไม่มีความรู้และเงินทุนมากเท่าไหร่
รูปแบบของกองทุนรวมอสังหาฯ
1. กองทุนรวมที่ระบุเฉพาะเจาะจง
ระบุชัดเจนว่าจะนำเงินไปลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์โครงการไหน
2. กองทุนรวมที่ไม่ระบุเฉพาะเจาะจง
ไม่มีการระบุโครงการ แต่ระบุเพียงประเภทและทำเลที่ตั้งไว้แบบกว้างๆ
ความน่าสนใจของกองทุนรวมอสังหาฯ
1. ช่วยเพิ่มความคุ้มครองการลงทุนในภาวะเงินเฟ้อ เป็นทางเลือกใหม่ของการเงินทุนที่ได้ประโยชน์มากกว่าเงินฝาก
2. ได้ผลตอบแทนสูงกว่าปกติ เพราะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากรัฐ
3. การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯให้เงินลงทุนน้อยกว่าการลงทุนในอสังหาฯและมีสภาพคล่องสูงกว่า และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่า
4. กองทุนรวมอสังหาฯใช้เงินลงทุนเพียงอย่างเดียวจึงไม่ต้องชำระดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงิน ดังนั้นโอกาสสูญเสียในการเป็นเจ้าของจึงมีอย่างจำกัด และอสังหาฯที่กองทุนไปลงทุนก็เปรียบเสมือนหลักทรัพย์ค้ำประกันในการลงทุน ดังนั้นโอกาสที่นักลงทุนจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดมีน้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ
ข้อควรระวังก่อนการลงทุน
ศึกษาข้อมูลจากเอกสารชี้ชวนก่อนการลงทุนทุกครั้ง เนื่องจากทุกการลงทุนมีความเสี่ยง
เกาะเทรนด์บ้านพักหลังเกษียณ ตอนที่ 2
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วที่ได้มีการเกริ่นถึงจำนวนผู้สูงอายุที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีกระแสหรือเทรนด์ใหม่ๆเพื่อเจาะกลุ่มผู้สูงอายุกันมากขึ้น แถมบ้านพักเพื่อผู้สูงอายุก็มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงจังหวัดที่มีสถิติการสร้างบ้านพักหลังเกษียณหรือที่เราเรียกกันว่าลองสเตย์สำหรับผู้สูงวัยกันค่ะ
ถ้าไม่ดูจากสถิติแต่อาศัยความรู้สึกและข้อมูลที่เล่าผ่านต่อๆกัน “ภาคเหนือ”คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่กำลังมีสังคมลองสเตย์เกิดขึ้นมากมาย เพราะอากาศที่เย็นสบาย สังคมเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้คนที่เป็นมิตรอัธยาศัยดี ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้ จังหวัดในภาคเหนือ เป็นลองสเตย์ที่ผู้สูงวัยจากทั่วโลกอยากจะมาพักผ่อน ใช้บั้นปลายชีวิตกันอยู่ที่นี่
เมื่อผ่านการคาดคะเนด้วยตัวเองแล้ว คราวนี้เราลองไปหาข้อมูลที่ระบุไว้อย่างจริงๆจังๆกันบ้างค่ะ จุดหมายปลายทางสำหรับบ้านพักหลังเกษียณที่ถือว่าท็อปฮิตติดลมบนมากก็คือ เชียงรายค่ะ ความจริงแล้วจังหวัดในภาคอื่นๆก็มีการเปิดลองสเตย์กันมากเหมือนกันแต่ที่ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมและมีการพูดถึงมากก็คือ เชียงใหม่และเชียงรายนั่นเอง
ทีนี้เราลองมาดูกันว่ามีผู้สูงอายุจากประเทศไหนบ้างที่มาอยู่อาศัยในบั้นปลายที่เมืองไทยเป็นอันดับต้นๆ ข้อมูลจากสถิติปี 2554 ของ LongStay at Thailand ระบุไว้ว่ามีนักท่องเที่ยวกว่า...
วิธีขายดีมีกำไรล่วงหน้า
สำหรับผู้ที่เตรียมขายบ้าน สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกำไรงามที่จะสามารถได้จากการขาย จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณนั้น ‘น่าซื้อ’ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งบ้านสวย เตรียมข้อมูลมากมาย แต่อาจจะพลาดไปหากทำเพียงติดประกาศขายไว้หน้าบ้าน
ซึ่งอาจทำให้บ้านที่ดีพร้อมอาจขายไม่ออก!
ดังนั้นวิธีการที่ดีในการขายคือการส่งบ้านให้อยู่ในสายตาผู้ที่ต้องการ
อย่าลืมว่าในปัจจุบันนั้นการสื่อสารที่อำนวยความสะดวกมีให้เลือกหลายช่องทาง ทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย อย่างการซื้อโฆษณา นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารที่ประหยัดและเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น www.dotproperty.co.th เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สิ่งสำคัญคือถ้อยคำโฆษณาที่ตรงเป้าเป๊ะๆ ไม่ควรใช้ถ้อยคำเยิ่นเย้อ พร้อมบอกประเด็นหลักอันต้องการสื่ออย่างครบถ้วน เช่น ขนาดบ้าน จำนวนห้องต่างๆ พื้นที่ใช้งาน ที่ตั้ง สภาพล่าสุดของบ้าน ราคาขาย...
เทคนิคพิชิตผู้ซื้อ…ข้อที่สอง: ตั้งราคาที่ทุกฝ่ายพอใจ
ในการขายอสังหาริมทรัพย์ ราคาขาย นับเป็นหัวใจสำคัญของการขายบ้านให้ได้เร็ว เพราะแม้ว่าบ้านของคุณจะเปี่ยมด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นก็อาจจะตกม้าตายขายได้ยากเพราะตั้งราคาที่สูงเกินไปหรือทำให้ผู้ซื้อรู้สึกแพงเกินจริงดังนั้นราคาขายต้องถูกตั้งอย่างเหมาะสม!
ซึ่งเทคนิคนี้มีความจำเป็นต้องหาข้อมูลให้รอบด้านเพราะจะต้องคำนึงถึงราคาตลาดหรือราคาของบ้านหลังอื่นที่มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน บางครั้งอาจถึงขั้นต้องว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญมาทำการประเมินเราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะสม เพราะหากบ้านนั้นมีราคาที่เหมาะสมก็ย่อมส่งผลให้บ้านขายได้อย่างรวดเร็ว นับว่าคุ้มสำหรับค่าใช้จ่ายที่ได้ลงทุนไป ทั้งยังมีรายงานการประเมินเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับการใช้อ้างอิงประกอบการขายบ้านราคาประเมินมีผลต่อความมั่นใจว่าผู้ซื้อไม่ได้ซื้อบ้านแพงเกินจริง ช่วยลดข้อโต้แย้งในเรื่องราคาบ้านหลักมาตรฐานที่นิยมในการตั้งราคา คือ ราคาที่ดิน + ราคาบ้าน + ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องราคาบ้านมักใช้จำนวนตารางเมตร คูณ ราคา 5000-8000บาทตามทำเลอย่างไรก็ตามข้อผิดพลาดที่ผู้ขายมักทำคือการคำนวณโดยลืมคำนึงถึงภาพรวม โดยอาจคิดราคาบ้านรวมค่าตกแต่งโดยลืมคำนึงถึงค่าความเสื่อมตามอายุการใช้งาน ที่สำคัญหากส่วนที่แถมไปเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อไม่ต้องการก็จะกลายเป็นขยะไปในทันที ราคาที่คิดมาก็จะแพงเกินไปอีกด้วยสิ่งที่ต้องนำมาคิดร่วมคือสภาพเศรษฐกิจและสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อมด้วย นอกจากนี้การรู้ข้อเด่นของบ้านตนเองจะเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถมัดใจผู้ซื้อไว้ได้ ลองมองหาดูว่าจุดเด่นของบ้านคืออะไรและคิดรวมไปในราคาขายก็จะได้ราคาที่ดีที่สุดของทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ
เมื่อ “สาวโสด” อยากมีบ้าน!!
จากผลสำรวจของ U.S.Census Bureau, International Data Base ระบุว่าในปี 2563 ประเทศไทยจะมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 1.5 ล้านคน โดยเฉพาะ “ผู้หญิงโสด” จะมีตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นถึงประมาณ 5.6 ล้านคน
และข้อมูลจากสถาบันวิจัยเอเชีย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้สาวไทยอายุ 30-34 ปี ยังคงครองตัวเป็นโสด ซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสัดส่วนสาวโสดในประเทศอาเซียน ซึ่งจากจำนวนประชากรสาวโสดที่เพิ่มมากขึ้นดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น ก็พอจะทำให้ผู้ประกอบการหลายต่อหลายคนโฟกัสตลาดไปที่ประชากรกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะสาวโสด...









