มือใหม่อยากซื้อคอนโดต้องรู้! Freehold คืออะไร ต่างกับ Leasehold อย่างไร?

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมนั้น นอกจากการเลือกจากศักยภาพของทำเลที่ตั้ง ความอุดมสมบูรณ์ ความสะดวกสบายในการเดินทาง หรือความชื่นชอบเป็นการส่วนตัวแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ เรากำลังจะซื้อคอนโดมิเนียมแห่งนี้ในรูปแบบ Freehold หรือ Leasehold กันแน่ ดังนั้นในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่า Freehold และ Leasehold คืออะไร จะต้องเลือกซื้อคอนโดมิเนียมรูปแบบไหนจึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด

07_freehold คือ (1)Freehold คืออะไร

สำหรับคำแรกที่เราจะมาทำความรู้จักกันในบทความนี้กันก็คือ Freehold ซึ่ง Freehold คือ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบทั่วไป ที่ผู้ซื้อจะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ของคอนโดมิเนียม หรืออธิบายอย่างง่าย ๆ ได้ว่า Freehold คือ การที่เจ้าของเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในคอนโดของตัวเองตลอดไปนั่นเอง ดังนั้นเจ้าของจะอยู่อาศัยไปตลอด ทำการขาย หรือยกให้ใคร ก็สามารถตัดสินใจและเลือกเองได้ทั้งสิ้น 

07_freehold คือ (2)Leasehold คืออะไร

หลังจากที่เราได้ทราบไปแล้วว่า Freehold คืออะไร คราวนี้เรามาลองทำความรู้จักกับ คำว่า Leasehold กันดูบ้าง โดยคำว่า Leasehold คือ รูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมที่ทางผู้พัฒนาทำการเช่าผู้พื้นที่และนำมาพัฒนาโครงการ เพื่อปล่อยเช่าระยะยาวให้กับผู้ที่ต้องการซื้อและเข้ามาอาศัย โดยผู้ที่เข้ามาซื้อจะมีสิทธิ์การเช่าถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะระยะเวลาเช่าประมาณ 30 ปี โดยเมื่อครบกำหนดจาก 30 ปีนี้แล้ว ก็จะถือว่าผู้ซื้อหมดกรรมสิทธิ์ในการเช่าและเข้ามาอยู่อาศัยภายในคอนโดแห่งนั้น โดยตัวโครงการจะถูกพัฒนาเป็นอะไรต่อไป ก็จะขึ้นอยู่กับเจ้าของที่ดิน หรือสำหรับบางคอนโดก็จะมีให้ต่อระยะเวลาในการเช่าต่อไป แต่อย่างไรก็ตามคอนโดก็จะไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ที่เข้ามาซื้ออยู่ดี เมื่อถึงกำหนดระยะเวลาเช่าผู้ซื้อก็จะต้องคืนห้องให้กับทางโครงการเช่นเดิม

07_freehold คือ (3)สรุปข้อแตกต่างระหว่าง Leasehold และ Freehold คืออะไรบ้าง

เมื่อเราได้ทำความรู้จักว่า Leasehold และ Freehold คืออะไรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในหัวข้อนี้จะเป็นความแตกต่างที่ให้ผู้อ่านสามารถตอบตัวเองได้ว่า เราเหมาะกับการซื้อคอนโดมิเนียมแบบไหน

  • ราคา อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า Freehold คือ การที่ผู้ซื้อคอนโดมีกรรมสิทธิ์ในคอนโดของตัวเองตลอดชีวิต ต่างจากแบบ Leasehold ที่เป็นเพียงการเช่าคอนโดในระยาวเท่านั้น ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าคอนโดมิเนียมในทำเลเดียวกัน ราคาของคอนโดรูปแบบ Freehold จะสูงกว่าแบบ Leasehold อยู่มาก เนื่องจากพื้นที่โครงการคอนโดมิเนียมตรงนั้น จะถือเป็นของเจ้าของกรรมสิทธิ์คอนโดแต่ละคน ไม่สามารถนำไปพัฒนาเป็นโครงการอื่น ๆ เพื่อทำกำไรได้อีก
  • มูลค่าในอนาคต สำหรับโครงการ Leasehold เมื่อสิทธิ์การเช่าถือครองอสังหาหมดลง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการหมดอายุสัญญาเช่า เจ้าของก็จะต้องทำการคืนห้องให้กับทางโครงการและถือว่าหมดสิทธิ์ในการเช่าทันที หากทางโครงการไม่มีการให้ต่อสัญญา ดังนั้นก็เท่ากับว่ามูลค่าในอนาคตของคอนโดที่เคยได้ถือครองก็หมดลง เพราะเราไม่ได้เป็นเจ้าของนั่นเอง แต่สำหรับโครงการ Freehold แน่นอนว่ามูลค่าโครงการในอนาคตก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากเจ้าของต้องการที่จะขายเพื่อทำกำไรก็มีสิทธิ์ในการตัดสินใจขายได้ทันที
  • เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของใคร หากลองเปรียบเทียบความแตกต่างของคอนโดมิเนียมทั้งสองรูปแบบแล้ว ไลฟ์สไตล์ของคนที่น่าจะเหมาะกับ Freehold คือ คนที่ต้องการอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมแบบไม่มีระยะเวลากำหนด หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือชื่นชอบหรือรักในการอาศัยอยู่ภายในคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากกว่าพวกโครงการบ้านจัดสรรต่าง ๆ หรือต้องการที่จะถือครองกรรมสิทธิ์ไว้สำหรับเป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไป แต่สำหรับโครงการ Leasehold นั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพียงระยะหนึ่ง เช่น ในช่วงวัยทำงาน โดยทำการวางแผนว่าเมื่อเกษียณอายุจะใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรแทน หรือสำหรับผู้ที่ต้องการปล่อยเช่าแต่ไม่ต้องการจัดการหรือถือครองกรรมสิทธิ์ตลอดไป โดยต้องการทำกำไรเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างกับคอนโดมิเนียมทั้งรูปแบบ Freehold หรือ Leasehold ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป และเชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนน่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อคอนโดทั้งสองแบบและสามารถเลือกแบบที่เหมาะกับตัวเองได้มากขึ้นแล้ว

อ้างอิง
https://www.longtunman.com/16315
https://www.altitude.co.th/blog/freehold-or-leasehold