แนะเทคนิค รีไฟแนนซ์ สินเชื่อส่วนบุคคล บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโด แบบถูกที่ถูกเวลา จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

รีไฟแนนซ์-1

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้ง โดยวันนี้เราจะขอยกเรื่องการ รีไฟแนนซ์ สินเชื่อส่วนบุคคล มาพูดกันอีกสักครั้งโดยวันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิครีไฟแนนซ์ สินเชื่อส่วนบุคคล บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ยังไงให้แบบถูกที่ถูกเวลา เพราะเมื่อเราวางแผนและคำนวนรีไฟแนนซ์ดีแล้วจะยิ่งทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นไปอีกค่ะ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลยค่ะ

การ รีไฟแนนซ์ คืออะไร…

รีไฟแนนซ์-2ก็ที่เราจะไปทราบเทคนิค รีไฟแนนซ์สินเชื่อส่วนบุคคล นั้นเรามาทำความรู้จักการรีไฟแนนซ์ กันก่อนสำหรับคนที่ไม่ทราบเราจะช่วยสรุปง่ายๆดังนี้ค่ะ การรีไฟแนนซ์ คือการกู้เงินก้อนใหม่ไปชำระหนี้ยอดเดิมที่มีอยู่แต่จะต้องขยายระยะเวลากู้ออกไป การทำแบบนี้จะช่วยให้ลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงตามโปรโมชั่นของธนาคารที่เราจะไปทำการรีไฟแนนซ์ค่ะ การวางแผนที่ดีในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นสามารถแบ่งการวางแผนรีไฟแนนซ์ได้ดังนี้

ควรวางแผนสรุปค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์แบบแบ่งเป็นดังนี้

รีไฟแนนซ์-3

  • เตรียมค่าใช้จ่ายให้ที่ต้องเสียกับธนาคาร ค่าปรับกรณีไถ่ถอนหลักประกันก่อนกำหนด โดยปกติจะไม่เกิน 3 ปี โดยเฉลี่ยจะเสียค่าปรับประมาณ  2-3% ของยอดหนี้ แต่ถ้าเราทำการรีไฟแนนซ์ในช่วงเวลาที่เลยกำหนดจากธนาคารเดิมมาแล้ว ค่าใช้จ่ายนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่ะ
  • เตรียมค่าใช้จ่ายให้กับธนาคารรายใหม่ที่เราทำการขอรีไฟแนนซ์ โดยธนาคารที่เราไปขอจะทำการเรียกเก็บค่าประเมินมูลค่าหลักประกัน ค่าธรรมเนียมการใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ และบางธนาคารอาจจะให้เราทำเบี้ยประกันอัคคีภัย โดยหากเราเคยทำกรมธรรม์อยู่และยังไม่หมดอายุเราสามารถที่จะโอนผลประโยชน์จากธนาคารเดิมมายังธนาคารเเห่งใหม่ได้ค่ะ
  • เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% และค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ ให้เเก่กรมที่ดิน

ศึกษาผลประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มขึ้นจากการรีไฟแนนซ์ให้ชัดเจน

รีไฟแนนซ์-4โดยข้อนี้สำคัญเพราะหากมียอดหนี้ที่ต้องการจ่าย 2 ล้านบาท แล้วอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันเสีย 6 .13% ต่อปี ในณะที่ธนาคารรายใหม่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เท่ากับ 3.55 % ต่อปี คิดเป็นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 2.58% ต่อปี นั้นก็เท่ากับว่าเราสามารถที่จะประหยัดเงินได้อีกเป็นแสนเลยทีเดียวค่ะ

อย่างละเลยเงื่อนไขอื่นๆ ของการรีไฟแนนซ์

รีไฟแนนซ์-5โดยเราควรที่จะดูเงื่อนไขอื่นๆของธนาคารหลายๆที่เช่น พิจารณายอดหนี้และระยะเวลาการผ่อนชำระที่เหลือ โดย  ถ้ายอดหนี้คงเหลือแล้วโดยสามารถทำการผ่อนอีกแค่ 1-2 ปี การทำรีไฟแนนซ์อาจเป็นทางเลือกที่ดีนัก นอกจากนี้ สถาบันการเงินบางแห่งมีเงื่อนไขให้ผ่อนค่างวดได้ไม่เกิน 2 เท่าของยอดผ่อนปกติ หรือถ้าคิดว่าจะขายบ้านในช่วง 3 ปีหลังรีไฟแนนซ์ อาจมีค่าปรับในการปิดบัญชีก่อนกำหนดเพิ่มอีก 2-3% ของวงเงินกู้ ดังนั้นการศึกษาเงื่อนไขอื่นๆอาจจะทำให้เป็นประโยชน์กับเรามากยิ่งขึ้นค่ะ

นอกจากนี้เรายังมีข้อแนะนำ 8 ข้อ ที่จะช่วยคุณเลือกสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและรีไฟแนนซ์ได้อย่างมืออาชีพมาฝากด้วยค่ะ

  1. รีไฟแนนซ์-6รีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิม การทำรีไฟแนนซ์ไม่จำเป็นต้องทำกับสถาบันทางการเงินอื่นเสมอไป สามารถทำได้กับสถาบันทางการเงินเดิม เนื่องจากสามารถลดความธรรมเนียมในการจำนองเงินกู้ได้ (ส่วนจะลดได้เท่าไหร่ ลองปรึกษากับทางสถาบันการเงินดูจ้ะ)
  2. รีไฟแนนซ์กับบริษัทประกันก็ได้ นอกจากสถาบันทางการเงินเดิม สถาบันทางการเงินใหม่แล้ว บริษัทประกันก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเชียวล่ะค่ะ เพราะบ่อยครั้งที่บริษัทประกันมีเงื่อนไขการปล่อยกู้ที่น่าสนใจกว่า (ลองดูนะคะ)
  3. สถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือ จะดีกว่ามากถ้าใช้บริการกับบริษัททางการเงินที่น่าเชื่อถือและมีความมั่นคง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆกับสถาบันทางการเงินเนื่องจากเราต้องอยู่ร่วมกันในระยะยาวนั่นเอง
  4. สอบถามบริการพิเศษจากเจ้าของบ้าน มีโครงการบ้านไม่น้อยที่ร่วมมือกับสถาบันทางการเงินเสนอเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย 0% ให้กับลูกค้าในช่วงระยะหนึ่ง ดังนั้นอย่าลืมถามเงื่อนไขเหล่านี้ก่อนด้วยนะ
  5. วงเงินการกู้ แต่ละสถาบันการเงินมักจะให้วงเงินกู้ต่างกัน และแน่นอนเงื่อนไขตลอดจนระยะเวลาในการกู้ก็ยังแตกต่างกันไปด้วย ให้เลือกที่วงเงินสูงและระยะเวลานาน เพราะจะทำให้ผู้กู้อย่างเรามีความยืดหยุ่นในการดำเนินการมากกว่า
  6. อัตราดอกเบี้ย มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งคงที่ ลอยตัว ผสมผสาน ดังนั้นควรพิจารณาอัตราดอกเบี้ยโดยคาดการณ์จากแนวโน้มตลาดด้วย
  7. ค่าธรรมเนียมการประเมินราคาหลักประกัน แต่ละแห่งเก็บไม่เท่ากัน ดังนั้นควรเช็คกับสถาบันทางการเงินหลายๆแห่งก่อน เพื่อเป็นการประหยัดค่าธรรมเนียมให้ได้มากที่สุด
  8. ค่าประกันอัคคีภัย แต่ละสถาบันการเงินมักเก็บค่าประกันอัคคีภัยแตกต่างกัน ดังนั้นอย่าลืมสอบถามให้ดีก่อนด้วย ก่อนจะจากกันนั้นการวางแผนรีไฟแนนซ์จะคุ้มค่าหรือไม่นั้น เราเจ้าของบ้านควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ต่างที่จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์ต่างๆที่เพิ่มขึ้นใช้ชัดเจนและข้อกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ ที่เป็นข้อจำกัดได้เปรียนเสียเปรียบต่างๆ

ทั้งนี้ก็ควรที่จะพิจารณาถึงปัจจัยที่อื่นอีกด้วย อาทิเช่น ค่าเดินทางต่างๆที่เราต้องเสีย เวลาที่ศูนย์เสียไปในการประเมินหลักประกัน ฯลฯ นอกจากนี้ท่านที่ทำการไถ่ถอนหลักประกันก่อนกำหนด อาจจะต้องเตรียมเงินสำหรับเสียค่าปรับเพิ่ม 2-3% โดยสรุปถ้าเราตัดเงื่อนไขต่างๆที่เรายกตัวอย่างนี้ออกไปแล้วการทำรีไฟแนนซ์ยังทำให้เราได้รับประโยชน์มากขึ้น นั้นก็คงจะตอบโจทย์ที่ว่าการ รีไฟแนนซ์ สินเชื่อส่วนบุคคล บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโด  การแบบถูกที่ถูกเวลา จะทำใช้ชีวิตง่ายขึ้นค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะเป็นแนวทาง เป็นไอเดียให้ได้กันบ้างหรือเปล่า ถูกใจยังไงก็ลองนำไปใช้กันดูบ้างนะคะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ

ลงประกาศขาย-ให้เช่า ฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายลงประกาศเลย…

ขายคอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดิน กับ Dot Property ขายง่าย ขายไว หรือต้องการซื้อ-เช่า !!! คอนโดมือสอง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ที่ดินทั่วไทยมากกว่า 300,000 รายการคลิ๊กที่นี่